30 เม.ย. 2021 เวลา 01:40 • ปรัชญา
การจากลา
มีพี่น้องสองคู่หนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกัน ทั้งครอบครัวมี 3 คน นั่นคือ คุณแม่และพี่น้องคู่นี้ ตั้งแต่จำความได้พี่น้องคู่นี้ไม่เคยแยกกันอยู่ และ ใช้ชีวิตร่วมหลังคาเดียวกันมาตลอด
พี่น้องคู่นี้ผูกพันและสนิทสนมกันมาก เพราะว่าทั้งคู่ชอบกีฬาเดียวกัน เล่นเกมๆ เดียวกัน ดูหนังเรื่องเดียวกัน มีเรื่องสนทนากันไม่จบไม่สิ้น ถึงจะมีทะเลาะกันบ้านเป็นบางครั้งแต่ก็ถือว่าเป็นพี่น้องที่รักกันดี
วันนึงพี่คนโตต้องย้ายออกจากบ้านไปเพราะหน้าที่ ได้รับหมายให้ไปทำงานต่างจังหวัด นั่นหมายความว่าพี่น้องคู่นี้ต้องแยกย้ายกันไปด้วย
แน่นอนชีวิตต้องก้าวต่อไปข้างหน้า เพื่อความก้าวหน้าในชีวิต เราย่อมต้องยอมที่จะออกมาจาก comfort zone และ กล้าที่จะออกไปเรียนรู้ชีวิต ไปอยู่ในที่ใหมๆ ที่ไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ได้เจอคนมากหน้าหลายตา พบเจอกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน เรียนรู้ชีวิตกับผู้คนใหม่ๆ
แต่การที่ต้องจากกับพี่น้องตัวเองนั้น ก็น่าเศร้าไม่แพ้กัน บ้านที่เคยมีเสียงพูดคุยตลอดกลับเงียบงัน โต๊ะกินข้าวที่มีกับข้าวหลายๆ อย่างก็ลดน้อยลง
อ่านเรื่องนี้แล้วผมได้แต่คิดว่า การจากลานั้นช่างน่าใจหาย นี่ขนาดว่าไม่ได้ตายจากกัน ยังมีโอกาสได้พบเจอกัน หรือ เมื่อเขาเสร็จงานย่อมกลับมาบ้านได้อีก ยังรู้สึกได้ถึงความโหวงเหวงเหลือเกิน
สิ่งที่ผมคิดได้จากเรื่องๆ นี้ก็คือ การที่เรายังอยู่ด้วยกันนั้นควรทำดีต่อกันเอาไว้ จนวันที่เราจะจากลากันไป ไม่ว่าจะตายจาก หรือ แยกย้ายตามเส้นทางของตัวเอง นี่ไม่ได้หมายถึงเพียงพี่น้องเพียงอย่างเดียว แต่ทุกความสัมพันธ์หากเรายังคงมีโอกาสอยู่ด้วยกันการทำดีต่อกัน อย่างไม่หวง ไม่กั๊กเอาไว้คงจะดีไม่น้อย เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ ว่าไม่ได้ให้สิ่งที่อยากจะให้
แน่นอนการจากลามันเป็นเรื่องน่าเศร้า ต่อให้บางครั้งเราจากๆ ที่ๆ เราไม่ชอบก็ตาม เมื่อนึกย้อนกลับไปมันก็ยังนึกเสียดายที่บางครั้งเราไม่ได้ทำอะไรตอนมีโอกาสเมื่ออยู่ที่นั้น
ข้อคิดที่ดีในชีวิต ผมเชื่อว่าการที่เราทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าบริบทมันจะเป็นอย่างไรนั้นมันดีที่สุดแล้ว ผมมักจะคอยบอกตัวเองเวลาทำอะไรสักอย่างเสมอว่า “อย่าทำอะไรที่จะเสียใจภายหลัง” คำพูดนี้ช่วยเตือนใจผมมาเสมอ
บางคนต้องจากบ้านมาจากต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ บางครั้งคิดถึงพ่อแม่ ก็กลับไปหาไม่ได้ เพราะหน้าที่ๆ ผูกมัดตัวเราอยู่ ทำให้ต้องรอโอกาสหยุดยาวจึงสามารถกลับไปได้
บางครั้ง ผมก็คิดว่าการเข้ามาอยู่ในเมือง ได้เงินเยอะกว่า สามารถส่งกลับไปเลี้ยงที่บ้านได้ เป็นเหตุผลที่ดีในการทิ้งบ้านเกิดมาอยู่ในกรุงเทพฯ นี่มันดีแล้วหรือ? บางคนไม่มีทางเลือก การอยู่บ้านนอกนั้นไม่มีงานทำจริงๆ จึงต้องย้ายมาหาโอกาสในเมืองจริงๆ ผมย่อมเข้าใจได้
แต่ผลที่ตามมาเมื่อเราย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองก็คือ พ่อและแม่ หรือ คนที่เลี้ยงดูเรามาเขาก็ต้องอยู่คนเดียว จากที่เคยเป็นครอบครัว หน้าที่การงานก็มาพรากสิ่งนั้นจากไป ปล่อยให้ท่านเหงาหงอยอยู่คนเดียว นานๆ ที ถึงจะกลับไปเยี่ยมบ้าง
เมื่อเราย้ายมาอยู่ในเมือง ก็ต้องอยู่ห้องเช่าเล็กๆ ประหยัดที่สุด ถูกที่สุด เพื่อที่จะเหลือเงินไว้ให้พอใช้กับค่าครองชีพที่แสนแพงในเมือง แล้วระบบการเดินทางก็ใช่ว่าจะดี ชีวิตในเมืองที่ควรจะสะดวกสบายก็ไม่ใช่อย่างที่เราคิดนัก แถมการต้องใช้ชีวิตคนเดียวเหงาก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกเช่นกัน
ไม่แน่ว่าการที่เราได้เงินน้อยลงมาหน่อย แต่เราได้อยู่กับครอบครัว กินอาหารฝีมือแม่ ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่หรูหรา ก็นับว่ามีความสุขดี หันไปทางไหนในบ้านก็ยังเจอญาติพี่น้อง พ่อแม่ ไม่เหงาเหมือนเมืองกรุง
ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เป็นแค่วิถีชีวิตที่เราเลือก ไม่มีผิดมีถูก เพียงแต่อยากให้ฉุกคิดถึงเรื่องที่สำคัญกว่าเงินทองบ้างสักนิด ความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวนั้นไม่อาจมีสิ่งใดทดแทนได้ เมื่อเรามีอยู่ผมคิดว่าเราควรใช้เวลานี้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้พวกเขา เพราะเมื่อวันที่เราต้องจากลากันไป เราจะได้ไม่ต้องเสียใจมากเกินไปนัก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา