14 เม.ย. 2021 เวลา 02:28 • ปรัชญา
🎐นกอาสา สื่อธรรมะดังตฤณ
2
ฝึกมรณสติ ตัวเองพร้อมไป แต่รับไม่ได้ถ้าเป็นบุคคลที่รัก
https://www.facebook.com/groups/DharmaDungtrin/permalink/3927169840659543/?sfnsn=mo
ดังตฤณ : การเจริญมรณสติ ด้วยจินตนาการ คิดนึกภาพความตาย
จะไม่ช่วยให้เห็นภาพจริงว่า ความตายเป็นอย่างไร
แต่จะช่วยเป็นการเตรียมตัว
.
เวลานึกถึงตัวเอง เหมือนจะทำใจได้
แต่พอเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก เช่น พ่อแม่
แค่นึกว่า วันหนึ่ง ต้องไปงานศพท่าน
รู้สึกเหมือน.. ใจจะแหลกสลาย
แล้วจะต้องทำอย่างไร?
.
การเจริญมรณสติ สามารถพัฒนาขึ้นไปได้เรื่อยๆ
ตามประสบการณ์เจริญสติ
เช่น เมื่อถามตัวเองในเหตุการณ์ปกติ อาจได้คำตอบว่า ทำใจได้
แต่เมื่อมีสถานการณ์จวนตัว เช่น นั่งเครื่องบิน ตกหลุมอากาศ
ถามตัวเองว่า ถ้าเครื่องบินร่วงลงไป ทำใจได้ไหม
.
ถ้ายังทำใจได้ ใจยังนิ่งๆ เย็นๆ สบายๆ
ถือว่า เริ่มทำใจได้จริง ไม่กลัว ไม่วิตกมาก ไม่มีความจิตหด
ให้มีความตระหนกอะไรขึ้นมาก่อนตาย
.
และให้ลึกไปกว่านี้ คือ ตั้งโจทย์ใหม่ให้รัดกุมขึ้น
ถามว่า ถ้าต้องตายไปในนาทีนี้ มีดีอะไรไปตาย
จะเกิดการสำรวจ รู้ตัว มีสติมากขึ้น
.
ถ้าขณะนั้นจิตสว่างอยู่ ก็บอกว่าเอาจิตสว่างที่เป็นกุศล นี่แหละไปตาย
จะรู้สึกปลื้มขึ้นมาว่า เรามีทุน มีสมบัติติดตัวไปจริงๆ
มีความสว่างเป็นประตูความตาย
.
แต่ถ้า ณ นาทีนั้น นึกไม่ออก จิตไม่ได้สว่าง
ไม่ได้สบายใจมากพอที่จะรู้สึกว่า มีดีไปตาย
.
ให้ทบทวน กรรมที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เป็นอาจิณกรรม
แต่ละวัน เราคิดถึงเรื่องอะไรดีๆ โดยมาก
หรือว่า คิดถึงแต่ ศัตรู คู่แค้น คู่อาฆาต
.
สำรวจตัวเอง ถามตัวเอง ยิ่งบ่อยเท่าไหร่
ยิ่งเป็นการซ้อมตายที่ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
.
การซ้อมตายที่มีความชัดเจน ใช้ได้จริง
คือ การเคยชิน ที่จะถามตัวเองว่า
ตอนนี้ จิตเป็นกุศล หรือ อกุศลอยู่
.
คนที่บอกตัวเองตรงไปตรงมาว่า มีแต่ความคิดชั่วร้าย
ก็จะได้มีโอกาสขัดเกลาตัวเอง
แต่ถ้าไม่สำรวจ
บางคน หลงนึกว่าทำบุญมาเยอะ
แต่ตอนอยู่บ้าน ทำบาป .. ไม่รู้ตัว ไม่เคยเห็นเลย
.
พอเห็นชัด ก็จะรู้สึกตัวว่า
จริงๆ แล้วยัง มีดีไม่พอที่จะไปตาย ต้องสั่งสมอีก
จะเป็นมรณสติที่ Advance ขึ้นมา
.
มรณสติของจริง แบบนักเจริญสติ
จะมองเข้ามา ที่กำลังหายใจเข้า-ออก อยู่ในอิริยาบถนี้
อิริยาบถปรากฏเป็นกาย สักแต่เป็นรูป เด่นชัดแค่ไหน
.
ถ้าหาก ‘เห็น สักแต่เป็น รูป’ ชัดเจนมากขึ้นๆ
กระทั่งเกิดสมาธิ เห็นรายละเอียด โครงสร้างภายในของกาย เป็นอย่างไร
เห็นว่า ตับไตไส้พุง ที่แออัดยัดทะนานอยู่
วันหนึ่ง ต้องแตกสลาย แยกย้ายหายไป
.
นี่คือบรรลุถึง ‘กายานุปัสสนา’ ขั้นสุดยอด
‘นวสีวถิกาบรรพ’ (หมายเหตุ : อาการ ซากศพทั้ง 9)
เห็น กาย มีแต่ ธาตุ มาประชุมกัน แล้ววันหนึ่ง ต้องแตกสลายหายไป
.
มรณสติขนานแท้ ของจริง
จะเห็นว่า กายนี้ วันหนึ่ง จะต้องแตกดับ
ของที่กำลังตั้ง เป็นอิริยาบถปัจจุบันอยู่ในขณะนี้ แป๊บเดียว .. ไม่เกินร้อยปี
.
จิตที่ใหญ่ จิตแบบนักเจริญสติ
รู้สึกว่า 100 ปีของร่างกายนี้ เพียงแป๊บเดียว
.
แต่ถ้าเป็นจิตที่มี โมหะ ยึดว่า กายนี้เป็นของเรา
รู้สึกว่า ต้องมีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เห็น กายนี้เที่ยง หรือมีกายอื่น ที่ต้องเที่ยงจนได้
มี อัตตา อะไรอย่างหนึ่ง อยู่นอกเหนือภพนี้ ภูมินี้
.
นี่เป็นความเข้าใจแบบผิดๆ ของปุถุชนทั่วไป
และความเข้าใจผิดๆ แบบนี้ ก็จะไปเล็งร่างกายอื่น
ร่างกายของพ่อ ร่างกายของแม่
ร่างกายของบุคคลอันเป็นที่รัก
ว่า.. จงเที่ยงเถิด จงอยู่กับเราไปนานๆ เถิด
.
การมรณสติ แบบจินตภาพ
ความยึดติด ถึงความมีร่างกายของเรา หรือว่า ร่างกายของท่าน
ยังไม่ได้ถอนไปไหน
โคตรเหง้าของความยึดติดในร่างกาย ยังคงอยู่กับที่
.
ต้องเจริญสติไปถึงขั้นที่เห็น กาย โดยความเป็นของแตกดับได้
ถึงจะถอนความกลัวได้จริง
ถอนความยึดติดถือมั่น ในกายของคนอื่นได้จริง!
3
คำถามเต็ม : ฝึกเจริญมรณสติอยู่ เหมือนใจพร้อมสำหรับตัวเอง แต่พอแวบขึ้นมาว่า ถ้าเป็นแม่ ก็มีความไม่อยากยอมรับ
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน มุมมองที่เปลี่ยนไป คลับเฮ้าส์
วันที่ 13 มีนาคม 2564
ถอดคำ : นกไดโนสคูล
ตรวจทาน/เรียบเรียง : เอ้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา