31 มี.ค. 2021 เวลา 00:01 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย 20 ตอน เรื่อง
"See you at the finish line - พบกันที่เส้นชัย"
ตอนที่10 - คุณดรีม
ฝนมายืนอยู่ด้านหน้าบริษัทด้วยดวงหน้าเซ็งสุดบรรยาย โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงการสนทนาทางไลน์กับพี่หญิง ผู้ทำหน้าที่ประสานงานฝ่ายต่าง ๆ
“ฝนมะรืนเข้าออฟฟิศนะ โปรเจคใหม่ที่บอกจะเริ่มเดือนหน้าเลื่อนมาเป็นอาทิตย์หน้าแล้ว” ไลน์ข้อความส่วนตัวเด้งขึ้นมา
“อ้าว ทำไมรีบจัง ฝนยังไม่ได้เตรียมหาข้อมูลเลย”
“พอดีมีรองเท้ารุ่นใหม่จะเปิดตัว เค้าก็เลยคิดว่าจะเปิดพร้อมกันทั้งสินค้าและช็อปใหญ่ใจกลางเมืองไปเลย”
“แสดงว่าวันมะรืนที่ฝนต้องเข้าไปคือข้อมูลต้องพร้อมแล้วสิ”
“ใช่ ทันมั้ย?”
“ตอบว่าไม่ทันได้ด้วยเหรอพี่หญิง” เมื่อส่งคำถามไปก็ได้รับสติ๊กเกอร์เป็นรูปเด็กผู้หญิงเอามือปิดปากหัวเราะกลับมาแทน
“ว่าแต่ที่พี่เจ๋งเค้าบอกว่าจะคุมโปรเจคนี้เองจริงมั้ยพี่”
“จริง” คำนี้ทำให้ฝนเผลอเบะปากเบือนหน้าแม้ว่าจะนั่งอยู่คนเดียวกับโทรศัพท์ในมือ
“ฝนไม่อยากทำงานนี้เลย เกลียดขี้หน้า” ส่งตอบไปพร้อมกับสติ๊กเกอร์อุนจิสามกอง
“โปรเจคนี้ลูกค้ายังไม่มีทีม Content creater ของเค้าเองนะ จะขอให้เราส่งทีมไปสอนงานฝ่าย PR เค้าด้วย ฝนได้ค่าเหนื่อยอีกเรทนึงนะ”
“แต่มันต้องลงไซท์บ่อยด้วยแหละถ้างั้น” ฝนนึกไปถึงหน้าที่ ๆ เธอต้องไปโผล่ตามงานประชาสัมพันธ์ที่จะจัดถี่หน่อยในช่วงแรก ส่ายหัวเบา ๆ
“แล้วเป็นอะไรล่ะ” ตบท้ายด้วยสติ๊กเกอร์เครื่องหมาย ? ตัวใหญ่
“จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าคนคุมโปรเจคไม่ใช่พี่เจ๋งน่ะ” พร้อมสติ๊กเกอร์ หญิงสาวที่โกรธจนไฟท่วมหัว
“เวลาทำงานพี่เจ๋งเค้ามืออาชีพน่าฝน ทนนิดนึง คงไม่ต้องเจอทุกวันหรอก”
“ขอให้จริงเถอะ” ฝนจบการสนทนาด้วยสติ๊กเกอร์หญิงสาวนั่งพนมมือกล่าวสาธุ
เขาเปิดม่านออกดูเมื่อใกล้ถึงเวลานัดประชุม รู้ว่าหญิงสาวเป็นคนตรงต่อเวลา และจะมาถึงก่อนเวลาประชุมเล็กน้อยเสมอ จึงเห็นรถคันเล็กสีแดงสดค่อย ๆ เลี้ยวเข้าลานจอดรถด้านข้าง ซึ่งตรงกับห้องทำงานเขาพอดี รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นอย่างห้ามไม่ได้
แม้ไม่ได้เจอหน้ากันจัง ๆ มาร่วมปี ตัวเขาเองก็พยายามหลบหน้าในช่วงแรก ๆ เพราะรู้ตัวว่าสร้างคดีใหญ่ไว้ เพื่อน ๆ ที่เป็นหุ้นส่วนกำชับหนักหนาว่าไม่อยากให้มีกรณีชู้สาวขึ้นในบริษัท โดยเฉพาะหุ้นส่วนกับพนักงาน เพราะจะทำให้เสียระบบการปกครอง และเสียบรรยากาศในการทำงาน
เขาก็รับปากไปตามนั้นอย่างไม่มีปัญหาใด ๆ งานที่มากมายถาโถม ธุรกิจที่วิ่งรุดหน้ารวดเร็วทำให้เขาแทบจะไม่มีเวลาไปให้กับหญิงสาวคนใดอยู่แล้ว จนเมื่อสองปีที่แล้วที่ต้องทำงานคลุกคลีอยู่กับทีมงานกลุ่มนึงอยู่ร่วมสามเดือน ความสนิทสนมชิดเชื้อก็ทำให้เขาเผลอใจให้กับพนักงานสาว เรื่องมันคงไม่บานปลายถ้าเขาไม่ได้มีสัมพันธ์กับพนักงานสาวถึงสองคน ในทีมเดียวกัน และในเวลาเดียวกัน
ในช่วงแรกก็เป็นเพียงแค่ความสนุกตื่นเต้นในการสลับสับราง ทั้งคู่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันแบบที่เขาไม่สามารถตัดคนใดคนหนึ่งออกได้ ฝนเป็นผู้หญิงที่สดใส มั่นใจในตัวเอง ทำงานเก่งคล่องแคล่วว่องไว ส่วนฤดีเป็นเด็กสาวที่เพิ่งจบใหม่ มีความไร้เดียงสา อ่อนหวาน กระตือรือร้นในงานที่จะทำตลอดเวลา
ทั้งคู่เป็นทีมที่เข้าขากัน ถือเป็นทีมที่อึดและอดทน งานหนักไม่เกี่ยง หามรุ่งหามค่ำยังไงก็ไหว ฝนสอนงานให้ฤดีอย่างทุ่มเท ส่วนฤดีก็มองพี่ฝนเป็นไอดอลคนเก่งที่เธอหวังจะเป็นในอนาคต ถ้าไม่ติดว่าเขาเองนี่แหละที่ทำให้สองคนนั้นแตกกันไปอย่างไม่มีวันประสาน
เมื่อเรื่องแดงขึ้น ฝนอาละวาดอย่างหนักประกาศกลางบริษัทถึงวีรกรรมของเขาและไม่ขอร่วมงานด้วยอีก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าได้มาเสวนาให้เธอเสียอารมณ์ และเธอก็เด็ดเดี่ยวพอที่จะยังทำงานต่อไป ส่วนฤดีเปราะบางกว่านั้นมาก เธออ่อนไหวและแตกสลาย เธอมองเขาเป็นเทพบุตร เป็นฮีโร่ เป็นผู้ชายในฝัน แต่เมื่อผลสุดท้ายทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ เธอทนนั่งตาแดงในทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากันสามคนอยู่ได้ไม่นานก็ลาออกไปเอง
เมื่อจบโปรเจคนั้นเขาและฝนก็แทบจะไม่ได้พบหน้ากันนัก คลาดกันไปกันมาในบริษัทเล็ก ๆ แห่งนี้ จนเมื่อเดือนก่อนนี้เองที่เขาเห็นเธอแว่บเดียวในที่ประชุม รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอ ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างในตัวเธอยังเหมือนเดิม ยกเว้นสีผิวที่คล้ำขึ้นเท่านั้น หน้าตา ผมเผ้าก็เหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือ ลักษณะท่าทางการเดิน การพูด ความมั่นใจที่ฉายชัดออกมาทางแววตา โดยเฉพาะตอนที่ลุกขึ้นอธิบายงาน
เขาเพียงมองผ่านกระจกเข้าไปในห้องประชุมเท่านั้น ยังรู้สึกถึงพลังงานที่เต็มเปี่ยมและแรงดึงดูดในตัวเธอ ปะปนกับความหลังครั้งเก่าที่เคยผูกพันธ์มีไมตรีต่อกัน ถึงกับทำให้เขารำพึงในใจว่า ไม่ได้เจอกันปีเดียว ทำไมถึงได้น่าดูขึ้นเป็นกองขนาดนี้
“เรนนี่ แวะเข้ามาคุยกับผมหน่อย” เขาเปิดประตูออกไปดักไว้เมื่อรู้ว่าเธอจะเดินผ่าน
ฝนหยุดชะงัก จ้องมองตาเขาด้วยสายตาเข้มข้น ครูเดียวก็คลายสายตาลงยักไหล่เล็กน้อย แล้วเดินตามเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัว
“ขอคุยเฉพาะเรื่องงานค่ะ" เธอพูดพลางลากเก้าอี้ออกมาหย่อนตัวลงนั่งตัวตรง
“คิดว่าพี่จะคุยเรื่องอะไรล่ะ” เขาส่งยิ้มอ่อน เดินกลับไปนั่งยังเก้าอี้ทำงานอีกฝั่ง
“ไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ ตกลงมีอะไรคะ”
ฝนเคยสงสัยในตัวเองว่า ที่เธอพยายามหลบหน้าผู้ชายคนที่ทำเธอไว้เจ็บแสบนี้เพราะว่าโกรธมาก หรือเพราะว่ากลัวตัวเองจะใจอ่อนกลับไปรักเขาเหมือนเดิมกันแน่
แต่ตอนนี้ที่เธอกำลังนั่งเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูเนี้ยบไปทั้งตัว สบสายตาที่มองเธออย่างชื่นชมเปิดเผยเหมือนเคย เธอจึงเพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่ทำให้เธอหวั่นไหวได้อีกต่อไป น่าแปลกที่เธอก็พบว่าความโกรธที่เธอเคยคิดว่ามันคงจะไม่มีวันหายในชาตินี้ ก็มลายหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
คิดได้ดังนั้นจึงยิ้มออกไป เป็นยิ้มที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความอิสระ ยิ้มที่ปลดเปลื้องทุกข์ในใจที่เธอสร้างขึ้นมาเอง เธอให้อภัยเขาแล้ว และก็ให้โอกาสตัวเองได้ก้าวเดินต่อไปตั้งแต่วันที่ได้พบโค้ชเปอร์แล้ว ดังนั้นก็ไม่รู้ว่าจะยังผูกรัดด้วยเชือกของความโกรธเกลียดเคียดแค้นไปทำไม มีแต่จะรัดตัวเธอให้เกิดบาดแผลลึกและเจ็บปวดเองก็เท่านั้น
เจตนิพัทธ์ตะลึงเมื่อเธอส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้ หัวใจเต้นระรัว ไม่รู้ว่าเธอมาไม้ไหนและต้องการอะไร หรืออาจจะเป็นกับดักกลลวงที่เธอเตรียมไว้สำหรับแก้แค้นให้กับสิ่งที่เขาเคยทำก็เป็นได้
“เอ่อ … ” อยู่ดี ๆ ก็เกิดอึกอักคำพูดติดคอเสียอย่างนั้น
“พี่อยากเคลียร์กับเรนนี่ก่อน พี่รู้ว่าการมาทำงานร่วมกันอีกครั้งอาจจะทำให้ไม่สบายใจ และก็อาจจะทำให้คนอื่นอึดอัด แต่โปรเจคนี้เป็นของบริษัทเพื่อนพี่ อีกอย่างก็มีบริษัทสิงคโปร์หุ้นอยู่ด้วย ถ้าทุกอย่างไปได้สวยเราก็มีทางไปตีตลาดต่างประเทศได้”
“ฝนไม่มีปัญหา อะไรจบแล้วก็คือจบ ส่วนคนอื่นที่จะอึดอัด ถ้าเค้าเห็นเราทำงานอย่างมืออาชีพ เดี๋ยวพวกเค้าก็ปรับตัวกันได้เองแหละค่ะ” ฝนยักไหล่ ลุกขึ้นยืน
“ถ้ามีเรื่องแค่นี้ งั้นไปประชุมงานกันเถอะค่ะ ลูกค้าคงมาแล้ว" จากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานไปไม่เหลียวหลัง เจตนิพัทธ์บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าเธอน่ามอง น่าสนใจ และสวยขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก
“ฝนเตรียมรายชื่อนักวิ่งที่ตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจมาให้แล้วนะคะ จะแยกเป็นฝั่งหญิง กับฝั่งชาย” เธอแตะนิ้วเบา ๆ ที่แป้นรับสัญญาณบนโน้ตบุ้ค เพื่อให้ส่งภาพขึ้นฉายยังจอโปรเจ็คเตอร์ด้านหน้าห้องประชุม
บนจอแบ่งฝั่งซ้ายขวา มีรูปภาพนักกีฬาเรียงอยู่ฝั่งละสี่ห้าคน
“มันจะสร้างกิมมิคได้ดี ถ้าเราดึงสักหนึ่งคนของทางสองฝั่งมาเป็นกัปตันทีมชายและหญิง” ฝนอธิบายคล่องแคล่ว
“เหมือนต่อสู้กันอย่างนั้นเหรอคุณฝน” พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของลูกค้าถาม
“ไม่ต้องต่อสู้กันค่ะคุณขวัญ แต่เหมือนเป็นแม่ทัพนำทีม ที่จะเป็นตัวแทนของเพศแต่ละเพศ ในการสร้าง Content เราจะได้มุ่งประเด็นเพื่อจับตลาดได้ชัดและตรงเป้าหมาย ลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของแต่ละทีมก็จะรู้สึกว่าเขามีผู้นำ ที่เป็นลีดเดอร์ของนักวิ่งในทีมอีกทีน่ะค่ะ" สายตาที่มีแววแห่งความมั่นใจเปี่ยมล้นพูดบรรยายไปพร้อมกับกวาดไปรอบห้อง
“คุณฝนเลือกมาแล้วรึยังครับ” คุณวงศกรผู้บริหารหนุ่มเอ่ย
“ฝนยังไม่ได้เลือกค่ะ แต่รายชื่อที่แสดงอยู่ตอนนี้คัดมาแล้วว่าให้ครอบคลุมเกือบทุกกลุ่ม ส่วนใครจะเป็นกัปตันทีม คุณวงศกรเลือกได้เลยค่ะ”
“ผมสนใจมาทาง โค้ชเด่น กับ โค้ชเปอร์” ฝนใจเต้นขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยออกมาจากปากผู้บริหารหนุ่ม
“ทางคุณเด่น ที่เป็นนักวิ่งทีมชาติลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสตอนนี้น่าจะติดสัญญากับรองเท้าอีกยี่ห้อนึงนะคะคุณวงศกร” ขวัญหทัย ประชาสัมพันธ์สาวหันไปบอกกับเจ้านายตัวเอง
“คืออย่างนี้คุณฝน ทางรองเท้าวิ่งที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด อยากจะจัดงานเปิดตัวพร้อมกับช็อปเรา แล้วก็จะเป็นการดีถ้าจะใช้พรีเซนเตอร์คนเดียวกันไปเลย” ผู้บริหารหนุ่มหันมาอธิบาย
“เดี๋ยวเรื่องนี้ขวัญประสานให้เองค่ะ ถ้าคุณวงศกรสนใจอยากให้โค้ชเปอร์เป็นกัปตันทีม”
“ผมชอบลักษณะความเป็นโค้ชของทั้งคู่ มันให้ความรู้สึกของผู้นำ ที่จริงนักวิ่งคนอื่น ๆ ในลิสต์ผมไม่ติดเลยนะ แต่พอเห็นคำว่าโค้ช แหม มันดูขึงขัง หนักแน่น มีพลัง ถ้าโค้ชเด่นติดเป็นพรีเซนเตอร์รองเท้ายี่ห้ออื่น ก็เห็นจะต้องมอบให้โค้ชเปอร์เป็นกัปตันทีม” วงศกรกล่าวด้วยความคึกคัก
“แล้วทางฝั่งนักวิ่งหญิงล่ะ” เจตนิพัทธ์ยิงคำถามขึ้นหลังจากนั่งฟังเงียบ ๆ อยู่สักพัก
“แหม เลือกยากจริง ๆ” วงศกรมองหน้าเพื่อนด้วยสายตากรุ้มกริ่ม จนฝนต้องกระแอมเบา ๆ
“ฝนคัดเลือกมาให้ทั้งที่เป็นนักวิ่งล่ารางวัลเป็นอาชีพ และนักวิ่งเซเล็ปที่หันมาเริ่มล่ารางวัลด้วย ส่วนตัวคิดว่ากลุ่มเป้าหมายของเราน่าจะมาทางฝั่งนักวิ่งเซเล็ปมากกว่า เพราะนักวิ่งเหล่านี้ทำให้กีฬาที่ไม่ซับซ้อนอย่างการวิ่ง กลายเป็นกีฬาที่สนุกและท้าทายขึ้น”
“ใช่ค่ะ แล้วก็มีฐานลูกค้าเดิมอยู่ด้วย” ขวัญหทัยเสริมเมื่อฝนพูดจบ
“ถ้าอย่างนั้นก็มีอยู่สองคนคือ คุณดรีมนางแบบเก่า และก็คุณแท๊ตตี้นักร้องเกิร์ลกรุ๊ป ถ้าเอาฐานลูกค้าเดิมคุณแท็ตตี้น่าจะภาษีดีกว่าเพราะมีคนติดตามเยอะกว่า ใช่มั้ยขวัญ" วงศกรหันไปถามลูกน้อง
“ฐานลูกค้าเดิมของคุณแท๊ตตี้จะเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ค่ะ ถ้ามาทางคุณดรีมแม้จะไม่มีฐานลูกค้ามากเท่า แต่ช่วงที่เธอมามีชื่อเสียงเรื่องการวิ่ง กลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในวัยเดียวกับเธอ จะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการจับจ่ายมากกว่า และหันเข้าสู่วงการวิ่งมากที่สุดในตอนนี้ค่ะ” ขวัญพลิกกระดาษในมือ พร้อมกับอธิบายข้อมูล
“คุณดรีมเหมาะกับการเป็นกัปตันทีมหญิงมากกว่าค่ะ ถ้ามายืนคู่กับโค้ชเปอร์แล้วมีพลังที่สูสีกัน” ฝนสนับสนุนขวัญหทัยอีกเสียง
“อ้าว ไหนคุณว่าไม่ต้องสู้กันไง” วงศกรถามกลั้วเสียงหัวเราะ
“ไม่ต้องสู้กันหรอกค่ะ แต่จิ้นกันน่าจะได้นะคะ” ขวัญหัวเราะตามไปกับเจ้านาย
“สร้างเป็นคู่จิ้นก็ได้นะ เรื่องแบบนี้จะยิ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกมีส่วนร่วม และอินกับแต่ละทีมมากขึ้น จากนั้นในทางการตลาดเราสามารถสร้าง Content ต่อยอดได้อีกมากมาย หรือจะทำสินค้าออกมารับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อีกเยอะ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องคุยกับทางทั้งคู่เสียก่อนว่ายินยอมรึเปล่า” เจตนิพัทธ์เสริม
“ดรีมไม่มีปัญหาค่ะ” เสียงของนางแบบสาวที่ตอนนี้ผันมาเข้าสู่วงการกีฬาอย่างจริงจัง ยิ้มหวานตอบขึ้นเมื่อขวัญหทัยได้เล่าถึงคอนเซ็ปของการประชาสัมพันธ์
“ทางโค้ชเปอร์ล่ะคะ” ขวัญหันไปทางโค้ชหนุ่มหน้าเข้มที่นั่งอยู่อีกฝั่ง
เขามองแว่บไปทางผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งมองกลับมาอมยิ้มบาง ๆ ในใบหน้า ฝนไม่ได้บอกอะไรเขาว่าเธออยู่ในทีมที่ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ให้กับร้านอุปกรณ์กีฬาที่กำลังจะเปิดตัว
“หรือว่าโค้ชมีแฟนแล้ว เกรงแฟนจะเข้าใจผิดคะ" ขวัญถามขึ้นอีกเมื่อยังไม่ได้คำตอบจากโค้ชหนุ่ม เขายิ้มขึ้นอย่างขบขันเมื่อได้ยินคำถาม
“แฟนเหรอครับ ยังไม่ได้เป็นครับ มีแต่คุย ๆ กันอยู่” ตอบกลั้วหัวเราะในลำคอ เผลอมองไปทางคนตัวเล็กอีกแว่บนึง
“อย่างนั้นคงไม่มีปัญหาใช่มั้ยคะ”
“ไม่น่าจะมีนะครับ แผนคู่จิ้นนี่ยังไงนะครับคุณฝน” โค้ชเปอร์มองตรงไปยังคนถูกถามสายตายั่วล้อ
ฝนตกใจที่ถูกถามกะทันหัน เธอไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าจะได้มาเจอเขาในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้แย้มพรายว่าจะลงมากรุงเทพ ทางบริษัทลูกค้าก็นัดให้เธอเข้ามาคุยสรุปกันเรื่องพรีเซนเตอร์หลัก แต่ก็ไม่ได้แจ้งว่าได้นัดพรีเซนเตอร์เข้ามาวันนี้ด้วย
เมื่อเข้ามาถึงในห้องประชุมของบริษัทลูกค้า ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นโค้ชเปอร์นั่งเด่นอยู่ในอีกด้านหนึ่งของโต๊ะยาว และฝั่งตรงข้ามเขาก็เป็นนักวิ่งสาวอดีตนางแบบมาในชุดกีฬารัดรูปโชว์สัดส่วนสวยงาม ผมรวบตึงส่งให้ใบหน้าที่ถูกแต่งไว้บาง ๆ สวยเด่นสะดุดตา
โค้ชหน้าเข้มเลิกคิ้วส่งสายตาไปด้วยคำถาม แต่ก็พยักหน้าเข้าใจอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับคำแนะนำตัวจากทุกฝ่าย
“แผนคู่จิ้นนี่ อาจจะไม่ใช่แผนหลักหรอกค่ะ ต้องลองดูผลตอบรับเมื่อเปิดตัวทีมก่อนค่ะ” เธออธิบาย
“งานเปิดตัวที่จะเกิดขึ้น ทางบริษัทวางแผนจะจัดงานวิ่ง City Run พร้อมกันไปเลย วิ่งระยะ 5 กิโลในเมือง มีทั้งเปิดตัวรองเท้าใหม่ เปิดตัวช็อปหลักที่เราจะมีโปรโมชั่นให้คนที่ร่วมวิ่งรับสิทธิพิเศษมากมาย แล้วก็เปิดตัวทีม Presenter ของทั้งนักวิ่งชายและนักวิ่งหญิง” ขวัญหทัยยืนขึ้นพร้อมกดรีโมทควบคุมเครื่องฉายให้ค่อย ๆ เปลี่ยนทีละภาพ
“ระหว่างนี้ทางเราต้องขอให้ทางคุณดรีม ค่อย ๆ เริ่มใส่ Content ในโซเชียลทีละน้อยเกี่ยวกับรองเท้าที่จะเปิดตัว โดยจะให้เห็นเพียงแค่บางส่วนของรองเท้าก่อน หรือบรรยายสรรพคุณโดยยังไม่เอ่ยถึงรองเท้า ซึ่งรบกวนส่งตัวอย่างก่อนโพสท์ให้ทางฝนเช็คก่อนนะคะ” ฝนมองไปทางนักวิ่งทั้งสอง
“สำหรับคุณเปอร์ที่ไม่มี Account ทางโซเชียลเลย เราจะส่งพีอาร์ไปเก็บรูปตอนซ้อม แล้วจะมาสร้าง Content ให้เองค่ะ” ฝนส่งยิ้มให้โค้ชหนุ่ม ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับตอบด้วยยิ้มแบบเดียวกัน
เมื่อพูดคุยรายละเอียดกันเรียบร้อย ทุกฝ่ายก็ร่ำลาเตรียมแยกย้าย ฝนลังเลว่าควรจะอยู่พูดคุยกับโค้ชเปอร์ หรือค่อยโทรหาแล้วนัดกันภายหลังดี
เธอมองไปเห็นนักวิ่งหนุ่มสาวสองคนยืนคุยกันอยู่หน้าป้ายบริษัทหลังจากทีมประชาสัมพันธ์ถ่ายรูปเรียบร้อย เป็นภาพหญิงชายที่มีลักษณะรูปร่างแข็งแรงสวยงาม สัดส่วนกล้ามเนื้อพอเหมาะพอดี โดยเฉพาะคุณดรีมที่เมื่อประชุมเสร็จแล้วยืนขึ้น เธอจึงเพิ่งเห็นว่าวันนี้เธอสวมกางเกงกีฬาขาสั้น อวดขาแน่นหนั่นยาวเพรียวสวยงาม กล้ามเนื้อน่องก้อนน้อย ๆ ที่เห็นชัดเมื่อเธอขยับตัวเดิน ยิ่งชวนให้มอง
โค้ชเปอร์ของเธอเล่า วันนี้ใส่กางเกงกีฬาตัวใหญ่สีดำ เสื้อแขนกุดสีเทาโชว์กล้ามเนื้อหัวไหล่และท่อนแขน ที่เพรียวงาม ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนนักกีฬาเพาะกาย แต่ลีนกระชับเห็นส่วนโค้งของมัดกล้ามชัดไม่แพ้นักกีฬากล้ามโต
“สองคนนั้นเหมาะกันมาก ยิ่งยืนคู่กันก็เสริมกันและกันดี” เสียงเจตนิพัทธ์ดังอยู่ข้างเธอ เขาเดินมาเมื่อไหร่เธอไม่ทันสังเกต เธอพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา ก็เธอเองเป็นคนเลือกคุณดรีม สายตาในเรื่องความเหมาะสมเธอมองขาดเสมอ
“พี่คุยกับวงศกรเสร็จแล้วกลับกันเถอะ” เขาแตะข้อศอกเธออย่างอ่อนโยน เธอหันขวับด้วยสัญชาตญาณอัตโนมัติไปทางโค้ชเปอร์ เห็นเขาจ้องตาเข้มมาที่กริยาของเจ้านายเธอที่สนิทสนมถึงเนื้อถึงตัว ฝนเบี่ยงตัวออกเล็กน้อยและเดินคู่กันไปกับเจตนิพัทธ์
เขามองเห็นชัดเจนแม้กำลังสนทนากับนักวิ่งสาวแสนสวย หนุ่มนักธุรกิจหน้ามนแต่งกายด้วยชุดเรียบหรูเนี้ยบไปทั้งตัวหัวจรดเท้า เดินมายืนเคียงข้างส่งสายตาอ่อนโยนมาให้กับผู้หญิงตัวเล็ก ที่วันนี้แต่งตัวเป็นทางการด้วยกางเกงและสูทสีเข้าชุดกันทะมัดทะแมง ถึงมองจากระยะไกลแบบนี้แต่ก็เห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นอาทรเธอมากเกินกว่าปกติ แม้แต่ท่าทางแตะข้อศอกยังดูละมุนละไม
ผู้ชายคนนั้นคือใคร? คำถามที่ทำให้โค้ชหนุ่มรู้สึกร้อนรุ่มเป็นที่สุดในตอนนี้
❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา