ดัชนีหุ้น SET Index , SET50 และ SET100
เราอาจจะคุ้นกันมาเยอะแล้วกับคำศัพท์เหล่านี้ แต่อาจจะมีบางท่านที่ยังมีความสงสัยว่ามันคืออะไร สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้จักก่อนเริ่มซื้อหุ้น นั่นก็คือ “ดัชนี” หรือ “Index” เรามาทำความรู้จักคำนี้กันก่อนเลยค่ะ
ดัชนีหุ้น SET Index คือ การคำนวณค่าทางสถิติเพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงในภาพโดยรวมของตลาดหุ้นที่จะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดังนั้น ดัชนีหุ้น หรือ SET Index ก็คือ ดัชนีที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์ (ไม่นับรวมหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย SP นานเกิน 1 ปี)
⛳ SET Index บอกอะไร ?
SET Index จะบอกทิศทางในภาพรวมของตลาดหุ้นไทย ในวันนั้นว่าราคาหุ้นโดยรวมปรับตัวขึ้นหรือลดลง เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า
👉 SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น หมายถึง การที่ราคาหุ้นโดยรวมใน SET เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับวันก่อน
👉 SET Index ปรับตัวลง หมายถึง การที่ราคาหุ้นโดยรวมใน SET ลดลง เมื่อเทียบกับวันก่อน
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่มือใหม่ควรทำความรู้จัก ได้แก่ SET Index, SET50 Index, SET100 Index, SETHD Index, mai Index และล่าสุด sSET Index ซึ่งแต่ละดัชนีจะมีความแตกต่างกันไป
โดยจุดประสงค์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการจัดทำดัชนีที่หลากหลายประเภทก็เพื่อให้นักลงทุนสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละขนาดได้ชัดเจนและมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของเรานั่นเองค่ะ
สำหรับบทความนี้ เราจะพามาทำความรู้จักในส่วนของ SET50 และ SET100 กันค่ะ
⛳ หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นใน SET50 และ SET100
📌 ดัชนีราคา SET50 Index
ดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 50 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap.) และสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุด 50 อันดับแรก
📌 ดัชนีราคา SET100 Index
ดัชนีที่ใช้แสดงระดับราคาหุ้นสามัญ 100 ตัว โดยคัดเลือกกลุ่มหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap.) และสภาพคล่องในการซื้อขายสูงสุด 100 อันดับแรก
การคัดเลือกหลักทรัพย์ เรียงลำดับตามมูลค่าราคาตลาด ดังภาพ
จาก https://knowledge.bualuang.co.th/
⛳ เกณฑ์ในการคัดเลือกของหลักทรัพย์ที่จะอยู่ใน SET50 และ SET100 มีดังนี้
-คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight)
-ไม่นำหลักทรัพย์ที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เกิน 20 วันมารวมในการคำนวณ
-มีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว
-SET50 คำนวณโดยใช้หุ้นสามัญจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก 50 อันดับแรก
-SET100 คำนวณโดยใช้หุ้นสามัญจดทะเบียนที่ผ่านการคัดเลือก 100 อันดับแรก
โดยทั่วไปแล้วการคำนวณหุ้นเข้า – ออก SET50 และ SET100 จะส่งผลต่อราคาหุ้น กล่าวคือ มักมีการปรับตัวขึ้น/ลง ในระยะสั้น เพราะจากมุมมองของนักลงทุนเชื่อว่าหุ้นตัวไหนที่ถูกเพิ่มเข้า ก็จะมีแรงซื้อหุ้นตัวนั้นๆ ส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้น ในทางตรงข้าม หุ้นที่ถูกปรับออกนั้น ก็จะมีแรงขายออกมา ส่งผลให้ราคาปรับตัวลงเช่นกัน
ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการทบทวนรายชื่อหุ้นใน SET50 และ SET100 เป็นประจำทุกๆ 6 เดือน ระหว่างวันที่ 1–31 ธันวาคม และวันที่ 1–30 มิถุนายน ในช่วงสองช่วงเวลานี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะทำการเลือกหุ้นตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และจะประกาศต่อสาธารณชนทันทีที่มีรายการใหม่ ดัชนี SET100 และ SET50 จะมีผลในวันซื้อขายวันแรกในเดือนมกราคมและกรกฎาคมของทุกปี
หากเราต้องการตรวจดูรายชื่อหุ้นใน SET50 Index และ SET100 Index สามารถดูได้ผ่านทางเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หรือสามารถดูได้จาก Application Streaming โดยเข้าไปที่เมนู Watch แล้วไปที่หัวข้อ SET เลือก .SET50 หรือ .SET100 ก็จะปรากฏรายชื่อหุ้นดังภาพ
หุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณในดัชนี SET50 หรือ SET100 ถือเป็นการคัดกรองคร่าวๆ ที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ คัดเลือกมาให้แล้ว หากท่านต้องการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีสภาพคล่องสม่ำเสมอ ก็สามารถเลือกหุ้นจาก SET เหล่านี้ได้
💦.....แต่อย่างไรก็ดี การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาทำความเข้าใจและอัพเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนอยู่เสมอ เพื่อเป็นเกราะป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นนั่นเองค่ะ
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
สามารถเยี่ยมชมเราผ่านช่องทางอื่นตามลิ้งข้างล่างนี้ค่ะ :
Website : http://bsv-th.com/
Website : http://acc.bsv-th.com/
ขอบคุณกำลังใจและการติดตามนะคะ ทุกการอ่าน ไลค์ แชร์ หรือคอมเม้นท์มีความหมายเสมอค่ะ ❤❤🙏🙏❤❤
- 29
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
