17 พ.ค. 2021 เวลา 14:05 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น ขวัญผวา ตอน มันอยุ่ใต้น้ำ
บางคนเรียกผมว่าฮีโร่ เชื่อหรือไม่ว่าผมเคยช่วยชายที่จมน้ำ ช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากตึกที่ไฟไหม้และผมยังช่วยสุนัขตัวหนึ่งไม่ให้ถูกน้ำท่วมพัดไปด้วย เพื่อนของผมคิดว่าผมบ้า แต่ผมคิดว่าผมแค่แสดงออกถึงตัวตนของผมเท่านั้น ผมเป็นคนที่ชอบเรื่องตื่นเต้นและชอบความท้าทาย ผมกระโดดบันจี้จัมพ์อยู่บ่อยครั้งและผมก็ชอบกระโดดลงมาจากน้ำตกขนาดใหญ่ ผมมีรอยแผลเป็นสองสามจุดที่จะแสดงให้เห็นถึงความบ้าบิ่นของผม แต่ผมไม่ได้ทำกิจกรรมผจญภัยแบบที่เคยทำอีกต่อไปแล้ว หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
ประมาณเจ็ดปีที่แล้วผมกับเพื่อนสองสามคนเพิ่งจะออกจากงานเลี้ยงปีใหม่ ข้างนอกหนาวเย็นและเราต้องเดินหกช่วงตึกเพื่อกลับไปที่หอพัก เราทุกคนเริ่มเดินด้วยกลับหอซึ่งมันใช้เวลาประมาณ 20 นาทีหรืออาจมากกว่านั้น และต้องเดินไปพร้อมกับสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิลบยี่สิบองศา
“เดี๋ยวก่อน” จาร์ร็อดพูดด้วยท่าทางขี้เมาของเขา “มันจะถึงเร็วกว่านะ ถ้าเราเดินตัดผ่านสวนสาธารณะ” เราทุกคนใช้เวลาคิดสักครู่ เมืองนี้มีสวนสาธารณะอยู่แต่มันถูกปิดบริการ เพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย เช่นต้นไม้ล้มทับคนตาย หรือมีคนจมน้ำในบ่อ มิเชลครุ่นคิด จาร์ร็อด, เอลลิเซีย และผมหัวเราะเยาะความคิดนั้น แต่พอลมหนาวพัดมาปะทะหน้าของผม ความคิดผมก็เปลี่ยนทันที มันจะช่วยเราถึงหอพักเร็วขึ้นอีกเกือบสิบนาที ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเดินไปทางสวนสาธารณะ
เรารีบกระโดดข้ามประตูและเริ่มเดินในสวนสาธารณะ ตอนตีสองมันดูสวยมาก แสงจากดวงจันทร์เปล่งประกายสะท้อนเกล็ดน้ำค้างที่เกาะตามกิ่งไม้ ผมจำได้ว่าเคยเดินผ่านสวนสาธารณะแห่งนี้กับพ่อแม่ตอนเด็ก ๆ เดินริมสระน้ำในช่วงฤดูร้อนเพื่อดูนักท่องเที่ยวในเรือเช่าของพวกเขาอย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เห็นความสวยงามสระน้ำขนาดใหญ่ภายใต้แสงจันทร์ และมันจะเป็นการเดินที่สงบสุขมากถ้ามิเชลและจาร์รอดไม่คุยกันว่าใครจะดื่มได้มากกว่ากันและไม่อ้วกไปทั่วทุกที่ เนื่องจากผมกับเอลลิเซียเป็นสองคนที่อาการปกติที่สุดในกลุ่มเรา เราจึงพยายามประคองพวกเขาไว้เพื่อไม่ให้พวกเขาลื่นล้มไประหว่างทาง
เราเข้าไปใกล้บ่อน้ำและมันดูสวยงามมากในแสงจันทร์ มันดูสวยยิ่งกว่าที่ผมจำได้อีก เราทุกคนหยุดเพื่อชมวิวที่สวยงามนี้แต่มิเชลสังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง
“ นั่นมันอะไรกัน?” เธอถามชี้ไปที่บางสิ่งบนน้ำแข็ง เราทุกคนมองอย่างใกล้ชิดและเห็นบางอย่าง ที่ผมค่อนข้างแน่ใจว่ามันทำให้หัวใจของเราแทบพุ่งขึ้นมาสู่ลำคอ ภาพที่เห็นคือ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กำลังยืนอยู่บนน้ำแข็งกลางสระน้ำนั้น ด้วยความตกใจเอลลิเซียจึงรีบโทรหาเจ้าหน้าที่ เธอบอกเจ้าหน้าที่อย่างร้อนรนว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่เด็กหญิงคนนั้น ยืนอยู่ที่นั่น ไม่เคลื่อนไหว ไม่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
"คุณเป็นอะไรไหม?!" ผมตะโกน เธอยังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความเงียบ ในขณะที่เราตื่นตระหนกอยู่บนฝั่งผมได้ยินอะไรบางอย่าง ผมบอกให้ทุกคนเงียบและฟัง ผมตั้งใจฟังเสียงในทิศทางที่เด็กสาวยืนอยู่ ผมอธิบายไม่ถูกว่าเสียงนั้นเป็นอย่างไร จากนั้นผมก็เข้าใจ
“ น้ำแข็งกำลังจะแตก” ผมพูดขึ้น ใครสักคนต้องไปที่นั่นและไปรับเธอตอนนี้ เพื่อนของผมเดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนรนว่าจะทำอย่างไรดี ผมคิดว่ามันไม่มีเวลาแล้ว ผมหายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้ง แล้วก้าวออกไปบนน้ำแข็งอย่างระมัดระวัง เพื่อนทั้งสามคนของผมหยุดเดินเมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเดินไปที่สระน้ำ
“ นายคิดว่านายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?” จาร์ร็อดถามด้วยท่าทางที่ค่อนข้างตกใจ
“ อย่าไป ได้โปรด รอจนกว่าตำรวจจะมาที่นี่เถอะ” เอลลิเซียกวักมือเรียก แต่ผมรอนานขนาดนั้นไม่ไหวแล้ว ถ้าผมทำได้เธอคนนั้นก็จะปลอดภัย
ตอนนี้ผมอะดรีนาลีนหลั่งเต็มที่แล้ว ผมพยายามเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนว่าผมจะไปได้ไม่เร็วพอ ผมพยายามสงบสติอารมณ์และก้าวต่อไปอย่างระมัดระวัง ดวงตาของผมจับจ้องไปที่น้ำแข็งใต้เท้าของผม
“ ว้าว นายเป็นคนบ้าจริงๆใช่ไหม” ผมพึมพำกับตัวเอง และก็ได้ยินเสียงแตกอีกแล้ว ผมหยุดเดินเพื่อสังเกตว่าน้ำแข็งคงไม่ได้แตกข้างใต้เท้าผม ผมเร่งความเร็วขึ้นอีกเล็กน้อยโดยยังคงเฝ้าดูน้ำแข็งอยู่ให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ทำให้มันแตก เมื่อผมเข้าใกล้มากขึ้นผมก็เงยหน้ามองขึ้นไปและเห็นหญิงสาว เธอหน้าซีดมาก ขาวเกือบเท่าหิมะ ผมคิดว่ามันอาจจะเพราะของแสงจากดวงจันทร์ แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังส่องแสงอยู่ ดูเหมือนเธอถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหรือน้ำค้างแข็งหรืออะไรบางอย่าง เธอยังมีชีวิตอยู่รึเปล่านะ แต่ถ้าเธอตายไปแล้วเธอจะยืนอยู่บนน้ำแข็งได้อย่างไร? ผมถามตัวเอง จากนั้นเธอก็ส่งเสียงออกมา สิ่งที่แทบไม่มีใครได้ยิน แต่ผมได้ยิน ผมถอดแจ็คเก็ตออกและพยายามจะคลุมให้เธอโดยหวังว่าเธอจะรับมันไป “ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย” ผมพูดอย่างมั่นใจ ผมเกือบจะใกล้พอที่จะใส่แจ็คเก็ตให้เธอได้แล้วและนั่นคือตอนที่ผมสังเกตเห็นบางอย่างที่ทำให้ผมหยุดชะงัก
เธอไม่ได้ยืนอยู่บนน้ำแข็ง ข้างหลังเธอมีรูน้ำแข็งที่แตกอยู่ มีบางสิ่งที่ยื่นออกมาจากน้ำที่เย็นจัด มันอุ้มเธอขึ้นมา หนวดแหลมสีเทาซีด ดวงตาของผมเบิกกว้างเมื่อมันเริ่มบีบตัวเธอ นั่นคือตอนที่ผมตระหนักได้ว่านั่นไม่ใช่น้ำแข็งที่กำลังจะแตกเมื่อผมได้ยินเสียงซี่โครงของเธอหักและมีน้ำตาไหลออกมา เลือดก็ไหลออกมาจากปากของเธอ ผมมองลงไปที่รูโหว่ในน้ำแข็ง จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมเห็นอะไร มันมีสีเทาซีด…ปกคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าและหนามแหลมปกคลุมไปทั่วทั้งตัว มีดวงตาสีแดงเข้มขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสีดำ และเมื่อมันยิ้มผมเห็นเขี้ยวสีเหลืองเน่า ผมทิ้งแจ็คเก็ตของผม ผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัวดังขึ้นเรื่อย ๆ ผมอยากจะวิ่ง แต่เท้าของผมไม่ยอม ทันใดนั้นศพของเด็กสาวก็ถูกดึงลงไปในรูน้ำแข็งที่สิ่งมีชีวิตนั้นสร้างขึ้นและผมเห็นมันว่ายน้ำออกไป ผมสาดส่ายสายตาไปทั่วพื้นน้ำแข็งด้วยความสงสัยว่ามันหายไปไหน ผมไม่ได้สังเกตุเลยเลยด้วยซ้ำว่าเพื่อนของผมเดินตามผมมาครึ่งทางของน้ำแข็งแล้ว เมื่อผมเห็นพวกเขาเดินมาหาผม ผมพยายามตะโกนใส่พวกเขา พยายามบอกให้พวกเขาวิ่ง แต่สิ่งที่ออกมาคือเสียงครวญครางที่น่าสมเพชของผม พวกเขาเรียกชื่อผมขอร้องให้ผมรีบเข้าฝั่ง ผมสลัดความกลัวและก้าวเท้าออกไป ผมวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้พยายามไม่ให้ลื่นบนน้ำแข็ง
"วิ่ง! ออกไปจากน้ำแข็งบ้านี่ซะ!” ผมเตือนพวกเขาแล้ว พวกเขายื่นมือมาหาผมและเริ่มเดินมาทางผมอีกครั้ง
“ มาเร็วเข้า!” จาร์ร็อดตะโกน
"ออกไป! ออกไปจากน้ำแข็งนี่เดี๋ยวนี้!” ผมตะโกนกลับไปอย่างหมดหวังขอร้องให้พวกเขาวิ่ง
ในตอนนั้นผมรู้สึกได้ถึงน้ำเย็นที่ข้อเท้าของผม ผมล้มลงและกระแทกศีรษะของผมบนพื้นน้ำแข็ง ก่อนที่ผมจะรู้ว่าผมถูกดึงเข้าไปในส่วนลึกที่เย็นยะเยือกที่สุดของสระ ตอนร่างกายของผมจมอยู่ในน้ำมันให้ความรู้สึกเหมือนมีดสั้นพันเล่มกำลังกรีดลงไปบนผิวหนังของผม เมื่อน้ำเข้าตาผมคิดว่าของเหลวข้างในตัวผมกำลังจะแข็งตัว ผมหลับตาทันที ผมพยายามที่จะไม่กรีดร้องจากความเจ็บปวดนี้ ผมต้องประหยัดอากาศของผมไว้ แต่แล้วผมก็รู้สึกถึงหนวดของไอ่เจ้าตัวนั่น ตัดเข้าที่ข้อเท้าของผมและมีหนวดอีกเส้นหนึ่งเอื้อมมาโอบไหล่ผมแล้วบีบ มันดึงและดึงผมไปเรื่อย ๆ มันทำให้ไหล่ของผมหลุด ผมไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป ผมกรีดร้องปล่อยให้น้ำเข้ามาในปาก ผมพยายามดิ้นรน นั่นทำให้หนามแหลมที่หนวดของมันบาดลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม ผมรู้สึกถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่เปลือกตาและอาการแสบร้อนในปอด ผมพยายามจะกรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย แต่มันทำให้ผมสำลัก หนามแหลมฉีกเข้าไปในลำคอของผมและผมก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วผมก็เห็นมัน ดวงตาสีแดงคู่นั้น มันดูน่ากลัวยิ่งกว่าตอนแรกซะอีก มันยิ้มขณะที่มันเลียใบหน้าของผม ผมเริ่มรู้สึกว่างเปล่า นี่ผมใกล้จะตายแล้วเหรอ
ไม่ ผมจะตายแบบนี้ไม่ได้ ผมกลั้นความเจ็บปวดที่ไหล่ยกมือขึ้นมาที่ปากของมันและเริ่มฉีกกรามของมัน มันดิ้นพยายามเขย่าตัวผม ผมรู้สึกว่าหนวดคลายออกและฟันของมันก็บาดเข้าที่มือของผม ผมมองขึ้นไปและเห็นมือสามคนจมอยู่ใต้น้ำ ถึงตอนนั้นผมเหนื่อยมาก แต่ก็ต้องสู้ต่อไป ผมทั้งเตะทั้งดิ้นอย่างสุดแรง ผมทำในสิ่งที่ผมต้องทำเพื่อให้ตัวเองรอดจากตรงนี้ ผมออกแรงอย่างสุดกำลัง ผมรู้สึกว่ากรามของมันร้าว มันปล่อยเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวแล้วปล่อยผมไป มันว่ายลงไปในความมืดอันหนาวเย็นด้านล่าง ผมรู้สึกได้ว่าน้ำเริ่มเข้าปอด ผมพยายามว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่ผมก็เหนื่อยมาก ผมแทบไม่สามารถยื่นมือไปหาเพื่อน ๆได้ สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้ คือ ผมเห็นแสงของดวงจันทร์ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆมืดลง
ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นพร้อมกับเสียงของเครื่องตรวจวัดการเต้นของหัวใจ ผมอยู่ในโรงพยาบาล ผมถูกคลุมด้วยผ้าห่มที่หนาและอบอุ่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผมพยายามขยับตัว แต่เมื่อทำไปความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่างกาย หัว, ไหล่, คอ, ข้อเท้าของผม ทุกอย่างเต้นแรงจากความเจ็บปวด เพื่อนของผมเดินเข้าไปในห้องเห็นว่าผมตื่นแล้วจึงรีบวิ่งมาหา พวกเขาบอกผมว่า พวกเขาได้ดึงผมขึ้นจากน้ำแล้วรีบพาผมมาที่โรงพยาบาล จากนั้นพวกเขาก็ระดมยิงผมด้วยคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ดึงผมลงไปในน้ำ
“ เชื่อผมเถอะ” ผมพูดอย่างอ่อนแรง “ พวกนายไม่อยากรู้หรอก”
“ คุณจะบอกตำรวจไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น?” มิเชลล์ถาม ผมตัดสินใจบอกตำรวจว่าผมเมาและรู้สึกอยากทำอะไรที่ตื่นเต้น ที่ผมต้องบอกไปแบบนั้นก็เพราะพวกเขาคงไม่เชื่อผมแน่ ถ้าผมบอกพวกเขาว่ามีสัตว์ประหลาดใต้น้ำล่อให้ผมออกไปที่นั่นและพยายามจะฆ่าผม
ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยเข้าใกล้น้ำอีกเลย ผมหวาดกลัวอย่างมาก หลังเรียนจบผมและเพื่อน ๆ ต่างแยกย้ายกันไป ตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้ว เอลลิเซียก็เช่นกัน แต่ผมยังคงฝันร้ายเกี่ยวกับเรื่องคืนนั้น สิ่งนั้นที่อยู่ใต้น้ำแข็ง ดวงตาสีแดงเข้ม ผมบอกตัวเองเสมอว่ามันเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วและผมพยายามจะลืมมันไป จนถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เอลลิเซียพาลูก ๆ ของเธอและลูกชายของผมไปเล่นสเก็ตน้ำแข็ง เธอพาพวกเด็กๆไปที่บ้านของพ่อเธอตรงริม แต่เมื่อเธอพาพวกเขากลับบ้านลูกชายของผมพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลัง ลูกของผมบอกว่าเขาเห็นเด็กผู้หญิงหน้าซีดมากยืนอยู่บนน้ำแข็ง และที่เท้าของเธอมีบางอย่างอยู่ มันมีสีเทาซีด มีจุดสีแดงสองจุด

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา