Compassion Week#14 Month for Family.(Episode 1/2)
Family Reunion. 14 เมษายน "วันครอบครัว"
ครอบครัว เป็นหน่วยเล็กสุดของสังคม
ถ้าทุกครอบครัวมั่นคง สังคมย่อมมั่นคง
14 เมษายน "วันครอบครัว"
ครอบครัว Compassion Week มีผู้ติดตาม 1.2K สำหรับผู้เขียนถือว่าเป็นครอบครัวใหญ่ แต่สมาชิกที่ติดตามอ่านและมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นยังมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้อ่านเฉยๆ ส่งผลต่อการคำนวณดาว
ถ้ามีคนแสดงความรู้สึกมากกว่าผู้อ่านเฉยๆ เมื่อการหารหาค่าโอกาสได้ดาวก็จะมากกว่าหนึ่ง
ประมาณว่าแม้มีคนอ่านมากแต่มีคนแสดงความรู้สึกน้อยเมื่อคำนวณอัตราส่วนแสดงความเห็นหรือความรู้สึกหารด้วยจำนวนผู้อ่านจะได้ค่าที่น้อยทำให้โอกาสได้ดาวก็น้อยไปด้วย
แต่ถ้ามีจำนวนคนแสดงความเห็นหรือความรู้สึกมากกว่าจำนวนผู้อ่านเฉยๆ เมื่อคำนวณอัตราส่วนหาค่าโอกาสได้ดาวก็จะได้ค่ามากกว่าหนึ่ง
ซึ่งจะเป็นกำลังใจและแรงใจให้ผู้เขียน พัฒนางานเขียนได้ตรงกับประเด็นที่ผู้อ่านอยากรู้
เช่น บทความที่ผ่านมา
"Compassion Week #13 Episode 2/2"
ได้เขียนขยายความตามคำขอ เรื่องศีล 5 และเรื่องวิธีปฏิบัติ
ในบทความนี้จะขยายความเพิ่ม เรื่องตัวคนเดียว อายุ 50 ปี มีเศรษฐกิจมั่นคง แต่ยังเป็นทุกข์ และบางครั้งเหมือนอยู่รอวันจบ จะดำเนินชีวิตไปต่ออย่างไรดี...
เพราะการใช้ชีวิตในสังคมก็เหมือนการขับรถยนต์ ที่ผู้ขับต้องมองผ่านกระจกทุกบาน หน้า หลัง ข้าง เพื่อรู้ข้อมูลรอบตัวและตอบสนองได้ถูก
ดังนั้น ในทุกบทความจะมีการเหลือบมองประเด็นของสังคมประเทศ และประเด็นของสังคมโลกที่มีผลกระทบถึงเรา ในฐานะมนุษย์สังคม โดยจะมองประเด็นประจำสัปดาห์
เพราะคนเป็นสัตว์ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม อาศัยสังคมเป็นอยู่ ถ้าสังคมดี เราก็อยู่ได้อย่างเป็นสุข ถ้ามีสิ่งใดที่เราพอทำได้เพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้น อย่างน้อยเราก็ควรช่วยกันส่งเสียง ให้คนในครอบครัว Compassion Week ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปด้วยกัน
ครอบครัว เป็นหน่วยเล็กสุดของสังคม
ถ้าทุกครอบครัวมั่นคง สังคมย่อมมั่นคง
ครอบครัวจะมั่นคง ถ้าคนในครอบครัวมีศีล
ครอบครัวมั่นคงด้วยมีศีล จะไม่วุ่นวาย ปัญหาจะน้อย เพราะมีศีลคุ้มครอง
ครอบครัวจะมั่นคง ถ้าคนในครอบครัวมีศีล คนเป็นทุกข์เพราะคิดไม่ถูกธรรม
คนที่จิตมีศีลเป็นพื้นฐาน จิตจะมั่นคง เป็นสมาธิ มีพลังจิตที่ควรแก่งาน
แต่จิตจะเกิดมีพลังจิตที่ควรแก่งานได้เฉพาะเมื่ออยู่บนกายที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีปัญหาการเลี้ยงชีพ มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยมีรายได้ไม่ต่ำกว่ารายได้พื้นฐานเพื่อการยังชีพ Universal basic income
เหตุเพราะ กายที่เจ็บป่วย ทำให้จิตกังวลและคิดแต่เรื่องจะหายป่วย
ในขณะที่ กายที่หาเช้ากินค่ำ ทำให้จิตกังวลด้วยคิดแต่เรื่องพรุ่งนี้จะมีกินหรือเปล่า
คนที่ไม่มีปัญหาการเลี้ยงชีพและรู้จักดูแลกายให้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่กินมากเกินไปจนง่วง และไม่นอนมากจนมึนหัว เมื่อปฏิบัติศีล จิตมั่นคง มีพลังจิตเป็นสมาธิควรแก่งาน แล้วปัญญาจะเข้ามาช่วย
แต่ไม่ใช่ทุกคน จะมีปัญญา
ทุกคนไม่ว่าอายุเท่าไร?
หรือเกษียณแล้วก็ยังต้องมีเป้าหมายให้ชีวิต
เพราะคนต้องมีความอยากจึงจะมีข้อปฏิบัติ
หลวงพ่อชา บอกว่า ความอยากเป็นบารมีของคน แต่ไม่ใช่ทุกคน เฉพาะคนที่มีปัญญา
คนที่อยากด้วยปัญญา ที่รู้เห็นและยอมรับความเป็นจริง จึง"คิดพูดทำ"อย่างเป็น"ธรรม" มีสติสุจริต ทำให้เป็นคนทำหน้าที่ของตนได้ถูกต้อง
ส่วนคนที่อยากด้วยตัณหาคือไม่รู้จักประมาณ เป็นความอยากเกินพอดี เป็นสติทุจริต ด้วยโลภ โกรธ หลง
หลวงพ่อชา สอนว่า สมาธิคือชามเปล่าที่สะอาดและว่าง จึงสามารถใช้งานทำประโยชน์ได้
เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นธรรมที่มีทั้งด้านดีด้านร้าย
บางคนเกิดมาจน คิดว่าโชคร้าย
แท้จริงประโยชน์ของความจนก็มี เช่น เกิดมาจน จึง อดทน ถ้าเกิดมารวย มีโอกาสไม่อดทนและเสียคนได้ง่ายเพราะเป็นการปลูกฝังในวัยเด็ก
การเลี้ยงผิดทำให้เด็กติดเป็นนิสัย โทษสิ่งอื่น
เด็กที่ถูกเลี้ยงแบบเอาใจ เช่น เดินไปชนขอบโต๊ะยายคนเลี้ยงก็ปลอบโดยเอามือทุบขอบโต๊ะด่าโต๊ะว่ามาทำหลานฉันทำไม ประมาณว่าโทษสิ่งอื่นไว้ก่อน ทำให้เด็กติดเป็นนิสัย โทษสิ่งอื่น โทษคนอื่น และลามไปถึงการตัดสินโทษคนอื่น อารมณ์เสียเพราะคนอื่นไม่ทำตามที่ตัวเองคิดว่าถูก เช่น
บางคนพัฒนาตัวเองเป็นคนดีแล้วติดดี เอาดีไปตัดสินคนอื่น นิสัยแบบโทษ สิ่งอื่น โทษคนอื่น นี้ เป็นเรื่องรุนแรงเพราะปิดกั้นการพัฒนาตัวเอง ในเรื่องที่ตัวเองคิดไม่ถูก ทำให้แก้ไขตัวเองให้คิดถูกไม่ได้ จึงเป็นทุกข์อยู่เรื่อยไป
ใครจะมาบอกก็ไม่ได้ เพราะเขาจะยิ่งทำผิดมากกว่าเดิม แม้ว่า ในใจลึกไปอาจจะเริ่มรู้ว่ามันผิดแต่ไม่สามารถยอมรับได้ว่าที่ผ่านมาคิดผิดมาตลอด ประมาณว่าความผิดมันใหญ่เกินไปกว่าที่จะแบกรับได้ สุดท้ายจึงยังคิดแบบเดิมต่อไป
การเลี้ยงผิดทำให้เด็กติดเป็นนิสัย ไม่รับผิดชอบ
ผิดแบบไม่รับผิดชอบ เช่น คนรวย กลัวลูกผิด คอยตามแก้เรื่องที่ลูกทำผิด คนรวยเอาเงินแก้ปัญหาให้ลูก จนลูกชินกับการไม่ต้องรับผิดชอบเอง มีปัญหาก็ไปฟ้องพ่อ หรือฟ้องพี่ ให้แก้ปัญหาให้ เมื่อเวลาผ่านไปไม่มีพ่อหรือพี่คอยช่วย ทำให้แก้ปัญหาเองไม่ได้ ด้วยขาดทักษะเพราะไม่ได้ฝึกแก้ปัญหาเอง ลูกคนรวยจึงมีความเสี่ยงเป็นผู้บริหารที่ขาดทักษะ เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ก็พาลไปโทษสิ่งอื่นๆ
จะเห็นว่าคนที่สุขภาพกายแข็งแรงมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มีพลังจิตที่ควรแก่งาน แต่ถ้าขาดปัญญาที่รู้เห็นและยอมรับความเป็นจริง ไม่สามารถคิดพูดทำอย่างเป็นธรรม ชีวิตก็วุ่นวายได้
จักร 4 ทำให้เกิดปัญญา
ด้วย 70% เราลิขิตชีวิตเราเอง
ในพุทธศาสนาสอนเรื่องจักร 4 ที่เป็นพลังสามัคคีเพื่อนำบุคคลไปสู่ความสำเร็จและความเจริญรุ่งเรือง คือ
1. เป็นผู้มีบุญในชาติก่อนจึงมีความเคยชินกับความดี
2. เกิดมาในประเทศที่มีโอกาสรับรู้ความจริงเพื่อคิดถูกจึงทำถูกและเจริญก้าวหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ
3. ตั้งตนไว้ชอบในการพึ่งตัวเอง โดยเชื่อตัวเองตามหลักกาลามสูตรจึงปฏิบัติชอบ
4. คบกับคนดี กับผู้รู้ที่สามารถเป็นโค้ชคอยเตือนหรือตอบคำถามที่เราไม่รู้
เช่น กรณีอาจารย์เสาร์ท่านต้องการนิพพานมาก จึงทำความเพียรอย่างมาก เมื่ออาจารย์มั่นช่วยเป็นเหมือนโค้ชโดยแนะให้วางความอยากนิพพานก่อนและเพียงปฏิบัติให้ถูก แล้วนิพพานจะเกิดขึ้นเอง
และกรณีหลวงพ่อชา พบความยากลำบากในการปฏิบัติตัวให้บริสุทธิ์ตามคำสอนในตำราซึ่งคำสอนมีมากเกินจะปฏิบัติตาม เมื่ออาจารย์มั่นช่วยเป็นโค้ชแนะวิธีปฏิบัติที่ฉลาดว่า เพียงเราศึกษาตัวเองให้ชัดเจนก็จะรู้จักคนทั้งโลก เพราะเป็นคนเหมือนกัน ทำให้เปลี่ยนมุมมองสามารถมีวิธีปฏิบัติเรื่องยากๆได้
คนฉลาดน้อยแต่อยู่ใกล้ปราชญ์ ครูอาจารย์ จะก้าวหน้าทางธรรมได้มากกว่า
ขยายความเรื่อง พุทธศาสนามี จักร 4
คือธรรม 4 ประการ ที่นำพาชะตาชีวิตบุคคลไปสู่ความเจริญหรือความเสื่อม
เปรียบชีวิตคนเทียบกับเครื่องบินที่ใช้ 4 เครื่องยนต์ขับเคลื่อนชะตาชีวิต
เครื่องยนต์ที่ 1. มีกำลังประมาณ 20% คือความเป็นผู้มีบุญที่ได้ทำไว้ก่อนเกิดจึงกำหนดให้ชาตินี้มีศรัทธากับความดีหรือไม่ (Soul : Love Spirit & Design will to live)
เครื่องยนต์ที่ 2. มีกำลังประมาณ 10% คนที่เกิดมาในสังคมที่ปกครองด้วยระบบคุณธรรม มีระบบการศึกษาที่สร้างทรัพยากรมนุษย์เอื้อให้ Soul จิตไม่เลื้อยของคนมีอิสระสามารถพัฒนากายใจเป็นมนุษย์ผู้มีปัญญาแข่งขันกับตัวเอง คิดสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า
เครื่องยนต์ที่ 3. มีกำลังประมาณ x=(70-y)% ที่เกิดจากการสร้างประสบการณ์ทางตรง You are what you think. คนเราคิดอย่างไร ก็พูดอย่างนั้น และทำสิ่งที่พูด เมื่อบ่อยเข้าจึงติดเป็นนิสัย นานเข้าสิ่งที่คิดจึงเป็นชะตาชีวิตของเรา
เครื่องยนต์ที่ 4. มีกำลังประมาณ y=(70-x)% ที่เกิดจากการหาประสบการณ์ทางอ้อม รู้จักเรียนหรืออ่านหนังสือที่ให้ปัญญาที่เราจำเป็นต้องใช้แก้ปัญหาที่เผชิญ หรือได้คบกับคนดีที่สามารถเป็นโค้ชคอยเตือนหรือเป็นอาจารย์ช่วยตอบคำถามที่เราติดขัดอยู่ ช่วยให้เราข้ามไปได้เร็วราวกับทะลุผ่านรูหนอนในอวกาศ ทำให้เราไปได้ไกลกว่าที่เราเคยคิดหวัง
คนเราต้องอาศัยประสบการณ์สร้างปัญญา เมือคิดออก จึงทำได้และก้าวหน้าต่อไป
คนฉลาดจะ max หาประสบการณ์ทางอ้อมและ min หาประสบการณ์ทางตรง เพื่อประหยัดเวลาคิดและเหลือเวลาใช้การเดินทางไปสู่ผลสำเร็จที่สุดขีด
เช่น Elon Musk ที่เรียนรู้วิชาเฉพาะเพื่อใช้ทำงาน และเรียนเศรษฐศาสตร์เพื่อเข้าใจบริบทของกลไกทางเศรษฐกิจที่เผชิญ จึงสามารถบูรณาการธุรกิจชั้นนำระดับโลกที่ขายผลงานคุณค่าที่แท้จริงและเป็นมิตรกับโลกในราคาที่จับต้องได้ ด้วยความรู้รอบและเข้าใจ รวมถึงความรักงานนวัตกรรมทำให้สามารถชี้นำธุรกิจไปในแนวทางก้าวหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องแข่งกับใครเพราะแข่งกับใจตัวเอง
แท้จริงสรรพสิ่งเป็นธรรมะ และธรรมะเป็นของสว่าง แต่คน ไม่มีตาใจ จึงไม่รู้จัก พระพุทธองค์สอนให้โอปะนะยิโก คือน้อมเข้ามาดูตัวเอง ให้มีตาใจ ให้จิตเห็นจิตมันนึกมันคิด
หลวงพ่อชา สอนเรื่องปฏิบัติธรรมะว่าเมื่อเราประสบกับอารมณ์ ต่างๆ เช่น
เมื่อเป็นทุกข์ตรงไหน ที่ไม่เป็นทุกข์ก็อยู่ตรงนั้น
เพราะเหตุที่แท้จริงคือเราไปยุ่งกับเขาด้วยความหลง ด้วยตัณหา จึงเป็นทุกข์ ถ้าเราเกี่ยวข้องด้วยปัญญาเห็นความจริงแล้วยอมรับความจริง เราคิดเป็นธรรมมันไม่ทุกข์หรอก
เมื่อโอปะนะยิโก ย้อนดูตัวเองด้วยตาใจ Being Mind เห็นใจเรา Thinking Mind กำลังนึก กำลังคิด แล้วให้ภาวนาพุทโธคือให้พิจารณาด้วยปัญญาเห็นโลกตามเป็นจริง ถอนอุปทาน
เช่น ในครั้งพุทธกาล ปฐมเทศนา แล้วอัญญาโกณฑัญญะ เกิดดวงตาเห็นธรรม
ซึ่งเรื่องขันธ์ห้านั้นเป็นเรื่องที่อัญญาโกณฑัญญะเคยรู้แล้วแต่ยังถอนอุปทานไม่ได้ เมื่อพุทธะเปรียบเทียบให้เห็นรูปแบบธรรมชาติที่สัตว์โลกทั้งหลายมีรูปแบบชีวิตที่เหมือนกันคือล้วนเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งนั้น เห็นธรรมชาติแล้วย้อนดูตัวเอง เห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
ผู้รู้ หรือ พุทโธ ของ อัญญาโกณฑัญญะ เกิดพุทธะภาวะเห็นโลกตามเป็นจริง เห็นอนัตตา ถอนอุปทานการยึดถือว่าเป็นตัวตน ไม่ถือตัว ไม่ลูบคลำกาย อีกต่อไป
คนเรานั้น จะเป็นผู้ใหญ่หรือเป็นเด็กนั้น ต้องดูที่ใจ ว่าเป็นผู้ใหญ่หรือยัง คนที่อายุมากแล้วแต่ยังโกรธง่ายนั้นถือว่าใจยังเป็นเยาวชน ใจยังด้อยพัฒนา ยังไม่รู้สิ่งที่ควรรู้ ยังไม่รู้จักภาวนาพุทโธ
แต่บางคนพอรู้ดี แล้วติดดี ก็ลำบากอีก
เพราะเห็นคนอื่นทำไม่ดี ทั้งๆที่ตัวเองก็เคยไม่รู้เรื่องมาก่อน หลงแบกดีเป็นโทษทุกข์
เพราะไปหมายมั่น ต้องวาง ดีที่พาทุกข์
ชั่วก็พาดีได้ ต้องวางทั้งสองทาง จึงจะสงบ
เพราะพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้รวยหรือจนแต่สอนให้ไปให้ถึงบ้านที่แท้จริงคือความสงบ
คนเราเมื่อรู้ความจริงแล้วปฏิบัติไม่ยาก แต่ต้องเห็นเองรู้เอง
เช่น เด็กเห็นเปลวไฟเทียน จะยื่นนิ้วไปจับ ผู้ใหญ่ห้ามก็ขัดใจ พอผู้ใหญ่เผลอเด็กก็จับไฟร้อนร้องให้ เด็กก็รู้เอง คราวหลังดันหลังใส่ไฟมันไม่เอาเพราะรู้แล้วว่าไฟมันร้อน
การใช้ชีวิต คนต่างจากหมูในฟาร์มที่กินแล้วก็นอนจึงคิดแค่ว่ากินหรือยัง แต่สมองคนคิดได้มากกว่านั้น
ทุกชีวิตมนุษย์สังคมจึงต้องการที่ยืนที่มั่นคงอยู่ในสังคม
และมนุษย์สังคมต้องการใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและมีความหมายต่อผู้อื่น
ชีวิตพระอริยสงฆ์มุ่งหาบ้านที่แท้จริง
คือความสงบ
เหลือบมองประเด็นของสังคมประเทศ และประเด็นของสังคมโลกที่มีผลกระทบถึงเรา ในฐานะมนุษย์สังคม
Covid-19 ระบาดรอบที่สาม
เหตุจากสถานบันเทิงหรูในซอยทองหล่อ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากว่าทุกครั้ง เหตุเพราะเป็นเชื้อที่ติดง่ายขึ้น
ล่าสุดเริ่มมีปัญหาโรงพยาบาลขาดเตียงให้บริการผู้ป่วย Covid-19
หมดความเชื่อถือหลักยุติธรรมไทย
คดีเพนกวิน และพวกที่ศาลไม่ให้ประกันตัวทั้งๆที่ยังไม่มีการพิจารณาคดีว่าผิด ถูกจับขังฟรี หลังจากยื่นประกันตัวอย่างไรก็ไม่อนุญาตให้ประกัน ล่าสุดจึงขอถอนทีมทนาย และให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว
มีเสียงเรียกร้องจากกลุ่มคนที่รักและเป็นห่วง อยากให้เพนกวินกลับมาทานอาหารเพื่อรักษาชีวิตไว้สู้ต่อไป
พม่าเริ่มยิง RPG ใส่ประชาชน
และวันเดียวฆ่าประชาชน 60 ศพ รวมถึงการบุกจับสึกพระแล้วเอาไปขังคุก
เริ่มปีใหม่ไทย เริ่มความเป็น Power Followers ในครอบครัว Compassion Week
Compassion Week#14 Month for Family.(Episode 2/2)
Family Bye Bye Homeland
- 5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
