23 เม.ย. 2021 เวลา 04:56 • สุขภาพ
กาแฟแบบไหนดีที่สุดต่อสุขภาพ
Hot Brew Cold Brew อาราบิก้า โรบัสต้า คั่วอ่อน คั่วกลาง หรือ คั่วเข้ม ทุกอย่างล้วนส่งผลต่อประโยชน์ของกาแฟต่อร่างกาย กาแฟแบบไหนดีหรือไม่ดี ลองมาหาคำตอบกันครับ
2
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนเชื่อว่ากาแฟยังเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพที่ดีที่สุด นอกจากนี้สำหรับบางคนกาแฟยังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ใหญ่ที่สุดมากกว่าที่บริโภคจากทั้งผักและผลไม้รวมกัน แต่กาแฟยังมีหลายประเภทแล้วประเภทไหนที่ดีต่อสุขภาพของเราที่สุด ลองมาหาคำตอบกัน
****กาแฟที่ดีต่อสุขภาพไม่เหมือนกันในแต่ละคน****
การจะบอกว่ากาแฟแบบไหนดีต่อสุขภาพที่สุดสำหรับเรานั้น ขึ้นอยู่กับเป้าหมายด้านสุขภาพของแต่ละคน หากเรากำลังพยายามลดน้ำหนักก็ควรเลือกกาแฟที่มีแคลอรี่ต่ำหรือปราศจากแคลอรี่ หากเรารู้สึกไวต่อคาเฟอีนหรือมีความวิตกกังวลหรือเป็นโรคหัวใจก็อาจต้องเปลี่ยนไปใช้กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนหรือ (กาแฟดีแคฟ ยังคงมีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบ และในงานศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นเดียวกับกาแฟทั่วไป) หากเราเป็นโรคเบาหวานก็จะต้องลดปริมาณน้ำตาลที่เติมลงในกาแฟ และหากกำลังพยายามต่อสู้กับโรคด้วยอาหารต้านการอักเสบ กาแฟที่ดีต่อสุขภาพอาจต้องใส่อบเชยหรือขมิ้นลงไปด้วย
นอกจากนี้เนื่องจากร่างกายแต่ละคนเผาผลาญคาเฟอีนแตกต่างกัน วิธีที่ร่างกายใช้คาเฟอีนจึงทำให้กาแฟที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละคนนั้นแตกต่างกันด้วย ยิ่งเราทราบเกี่ยวกับความต้องการของร่างกายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะเลือกกาแฟที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองได้ดีขึ้นเท่านั้น
****อะไรทำให้กาแฟดีต่อสุขภาพมากขึ้นหรือน้อยลง?****
มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อประโยชน์ด้านสุขภาพของกาแฟ ปัจจัยเหล่านั้น ได้แก่ : ปริมาณสารให้ความหวานที่เติมลงไป นมหรือครีมที่ใส่ ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ (ฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลของกาแฟสามารถลดภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระซึ่งส่งผลต่อการเกิดโรค) และวิธีการชง (เช่น French press, drip-brewed และ espresso machine)
การดื่มกาแฟที่ดีต่อสุขภาพไม่เพียงขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังดื่มคาราเมลมัคคิอาโต้กับเอสเปรสโซหรือไม่ แต่ผลของกาแฟยังแตกต่างกันไปตามประเภทของยี่ห้อ การคั่ว และวิธีการชง อีกด้วย นอกจากนี้ไม่ว่าจะชอบกาแฟมากแค่ไหนและจะชงกาแฟด้วยวิธีการใด ข้อพิจารณาที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ ปริมาณกาแฟที่เราดื่ม เป็นการดีที่สุดที่จะดื่มกาแฟแค่ในปริมาณปานกลาง
1
****กาแฟดำ กับ กาแฟที่ใส่ครีมเทียมและน้ำตาล****
กาแฟดำธรรมดาที่ไม่ปรุงแต่งนั้นไม่มีแคลอรี่ แต่เมื่อเริ่มเติมน้ำตาล วิปครีม และเครื่องปรุงอื่นๆ กาแฟอาจกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรีสูงและไม่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้มีสาเหตุสำคัญสองประการที่นมและครีมเทียมลดประโยชน์ต่อสุขภาพของกาแฟลง
ประการแรก นมและครีมเทียมจะเพิ่มแคลอรี่ที่ไม่จำเป็นให้กับร่างกาย
ประการที่สอง จากงานวิจัยล่าสุดด้านวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการระบุว่านมและครีมเทียมจะลดความสามารถของร่างกายในการรับโพลีฟีนอลจากกาแฟ กล่าวอีกนัยหนึ่งนมและครีมเทียมอาจขัดขวางความสามารถของร่างกายในการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพจากกาแฟ
1
การใช้สารให้ความหวานในกาแฟมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เนื่องจากน้ำตาลเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล่วว่าส่งผลเสียอย่างมากกับร่างกายหากบริโภคมากเกินไป โดยส่งผลต่อ การเพิ่มน้ำหนัก ปัญหาน้ำตาลในเลือด และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจ และภาวะอันตรายอื่นๆ นอกจากนี้แม้เราสามารถใช้สารให้ความหวานที่ไม่มีแคลอรี่ เช่น หญ้าหวาน แทนได้ แต่ประโยชน์และความเสี่ยงของสารให้ความหวานที่มีแคลอรี่ต่ำนั้นยังขึ้นอยู่กับชนิดและยี่ห้อที่เรารับประทาน
****Hot Brew กับ Cold Brew****
ผู้รักการดื่มกาแฟหลายคนอ้างว่าการชงกาแฟแบบ Hot Brew นั้นทำลายกลิ่นและรสที่ละเอียดอ่อนซึ่งอาจเป็นเรื่องจริง แต่งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2020 พบว่าอุณหภูมิในการชงกาแฟไม่ได้ทำให้ระดับสารต้านอนุมูลอิสระหรือแร่ธาตุในกาแฟแตกต่างกันมาก แม้อุณหภูมิในการชงอาจไม่สำคัญ แต่การชงกาแฟที่อุณหภูมิสูงๆนานเกินไปหรือการต้มกาแฟนานเกินไปอาจทำให้ประโยชน์ของกาแฟลดลงได้
กุญแจสำคัญ ก็คือ กาแฟจะต้องไม่ร้อนเกินไปหรือปล่อยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิสูงนานเกินไป เนื่องจากส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์อาจแตกตัวเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน
****กาแฟโรบัสต้า กับ กาแฟอาราบิก้า****
เมล็ดกาแฟบางชนิดมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเมล็ดกาแฟชนิดอื่น งานวิจัยชิ้นหนึ่งในวารสาร Antioxidants รายงานว่าเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ยังไม่ผ่านการคั่วมีสารต้านอนุมูลอิสระเกือบสองเท่าของเมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่ยังไม่ผ่านการคั่ว
อย่างไรก็ตามความแตกต่างของปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระนี้ลดลงอย่างมากเมื่อนำเมล็ดกาแฟทั้งสองชนิดมาผ่านการคั่วอ่อนๆ แม้ว่าเมล็ดโรบัสต้าคั่วอ่อนจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเมล็ดอาราบิก้าคั่วอ่อน แต่ในรูปแบบคั่วกลางและคั่วเข้มกาแฟอาราบิก้ากลับมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าโรบัสต้า
2
ระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่เราชอบจะเป็นตัวตัดสินว่า เมล็ดกาแฟชนิดใดดีต่อสุขภาพมากกว่ากัน ถ้าชอบกาแฟคั่วอ่อนก็ควรดื่มกาแฟที่มาจากเมล็ดกาแฟโรบัสต้าซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า แต่หากชอบกาแฟคั่วกลางหรือคั่วเข้มการดื่มกาแฟจากเมล็ดอาราบิก้าจะช่วยให้เราได้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า
5
****กาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม****
สำหรับเมล็ดกาแฟหนึ่งเมล็ดระยะเวลาที่ผ่านการคั่วจะส่งผลให้ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระแตกต่างกัน การคั่วแบบอ่อนหรือที่เรียกว่าการคั่วแบบบลอนด์ คือการคั่วเมล็ดกาแฟในช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่การคั่วเข้มจะคั่วเมล็ดกาแฟโดยใช้ระยะเวลานานที่สุด
ในแง่ของปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระการคั่วอ่อนนั้นดีต่อสุขภาพที่สุด ในกาแฟโรบัสต้าคั่วอ่อนมีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดตามมาด้วยกาแฟอาราบิก้าคั่วอ่อนและคั่วกลาง
****อาราบิก้าคั่วเข้ม กับโรบัสต้าคั่วอ่อน และปริมาณคาเฟอีน****
คาเฟอีนที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการกระสับกระส่ายและผลข้างเคียงอื่นๆ คาเฟอีนกระตุ้นการตอบสนองต่อความเครียด ดังนั้นหากมีอาการวิตกกังวลหรือนอนไม่หลับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะทำให้เราแย่ลง
สำหรับปริมาณคาเฟอีน เมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแบบอ่อนจะมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่าการคั่วแบบเข้ม และโดยทั่วไปเมล็ดกาแฟโรบัสต้าจะให้คาเฟอีนมากกว่าเมล็ดกาแฟอาราบิก้า เลือกเมล็ดกาแฟและระดับการคั่วอย่างชาญฉลาดเพื่อควบคุมปริมาณคาเฟอีนที่เราบริโภคเข้าไป
สำหรับผู้ที่ต้องการจำกัดคาเฟอีนโดยไม่ต้องดื่ม กาแฟดีแคฟ อาราบิก้าคั่วเข้มเป็นกาแฟที่ดีต่อสุขภาพที่สุด ในทางกลับกันกาแฟโรบัสต้าคั่วอ่อนจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณคาเฟอีนมากที่สุด
1
****แอโร่เพรส (Aeropress) กับ เฟรนช์เพรส (French Press)****
วิธีการชงมีผลต่อปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระและปริมาณแร่ธาตุในกาแฟ นักวิจัยได้ทดสอบเทคนิคการชง 5 แบบ ได้แก่ 1) แอโร่เพรส 2) การดริป 3) ชงจากเครื่องเอสเปรสโซ 4) เฟรนช์เพรส และ 5) การชงแบบธรรมดา พวกเขาพบสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงสุดในกาแฟที่ชงผ่านแอโร่เพรส โดยระดับต่ำสุดพบในวิธีการชงแบบเฟรนช์เพรส
2
นอกจากนั้นการชงจากแอโร่เพรสยังรักษาสารอาหารที่จำเป็นที่สุด เช่น แมกนีเซียม แมงกานีส โครเมียม โคบอลต์ และโพแทสเซียมเอาไว้ ตัวกรองที่ใช้ในแอโร่เพรสก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่าง เช่นเดียวกับในกาแฟดริป แผ่นกรองในแอโร่เพรสจะช่วยปกป้องกาแฟที่ชงจากสารที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
1
กาแฟที่ผ่านการกรองสามารถลดปริมาณของน้ำมันหรือสารไดเทอร์พีนในกาแฟได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากพบว่าไดเทอร์พีนที่บริโภคมากเกินไปอาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลที่ ‘ไม่ดี’ สูงขึ้น
1
****กาแฟที่แย่ที่สุดต่อสุขภาพ****
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพยอมรับว่าการเติมสารให้ความหวานปริมาณมากลงในกาแฟ หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถสรุปลงไปได้ว่ากาแฟชนิดใดชนิดหนึ่งจะแย่ที่สุด ประโยชน์และความเสี่ยงนั้นยังขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราดื่ม
ท้ายที่สุดแล้วการเพลิดเพลินกับกาแฟสักถ้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหวาน คั่วเข้ม คั่วอ่อน หรือแบบไหนก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ อาหารทั้งหมดที่เราบริโภคต่างหากที่จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มเพียงชนิดเดียว
โฆษณา