Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประจำวัน
•
ติดตาม
15 เม.ย. 2021 เวลา 03:48 • ปรัชญา
คุณคิดว่ามนุษย์เกิดมาเป็นผ้าขาว หรือ ว่าเกิดมาชั่วร้าย?
มีหลายคนเชื่อว่าคนเรานั้นชั่วร้ายโดยกำเนิด หากไม่ผ่านการอบรมสั่งสอนเราจะไม่มีความสำนึกคิดที่ดี ในแง่นึงมันก็อาจจะจริงก็เป็นได้
เช่น ตอนเด็กๆ เราอาจฆ่าสัตว์ต่างๆ ได้โดยไม่คิดว่ามันผิดอะไร เจอนกบนต้นไม้ก็เอาหนังสติกสอยมันเลย เจอแมงมุม หรือ แมลงต่างๆ เด็กบางคนบี้เล่นด้วยซ้ำ
นี่คือความไม่รู้ เพราะไม่ได้มีใครไปสอนเด็กเหล่านั้นว่าการกระทำแบบนี้นั้นไม่ควร หากมีคนอธิบายว่า การเบียดเบียนผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี อาจยกตัวอย่างว่าถ้าเกิดเราโดนกระทำแบบนั้นบ้างเราก็คงไม่ชอบใช่หรือไม่?
ผมคิดว่าเด็กๆ ก็คงเข้าใจ
หรือ ถ้าไม่มีใครสอนให้เด็กควบคุมอารมณ์ พอโดนน้องแย่งของเล่น ก็โมโหทุบน้องเข้าให้เลย
มนุษย์เองก็ยังคงเป็นสัตว์ ชนิดๆ หนึ่ง เรายังคงมีความดุร้าย แต่โชคดีที่เรามีสมองที่ใหญ่กว่าสัตว์ตัวอื่นหลายเท่านัก เราสามารถคิดได้ว่าอะไรสมควรอะไรไม่สมควร เราจึงสามารถอบรมลูกหลานของเราให้อยู่ศีลธรรมอันดีได้
หากว่ากันแบบนี้ผมคิดว่าเราสามารถพูดได้ว่า มนุษย์นั้นชั่วร้ายโดยกำเนิด หากไม่ถูกอบรบสั่งสอนก็จริงใช่มั้ยครับ
แต่ก็มีคำพูดๆ หนึ่งที่บอกว่า “เด็กก็เหมือนผ้าขาว”
คำว่า “ผ้าขาว” นี่ หมายความว่าบริสุทธิ์ในมุมมองของผม เราเอาสีอะไรเติมแต่งลงในผ้าขาวผืนนี้ เขาก็จะมีลักษณะแบบนั้น
ความคิดนี้จะต่างกับอีกความคิดที่กล่าวไปก่อนหน้าที่ว่าเรานั้นชั่วโดยกำเนิด แบบนั้นคงเปรียบได้ว่าเด็กเกิดมาก็เป็นผ้าสีอื่นมาแล้ว เช่น เป็นสีแดง อารมณ์ร้อนแรง ผู้ปกครองดูแลอาจต้องใส่สีขาวเพิ่มลงในผ้าสีแดงให้กลายเป็นสีชมพู ให้อารมณ์ที่ร้อนแรง เบาบางลง
หากไม่นับการทำงานที่ผิดพลาดของสมองนั้นที่ทำให้มนุษย์บางคนมีการกระทำที่ผิดแปลกจากผู้อื่นที่เราเรียกว่า โรคจิต ที่คนจำพวกนี้ไม่มีความสามารถในการรับรู้ถึงอารมณ์แบบที่มนุษย์ปกติรับรู้ได้นั้น ผมเชื่อว่าทั้งสองความคิดที่กล่าวไปข้างต้นนั้นมันผสมๆ กันครับ
มันอาจเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะตัดสินว่า มนุษย์เกิดมาดีร้อยเปอร์เซ็น หรือ ชั่วร้อยเปอร์เซ็น มันผสมๆ กัน
ไม่แน่หากเราเอาสองความคิดมาผสมกันอาจจะได้คำตอบที่ใกล้เคียงกับความจริงก็ได้ครับ
มนุษย์เป็นสิ่งที่เกิดมาแล้วไม่มีความคิดร้ายนั้นเป็นความจริงในมุมมองของผม เพราะเขายังไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า “ความคิดร้าย” ตัวนี้เลยด้วยซ้ำ
การที่เขาบี้มดที่เดินอยู่บนพื้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาคิดร้ายไงครับ เพราะเขาไม่รู้จักความคิดแบบนั้น อาจเป็นไปได้ว่าบี้เล่นเพื่อความสนุก หรือว่าตัวอะไรแปลกๆ ดีไม่รู้จัก แต่ไม่ได้ทำเป็นเพราะอยากจะฆ่าแมลงตัวนี้ให้ตายซะ
ถึงแม้ไม่ได้คิดร้าย แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าไม่ผิด เราถึงต้องมีผู้ปกครองคอยอบรมสั่งสอนให้เข้าใจว่าการกระทำแบบนี้นั้นมันผิด
ผมเชื่อว่ามนุษย์เราจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คอยหล่อหลอมเรามาตั้งแต่เด็ก ไม่เพียงแต่ผู้ปกครองที่คอยดูแลเลี้ยงดู แต่สภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตด้วย
สมมุติว่ามีเด็กสองคนเกิดวันและเวลาพร้อมกันในโรงพยาบาลเดียวกัน พอถึงเวลาที่จะต้องออกจากโรงพยาบาลก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และ ผู้ปกครองของสองคนนี้มีความคิดอ่านเหมือนกัน สั่งสอนลูกของพวกเขาเหมือนกัน แต่สถานที่ๆ เด็กทั้งสองเติบโตมาต่างกันมาก เด็กอีกคนบ้านอยู่ในสลัม เลี้ยวซ้ายเป็นบ่อน เลี้ยวขวาเป็นซ่อง กับเด็กอีกคนฐานะปานกลางอยู่คอนโด เด็กสองคนนี้ต่อให้ถูกสอนแบบเดียวกัน พวกเขาก็จะต่างกันอยู่ดีเพราะสถานการณ์ที่พวกเขาพบเจอนั้นไม่เหมือนกัน
“คนเราเลือกเกิดไม่ได้” ทุกคนย่อมรู้จักคำนนี้ดี และที่สำคัญกว่าที่เลือกเกิดไม่ได้คือ เราเลือกสภาพแวดล้อมที่เราจะเกิดมาไม่ได้ด้วยต่างหาก เด็กบางคนเกิดมา พ่อแม่ทุบตี โลกของเขาก็บิดเบี้ยว
เด็กบางคนเกิดมาพ่อแม่ทิ้งไปให้อยู่กับตายาย ก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาทำผิดอะไร ถึงต้องโดนทิ้ง โตไปหากไม่ได้รับการสั่งสอนที่ดี พวกเขาก็จะมีปมในเรื่องนี้ และ เขาจะมีแนวโน้มที่จะทิ้งลูกของพวกเขาเหมือนกัน
การสั่งสอนอบรม สภาพแวดล้อม ทุกประสบการณ์ ทุกเหตุการณ์ที่เราเจอทำให้เราเป็นเราในวันนี้ ไม่ว่าเราจะเกิดมาบริสุทธิ์หรือชั่วร้ายนั้น ไม่ได้สำคัญอะไร แต่มันสำคัญที่ว่าเราจะอบรมลูกหลาน หรือ พาพวกเขาไปอยุ่ในสภาพแวดล้อมที่ดีได้หรือไม่ บางครั้งเราไม่อาจเลือกได้ว่าเราจะให้เขาอยู่ในที่ๆ ดี แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ คือความดูแลเอาใจใส่ ถึงแม้ว่าเราจะยุ่งอยุ่กับการหาเลี้ยงชีพซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้สิ่งอื่น
ไม่ใช่เพียงแต่กับเด็กเท่านั้นที่ควรมองถึงความสำคัญของสภาพแวดล้อม ผู้ใหญ่ที่โตแล้วเองก็ควรมองถึงมันด้วยเหมือนกัน ว่าสภาพแวดล้อมที่เรากำลังอยู่ สิ่งที่เรากำลังทำ มันจะส่งผลต่อเราในอนาคต เราควรพาตัวเราเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านการเดินทาง เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ เสมอ ไม่งั้นชีวิตจักจมอยู่ที่เดิม เพราะตอนเป็นเด็กเราไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรมาก แต่เมื่อเป็นผู้ใหญ่เราเป็นคนคุมบังเหียนชีวิตเราเอง เราจะเติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราพาตัวเองไปอยู่ทั้งสิ้น
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Lost in thoughts
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย