26 เม.ย. 2021 เวลา 14:49 • นิยาย เรื่องสั้น
The Adventures of จ.Jump ตอน เมนูอาหารเสริมเด็กทารก
สวัสดีนักอ่านหน้าใหม่และแฟนคลับที่ติดตามทุกท่านกับผมนายจั๊มพ์ขอรับ หลังหาเวลาว่างมาเขียนตอนใหม่ได้ตั้งแต่สะดุดกับตอนรถจอดน่าสงสัยแล้ว หนนี้ก็เป็นคราวของเจ้าตัวน้อยวัยแบเบาะที่เพื่อนสมัยทำงานเบ่งออกมา ซึ่งผมก็ไม่อยากจำจี้จำไชกับวิธีการเลี้ยงดูของครอบครัวเพื่อนแต่มันก็อดไม่ได้จริง ๆ เมื่ออาหารที่ทำให้เด็กทารกกินมันประหลาดเกินกว่าที่เคยเห็นหรือเคยรับประทาน โดยอาหารที่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้นต้องตามอ่านกับตอนที่ชื่อว่า เมนูอาหารเสริมเด็กทารก
วันหยุด 2 วันที่ได้หลังจากการห่างหายไม่ได้ทำงานมานานถูกผลาญไปกับการโดนบังคับให้ไปเยี่ยมเพื่อนที่พึ่งคลอดทายาทเชื้อสายก่อกำเนิดออกมา
แม้ใจจะอยากหยุดพักเพราะปวดเท้าจากอาการรองช้ำยืนขาแข็งทั้งวัน ผมก็ไม่อาจใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ไปหาไม่ได้เนื่องจากก่อนระหกระเหินจรลีบริษัทเก่าได้เคยให้สัญญาจะไปเยี่ยมชมเมื่อใครก็ตามมีลูกเป็นของตัวเอง
เหตุนั้นถึงจะเดินกะเผลกมีกลิ่นน้ำมันมวยลอยโชยออกมาจากบริเวณขาและปลายเท้า ผมก็ต้องจำทนใช้บริการนั่งรถไฟฟ้ามวลชนต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชนที่เพื่อนสาวพำนัก
ตอนแรกก็ว่าจะนัดเพื่อนอีกคนรวมตัวก่อนจะไปถึงจุดนัดหมาย แต่คิดไปคิดมาจำได้ว่าเพื่อนที่จะไปด้วยขึ้นชื่อเรื่องการมาสายสุด ๆ ผมจึงตัดสินใจไปเองคนเดียวคงเหมาะกว่า เพราะถ้าให้ยืนรอก็เกรงจะนานเป็นชั่วโมง
ครั้นมาถึงสถานีปลายทางที่ต้องลงผมรอให้คนในขบวนนำทางไปก่อน เหตุเพราะถ้าเดินไปพร้อมกันก็กลัวคนข้างหลังจะหมั่นไส้เตะตกบันไดจากการค่อย ๆ เดินก้าวขาลง
ผมใช้เวลาเกือบ 7-8 นาทีในการจับราวบันไดขยับไต่ลง แม้จะมีลิฟต์สำหรับผู้พิการอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็กลัวพนักงานรักษาความปลอดภัยจะตะโกนเรียกชื่อห้ามปราม
ต่อให้อาการเจ็บฝ่าเท้าจะเป็นจริงแต่สำหรับบุคคลภายนอกถ้ามองมาทางผมคงเห็นหาใช่คนพิการไม่ ลงท้ายความที่กลัวจะโดนคนเข้าใจผิดเลยต้องถ่อสังขารเดินไปตะโกนเจ็บในใจไป
1
หลังปาดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้าที่พกติดตัวมา ผมก็มาถึงปากทางเข้าโรงพยาบาลที่เพื่อนอาศัย ทว่าหนทางที่เดินยังอีกไกลเพราะเมื่อเข้ามาแล้วมองแผนที่อาคารแผนกสูตินารีดันอยู่อีกฝั่งตรงข้าม
จากสภาพปัจจุบันผมคิดว่าตัวเองคงจะเดินต่อไปไม่ไหวเลยขอรถเข็นจากบุรุษพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ แต่แม้จะได้มาจากการร้องขอก็อดเคลือบแคลงสายตาที่ถูกจ้องมาไม่ได้
ตอนที่ไถลไปเองกับรถเข็นที่ได้มาผมเห็นทุกสายตาต่างจับจ้องมองด้วยความสงสัย บางทีคงสับสนหุ่นอย่างหมีจะนั่งรถเข็นทำไม
แต่แทนทีจะอธิบายผมรีบใช้มือปั่นหมุนล้อด้วยกำลังแรงแขนทั้งหมดที่มี
ผ่านไปประมาณ 15 นาทีผมก็มาถึงห้องพักคุณแม่ลูกอ่อน ณ ที่แห่งนั้นเหมือนอดีตจะย้อนกลับมาอีกครั้ง ที่ซึ่งสายสัมพันธ์พ้องเพื่อนหวนกลับคืน
หลังถกกันออกรสออกชาติระลึกประสบการณ์ที่เคยใช้เวลาด้วยกัน ทั้งผมและเพื่อนถึงรู้ตัวว่ามีอีกสิ่งต้องได้รับการอธิบาย
สำหรับผมคือเรื่องการนั่งรถเข็นที่ใช้อยู่ ส่วนเพื่อนสาวคือเรื่องเจ้าตัวน้อยที่พยาบาลกำลังพาไปอาบน้ำทำความสะอาดตัว
ตอนฟังจบแต่ละคนต่างหัวเราะกับความเป็นจริง คนหนึ่งฝืนสังขารมาหาจนต้องใช้บริการรถเข็น ส่วนอีกคนก็เผลอทำลูกในไส้เปื้อนน้ำผลไม้ที่สั่งสามีไปซื้อมา
1
เมื่อหัวเราะงอหายน้ำตาไหลซึมผมก็ได้จังหวะเผชิญหน้ากับลูกหลานที่พยาบาลชุดขาวพากลับมา
พอเห็นชีวิตที่ช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ภายใต้ผ้าห่มสีขาวนวล ผมก็หมดคำพูดจะเอ่ยปากได้แต่มองตาไม่กระพริบเสมือนช่วงเวลาดังกล่าวเปรียบดั่งภาพฟิล์มที่ค่อย ๆ สไลด์ลงมา
1
เพื่อนผู้เป็นแม่เห็นแบบนั้นเลยชักชวนให้ผมลองอุ้มดู ตอนที่ยื่นแขนไปรับแบบงง ๆ ก็อดปลื้มไม่ได้แม้จะไม่ใช่ลูกของผมเอง
1
แต่ในช่วงอิ่มเอิบปิติกับลูกชาวบ้านผมเริ่มเอะใจกับนางพยาบาลที่ยังคงรออยู่ในห้อง
ใต้กำมือที่โอบอุ้มชีวิตเจ้าตัวน้อย เสียงตอกไข่ดิบสั่นสะท้านให้หันไปดู ผมมองเงียบ ๆ รอคอยอะไรจะเกิดขึ้นต่อ
พอเห็นใส่นมใส่พริกไทยในเครื่องปั่นก็เริ่มสงสัยจะเอาให้ใครกิน เมื่อสายตาปะทะเข้ากับเสียงร้องจ้าผมถึงกับอึ้งกับสิ่งที่กำลังจะเกิด
ผมเข้าใจคนเป็นแม่อยากให้สิ่งดี ๆ กับลูกตัวเองแต่เล่นให้กินไข่ดิบแถมใส่โปรตีนตบท้ายนี้คือจะให้ลูกเป็นนักกล้ามตั้งแต่ทารกงั้นหรือ
1
ตอนที่เสียงปั่นหยุดลงและพยาบาลเทของเหลวใส่ขวด ผมอดห้ามตัวเองไม่ไหวต้องคืนตัวเด็กวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
ผมล้างหน้าตั้งสติมองกระจกผ่านภาพสะท้อนที่ฉายออกมา แค่คิดว่าเด็กตัวเล็กต้องโดนยัดให้กินอาหารเสริมก็แทบจะเป็นฝ่ายขย้อนสำรอกใส่โถส้วมแทน
อาจไม่ใช่เรื่องของคนนอกแต่เห็นทีต้องห้ามปราม ถ้าไม่ฟังที่เตือนคงต้องโทรแจ้งพวกศูนย์คุ้มครองเด็ก
ทว่าพอโผล่พ้นห้องน้ำออกมาผมก็แทบหยุดหายใจ เพราะภาพตรงหน้าคือฉากของลูกชายเพื่อนดูดของเหลวจากขวดอย่างเมามัน
***เฉลยปม***
หลังมองภาพที่เด็กทารกไม่รู้อีโหน่อีเหน่กระเดือกอาหารเสริมคนเล่นกล้ามจนเต็มคราบ ผมถึงกับทรุดในการกระทำของคนเป็นแม่
โดยเด็กในวัยนี้ยังไม่มีความสามารถมากพอจะย่อยพวกโปรตีนอย่างเต็มที่ ซึ่งการยัดให้กินไข่สดเพียว ๆ พร้อมโปรตีนจึงเหมือนกับการฆ่าเด็กให้ตายด้วยสภาวะท้องเสีย
และแทนที่พยาบาลเห็นจะห้ามกลับหัวเราะคิกคักกับท่าการดูดของเด็กที่ออกท่ายื่นมืออยากกินอีก
ผมเลยรีบวิ่งกระโดดปัดขวดที่กรอกใส่เด็กจนกระเด็น พร้อมแย่งลูกเพื่อนจากมารั้งท้ายตะโกนใครอย่าเข้าใกล้
ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าหลังจากเกิดเหตุผมถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยจับกดและถูกนำไปสอบสวนในสถานีตำรวจที่ใกล้เคียง
พอให้การสารภาพในมุมมองของตัวเองแก่เจ้าหน้าที่จบผมถึงรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดไปเอง
โดยภาพที่เห็นพยาบาลกำลังตอกไข่ดิบใส่เครื่องปั้นนั้นหาได้ทำให้เด็กกินไม่ แต่ทำให้สามีของเพื่อนรับประทานต่างหาก
2
ซึ่งขวดที่พ่อกับลูกใช้เป็นยี่ห้อพัสดุเดียวกัน และตอนที่ผมหลบไปเข้าห้องน้ำพยาบาลก็ได้เอาขวดนมที่พึ่งไปอุ่นสับเปลี่ยนกับอีกอันที่ทำให้สามีเพื่อนกิน
1
ลงท้ายกว่าจะแก้การเข้าใจผิดได้วันหยุด 2 วันที่ได้มาก็แทบจะหายไปกับการนอนในคุกที่เกิดจากความหวังดีที่ไม่อยากให้เด็กทารกกินเมนูอาหารเสริม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา