Ep.2/7
ภาพหนึ่งภาพแทนคำได้เป็นพันคำ
A Picture is Worth a Thousand Words
เพราะพลังของการจินตนาการเป็นภาพในสมอง หรือ Power of Visualization 90% ของข้อมูลจะถูกแปลงไปเป็นภาพ ดังนั้นเราจะจำข้อมูลหรือหนังสือได้ดีขึ้นถ้าเรามีอารมณ์ร่วมและสามารถ "แต่งเรื่อง" ได้
http://esheninger.blogspot.com/2018/08/a-picture-is-worth-thousand-words.html
Ep.2 เทคนิค จำแบบไม่ต้องจำ ที่จิตแพทย์อยากบอกคุณ
บทนี้พูดถึง "เทคนิคการจำด้วยการส่งออก" และ "เทคนิคการจำโดยอาศัยการแต่งเรื่อง"
เทคนิคการจำด้วยการส่งออก มี 5 วิธี ให้เราเลือกใช้ เราสามารถเลือกใช้ทุกวิธีหรือเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา
1. การแก้โจทย์ (ทำข้อสอบ)
การแก้โจทย์จะช่วยให้จำได้ดีกว่าการท่องจำเพียงอย่างเดียว เพราะการทำโจทย์เหมือนกับการส่งออกที่ต้องดึงข้อมูลในสมองมาใช้งานระหว่างที่ทำโจทย์ บางคนชอบท่องจำหรือทำความเข้าใจทั้งหมดก่อนแล้วค่อยทำโจทย์ แต่การทำโจทย์ควบคู่กับการอ่านท่องจำหรือทำความเข้าใจจะเห็นผลได้เร็วกว่า
2. เขียนระหว่างการอ่านและจดบันทึกในสิ่งที่ต้องจำ
การเขียนเป็นการใช้สมองสั่งการกล้ามเนื้อมือและนิ้ว ทำให้สมองตัดสินว่าข้อมูลที่ส่งไปกระตุ้นกล้ามเนื้อให้จดลงไปนั้นเป็นข้อมูลที่สำคัญต้องจดจำ
และการเขียนนั้นไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เพียงกระดาษกับปากกา เราสามารถจดในรูปแบบดิจิตอลได้ เช่นการใช้แอพในโทรศัพท์มือถือ การใช้โปรแกรม sticky note บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ให้เราเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับตัวเราและสามารถใช้งานได้จริง โดยส่วนตัวใช้ทั้งสมุดปากการ่วมกับโทรศัพท์มือถือ iPad และคอมพิวเตอร์ แล้วเลือกใช้แอพที่เป็น Cloud เพราะสามารถ sync ได้กับทุกอุปกรณ์
3. สร้างดรรชนีความจำ
การสร้างดรรชนีความจำคือ ความจำอาศัยเหตุการณ์ (Episode Memory) คือการจำที่อาศัยการเชื่อมโยงของเหตุการณ์ แทนที่จะจำสิ่งนั้นๆ ที่เป็นความหมายโดยตรงที่เป็น ความจำอาศัยความหมาย (Semantic Memory) ซึ่งความจำอาศัยเหตุการณ์นั้นก็คือการจินตนาการเป็นภาพในสมอง
4. การใช้สมุดโน๊ต
การใช้สมุดโน๊ตเป็นการจดเพื่อรักษาข้อมูล โดยต้องจดข้อมูลที่สำคัญและโดยเร็วที่สุดหลังได้รับ input โดยส่วนตัวได้ใช้สมุดและวิธีบูโจ BuJo หรือ Bullet Journal มาประยุกต์ใช้ร่วมด้วย ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก
5. การอ่านออกเสียงและการอ่านอำพราง
การอ่านออกเสียงช่วยให้เราจำได้ดีขึ้นเพราะเป็นการใช้ประสาทสัมผัสหลายส่วนร่วมกันและสมองก็ได้รับการกระตุ้นไปในตัวด้วย
แต่หากอยู่ในสถานที่ ที่ไม่สามารถออกเสียงได้ "การอ่านอำพราง" หรือการอ่านแบบขยับปากแต่ไม่ออกเสียงออกมาก็ช่วยได้เช่นกัน
4 เทคนิคการจำโดยอาศัยการแต่งเรื่อง หรือความจำอาศัยเหตุการณ์ (Episode Memory)
1. รู้เหตุผลที่มาที่ไปของเรื่องที่จะจำ
เช่นถ้าเราจะจำสูตรหาพื้นที่สามเหลี่ยม และเราจำพื้นที่สูตรสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้เพราะง่ายๆ คือกว้าง x ยาว และเราก็รู้ว่ารูปสามเหลี่ยมเกิดจากการขีดเส้นทะแยงแบ่งครึ่งภายในรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเสมอ สูตรหาพื้นที่สามเหลี่ยมจึงเป็นครึ่งหนึ่งของพื้นที่สี่เหลี่ยม คือ 1/2 x กว้าง x ยาว (กว้างและยาวของสี่เหลี่ยม คือ ฐานและสูงของรูปสามเหลี่ยม)
2. จำด้วยคำพ้องเสียง
เหมือนกับการแต่งกลอนหรือท่องเนื้อร้องเพลง จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของคำ
3. แต่งเรื่องสั้นด้วย 5W1H
คือการแต่งเรื่องโดยใช้ Who What Where When Why How โดยอาจไม่ต้องใช้ทุกตัวก็ได้ เพียงแค่ 2 หรือ 3 องค์ประกอบก็เป็นเรื่องราวให้เราจำได้แล้ว
4. เล่าให้คนอื่นฟัง สอนคนอื่น และจับกลุ่มติว
การเล่าให้คนอื่นฟัง เป็นการเพิ่มความจำของเราให้ดีขึ้นเพราะต้องอาศัยการดึงข้อมูลในสมองออกมาเล่า และถ้าเป็นการสอนคนอื่นจะเป็นบังคับสมองให้มีการจัดระเบียบและเรียงลำดับข้อมูลในสมองให้ดีก่อนที่จะถ่ายทอดออกมา ส่วนการจับกลุ่มติวนั้นอาจจะมีการแบ่งเนื้อหากันและทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด และยังเกิดเป็นเหตุการณ์ให้สมองจำได้ง่ายขึ้นด้วย
ในบทถัดไป จะเป็นการพูดถึงสิ่งที่จำเป็นต่อเทคนิคการจำแบบไม่ต้องจำ แนวทางการเพิ่มศักยภาพสมอง และเทคนิควิธีการทบทวน
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
