7 เม.ย. 2021 เวลา 22:37 • สุขภาพ
ไม่ว่าหลายท่านจะชอบหรือไม่ แต่ปรากฏการณ์ทางสังคมหลายอย่างนั้นมีพลวัตของตัวมันเองมาตลอด มีช่วงเวลาที่ถูกพูดถึง เฉกเช่นเดียวกับที่หลบหายไปจากความสนใจหรือการรับรู้ของเรา
แต่ทว่า สิ่งที่เราไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าสิ่ง ๆ นั้นจะดับไป กลุ่มก่อการร้าย ISIS ไม่ได้หายไปไหน เชื้ออีโบลาก็ยังคงน่ากลัวอยู่ ชาวโรฮีนจาก็ยังคงอพยพหนีข้ามประเทศอยู่ สถานการณ์ที่ปัตตานี หรือนราธิวาสก็ยังปะทุอยู่ร่ำไป และ Covid-19 ก็ปะปนอยู่กับเรามาตลอด ไม่ได้หายไปไหน
และผู้ที่จะกำกับและชักจูงว่า เราควรจะเห็นอะไรหรือไม่เห็นอะไรก็เป็นหน้าที่ของ “สื่อ” นั่นเอง ถ้าอาดัม สมิธกล่าวถึงกลไกการตลาดเรื่อง “มือที่มองไม่เห็น” โลกออนไลน์ยุคปัจจุบันก็ช่างเอื้อเหลือเกินที่มอบอำนาจให้สื่อเล่นบท “พระเจ้าที่มองไม่เห็น”
กูรูการเมืองหลายท่านเคยกล่าวไว้ว่า “2 สิ่งที่ควรมีติดตัวไว้ยามบริหารประเทศ คือ อำนาจทางทหารและอำนาจทางสื่อ”
ไม่ว่าเราจะรู้ตัวหรือไม่นั้น ตั้งแต่เราลืมตาขึ้นมาบนโลกจวบจนทุกวันนี้ เราถูกฝังดีเอ็นเอมาไว้เรียบร้อยแล้วผ่านการติดตามข่าวและข้อมูลข่าวสาร
วิถีไลฟ์สไตล์ จุดยืนทางการเมือง มารยาททางสังคม ความเชื่อส่วนบุคคล ทัศนคติต่อผู้อื่น และอีกหลายสิ่งที่เราเป็นในวันนี้ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากสื่อสารมวลชนแทบทั้งสิ้น
หลายท่านอาจจะไม่ชอบใจนักหากมีใครมาพูดต่อหน้าตรง ๆ ว่า เราถูก “ล้างสมอง” ผ่านสื่อเจ้านั้นเจ้านี้
แต่ท้ายที่สุด เมื่อเราก้าวผ่านจุดที่สามารถใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็พร้อมยินยอมที่จะถูกล้างสมองโดยสื่อ หากนั่นตรงกับสิ่งที่เราเชื่อว่ามันดี และเหมาะสมที่สุดสำหรับเราและสังคมส่วนใหญ่
https://www.chula.ac.th/cuinside/5262/
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่การระบาดของยุค Covid-19 สื่อออนไลน์ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่รายงานข่าวผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตเท่านั้น
สื่อต่าง ๆ ยังสามารถสั่งเปิด-ปิดสวิตช์ความกลัวของผู้คนต่อโรคระบาดนี้ได้อย่างง่ายดายจากการผลิตคอนเทนท์ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ในทุกวัน
ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่เราตื่นนอนมาแล้วไม่เห็นข่าวรายงานสถานการณ์โควิดมากเท่าที่ควร เมื่อสะสมไปเรื่อย ๆ เราจะเริ่มรู้สึกว่า “สงสัยปลอดภัยแล้วล่ะมั้ง” อย่างที่เป็นมาในช่วงก่อนการกลับมาระบาดหนักอีกครั้งในตอนนี้
ความแตกต่างแม้เพียงแค่วันเดียวระหว่างก่อนที่สื่อจะรายงานข่าวการระบาดระลอกใหม่กับหลังรายงานข่าว ไม่ได้หมายความว่าเมื่อวานนี้หรือวันก่อนหน้า Covid - 19 ไม่ได้ปะปนอยู่กับเรา
https://www.bbc.com/thai/features-51473472
แน่นอนว่าในครั้งนี้สถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากสายพันธุ์ที่ติดกันมีการวิวัฒน์ให้แพร่เชื้อระหว่างกันได้ง่ายและเร็วขึ้น
แต่สิ่งที่เราต้องพยายามปรับตัวเองให้เข้าใจนั่นก็คือ “ความคิดที่ว่าการได้ฉีดวัคซีนแล้ว เราจะปลอดภัยไม่ติดโรค”
วัคซีนเป็นเพียงแค่พระรองที่ทุกคนต้องมีสิทธิ์ฉีดเพื่อความอุ่นใจว่าเราจะปลอดภัยมากขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะปลอดโรคไปตลอดรอดฝั่ง 100% หรือมันจะช่วยเราต่อสู้ให้ Covid-19 หายไปจากโลกนี้
เรายังต้องหมั่นคุมสติและได้รับการจัดสรรให้ฉีดวัคซีนป้องกันที่มีคุณภาพไปอีกหลายปีจนกว่าภูมิคุ้มกันของมนุษย์จะปรับตัวสู้กับมัน จนไม่สามารถแพร่กระจายไปสู่คนอื่นได้อย่างง่ายดายอีกต่อไป
ในท้ายที่สุดนี้ เพื่อศิลปะแห่งการชี้นำที่ดี เมื่อเรามอบอำนาจให้สื่อในการป้อนข้อมูลข่าวสารให้แก่เราในแต่ละวัน เราก็ควรจะใช้ข้อมูลตรงนั้นด้วยความตระหนักรู้เพื่อความไม่ประมาทและประโยชน์สูงสุดในชีวิตของเราเช่นกัน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา