Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อยากทำไป-มด
•
ติดตาม
23 มี.ค. 2021 เวลา 23:58 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย 20 ตอน เรื่อง
"See you at the finish line - พบกันที่เส้นชัย"
ตอนที่ 3 - เสียงหัวเราะนั้น
ยามเช้าที่ขุนตาลในฤดูนี้ อากาศเย็นค่อนไปทางหนาว ฝนตื่นก่อนใครในห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางทั้งที่เธอนอนเป็นคนสุดท้าย แต่ธรรมชาติของร่างกายเธอหากลืมตาตื่นแล้ว ก็หมายความว่าพักผ่อนพอแล้ว จะพยายามข่มตาให้หลับต่ออย่างไร ก็จะไม่เกิดผล
เธอเปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดวิ่งในความมืดด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง หยิบแปรงสีฟันขึ้นมาบีบยาลงไปเล็กน้อยแล้วเอาปากคาบ เปิดประตูด้วยความเบามือ คว้ารองเท้าคู่เก่งแล้วย่องลงไปแอบแปรงฟันด้านล่าง
โค้ชส้มตื่นแล้ว และสาละวนอยู่กับอุปกรณ์ที่วางกองอยู่ตรงลานด้านหน้า ทีมสตาฟบางคนเริ่มจัดโต๊ะอย่างเบามือแต่ก็เต็มไปด้วยความฉับไวคล่องแคล่ว ฝนกวาดสายตาไปรอบ ๆ มองหาไม่เจอโค้ชหนุ่มนัยน์ตาดุ ก็ถอนหายใจยาว
“อ้าวฝน ทำไมตื่นเช้า” โค้ชพี่ส้มของน้อง ๆ ทักทายด้วยใบหน้าชื่นบาน แต่เบาเสียงให้ต่ำกว่าปกติ
“พี่ส้ม มีอะไรให้ฝนช่วยบ้าง ฝนนอนหลับอิ่มเต็มที่แล้ว พร้อมลุย” ฝนยกแขนตั้งฉาก ทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่าพร้อมจริง
“ไม่มีอะไรต้องช่วยเลย พวกพี่กับทีมเตรียมไว้หมดแล้ว ฝนไปวิ่งวอร์มรอบ ๆ มั้ยอีกแป๊บเดียวฟ้าก็เริ่มเปิดแล้ว ด้านบนตอนเช้าสวยอย่าบอกใคร อ้าว! โค้ชเปอร์มาพอดี” โค้ชส้มพยักพเยิดไปทางด้านหลัง
โค้ชเปอร์เดินหน้าละไมเจือยิ้มเข้ามา พยักหน้าน้อย ๆ มาทางฝน แล้วหันไปตอบโค้ชส้ม “อาบน้ำเรียบร้อยละส้ม จะให้ช่วยอะไรมั้ย”
“โอ๊ย อาบน้ำตอนเช้าหนาว ๆ แบบนี้นี่นะ จิตใจทำด้วยอะไร" โค้ชส้มเผลอร้องโวยวาย เมื่อรู้สึกตัวจึงลดเสียงตามเดิม “พาฝนวิ่งวอร์มขึ้นไปด้านบนนู่นแหนะ ฟ้ายังรำไรจะให้น้องไปคนเดียวกลัวจะหลง” ว่าแล้วเธอก็สาละวนต่อกับอุปกรณ์ตรงหน้า
ฝนและโค้ชยืนมองหน้ากัน เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ไม่ใช่ด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อไหร่ที่ต้องอยู่ด้วยกันสองต่อสอง บรรยากาศรอบตัวมันแปลก ๆ ไปเสียทุกที จะว่าอึดอัดก็ไม่เชิง แต่จะบอกว่าปลื้มปิติไม่ใช่แน่ ๆ
ในที่สุดโค้ชเปอร์ก็พยักหน้า แล้วออกวิ่งเหยาะ ๆ นำไป นี่คืออีกเรื่องที่กวนใจเธอ ทำไมเวลาฝึกซ้อมโค้ชคนเก่งถึงได้โวยวายพูดคล่องพูดยาวพูดกระทบกระเทียบเป็นควุ้งเป็นแคว แต่เมื่ออยู่ลำพังทีไร เธอแทบจะไม่ได้ยินอะไรออกจากปากเขาเกินสามประโยค
ทางขึ้นเขาเป็นทางเดียวกับเมื่อวานที่พวกเราฝึกซ้อมลากยาง แต่คราวนี้โค้ชเปอร์พาเธอวิ่งเหยาะ ๆ เลยจุดเดิมตรงขึ้นไปยังยอดเขา ต้นไม้ใหญ่สองข้างทางสูงตะหง่านเรียงต่อกันเป็นแนวส่งผลให้ทางเริ่มครึ้มขึ้น ฝนกระปรี้กระเปร่าวิ่งตามโค้ชอยู่ด้านหลัง แม้แรงยังเต็มแน่นเพราะร่างกายได้พักเต็มที่ แต่เธอก็รักษาจังหวะการวิ่งให้ช้ากว่าคนที่วิ่งนำหน้า
ฝนมองต้นขาแน่นกระชับเห็นกล้ามเนื้อชัดทุกครั้งที่ขยับควงขา น่องที่โชว์ปลีเป็นมัดสวยงามตามสรีระของนักกีฬา มันต้องผ่านการฝึกซ้อมย้ำซ้ำกี่พันครั้งกว่าจะได้น่องสวย ๆ แบบนี้นะ แล้วไหล่กว้างที่เธอเห็นตรงหน้านี้ก็พาลให้นึกไปถึงหน้าอกแน่นเมื่อวานเย็น เป็นเหตุผลที่เธอคิดว่าวิ่งตามอยู่ข้างหลังเงียบ ๆ แบบนี้ท่าทางจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เธอตัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป ละสายตาจากแผ่นหลังตาจับจ้องไปที่รองเท้าของเขาเพียงเท่านั้น รักษาระยะห่างให้คงที่ แล้วจู่ ๆ รองเท้าสองข้างนั้นก็หยุดกะทันหัน เธอที่วิ่งก้มหน้าไม่ทันระวังก็ชนโครมเข้ากับหลังคนข้างหน้าดังพลั่ก ด้วยความตกใจมือไขว่คว้าสิ่งที่อยู่ใกล้เพื่อยั้งไม่ให้ตัวเองหงายหลัง ก็กลายเป็นเธอสวมกอดไปที่เอวของโค้ชแน่น เพียงเสี้ยววินาทีก็รู้ตัวปล่อยมือออกเหมือนโดนน้ำร้อนลวก เลือดสูบฉีดมาที่หน้าจนร้อนผ่าว ตาเบิกโพลง ส่งเสียงร้อง “ว้าย!”
“โค้ชหยุดฉุกเฉินแบบนี้อันตรายนะคะ” ด้วยความอายและตกใจ ทำให้ฝนเผลอกล่าวโทษโค้ชออกไปเสียงดัง น่าแปลกที่โค้ชเปอร์ไม่โกรธเธอ ทั้งส่งแววตาล้อเลียนแกมขบขันมาให้
“คุณรู้มั้ย ไม่ว่าวิ่งเทรล วิ่งทางเรียบ วิ่งสตรีท สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องกวาดตามองทั้งระยะไกล ระยะใกล้ตลอดเวลา วิ่งก้มหน้าแบบนี้ก็มีแต่จะเกิดอุบัติเหตุ สมมติว่าผมเป็นเสาต้นนึง คุณจะกอดเคลิบเคลิ้มแบบนี้รึเปล่า ป่านนี้หัวโนหัวแตกไปแล้ว” โค้ชสั่งสอนยืดยาว แม้น้ำเสียงจะไม่ดุดันเหมือนตอนซ้อม แต่ก็เรียกว่าอ่อนโยนไม่ได้เลย
-เคลิบเคลิ้ม-??!! ฝนตาโต เธอฟังประโยคยาวนั้นแต่จับใจความได้แค่คำเดียว อะไรกัน!? แค่อาศัยพยุงตัวกันล้มแค่นี้ถึงกับกล่าวหาว่าเคลิบเคลิ้มเลยเชียวรึคุณโค้ชขายาว เธออยากจะตอกอะไรกลับไปสักคำ แต่ท่ายืนเท้าเอวเอียงคอของโค้ชร่างสูง สายตายังล้อเลียนไม่คลาย ฝนทำได้เพียงข่มใจ สะบัดหน้าเมินหนี แล้ววิ่งนำขึ้นไป
“ชิ ทีอย่างนี้ละพูดยาวเป็นวา” เธอบ่นเสียงดังในใจ
เขามองร่างเล็กกระทัดรัดที่วิ่งอยู่ตรงหน้า ผมหางม้ากวัดแกว่งไปตามความเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อน่องที่โผล่พ้นกางเกงวิ่งขาสามส่วนบ่งบอกว่า นี่คือนักวิ่งสมัครเล่นมือใหม่ หรืออย่างน้อยก็นักวิ่งเทรลมือใหม่ น่องเรียวที่ไม่ได้ถูกเทรนให้วิ่งทางชัน จึงยังเนียนงามได้รูปแบบหญิงสาวปกติ มิได้สวยงามโชว์ปลีมัดอย่างนักกีฬาที่ถูกเคี่ยวกรำ
แต่ถึงกระนั้นเอวที่คอดรับกับเสื้อนักวิ่งรัดรูป ไหล่แน่นตรง แขนเพรียวกระชับ ก็ประกาศการดูแลสุขภาพของผู้เป็นเจ้าของร่างกายเป็นอย่างดี เธอไม่ใช่คนสวยสะดุดตา ทั้งไม่ใช่ขาวผ่องตามนิยม แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่าเป็นหญิงสาวสามัญไม่น่าสนใจ
โค้ชเปอร์วิ่งตามอยู่ด้านหลังฝนเงียบ ๆ มีเพียงเสียงย่ำเท้าของทั้งคู่เท่านั้นที่ดังสลับไปมา เขารักษาระยะห่างไว้พอประมาณ คำนวณดูว่าหากมีการหยุดฉุกเฉินของคนข้างหน้า “โอ๊ะ!!” ความคิดสะดุดตัดฉับลง
คนข้างหน้าหยุดกะทันหันไม่ให้สุ้มให้เสียง หน้าอกของเขาปะทะเข้ากับท่อนบนของเธออย่างแรง คางถูกหัวกระแทกพอให้ตกใจ มือไขว่คว้าสิ่งที่อยู่ใกล้เพื่อยั้งไม่ให้ตัวเองหงายหลัง ก็กลายเป็นสวมกอดเธอแน่น เพียงเสี้ยววินาทีเมื่อรู้ตัวจึงรีบดึงมือออกคล้ายโดนน้ำร้อนลวก เธอเดินหน้าขึ้นไปสองก้าว หมุนตัวกลับมายืนเท้าเอวเอียงคอ ส่งสายตาล้อเลียนขบขัน
“โค้ชรู้มั้ยคะ ไม่ว่าวิ่งเทรล วิ่งทางเรียบ วิ่งสตรีท สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องกวาดตามองทั้งระยะไกล ระยะใกล้ตลอดเวลา วิ่งก้มหน้าแบบนี้ก็มีแต่จะเกิดอุบัติเหตุ สมมติว่าฝนเป็นเสาต้นนึง โค้ชจะกอดเคลิบเคลิ้มแบบนี้รึเปล่า ป่านนี้หัวโนหัวแตกไปแล้วนะคะ” เป๊ะทุกคำ!!
ทั้งคู่มองหน้ากันนิ่ง สายตาไหวระริกด้วยความขบขันแทบกลั้นไม่ไหว สุดท้ายก็ปล่อยเสียงหัวเราะลั่นประสานจนก้อง
“กลับมากันแล้วเหรอ เป็นไงฝนได้เห็นตอนพระอาทิตย์ขึ้นมั้ย” โค้ชส้มร้องถามแต่ไกล ฝนพยักหน้ายิ้มรับ
“สวยคุ้มค่าค่ะ แต่กว่าจะขึ้นไปถึงก็ได้เหงื่อท่วมเลยนะคะพี่ส้ม ดีว่าตอนวิ่งลงมาไม่เหนื่อยเท่าไหร่”
“ไปกินข้าวกัน วันนี้ช่วงเช้าเบา ๆ แต่ตุนไว้เยอะหน่อยก็ดี” โค้ชส้มเดินนำไปพาฝนไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ที่เริ่มทยอยตักอาหารมานั่งรับประทานกันบ้างแล้ว
ฝนหยิบจานจากกองที่ซ้อนเป็นตั้ง เลือกตักอาหารจนครบหมู่เน้นหนักที่ข้าวและโปรตีน ซึ่งแค้มป์นี้เตรียมอาหารประเภทโปรตีนให้แบบไม่หวง ทั้งตระกูลไข่ ทั้งหมู-ไก่-ปลาไม่มีขาดสักมื้อ เป็นอาหารเช้าที่คนปกติน่าจะส่ายหน้าว่าหนักเกินไป แต่การซ้อมที่ต้องใช้พลังงานเยอะแบบนี้ กินเข้าไปเถอะ เธอไม่รู้ว่าวันนี้จะมีอะไรรออยู่ข้างหน้าบ้าง แต่มั่นใจว่าอาหารที่จะกินมื้อเช้านี้ไม่เหลือให้ร่างกายเก็บเอาไว้เป็นไขมันแน่นอน
เธอเลือกนั่งลงข้าง ๆ เปรียวและนัท
“ฝนทำไมฟิตจัง ออกไปวอร์มแต่เช้าเลย แล้วไปกับใครไม่ไป ดันไปกะโค้ชเปอร์ วันนี้สงสัยไม่ต้องซ้อมแล้วมั้ง เจอฝึกโหดแต่เช้ามืด” เปรียวทักยาวเหยียด
“โค้ชให้ Hill Repeat รึเปล่าฮะฝน” นัทถามเสริม
ฝนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตรงจุดที่หยุดยืนชมทิวทัศน์ นับเวลารอตะวันค่อย ๆ โผล่พ้นแนวเขา หลังจากที่หัวเราะให้กับเรื่องไร้สาระ เธอได้เห็นดวงหน้าโค้ชที่สว่างไสวไปด้วยรอยยิ้มและรอยย่น เห็นความขี้เล่นสนุกสนานที่แอบซ่อนอยู่โผล่ขึ้นมาแสดงตนอย่างเปิดเผย โค้ชหนุ่มหน้าขรึม พูดไปดุไป หรือพูดน้อยวิ่งหนักก็คล้ายจะเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนในสายตาเธอ และนั่นคือความรู้สึกแปลกประหลาดเสมือนว่าเธอแอบเปิดกล่องที่เขียนระบุของด้านในอย่างหนึ่ง แต่เปิดมาแล้วเจออีกอย่างหนึ่ง และมีเธอเท่านั้นที่รู้
1
“โอ๊ย Hill Repeat ไม่ไหวอ่ะนัท ขึ้นไปไกลเหมือนกัน” ฝนตอบโดยจงใจข้ามการเอ่ยถึงโค้ช
“Hill Repeat เหรอ?” เปรียวทำหน้างง ส่งคำถามทางสายตาไปยังนัท
“ก็วิ่งขึ้นเขาลงเขาแบบที่โค้ชให้ฝึกวัดระดับเรานั่นแหละฮะเปรียว แต่ปกติจะใช้ระยะไกลกว่านั้น อาจจะซักสองสามร้อยเมตร เป็นการซ้อมเพื่อฝึกทั้งหัวใจให้ชินกับความเหนื่อย แล้วยังฝึกกล้ามเนื้อส่วนขาให้ชินกับทางชันฮะ” นัทอธิบายง่าย ๆ
“นัทดูมีความรู้เยอะจัง วิ่งเทรลบ่อยแล้วใช่มั้ย” ฝนถามบ้าง
“ผมลองวิ่งเทรลมาเกือบปีแล้วฮะ แต่ก็ยังติดปัญหาหลายเรื่อง อีกอย่างพวกเราคนกรุงเทพหาที่ทางซ้อมวิ่งเทรลมันก็ยากนะฮะ แค่จะซ้อม Hill Repeat ผมยังไม่รู้จะซ้อมที่ไหนเลย บางทีก็อาศัยสะพานข้ามคลอง วิ่งวนไป คนผ่านไปผ่านมาเค้าก็มองแปลก ๆ" นัทอธิบายด้วยเสียงนุ่ม
“ผมว่าวันนี้เราได้ Hill Repeat แน่นอน” เขาปิดท้ายด้วยความมั่นใจ
โค้ชส้มซ่าเดินมาพร้อมกับกล่องกระดาษใบพอเหมาะพอดีมือ ชูขึ้นด้านบน “พี่จะจับฉลากรายชื่อเพื่อจับคู่บัดดี้สำหรับวันนี้ตั้งแต่เช้าไปจนหมดวัน ทั้งสองคนจะดูแลซึ่งกันและกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ช่วยกันทำคะแนน ใครได้มากที่สุดวันสุดท้ายก่อนกลับพี่มีรางวัลให้” จบเสียงอธิบาย หลายคนตบมือยิ้มรับ การเล่มเกมสร้างแรงกระตุ้นได้ดีเสมอ
“เนื่องจากวันนี้คุณศักดิ์ขอตัวกลับกะทันหันพี่จะลงจับคู่บัดดี้ด้วย” โค้ชส้มยังคงยิ้มละไม
“เย้” เสียงพลอยแพรวแฝดสาวดังขึ้นพร้อมกัน นั่นอาจเพราะคิดไตร่ตรองดูแล้ว หากใครได้โค้ชส้มเป็นบัดดี้น่าจะได้เปรียบในการทำคะแนนมากกว่าคนอื่น
เกมแรกของวันคือคู่บัดดี้จะต้องทำการสควอทให้ได้ 200 ครั้ง ผลัดกันทำผลัดกันนับ หรือจะให้คนใดคนหนึ่งทำก็ไม่ผิดกติกา ที่พิเศษคือหากบัดดี้คู่ใดมีผู้ชายให้บวกไป 50
เสียงโอดครวญลั่นมาจากคู่บัดดี้ที่มีผู้ชาย ฝนถึงกับขำกิ๊กขึ้นมาเมื่อมองไปเห็น พี่รามและปิ๊ก สองนักวิ่งหนุ่มที่จับได้คู่กัน นั่นแปลว่าต้องบวกอีก 100 น่ะสิ เธอโชคดีทีจับได้บัดดี้เป็นโค้ชส้ม ซึ่งแข็งแกร่งไม่แพ้ชายอกสามศอก รางวัลจะหนีไปไหนเสีย
“รวมไปถึงใครได้คู่กับโค้ชส้มก็บวกไปอีกห้าสิบ” โค้ชเปอร์ส่งเสียงมาทางเธอเฉพาะ พร้อมสายตาเยาะเย้ยขบขัน
“อ้าววววว” ฝนร้องโอดขึ้นมาบ้าง หันไปมองหน้าโค้ชส้มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังยิ้มละไม
“ฝนเริ่มก่อนเลย ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น แล้วสลับกัน” โค้ชส้มส่งกำลังใจให้ทางสายตา
การสควอทก็คล้ายกับการนั่งเก้าอี้แต่ไม่มีเก้าอี้ เราจะยืนขึ้นตรงแล้วดันก้นออกไปข้างหลังย่อตัวลงเหมือนว่าจะนั่งเก้าอี้ที่ไม่มีอยู่จริง แล้วยืดตัวตรงขึ้นนับเป็นหนึ่งครั้ง ผู้ที่ต้องการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพกและกล้ามเนื้อต้นขา จะมีท่านี้เป็นพื้นฐาน และมักจะอยู่ในการฝึกของเกือบทุกประเภทกีฬาที่ใช้ขาเป็นหลัก
ฝนฝึกท่านี้อยู่เป็นประจำ เพราะรู้มาว่าจะทำให้เธอวิ่งได้ทนขึ้น แต่ก็ไม่เคยทำต่อเนื่องเกินสิบห้าครั้ง เธอจะทำเป็นเซ็ทมากกว่า ในขณะที่เธอก้มหน้าก้มตาทำท่าสควอท ต้นขาเริ่มร้าวรานเมื่อผ่านไปได้เพียงสามสิบห้าครั้ง โค้ชส้มเป็นผู้นับจำนวนครั้งเสียงดัง ประสานกับคู่อื่น ๆ ที่กำลังนับเช่นกัน เธอได้ยินเสียงเปรียวที่จับคู่กับนัท นับเสียงรัวเร็วกว่าโค้ชส้มมากนัก
2
“ย่อลงไปเยอะหน่อย” เสียงโค้ชเปอร์ดังอยู่ข้าง ๆ จนเธอสะดุ้ง เรียกสติกลับมาทันควัน
“การทำสควอทในแต่ละระดับจะให้ผลที่ต่างกัน นักวิ่งเทรลจำเป็นต้องใช้ทั้งกล้ามเนื้อขา และกล้ามเนื้อก้นเพื่อส่งตัวเวลาวิ่งขึ้นเนิน ถ้าคุณย่อลงไปเหมือนนั่งเก้าอี้ซักผ้า จะโดนกล้ามเนื้อก้น” พูดจบโค้ชก็ส่งสายตาคมปราดมาที่เธอแว่บเดียวแล้วเดินต่อไปยังคู่อื่น
3
3
เธอรู้โดยสัญชาติญาณของหญิงสาวว่า มันมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเธอและโค้ช การวนเวียนของสายตาที่กวาดไปเมื่อไหร่ก็เจอกันและกัน แม้จะเพียงชั่วเสี้ยววินาทีที่สบตา มันก็คล้ายมีกระแสประหลาดที่คนสองคนเท่านั้นจะเข้าใจ เธอยังไม่มีเวลามาวิเคราะห์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะกิจกรรมและเกมที่มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย เกมที่เน้นความทรหด เกมที่เรียกน้ำทุกหยดในร่างกายให้เป็นเหงื่อ เกมที่ไม่ใช่เกมต่าง ๆ นั้น ทำให้เธอต้องพักเรื่องนั้นไปก่อน
1
ช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน เธอจับกลุ่มอยู่กับคนหน้าเดิม ๆ ที่คุ้นเคย ทุกคนตั้งหน้าตั้งตากินเหมือนกับว่าอดอยากมาหลายวัน อาหารง่าย ๆ แต่มีคุณภาพพอที่จะฟื้นพลัง กลับอร่อยล้ำจนฝนเองก็ต้องเติมเป็นครั้งที่สอง นั่งคุยไปกินไปสักพักโค้ชส้มก็ถือจานข้าวเข้ามาร่วมวง
“เป็นไงชอบมั้ย” โค้ชถามขึ้นมาง่าย ๆ
“ชอบอะไรอ่ะพี่ส้ม น่องไก่ทอด ข้าวไรซ์เบอรี่ แตงโม หรือว่าเกมที่โคตรโหดโคตรเหนื่อย” เปรียวถามโค้ชกลับ
โค้ชส้มหัวเราะรับ “ไม่เอาไม่โทษพี่ เกมพวกนี้โค้ชเปอร์คิดทั้งนั้น พี่ไม่เกี่ยว”
“โค้ชเปอร์คิดได้นะฮะ ไอ้เกมตักน้ำวิ่งขึ้นเขาทีละแก้ว ให้เอาไปใส่ถังจนเต็มอ่ะ” นัทบ่นอุบ
“อ้าว ก็จะได้ทำ Hill repeat ได้สนุก ๆ ไม่เบื่อกันซะก่อนไง” โค้ชส้มอธิบายเสร็จก็ตักข้าวเข้าปาก
“ก็จริงนะพี่ส้ม ตอนนั้นที่เราวิ่งขึ้นเขาลงเขาผลัดกันตักน้ำขึ้นไปใส่ถังน่ะ ได้ยินเสียงเชียร์ เสียงหัวเราะ มันทำให้สนุกจนลืมเมื่อย ลืมเหนื่อยไปจริง ๆ แล้วพอมาคิดดูดี ๆ มันทำให้เราวิ่งกันอยู่เป็นยี่สิบสามสิบรอบเลยนะ แถมไม่ใช่วิ่งธรรมดา แต่เป็นวิ่งเร็วเพื่อจะแข่งกับทีมอื่นด้วย” ฝนนั่งนึกย้อนไปถึงเกมเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
“โค้ชเปอร์คงเอาวิธีที่แกซ้อมเป็นประจำมาทำเกมล่ะสิพี่ส้ม” เปรียวยิงคำถามที่คาดคะเน
“ก็อาจจะแบบนั้นนะ วิถีชีวิตของโค้ชเปอร์ก็คือการซ้อมขึ้นเขาลงเขานี่แหละ แต่มันโดดเดี่ยวไม่สนุกสนานแบบนี้หรอก นักวิ่งอาชีพแบบโค้ชเปอร์บางทีเหงาจนคว้าง การต้องซ้อมวิ่งวันละเป็นสิบ ๆ กิโลอยู่กับตัวเองเป็นเดือน ๆ บนเขา ไม่ค่อยได้เสวนากับใคร ก็สร้างนิสัยประหลาดบางอย่างขึ้นมาได้" โค้ชส้มจบประโยคยาว ๆ พร้อมกวาดข้าวคำสุดท้าย
“แล้วโค้ชเปอร์ไม่มีแฟนเหรอฮะ” นัทปล่อยคำถามที่ฝนได้ยินแล้วใจเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว
2
โค้ชส้มนิ่งไปครู่นึง คล้ายนึกอะไรออกแล้วอมยิ้ม “โอ๊ย โค้ชเปอร์มีแฟนไม่ได้หรอก”
1
เธอทิ้งประโยคปริศนานั้นไว้กลางโต๊ะแล้วลุกจากไปพร้อมจานเปล่า
2 บันทึก
8
29
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิยาย - พบกันที่เส้นชัย
2
8
29
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย