ความตั้งใจในวัยใกล้เกษียณ...ตอนที่ 5
"ตั้งใจจะสร้างป่าเล็กๆ เป็นของตัวเอง และแบ่งพื้นที่บางส่วนเป็นที่ทำกินในยามแก่เฒ่า ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙"
ตอนที่ 5 สานฝันวันวาน...สู่ความจริง
วันหนึ่งในปี 2561 ขณะเดินทางกลับจากกรุงเทพ ได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายตามพระราชดำริ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่มีต้นไม้เยอะและร่มรื่นมาก ในช่วงที่ไปนั้นมีการแจกต้นไม้เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกป่า จึงขอต้นไม้มาจำนวนหนึ่ง
มีต้นขี้เหล็ก นนทรี มะค่าแต้ อินทนิลและตะแบก และได้นำมาปลูกแซมระหว่างต้นปาล์มน้ำมันในสวน โดยใช้วิธีปลูกแบบเทวดาเลี้ยง อาศัยธรรมชาติ ไม่ได้ดูแลเป็นเรื่องราว ปรากฏว่าจากที่ปลูกไปประมาณ 10 ต้น กลับรอดได้ 6 ต้น โดยเฉพาะขี้เหล็กกับนนทรีนั้นเติบโตได้ดี แต่มะค่าแต้ไม่ตายแต่โตช้ามาก นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความตั้งใจที่จะสร้างป่าเล็กๆ 🌲🌲🌲🌲🌲
ในปี 2562 จึงมีความคิดจะปลูกอย่างจริงจังขึ้น จึงได้ไปขอพันธุ์ไม้จากสถานีเพาะชำกล้าไม้ ห้วยมุด อ.บ้านนาสาร ได้ต้นกล้าไม้มาประมาณ 200 ต้น มีมะฮอกกานี ตะเคียนทอง พะยอม หลุมพอ อย่างละ 50 ต้นและขอต้นกฤษณา มาด้วย 5 ต้น ได้เอามาลงปลูกในช่วงหน้าฝน ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกรอดมาได้ร้อยกว่าต้น ซึ่งถือว่าพอใจมากและโชคดีว่าไม้ที่ได้มานั้นเหมาะสมกับพื้นที่ที่ปลูก เพราะพื้นที่เป็นที่นาและมีน้ำท่วมขังในหน้าฝน🌳🌳🌳🌳🌳
ตะเคียนทองและพะยอม จากขนาดต้นที่สูงแค่ 25-30 ซม. ผ่านไปปีครึ่งก็สูงประมาณ 60-80 ซม. ต้นกฤษณานั้นปลูกไว้ในที่ดอนเติบโตได้ดีพอควร อาจจะเตี้ยกว่าพะยอมและตะเคียนทอง ผ่านไปปีครึ่งสูงประมาณ 50-60 ซม. มะฮอกกานีนั้นเนื่องจากเป็นไม้โตเร็ว ตอนที่ปลูกนั้นสูงแค่ 30-40 ซม. ผ่านไปปีครึ่งสูงประมาณ 180 ซม. ยกเว้นต้นหลุมพอ ซึ่งไม่ชอบพื้นที่เป็นดินเหนียวและน้ำขัง ทำให้ต้นไม่เติบโต แกร็น ไม่ยอมแตกใบและตายในที่สุด
ต้นตะเคียนทอง
เมื่อปลูกต้นไม้ที่ได้จากศูนย์เพาะชำกล้าไม้หมดแล้ว ก็ยังอยากจะปลูกต่ออีกเพราะหน้าฝนยังไม่หมดและน้ำยังไม่ท่วมขัง จึงคิดว่าลองสั่งกล้าไม้ทางอินเตอร์เน็ตมาลองดู จึงสั่งไม้ประดู่ป่ามา 30 ต้นและไม้แดงมา 5 ต้นในราคาต้นละ 7 บาท ซึ่งค่าต้นไม้ถือว่าไม่แพงแต่ค่าส่งพอๆกับค่าต้นไม้เลย
เมื่อได้รับกล้าไม้มาต้องเอามาดูแลที่บ้านก่อนลงปลูก เพราะต้นค่อนข้างเล็ก หลังจากดูแลที่บ้านประมาณสองเดือนก็เอามาลองปลูกในสวนดู ปรากฏว่ารอดมาได้ ประดู่ป่า15 ต้นและแดง 2 ต้น🌲🌳
ในปี 2562 ถ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวงานเกษตรที่มีขายต้นไม้ก็จะซื้อต้นไม้ที่คิดว่าหายากมาปลูกบ้างเช่นต้นประดู่แดง ก็นำมาปลูกไว้สองต้น แต่ต้นไม้ชนิดนี้ดูท่าจะไม่ชอบดินเหนียวของที่นาจึงไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่
ประดู่ป่า
ในปี 2561-2562 ได้ปลูกต้นไม้ไปประมาณ 250 ต้น เหลือรอดมาประมาณ 80 ต้น ส่วนใหญ่เป็นตะเคียนทองและพะยอม ส่วนมะฮอกกานีเนื่องจากตอนปลูกนั้นเป็นช่วงฝนทิ้งช่วงและไม่มีเวลารดน้ำทำให้ตายไปหลายต้น แต่ต้นที่รอดโตเร็วมาก
ด้วยความที่อยากจะปลูกต้นไม้ อยากสร้างป่า ในช่วงแรกๆ ทำให้ลืมคิดถึงในเรื่องของการจัดการพื้นที่และความเหมาะสมของพันธุ์พืชในสภาพพื้นที่ของเรา ดังนั้นหลังจากที่ปลูกจะพบว่าพืชบางชนิดไม่โต บางชนิดตายเพราะน้ำท่วมขังในหน้าฝน จึงทำให้ต้องศึกษาต้นไม้แต่ละชนิดที่ต้องการปลูกว่าเหมาะกับพื้นที่หรือไม่ ทรงพุ่มเป็นอย่างไร สูงมาก ปานกลาง หรือพุ่มเตี้ย เป็นต้น
ปัญหาอีกอย่างที่เจอก็คือ ปกติในสวนปาล์มน้ำมันจะต้องมีการตัดหญ้าเพื่อใส่ปุ๋ยและเพื่อความสะดวกในการตัดทลายปาล์ม ในตอนแรกที่ปลูกนั้นไม่ได้ปักหลักไว้เป็นเครื่องหมาย พอมีการตัดหญ้าก็เลยทำให้ต้นไม้บางต้นโดนตัดไปด้วยเป็นที่น่าเสียดายมาก จึงต้องนำไม้ไผ่หรือกิ่งไม้มาปักเป็นเครื่องหมายบอกไว้ ก็สามารถผ่านปัญหาในการโดนตัดไปได้
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
