ซีรีส์แม่ค้าขนมหวาน
ตอน..." อย่าดูถูกงานเล็กๆของตัวเอง"
...ถึงคุณผู้อ่านที่รัก...
ฉันห่างหายจากการเขียนบทความไปนานพอสมควร เนื่องจากต้องรับผิดชอบงานหลายอย่างมากขึ้น ธุรกิจการขายขนมก็ดำเนินไปได้ เริ่มเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าประจำหลายรายแล้ว
ถ้าใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านและบังเอิญว่าท่านกำลังตกงานอยู่ อย่าเพิ่งท้อลองลุกขึ้นสู้ดูสักครั้ง ไม่แน่ว่าวิกฤตในครั้งนี้อาจทำให้ใครหลายๆคนได้คนพบหนทางใหม่ๆก็เป็นได้
สิ่งที่จะบอกเล่าสู่กันฟังอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไรนัก แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ฉันได้พิสูจน์กับตัวเองแล้วว่า " ถ้าตั้งหลักหาหนทางที่จะเดินได้แล้ว มันจะมีแสงสว่างส่องให้เดินต่อไปได้อีกเรื่อยๆ"
ฉันเริ่มตั้งหลักใหม่ด้วยการทำขนมขาย มีหลายครั้งที่เหนื่อยและท้อจนอยากจะล้มเลิก เพราะรายได้ที่ได้รับนั้นสู้งานเดิมไม่ได้ (มันแทบจะเทียบกันไม่ติดเลยล่ะ!)
"ก็ฉันไม่อยากเป็นเพียงแค่แม่ค้าขายขนมธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่มองหาอนาคตไม่เจอนี่ "
เมื่อคิดในแง่ลบและดูถูกงานใหม่ของตัวเองเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะส่งผลกระทบอะไรบางอย่างเข้าให้เสียแล้ว
ช่วงไหนที่คิดลบ ช่วงนั้นจะเป็นวันที่ลูกค้าหายเงียบ
และไม่มีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาเลย เมื่อเป็นเช่นนี้มันยิ่งน่าใจหายเข้าไปอีก
หลังจากนี้ฉันจะต้องเป็นแม่ค้าขายขนมจริงๆหรือนี่?
ฉันถามคำถามนี้กับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยว่าฉันอยากจะมีอนาคตที่สดใสกว่านี้ ประมาณ 2
อาทิตย์กว่าๆ ที่ฉันจิตตกและอยู่กับความคิดลบๆในหัวของตัวเอง
นอกจากตัวเราเองแล้วไม่มีใครในโลกนี้ช่วยเราได้จริงๆ คนในครอบครัวอาจจะช่วยเหลือเราได้เพียงไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง แต่ความเข้มแข็งเราต้องช่วยเหลือตัวเอง
วันหนึ่งก็มีแสงสว่างส่องทางให้ ฉันบังเอิญได้ฟังธรรมมะจากพระอาจารย์รูปหนึ่งจากช่องยูทูบ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานอย่างไรให้สำราญและสำเร็จ รวมถึงจะสร้างพลังให้เริ่มต้นและลุกขึ้นยืนได้อย่างไร
พระอาจารย์สอนธรรมะราวๆเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่ฉันสะดุดกับบทสรุปในช่วงท้ายๆว่า
"ถ้าหากอยากทำงานแต่วันนี้ไม่มีงานอะไรทำ ก็ให้ทำงานบ้านนี่แหละ ทำความสะอาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ทำสวน ดายหญ้า หาอะไรที่ทำได้ทำไปก่อน การไม่อยู่เฉยทำให้เรามีความกระตือรือร้น และเกิดความมั่นใจ สิ่งเหล่านี้จะเป็นพลังงานดึงดูดสิ่งดีๆให้เราได้เจอโอกาสใหม่ๆ "
สองอาทิตย์ที่ลูกค้าพร้อมใจกันเงียบหาย
สองอาทิตย์ที่ฉันจิตตกอยากยอมแพ้
"ไหนๆก็ไหนๆช่วงนี้ก็ว่างๆอยู่
ลองเชื่อพระอาจารย์ดูสักครั้งแล้วกัน"
รอบบ้านของเรานี่หญ้าก็เริ่มรก ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ร่วงเต็มพื้นไปหมด ฉันจึงจัดการดายหญ้าและกวาดใบไม้จนเรียบร้อยแลดูบริเวณบ้านสะอาดตา
ฉันไปหาซื้อต้นไม้และดอกไม้มาปลูกเพิ่ม ใช้เวลากับการทำโน่นนี่ทั้งวันจนลืมเรื่องราวที่กังวลใจไปจนหมดสิ้น
เช้าวันหนึ่งมีใครคนหนึ่งโทรมาหาฉัน เขาเป็นเชฟหัวหน้างานเก่าของฉันเอง
" มดดี้ พี่มีเรื่องให้ช่วย พี่เห็นเราโพสต์รูปขนมบ่อยๆพี่คิดว่างานนี้เหมาะกับมดดี้มาก อยากให้มดดี้ทำเมนูขนมไทยให้หน่อย เจ้าของงานเค้าอยากจะเปิดร้านคาเฟ่ต์ขนมไทย เดี๋ยวรายละเอียดค่อยคุยกันอีกครั้งนะ "
คนที่โทรมาหาฉันเขามีอาชีพเป็นเชฟฟรีแลนซ์ เขารับงานเซ็ตระบบร้านอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ฉันรับปากที่จะช่วยงานเขา และได้ฉุดคิดอะไรบางอย่าง การทำขนมขายนั้นเป็นงานที่ดีมากๆงานหนึ่ง
อย่างน้อยในเวลานี้มันก็เป็นงานที่ก่อให้เกิดรายได้หล่อเลี้ยงชีวิตในช่วงวิกฤต อีกทั้งยังเป็นเหมือนเวทีที่ให้เราได้แสดงความสามารถให้คนอื่นมองเห็นอีกด้วย
ถ้าหากว่าเรารักงานของตัวเองและไม่หยุดพัฒนาฝีมือ โอกาสต่างๆมันก็เข้ามาหาถึงบ้านจริงๆ
ฉันตั้งจิตตั้งใจเริ่มต้นคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ดูถูกงานของตัวเอง งานเล็กงานน้อยฉันจะตั้งใจทำอย่างดีที่สุด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าฉันได้รับออเดอร์ขนมจากลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่อย่างไม่ขาดสายอีกครั้ง
"ฉันเชื่อว่ามันจะมีทางที่จะเดินต่อไปได้อีก"
โปรดติดตามตอนต่อไป
"มดดี้"
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
