ทำไมเพชรถึงแพงและมีค่ามาก?
"เพชร" มีส่วนประกอบเป็นธาตุคาร์บอนบริสุทธิที่มีความแข็งที่สุดในบรรดาแร่ธาตุทั้งหลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีความวาวสูง พบได้ตั้งแต่ไร้สีไปจนกระทั่งสีดำ อาจมีสีเหลือง เทา น้ำตาล เขียว น้ำเงิน ชมพู ม่วง และแดงได้
#หลักการการเลือกซื้อเพชร โดยใช้หลัก 4C
1. Color สีของเพชร : มูลค่าของเพชรจะเพิ่มขึ้นตามระดับความขาวของเพชร
จินแบ่งให้ 3 ระดับ ดังนี้ค่ะ
D Color = เพชรน้ำ 100 (เป็นระดับที่ขาวที่สุด)
H Color = เพชรน้ำ 96
K-M Color = เพชรน้ำ 93-91
เพชรส่วนมากจะมีสีโทนขาวอมเหลืองนิดๆ ซึ่งระดับของสีจะถุกแบ่งออกเป็นเกรดตามตัวอักษรค่ะ ตั้งแต่ D Color ที่เป็นเพชรน้ำ 100 มีลักษณะขาวใส จนถึง Z Color ที่มีสีค่อนข้างเหลือง และถ้ามีสีเหลืองมากกว่าระดับ Z Color จะถูกจัดเป็นเพชร fancy color
ดังนั้น เพชรยิ่งขาวใส ก็ยิ่งมีมูลค่าสูง วิธีดูความขาวของเพชรง่ายๆ คือให้คว่ำเพชรลงบนกระดาษสีขาว จะช่วยให้เราเห็นสีของเพชรได้ชัดเจนขึ้นค่ะ
2. Clarity ความสะอาดของเพชร : เพชรส่วนใหญ่จะมีตำหนิอยู่ภายในเนื้อเพชร ดังนั้น เพชรที่สะอาดหมดจดจริงๆจึงหายากมาก และมีราคาสูงลิบลิ่ว
แบ่งระดับความสะอาดออก 3 ระดับ
1. ระดับ FL-IF : สะอาดที่สุด ไม่มีตำหนิเลย
2. ระดับ VVS1-VVS2 : มีตำหนิเล็กน้อย (เล็กมาก) มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
3. ระดับ VS1-VS2 : มีตำหนิเล็ก มองเห็นได้ยาก
4. ระดับ SI1-SI2 : มีตำหนิปานกลาง มองเห็นได้ชัด
5. ระดับ I1-I3 : มีตำหนิใหญ่ เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ระดับความสะอาดที่นิยมกันในเมืองไทยมีตั้งแต่ระดับ FL-IF ไปจนถึงระดับ VVS1-VS2
ดังนั้น เพชรที่ยิ่งสะอาดหรือมีตำหนิน้อย จะยิ่งมีมูลค่าสูง
3. Cut สัดส่วนการเจียระไน : เพชรที่มีสัดส่วนการเจียระไนที่สมบูรณ์แบบ จะเล่นไฟวิบวับ สะดุดตา เรียกว่า "เหลี่ยม Hearts & Arrows"
ส่วนตัวคิดว่าในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะไม่ว่าใครเวลาใส่เพชรออกงานก็อยากโชว์ความวิบวับของเพชรกันทุกคนนั่นแหละค่ะ มัยทำให้เราดูดีขึ้นอีกระดับนึงเลย
4. Carat Weight น้ำหนักเพชร : น้ำหนักเพชร มีหน่วยเป็น "กะรัต"
1 กะรัต = 0.200 กรัม ซึ่งเป็นหน่วยมาตราฐานในการคิดน้ำหนักพลอยอื่นด้วย หรือ 1 ใน 5 ของกรัม
ใน 1 กะรัต ประกอบด้วย 100 จุด หรือในวงการนิยมเรียกว่า สตางค์
ดังนั้น 50 จุด หรือ 50 สตางค์ จะเท่ากับ ครึ่งกะรัต
เพชรจะมีค่าสูงตั้งแต่ 1 กะรัตขึ้นไป และค่าจะสูงมากขึ้น ตั้งแต่ 5 กะรัตขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีคุณสมบัติ 4C ครบแล้ว ราคาจะยิ่งสูงมาก
***เพชร 1 กะรัต มีอะตอมประมาณ 1 หมื่นล้านล้านล้านอะตอม
เพชรเทียม คือ เพชรที่มีส่วนประกอบทางเคมีต่างจากเพชรแท้ อาจเป็นอะไรก็ได้ที่มนุษย์ทำเลียนแบบขึ้น เช่น แย๊ก ( Yag ), จีจีจี ( GGG ), คิวบิกเซอร์โคเนีย (Cubic Zirconia ), สทรอนเซียมไทเทเนต ( Strontium Titanate) เป็นต้น รวมทั้งพลอยสังเคราะห์ไร้สีชนิดอื่นๆ ที่เกิดตามธรรมชาติ เช่น เพทาย เป็นต้น
#วิธีสังเกตเพชรเทียม (Diamond Simulant)
1. ราคาต่ำกว่าปกติ
2. มีการกระจายของแสงดีมาก น้ำสวย แวววาว วิบวับมากกว่าเพชรแท้ จนผิดสังเกต
3. ความแข็งน้อยกว่าทับทิม ไพลิน เขียวส่อง ยกเว้นพวกแซปไฟร์สังเคราะห์ไร้สี บางชนิดอ่อนกว่าพลอยตระกูลควอรตซ์ จึงทำให้เป็นรอยขีดข่วนและมัวเร็ว
4. ความถ่วงจำเพาะค่อนข้างสูง มักจะสูงกว่าเพชรแท้ ดังนั้นเพชรเทียมที่มีน้ำหนักเท่ากับเพชร จะดูมีขนาดเล็กกว่าเพชรแท้
5. การเจียระไนเหลี่ยมไม่ละเอียดเท่าเพชรแท้
6. สีบนส่วนล่างของเพชรเทียมเช่น Cubic Zirconia จะมีสีส้ม และ Yag จะมีสีน้ำเงินอมม่วง
ส่วนใหญ่จะเรืองแสงสีเขียวอ่อน หรือ สีเหลืองอ่อน เมื่อส่องด้วยแสงอุลตราไวโอเลตชนิดคลื่นสั้น สังเกตุเงาของเพชรเทียมแต่ละชนิดในน้ำยา Methylene Iodide
จริงๆแล้วการประเมินคุณภาพเพชรก่อนซื้อสามารถทำได้หลายวิธีนะคะ สำหรับใครที่อยากรู้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ตาม Reference ด้านล่างเลยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ😊🙏
- 26
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
