1 เม.ย. 2021 เวลา 00:09 • การเมือง
Cyberwar ตอนที่ 3 : The Spy Hunters
ไม่นานหลังจากการเผยแพร่ข้อมูลจาก Guccifer 2.0 คำถามจริง ๆ จัง ๆ ก็ถูกถามดัง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น ว่า “ทีมของทรัมป์ทำงานร่วมกับรัสเซียในปฏิบัติการครั้งนี้หรือไม่” เพราะเห็นได้ชัดว่าหลังจากขึ้นครองตำแหน่งของทรัมป์นั้น นโยบายของเขาเป็นไปในทางบวกกับรัสเซียแบบที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
2
Cyberwar ตอนที่ 3 : The Spy Hunters
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2016 เช่นเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหามูลนิธิคลินตันว่าทุจริต Guccifer 2.0 อ้างว่าได้แฮ็ก เซิร์ฟเวอร์ของมูลนิธิ เอกสารดังกล่าวมาจากกลุ่ม DCCC ทรัมป์ตื่นเต้นกับข่าวนี้ แม้ว่ามูลนิธิของเขาเองก็ถูกเปิดเผยว่าถูกใช้เพื่อหาเงินเข้ากองทุนครอบครัวของเขาก็ตามที
1
หากทรัมป์ไม่สมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียจริง แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาพูดมันจะย้อนแย้งกับสิ่งที่เขาพยายามปฏิเสธ วันที่ 27 กรกฏาคม ปี 2016 เพียง 48 ชั่วโมงหลังจากการแพร่ข้อมูลหลุดจาก DNC
ทรัมป์ได้เรียกร้องให้มอสโกแฮ็กและปล่อยอีเมลมากขึ้น ทรัมป์กล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาแฮ็กทั้งหมดจริง ๆ พวกเขาอาจมีอีเมล 33,000 ฉบับ ผมหวังว่าพวกเขาจะทำ พวกเขาอาจมีอีเมล 33,000 ฉบับที่เธอทำหาย และ ลบไป… รัสเซียคุณฟังผม หวังว่าคุณจะพบอีเมล 33,000 ฉบับที่หายไป”
1
สำหรับหน่วยข่าวกรอง และหน่วยงานด้านการต่อต้านข่าวกรองและเหล่าผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ คำแถลงดังกล่าว จะเป็นประเด็นสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเข้าด้วยกัน ซึ่งจะนำไปสู่การสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
ซึ่งมีการสืบสวนจาก FBI และหน่วยงานอื่น ๆ ที่พบว่า สมาชิกการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของทรัมป์ มีการพบปะกับรัสเซียแทบจะทุกที่ แต่พวกเขาปฏิเสธการประชุมที่เกิดขึ้น
เมื่อถึงเวลาการเลือกตั้ง จะมีเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง หรือเจ้าหน้าที่หาเสียงมากกว่า 12 คน ที่จัดการประชุมตัวต่อตัว 19 ครั้ง และ มีการสื่อสารกับชาวรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับเครมลินมากกว่า 51 ครั้ง แต่พวกเขาส่วนใหญ่เหล่านี้ปฏิเสธเรื่องราวดังกล่าว และอ้างว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า พวกเขากำลังซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ แต่มันคืออะไร?
1
National Security Branch (NSB) ของ FBI คือกลุ่มเจ้าหน้าที่ต่อต้านข่าวกรองที่มีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งคอยค้นหาสายลับของศัตรูและผู้ก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาเกือบ 80 ปีแล้วที่ NSB ติดตามการคุกคามจากการจารกรรมจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสายลับคอมมิวนิสต์ อัลกออิดะห์ หรือ ISIS
3
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2016 เหล่าหน่วยสืบราชการลับได้หลั่งไหลมาจาก CIA และ NSA เมื่อพวกเขาพบว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นจากการแฮ็ก DNC มีรายงานว่าชาวอเมริกามีการติดต่อกับตัวแทนของรัสเซีย
สื่อข่าวของอังกฤษรายงานว่า British General Communications Headquaters (GCHQ) หน่วยงานในเครือนาโตในยุโรป ก็ได้รับคำเตือนเช่นกัน ว่ามีเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงอเมริกัน กำลังสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย
4
ผู้อำนวนการของ GCHQ ได้ส่งต่อข้อมูลแบบส่วนตัวไปยังทั้ง จอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการ CIA และ พลเรือเอก Michael Rogers ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ NSA
2
ในเดือนมีนาคมปี 2016 ผู้สนับสนุนทรัมป์คนหนึ่งที่มีชื่อว่า จอร์จ ปาปาโดปูลอส ได้รับความสนใจจากทั้ง FBI และ CIA โดย ปาปาโดปูลอสนั้นเป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายต่างประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งตามรายงานของสื่ออย่าง นิวยอร์กไทม์ส ปาปาโดปูลอส ได้เปิดเผยบทบาทของเขาโดยไม่ตั้งใจเมื่อเขาคุยโวเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับรัสเซีย ในขณะที่มีการดื่มสังสรรค์กับอเล็กซานเดอร์ ดาวเนอร์ นักการทูตชาวออสเตรเลีย ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ปาปาโดปูลอส ได้บอกกับ ดาวเนอร์ว่า รัสเซียมีอีเมลของ ฮิลลารี คลินตัน หลายพันฉบับ และบอกกับ ดาวเนอร์ว่า พวกเขาจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลหลุดครั้งนี้
1
จอร์จ ปาปาโดปูลอส อีกหนึ่งที่ปรึกษาทรัมป์ด้านนโยบายต่างประเทศช่วงหาเสียงเลือกตั้ง (CR:Vox.com)
และในเวลาใกล้เคียงกัน คาร์เตอร์ เพจ ที่ปรึกษานโยบายด้านต่างประเทศของทรัมป์อีกคนที่อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซีย แม้ว่าจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเขามาก่อนก็ตามที
เพจอ้างว่าทำงานเป็นเวลาเจ็ดปี ให้กับ Merrill Lynch ในลอนดอนและมอสโก นอกจากนี้เขายังอ้างว่าได้รับตำแหน่งเป็น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มพลังาน ของ Lynch ที่นิวยอร์ก
แต่สิ่งที่ปรากฏหลักฐานที่แท้จริง ก็คือ เพจทำงานเป็นเวลาสามปีในมอสโกเพื่อประสานงานการควบรวมกิจการของ Gazprom และ RAO UES ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการโน้มน้าวใจทรัมป์ให้เชื่อมั่นในตัวเขา
1
มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ทรัมป์รายรอบด้วยทีมงานที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัสเซีย และในขณะที่ข่าวเกี่ยวกับความบังเอิญเหล่านี้กำลังถูกเผยแพร่
2
ชุนชมข่าวกรองทั่วโลกกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อจัดการผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการแฮ็กครั้งนี้
หน่วยงานหนึ่งคือ Dutch General Intelligence and Security Service ( Algemene Inlichtingen en Veiligheidsdienst หรือ AVID) ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านข่าวกรองของยุโรป) ที่ดูแลแผนกสงครามไซเบอร์ และได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง
ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการขนาดเล็ก ในการทำสงครามคอมพิวเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เพื่อใช้ในการตอบโต้กับปฏิบัติการข่าวกรองของรัสเซีย
AVID เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองระหว่างประเทศโดยนาโต และการปฏิบัติการทางไซเบอร์ของ AVID นั้นยอดเยี่ยมมาก และพวกเขาทำสิ่งหนึ่งที่ถือว่ายากที่สุดในโลก นั่นก็คือ การเจาะเข้าไปยังสำนักงานหน่วยข่าวกรองของรัสเซียเอง
2
ชาวดัตช์ ได้จัดตั้ง หน่วยไซเบอร์ร่วม SIGINT ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองพลเรือน และทหารของรัฐบาลกลาง ที่ได้รับมอบหมายให้โจมตีเครือข่ายที่เป็นศัตรู ความพิเศษของพวกเขาก็คือ COZY BEARS พวกเขาสามารถใช้วิธีการลับเพื่อระบุตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ไปยังอาคารในมอสโก พวกเขาสามารถตอบโต้การแฮ็กกล้องรักษาความปลอดภัยบนชั้นหนึ่งของอาคาร และ สังเกตเห็นสายลับรัสเซียที่ใช้ระบบนี้
1
จอห์น แบรนแนน ผู้อำนวยการ CIA และ เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้ประสานงานและผู้จัดการนโยบายโดยรวมของหน่วยข่าวกรองทั้ง 17 แห่งของสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลจากทั้ง AVID และหน่วยข่าวกรองหน่วยงานอื่น ๆ และเห็นภาพถึงการโจมตีของรัสเซีย
1
แบรนแนน และ แคลปเปอร์ เห็นพ้องต้องกันว่าการโจมตีของรัสเซีย จำเป็นต้องมีการตอบโต้อย่างรุนแรงของสหรัฐอเมริกา
1
จอห์น แบรนแนน ผู้อำนวยการ CIA เห็นว่าควรมีการตอบโต้จากอเมริกา (CR:bbc.com)
วันที่ 4 สิงหาคม ปี 2016 ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโอบามา แบรนแนน ได้โทรศัพท์ติดต่อกับ อเล็กซานเดอร์ บอร์ตนิคอฟ หัวหน้า FSB ผู้อำนวยการข่าวกรองรัสเซียเป็นการส่วนตัว ซึ่งแบรนแนน ได้เตือน บอร์ตนิคอฟว่าสหรัฐฯ ตระหนักถึงปฏิบัติการของพวกเขา และมันจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
1
จากนั้น แบรนแนน ได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดี โอบามา ให้แจ้งสมาชิกคนสำคัญของสภาคองเกรส ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อแบรนแนนได้แสดงให้เห็นถึงข้อมูลต่าง ๆ กับสภาคองเกรสถึงการดำเนินการเชิงรุกของรัสเซีย ที่กำลังเกิดผลกระทบขึ้นในวงกว้าง
รวมถึงการได้รับมอบหมายจากทำเนียบขาวให้ประสานงานกับหน่วยข่าวกรอง เกี่ยวกับขอบเขตและอิทธิพลของรัสเซีย ซึ่งแบรนแนน ก็ได้ปฏิบัติตาม และพยายามโน้มน้าวผู้นำระดับสูงของประเทศว่า สหรัฐฯ กำลังถูกโจมตี แต่ดูเหมือนเหล่าผู้นำสภาคองเกรสในขณะนั้น จะยังไม่ได้สนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ประธานาธิบดี โอบามา เริ่มกังวลมากจนเขาต้องทำสิ่งที่กล้าหาญที่สุดในฐานะประธานาธิบดี ด้วยการหยิบโทรศัพท์สีแดงขึ้นมา ซึ่งเป็นโทรศัพท์พิเศษที่ใช้ในการยุติสงครามระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และรัสเซีย
1
โอบามาได้เตือนปูตินเป็นการส่วนตัวว่า อเมริกาตระหนักถึงการดำเนินการของพวกเขา และ การกระทำใด ๆ ในวันเลือกตั้งถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดสำหรับอเมริกา แต่ดูเหมือนปูตินจะไม่สนใจ ภารกิจของรัสเซียคือ การเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของประชาชนชาวอเมริกัน และ มันก็ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
1
ในที่สุดวันที่ 8 พฤศจิกายน 2016 ชาวอเมริกันเกือบ 139 ล้านคนก็ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในช่วงค่ำปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา แม้คะแนนนิยม ฮิลลารี คลินตัน จะได้ไปมากกว่าก็ตาม
อเมริกาใช้ระบบ Electoral College ซึ่งมีการจัดสรรคะแนนเสียงจำนวนหนึ่งให้กับแต่ละรัฐ ผู้สมัครที่ได้รับการโหวต 270 เสียงจะเป็นผู้ชนะ ไม่ว่าคะแนนนิยมจะเป็นอย่างไร
ทรัมป์ได้คะแนนจาก Electoral College 306 คะแนน เมื่อการนับคะแนนสิ้นสุด ทรัมป์ สามารถเอาชนะสามรัฐ ที่เป็นพื้นที่สำคัญ ทั้งใน เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และ วิสคอนซิน ได้สำเร็จ
1
ชัยชนะที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นของโดนัล ทรัมป์ สำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ทำให้ทั่วทั้งโลกต่างประหลาดใจ ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ เขาก้าวข้ามจากดาราทีวีเรียลลิตี้ จนกลายมาเป็นผู้ชายที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกได้สำเร็จ
มันแสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวอเมริกันจำนวนมาก ละทิ้งคุณค่าหลัก เช่น เสรีภาพสำหรับทุกคน การรวมตัวกันผ่านความหลากหลาย และพลังของ American Dream สำหรับผู้อพยพทุก ๆ คน
2
ชัยชนะของทรัมป์ เป็นความพยายามอย่างเปิดเผย ในการนำพาสหรัฐฯ ออกจากระบอบประชาธิปไตยที่ปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อย เสรีภาพของกลุ่มคนที่หลากหลาย และตอนนี้มันได้เปลี่ยนแปลงสำเร็จแล้ว และมันกำลังนำพาอเมริกาเข้าใกล้ระบอบที่พวกเขาเกลียดมากที่สุด นั่นก็คือ ระบบเผด็จการนั่นเอง
4
อ่านตอนที่ 4 : Conspiracy Theory
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
1
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา