22 ก.พ. 2021 เวลา 23:00 • ความคิดเห็น
คุณเชื่อในเรื่องเวรกรรมหรือเปล่าครับ?
การซ่อมวินัยทหารเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอเมื่ออยู่ในหน่วยฝึกทหารใหม่ บ้างก็วินัยเสียจริง บ้างก็โดนแกล้ง (มีครูฝึกประเภทนี้อยู่จริงนะครับ)
ในคืนหนึ่งพวกเราถูกเรียกลงมารวมตัวหลังหน่วยฝึกเพื่อซ่อมวินัย จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไรเพราะหลายครั้งมันไม่มีเรื่องจริงๆ แต่ครูฝึกก็สร้างเรื่องจนได้ 😥
ยุคที่ผมเป็นทหาร กองทัพได้ปรับนโยบายการลงโทษเป็นท่ากายบริหารเท่านั้นห้ามแตะเนื้อต้องตัวเป็นอันขาด ครูฝึกก็สั่งลงโทษด้วยท่าต่างๆ เช่น วิดพื้น ลุกนั่ง พุ่งหลัง ฯลฯ ซ่อมกันนานกว่าชั่วโมงจนเริ่มเหนื่อยล้าทั้งกายใจ
ยังจำกลุ่มทหารใหม่ที่น้ำหนักเกินได้ไหมครับ? (ผมเล่าไปในบทความก่อนนี้) กลุ่มนี้จะมีบางคนที่รับไม่ไหว ก็จะขอเวลานอกครูฝึก ซึ่งครูฝึกก็อนุญาตหลายคนเหมือนกัน แต่ครั้นจะให้นั่งเฉยๆ ก็จะเอาเปรียบเพื่อนเกินไปจึงให้พักแบบวิดพื้นท่าเตรียม
จ่าโหน่งเป็นครูฝึกที่ทหารใหม่ชอบติด 1 ใน 3 อันดับแรกก็ว่าได้เพราะแกทั้งหน้าตาดี แต่งตัวเท่ ฝึกเก่ง มีอารมณ์ขัน ยังเป็นวัยรุ่น ใจดี ไม่ลงโทษเรี่ยราด เรียกว่าครบเครื่อง... นี่คือคุณลักษณะในร่างแรกของแกซึ่งต่างจากร่างสองโดยสิ้นเชิง
ร่างสองคือร่างเมา 😵 เมื่อเหล้าเบียร์เข้าปากจ่าโหน่งจะกลายร่างเป็นครูฝึกที่ทหารใหม่เกลียดเป็นอันดับ2 ในทันที เพราะแกจะเลอะเทอะแบบคนเมาและชอบซ่อมทหาร แม้ไม่ได้เป็นเวรแกก็มาซ่อมได้หากสิบเวรวันนั้นเป็นรุ่นน้องที่เกรงใจแก
ระหว่างที่กลุ่มขอเวลานอกกำลังวิดพื้นท่าเตรียมอยู่นั้น พลันจ่าโหน่งร่างสองก็โผล่มาในความมืดก่อนจะเริ่มตรวจสอบทหารกลุ่มนี้ที่หลายคนอยู่ในบัญชีดำของแก
บัญชีดำคือคนที่ชอบอ้างว่าฝึกไม่ไหว เจ็บแข้งปวดขา เป็นหอบหืด ฯลฯ บางคนเป็นจริง บางคนไม่ใช่ ครูฝึกมักจะมีคนที่เล็งๆ ไว้ เพราะทหารไม่ชอบให้มีคนแตกแถวหรือเอาเปรียบกัน
จ่าโหน่งเริ่มค่อนแคะกลุ่มนี้ว่าตีกิน ตีเนียน เอาเปรียบเพื่อนตลอด อะไรก็ไม่ไหวไปหมด ขณะที่เพื่อนคนอื่นโดนลงโทษเหนื่อยแทบตาย พวกนี้กลับได้พักสบายๆ (หรืออย่างน้อยก็เหนื่อยน้อยกว่าเพราะวิดพื้นท่าเตรียมแค่ปวดแขนกับกล้ามเนื้อแกนกลางแต่ไม่ได้เคลื่อนไหวเหมือนคนที่วิดพื้นจริงๆ)
วิดพื้นท่าเตรียม ทำค้างนานๆ ก็ทรมานเอาเรื่อง
แล้วจู่ๆ พลทหารผู้โชคร้ายก็ไม่รู้ไปพูดจาอะไรไม่เข้าหูจ่าเข้าจึงโดนหวดด้วยคอมแบตเข้าไปที่ชายโครงซ้ายแบบเต็มข้อขณะที่อยู่ในท่าวิดพื้นท่าเตรียม
โดนเตะเข้าชายโครงแบบเราไม่ทันได้ป้องกันตัว เพื่อนๆ คงจินตนาการความเจ็บและจุกได้นะครับ 😫
หลังจบการฝึกประมาณ 2 เดือน หน่วยสนามที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ จังหวัดชายแดนใต้ก็กลับมาสู่กองพันเพื่อเตรียมปลดประจำการ มีการจัดงานเลี้ยงส่งภายในกองพัน แน่นอนว่ามีแอลกอฮอล์เสิร์ฟ
ผมอยู่บนกองบังคับการกองพันไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยง ได้ยินเสียงจ่าโหน่งร้องเพลงบนเวทีก็พอจะรู้ได้ว่าเมาแล้ว
งานเลี้ยงเลิกราประมาณ 22 นาฬิกา พลทหารแยกย้ายกลับกองร้อย นายสิบทนายร้อย นายพันแยกย้ายกลับบ้าน แต่จ่าโหน่งไม่ใช่หนึ่งในนั้น
ด้วยความที่ยังติดลม สุรา นารี (แดนเซอร์) และดนตรียังเติมเต็มความสุขได้ไม่เต็มร้อย จ่าโหน่งขี่จักรยานยนต์ออกไปเที่ยวต่อที่นอกค่ายทั้งที่เมา
ครับ... ทุกคนคงเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
จ่าประสบอุบัติเหตุรถชนขาฟาดเข้ากับเสา บาดเจ็บสาหัส ถ้าผมจำไม่ผิดหลังจากนั้นเพียง 1-2 วันหมอก็สรุปว่าต้องตัดขา 🦶 ตอนแรกแค่เหนือข้อเท้า แต่แล้วก็ต้องตัดเพิ่มเกือบถึงเข่า
ภาพจาก : Pinterest
ขาข้างที่ต้องถูกตัดออกคือขาข้างเดียวที่ใช้เตะพลทหารคนนั้นเมื่อตอนที่แกกลายร่างนั่นแหละครับ และระยะเวลาก็ห่างกันไม่น่าจะเกิน 4 เดือน
หลังจากพักฟื้นไม่นานจ่าก็ได้ขาเทียม เราไม่เจอกันหลายเดือนเพราะผมถูกส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจที่อื่นแล้ว แต่ได้ติดต่อกันบ้างทางไลน์
จ่าโหน่งในร่างแรกมีกำลังใจจากคนรอบข้างดี ไม่นานเท่าไหร่แกก็กลับไปวิ่งได้แล้ว ส่วนบทเรียนจากเหตุการณ์นั้นจะสอนอะไรแกบ้างผมก็ไม่กล้าถามเหมือนกัน
📌ทว่าสำหรับผมนั้น📌
เรื่องนี้ทำให้ผมจดจำเสมอมาว่า
1️⃣ น้ำเมาเปลี่ยนเราได้ขนาดไหน
2️⃣ เวรกรรมมีจริง และบางทีมันไวเหมือนจรวด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา