17 ก.พ. 2021 เวลา 15:02 • ความคิดเห็น
พลังแห่งหมู่คณะ
"ถ้าคุณอยากไปได้ไว จงไปคนเดียว
ถ้าคุณอยากไปได้ไกล จงไปด้วยกัน"
สุภาษิตแอฟริกัน
1
วันนี้มีเรื่องจากค่ายทหารมาเล่าให้ฟังอีกแล้วครับ
ผมขอแบ่งทหารเกณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มนะครับ
1️⃣ กลุ่มที่รูปร่างปกติ
2️⃣ กลุ่มที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ปกติ (อ้วน)
กลุ่มที่รูปร่างปกติ น้ำหนักตามเกณฑ์มักมีวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับการออกกำลังกายอยู่เป็นทุนเดิม การต้องฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ทหารได้ดีจึงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่
แต่กลุ่มที่น้ำหนักเกินเกณฑ์นี่สิครับ ถ้าพวกเขาคุ้นเคยกับการออกกำลังกายเขาก็คงหุ่นดีไปแล้วใช่มะ? หรือบางทีพวกเขาอาจจะเคยลองออกกำลังกายดูแล้วก็ได้ แต่มันยากเหลือเกิน เหนื่อยเหลือเกิน ปวดเมื่อยเหลือเกิน เหงาเหลือเกิน ทำให้ท้ายที่สุดพวกเขาก็ล้มเลิกไป
แต่หน่วยฝึกทหารใหม่ไม่ยอมให้พวกเขาเป็นเช่นนั้นอีกต่อไป กลุ่มนี้มักถูกแยกฝึกเป็นพิเศษโดยมีเป้าหมายหลักคือลดน้ำหนักพวกเขาให้ได้ เวลากินข้าวก็จะถูกควบคุมปริมาณด้วยเพื่อให้ร่างกายได้ดึงพลังงานที่สะสมในรูปไขมันออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด
ทหารใหม่จะต้องวิ่งทุกวัน มากน้อยแล้วแต่ใจครูฝึกจะจัดให้ แรกๆ ก็จะทำอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มจากน้อยๆ แล้วจึงเพิ่มระยะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความเร็วนั้นค่อนข้างคงที่ในระดับกลางๆ ที่คนส่วนใหญ่วิ่งตามกันได้ มีการร้องเพลงเข้าจังหวะการตบเท้าเพื่อสร้างความพร้อมเพรียงและความสนุกสนานที่จะทำให้ลืมเรื่องความเหนื่อยไปได้บ้าง
กลุ่มที่ 2️⃣ นี้อาจต้องหยุดพักมากกว่าเพื่อนในช่วงแรกๆ แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะตามเพื่อนทันในที่สุดและวิ่งไปพร้อมๆ กันได้จาก 1 เป็น 2 เป็น 5 เป็น 10 กิโลเมตรที่พวกเราวิ่งกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (เว้นแต่คนที่เป็นตะคริวกลางทางก็จะมีผู้ช่วยครูฝึกดูแลให้)
ทุกสัปดาห์ในวันอาทิตย์จะเป็นวันทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อดูว่ามีพัฒนาการอย่างไรบ้าง จะมีวิดพื้น ซิทอัพ โหนบาร์ (จะมีจำนวนครั้งขั้นต่ำที่กำหนดให้ในเวลา 2 นาที) และการวิ่ง 2 กิโลเมตร (ให้เวลาไม่เกิน 11 นาที)
เมื่อมีเวลามาจำกัดและทุกคนต้องรับผิดชอบผลงานของตัวเอง หลายคนที่ฟิตปั๋งอยู่แล้วก็สับขาออกจากจุดเริ่มต้นแบบไม่สนคนข้างหลัง บางคนวิ่งด้วยเวลา 6 นาทีนิดๆ ซึ่งเท่าเกณฑ์ที่ดีของนักเรียนนายสิบและนายร้อย แต่บางคนเกิน 11 นาทีที่กำหนดไว้ให้ (ส่วนมากคือกลุ่มที่ 2) และบางคนก็อยู่ในช่วงผ่านเกณฑ์ไม่เร็วมากและไม่ช้าไป (ผมอยู่ในกลุ่มนี้)
ผมสังเกตระหว่างวิ่งคนที่มักไม่ผ่านมีเหตุผลหลายข้อ
1.ออกตัวเร็วเกินไปจนเหนื่อยเกินจำเป็น
2.เมื่อเหนื่อยมาก เมื่อยมากจึงขอพักเดินสักหน่อย
3.เมื่อพักเดิน เพื่อนก็ค่อยๆ ตีจากไปทีละคนสองคน
4.เมื่อไม่เหลือใคร ก็เริ่มถอดใจกลางทาง เดินทอดน่องสู่เส้นชัยไม่สนใจเวลาอีกแล้ว
🔸คนที่วิ่งเร็วนั้นไม่ผิดอะไรเลย เพราะเขารับผิดชอบตัวเอง
🔸คนที่วิ่งช้าก็อาจไม่ผิดเหมือนกัน เพราะปัจจัยหลายอย่างเอื้อให้เป็นเช่นนั้น
ผมทดสอบความเร็วที่ใช้วิ่งอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์เพื่อให้มั่นใจว่าถ้าวิ่งแบบนี้จะเข้าเส้นชัยในเวลาที่กำหนด ที่สำคัญไม่เหนื่อยมาก และผมสามารถบอกคนอื่นที่เคยล้มเหลวว่ามาวิ่งกับผมก็ได้ผ่านเกณฑ์แน่ๆ
นอกจากผมก็จะมีกลุ่มอื่นๆ อีกที่จับกลุ่มวิ่งกันเพราะเชื่อว่าจะช่วยกันดึงและดันให้หมู่คณะทั้งหมดเข้าเส้นชัยตามเกณฑ์ได้ และเวลาของแต่ละคนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากร่างกายที่ฟิตขึ้นและพลังแห่งหมู่คณะนี่เอง
ช่วงโค้งสุดท้ายจะเป็นช่วงที่พวกเราเล่นสนุกกันได้เพราะวิ่งเป็นแพ็คมา 90% แล้วยังไงก็ไม่มีใครหลุดเวลาเป็นแน่ ฉะนั้นระยะที่เหลือตัวใครตัวมันแล้วกันเพื่อจะลองทำเวลาในสมุดบันทึกให้ดีขึ้น ส่วนใครไม่อยากทำสถิติใหม่ก็แค่วิ่งต่อมาเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว การวิ่งของพวกเราได้รวมสุภาษัติทั้ง 2 ท่อนนี้เอาไว้ในคราวเดียว
หลังจบจากหน่วยฝึกแต่ละคนจะถูกแยกไปอยู่ตามกองร้อยหรือออกหน่วยไปนอกกองพันเลย ช่วงเวลานี้ยิ่งทำให้ผมสังเกตเห็นได้ถึงความสำคัญของพลังแห่งหมู่คณะ เพราะเมื่อไม่มีกฎมาบังคับให้ต้องวิ่งทุกวันแล้ว พลทหารทุกคนก็ต้องวิ่งด้วยตัวเองตามอัธยาศัย แต่เมื่อจำนวนคนที่วิ่งด้วยกันลดลงเรื่อยๆ ไฟในการวิ่งก็ค่อยๆ มอดลง หลายคนก็หยุดวิ่งในที่สุด น้ำหนักที่เคยหายไปในช่วงฝึกก็กลับมาคืนดีกันอีกครั้งในไม่ช้าพร้อมกับรูปร่างที่กลับสู่สภาพเดิมก่อนเข้าหน่วยฝึกทหารใหม่
ผมถูกเรียกตัวไปประจำการที่กองบังคับการกองพันมีเพื่อนร่วมรุ่นมาอยู่ด้วยกันอีกแค่คนเดียว แต่เราก็พยายามชวนกันวิ่งอยู่เรื่อยๆ บ้างมากบ้างน้อยแต่พยายามทำให้สม่ำเสมอ คอยเติมไฟให้แก่กันจนกระทั่งปลดประจำการ วันไหนที่ต้องวิ่งคนเดียวเพราะอีกคนลากลับบ้านมันก็จะรู้สึกเหงาๆ น่าเบื่อ เหนื่อยมากกว่าปกติ 555
เล่ามาเสียยืดยาวเพื่อจะบอกว่าสุภาษิตนี้น่าจะสามารถนำไปปรับใช้ได้อีกหลายอย่างในชีวิตของเรา และทั้ง 2 ท่อนนั้นไม่มีอะไรถูกต้องมากกว่ากัน
🔸บางครั้งเราอาจต้องไปคนเดียวไวๆ เพื่อเป้าหมายบางอย่างของเราในตอนนั้น
🔸และบางครั้งเราอาจต้องพึ่งพาคนใกล้ๆ เพื่อให้ไปได้ไกลกว่าเดิมครับ
สวัสดี 🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา