25 เม.ย. 2021 เวลา 13:50 • ดนตรี เพลง
"Making Love Out of Nothing at All" การปิดฉากความสำเร็จอย่างงดงามในยุค 80s ของ Air Supply
หลายคนอาจไม่รู้ว่า "Making Love Out of Nothing at All" เพลงดังในปี 1983 ของ Air Supply วงป็อปร็อคเจ้าพ่อเพลงรักสัญชาติออสเตรเลียเพลงนี้ ก็เป็นทั้งฝีมือการแต่งและดูแลการผลิตของ Jim Steinman ด้วยเหมือนกัน
วง Air Supply ก่อตั้งและเริ่มมีชื่อเสียงในช่วงปลายยุค 70s ประกอบด้วยสองสมาชิกหลักที่ร่วมก่อตั้งและยังคงร่วมงานกันอยู่จนถึงทุกวันนี้คือ Russell Hitchcock และ Graham Russell
เป็นหนึ่งในวงดนตรีไม่กี่วงจากออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักกันในระดับโลก  ในช่วงต้นยุค 80s นั้น ถ้าเราดูจากความนิยมในตัวผลงานเพลงจากอันดับบนชาร์ตเพลงของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะที่อเมริกาแล้ว ถือได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความสำเร็จสูงสุดของวงเลยก็ว่าได้
 
เพลงนี้เป็นเพลงใหม่แต่ถูกรวมไว้ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตของวงซึ่งออกจำหน่ายในปีนั้น ในครั้งแรก Jim Steinman แต่งเพลงนี้กับเพลง "Total Eclipse of the Heart" ขึ้นมา เพื่อใช้ในอัลบั้มเพลงของ Meat Loaf แต่สุดท้ายทางต้นสังกัดของ Meat Loaf ตัดสินใจที่จะไม่ใช้เพลงเหล่านี้
ในเวลาต่อมาเมื่อ Steinman ได้มาร่วมงานกับ Air Supply เพลงนี้จึงตกมาเป็นของ Air Supply ในที่สุด  ส่วนเพลง "Total Eclipse of the Heart" นั้น ก็กลายไปเป็นเพลงฮิตของ Bonnie Tyler ในเวลาไล่เลี่ยกัน
 
เพลงนี้ขึ้นไปสูงสุดได้ที่อันดับ 2 บนชาร์ท Billboard Hot 100 และอยู่ตรงนั่นถึง 3 สัปดาห์เพราะถูกสกัดดาวรุ่งโดยเพลง "Total Eclipse of the Heart" ของ Bonnie Tyler ที่ครองอันดับหนึ่งอยู่
ในตอนนั้นคนที่มีความสุขที่สุด น่าจะเป็น Jim Steinman เพราะผลงานเพลงที่เขาทั้งแต่งและดูแลการผลิตเองขึ้นไปอยู่บนสองอันดับที่สูงสุดได้พร้อม ๆ กัน
และนั่นคืออันดับสูงสุดครั้งสุดท้ายที่บทเพลงของ Air Supply สามารถทำได้บนชาร์ตที่อเมริกา  เพราะหลังจากนั้น เพลงของพวกเขาก็ไม่เคยขึ้นไปถึงอันดับสูง ๆ ได้อีกเลย
 
เมื่อฟัง "Making Love Out of Nothing at All" คุณจะรู้สึกถึงการผสมผสานกันอย่างลงตัวของดนตรีและการเรียบเรียงเสียงร้องประสานที่เสมือนมีลายเซ็นของ Jim Steinman กำกับไว้  เข้ากับน้ำเสียงและสไตล์การร้องในแบบเพลงรักเปี่ยมอารมณ์ของ Air Supply ที่ครอบครองใจแฟนเพลงมาแล้วมากมาย
และถ้าคุณสังเกตุดี ๆ อาจจะได้ยินเสียงของ Holly Sherwood เจ้าของเสียงร้องทรงพลังในเพลง “Tonight Is What It Means to be Young” ในกลุ่มของเสียงร้องสนับสนุนในเพลงนี้ด้วย
จึงไม่น่าประหลาดใจที่ต่อมาเพลงนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงดังอมตะของวงไปในที่สุด 🎹
โฆษณา