Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกของหมาอ้วน
•
ติดตาม
20 ก.พ. 2021 เวลา 17:10 • ไลฟ์สไตล์
บันทึกของหมาอ้วน ตอนที่ 11 : ชีวิตสองอาทิตย์แรก
หลังจากกลับถึงบ้าน ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ จากหน้าเกลี้ยง ๆ มีปานปรากฏขึ้นที่แก้มผม พ่อกับแม่ไม่ค่อยสบายใจกับเรื่องนี้นัก กลัวปานมันจะใหญ่ขึ้นแล้วจะเป็นปมสำหรับผมตอนโต แต่การมีปานนี้คุณยายหมอเยอรมันดีใจนักหนา บอกว่าเป็นจุดบอกว่าเป็นผมนะจะได้ไม่ผิดตัว โถ่หน้าแบบนี้เรียกได้ว่าหนึ่งเดียวในฮัมบวร์กอยู่แล้ว จะผิดตัวได้อย่างไร
หลับกันจริงจัง
อีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือตัวผมค่อนข้างคล้ำ ตอนเกิดน่ะม่วงเลยนะ และที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้อาบน้ำให้ผม กลับมาถึงบ้านเนี่ยคราบเลือดยังติดหัวอยู่เลย ตัวก็ม่วงหัวก็ม่วงมันก็ไม่แปลกอะไร แต่เรื่องผิวคล้ำเนี่ย แรก ๆ พ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยชอบใจซักเท่าไหร่ก็ธรรมดาคนไทย ที่อยากให้ลูกออกมาขาว ๆ อวบ ๆ เอาเป็นว่าช่วงแรกนอกจากจะผอมแล้วยังไม่หล่ออีก แง แง เจอใครผู้ใหญ่คนไทยคนไหนก็ทักอย่างเดียวว่าขี้เหร่ น่าชัง เหลือเกิน (มันเป็นความเชื่อ ว่าการพูดแบบนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เทวดานางฟ้ามาลักตัวไป)
ถึงจะไม่หล่อเท่าไหร่ แต่ชีวิตผมสองอาทิตย์แรกของผมก็ช่างสุขีสโมสรเสียเหลือเกิน กิน ๆ แล้วก็นอนพักผ่อนสบายใจ (พ่อชอบร้องเพลงฉันเป็นหนอน ของวงโฮบให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ เลยจำท่อนนี้ได้) นอกจากนอนเก่ง เรื่องกินก็ดีขึ้น น้ำนมแม่ก็เริ่มมีมากเพียงพอ ที่มีมากขึ้นคงเป็นเพราะผมกินเก่ง และจากที่แม่กินน้ำร้อน และพวกอาหารอะไรที่กินแล้วเค้าบอกว่ามีน้ำนม พ่อก็จะไปหาซื้อมาทำให้ เช่นขิงผัดไก่ (มีแต่ไก่ ขิงน้อยมาก) ผัดบวบ ไม่รู้ใครบอก แต่มันก็น่าจะบำรุงแหละ ช่วงพักฟื้นแม่ก็ไม่ไปไหน อยู่กับผมตลอดเวลา พ่อก็รีบกลับบ้านทำงานเสร็จก็ไม่มีการโอ้เอ้ เก็บของเสร็จก็รีบกลับบ้าน
ภาพพจน์ของผมดีมากจริง ๆ ดึก ๆ ถึงจะตื่นขึ้นมาร้องหิวนม แต่พอกินเสร็จก็หลับต่ออย่างรวดเร็ว ด้วยความที่อยู่กันแค่สามคน พ่อกับแม่ก็ใช้วิธีสลับกันตื่นขึ้นมาดูแลผม ครั้งหนึ่งก็ประมาณสามชั่วโมง กินนมก็หน้าที่แม่ เปลี่ยนผ้าอ้อมก็หน้าที่พ่อ แต่ผมเข้าใจว่าแม่ตื่นขึ้นมาดูผมบ่อยกว่าพ่อนะ ดูรูปข้างบนได้
การกินอาหารของผมก็เป็นไปตามขั้นตอน กินนมขวดสลับกับนมแม่บ้างขึ้นกับโอกาส จุกนมจะเป็นจุกแบบพิเศษแบบที่เขาว่ากันว่าไม่มีผลต่อฟันตอนโต สิ่งที่ยังน่าห่วงก็ คือน้ำหนักผมยังไม่ขึ้นเท่าใดนัก ถึงแม้ตอนออกจากโรงพยาบาลน้ำหนักจะขึ้นมาบ้างก็เถอะ ทำไมยิ่งกินนมเยอะยิ่งผอมก็ไม่รู้ เอาน่าชีวิตก็ต้องมีสุขบ้างทุกข์บ้างคู่กันเป็นของธรรมดาเด็กน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลกไม่นาน
ในช่วงนี้มีปัญหาที่พบบ่อยสำหรับผม(อีกแล้ว)ก็คือการสะอึก ผมสะอึกบ่อยมากแทบจะทุกครั้งที่เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูปเสร็จ นอกจากนั้นเนื้อหนังตามตัวก็เริ่มลอก ที่สะดือก็มีเลือดออก ตาก็ยังอักเสบอยู่มีขี้ตาติดตาอยู่เป็นประจำและที่สำคัญคือผมจะปวดท้องร้องไห้งอแงตอนดึก ๆ เสมอ ทั้งนี้เพราะท้องผมมีลม พ่อแม่แก้ปัญหาด้วยความชำนาญอย่างคนมีประสบการณ์สูง คือโทรไปหายายหมอและถามว่าอาการที่เกิดขึ้นจะเป็นอันตรายมากไหม ก็ได้ความว่าเป็นธรรมดาแต่ถ้ากังวลก็ให้มาหาสิ หมอทำงานที่คลีนิคนะ ไม่ใช่ผ่านโทรศัพท์ (น่าจะจริง) หลังจากที่ส่งเงินค่าประกันสุขภาพครอบครัวงวดแรกไปแล้ว ผมก็สามารถไปหาหมอเด็กได้ พ่อก็ไม่รีรอ รีบพาไปหายายหมอทันที (ประกันเราเป็นแบบเอกชน ทำให้ได้สิทธิพิเศษมากกว่าประกันของรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เพราะพ่อไม่สามารถทำประกับของรัฐบาลแบบนักเรียนไทยคนอื่น ๆ ได้ จ่ายแพงกว่านิดเดียวแต่ได้สิทธิประโยชน์เยอะกว่าเยอะ) ไม่ต้องงงนะครับ ถ้ายังไม่มีประกัน ก็ไม่สามารถไปหาหมอได้ หมอไม่รับตรวจ
การที่พวกเรารีบไปหาหมอนั้นเนื่องจากความกังวลเพราะผมตัวเล็ก และพ่อคิดว่าผมไม่สมบูรณ์ (พวกเรายังเชื่อว่าผมคลอดก่อนกำหนด) แต่ผมก็พยายามยิ้มบอกพ่อเสมอว่าผมสบายดีนะไม่เป็นไร ทุกครั้งที่พ่อคุยกับแม่ถึงเรื่องผม ผมก็จะยิ้มรับเสมอ ยิ้มได้อย่าเดียวนะ ยังส่งเสียงไม่ได้
พ่อจับผมใส่ห่อ ผูกหมวกอยากรัดกุมไปหายายหมอ ผมนอนในกระเป๋า และกระเป๋าก็อยู่บนรถเข็นเด็ก ห้องทำงานของหมออยู่ชั้นสี่ เราต้องเรารถเข็นขึ้นลิฟท์ไป รถเข็นก็ต้องล่ามโซ่ไว้กับราวบันได (เดี๋ยวหาย) พอไปถึงผมก็ถูกทำตามขั้นตอนของการไปหาหมอของเด็กทั่วไป นอกจากชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงแล้ว (ทั้งหมดทำในท่านอน) ก็ต้องทำอีกอย่างหนึ่งที่นอกเหนือจากโรงเรียนประถมทั่วไปในเมืองไทยทำ นั่นคือวัดขนาดกระโหลกศีรษะด้วย วัดว่ามันโตตามปกติหรือไม่
วัดแล้วมาจดบันทึกแบบนี้
ยายหมอถามพ่อว่า เอ้ามีอะไรกังวลบอกมา พ่อก็บอกไปว่าผมหนังลอก ยายหมอก็เอาครีมทาให้ แล้วหันไปดุแม่ว่า ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าให้เตรียมครีมพวกนี้เอาไว้ ก็เตรียมไว้นะแต่ไม่ได้ทา ไม่รู้ว่าทาได้เลยนี่นา (ใครจะกล้าทาครีมให้เด็กแรกเกิด ถ้าไม่มีใครบอกให้ทา) พอเสร็จพ่อก็ชี้ไปที่สะดือว่ามีเลือดออก (ก็พูดว่าสะดือภาษาอังกฤษมันยาก) ยายหมอก็เช็ดแผลแล้วก็เอายาใส่ พ่อก็ชี้ไปที่ตา หมอก็บอกเดี๋ยวสั่งยาหยอดตาให้ แล้วพ่อก็ถามว่าปวดท้องหล่ะ หมอก็บอกเดี๋ยวให้ยาเหน็บตูดกับชาไปชงกิน (ที่เยอรมันจะมีชาสำหรับเด็ก) แล้วอาการสะอึกหล่ะ (ใครจะไปพูดคำนี้ได้ พ่อก็ทำท่าให้ดู) หมอยิ้มขำ ๆ แล้วบอกว่าก็ปล่อยให้สะอึกไปสิ มันแก้ไม่ได้นี่นา ตกลงหมอไม่กังวลอะไรเลยเหรอ พ่อแอบบ่น เนี่ยอุตส่าห์ฝ่าลมหนาวมาหาหมอเนี่ย ไม่เป็นอะไรใหญ่โตเลยเหรอ (อารมณ์คนเป็นพ่อเป็นแม่มือใหม่ นั่นแหละ)
บันทึก
4
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บันทึกของหมาอ้วน
4
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย