Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดูก่อนนอน
•
ติดตาม
18 พ.ค. 2021 เวลา 08:38 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น ขวัญผวา ตอน หมู่บ้านลึกลับ
จู่ๆเกมบอยของมายูโกะก็ดับลง เธอกลอกตาและถอนหายใจดัง ๆ “ไอ้โง่แบตหมดอีกแล้ว” มายูโกะยัดมันเข้าไปในกระเป๋าเป้ของเธอและมองไปรอบ ๆ น่าแปลกที่รถไฟคันนี้มีแค่เธอโดยสารอยู่คนเดียว โดยปกติแล้วรถไฟจะเต็มไปด้วยนักธุรกิจวัยรุ่น บางคนนั่งอ่านหนังสือบางคนคุยกับเพื่อนสนิท และ มายูโกะ เด็กผู้หญิงที่กำลังกลับบ้านหลังจากเหน็ดเหนื่อยที่โรงเรียนมาทั้งวัน แต่คราวนี้ไม่มีใครอื่นเลยนอกจากมายูโกะ รถไฟเงียบมาก จนมายูโกะสามารถได้ยินเสียงหายใจของเธอเอง เธอรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดนี้ อากาศนิ่งจนน่าขนลุก
เธอมองออกไปนอกหน้าต่างพยายามที่จะสลัดความรู้สึกแปลก ๆ ออกไป ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นว่าข้างนอกมืดแล้ว เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว? มายูโกะรู้สึกหมดหวัง แม่ของเธอจะต้องดุแน่ แล้วรถไฟกำลังจะไปที่ไหน?มายูโกะนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลพรากบนใบหน้าของเธอ เธออายุแค่สิบสามปีเธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอหลับตาและรอความหวังว่าจะมีใครสักคนมาช่วยเธอ ...
แล้วทันใดนั้นรถไฟก็หยุดลง มายูโกะลืมตาขึ้นและมองไปรอบ ๆ กลับพบว่าเธอถูกล้อมรอบด้วยความมืด เธอตัวแข็งทื่อ ได้แต่ร้องไห้และคิดว่าควรทำยังไงต่อไปดี... แล้วเธอก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆและมองออกไปนอกหน้าต่าง รถไฟหยุดตรงที่ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ต้นไม้รายล้อมทุกสิ่งที่เธอมองเห็นยกเว้นทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างหินขนาดใหญ่สองก้อน มายูโกะเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ
มายูโกะมองไปรอบ ๆ และพบว่าว่าประตูรถไฟเปิดออกแล้ว เธอครุ่นคิดและตัดสินใจว่าอาจมีใครบางคนในหมู่บ้านช่วยพาเธอกลับบ้านได้ มายูโกะออกจากรถไฟ เธอหยุดอยู่ตรงหน้าทางเดินที่เป็นดินและสำรวจดูหินขนาดใหญ่สองก้อนที่อยู่รอบ ๆ แล้วเธอก็พบว่ามันมีบางอย่างเขียนไว้
"ยินดีต้อนรับสู่.." ชื่อหมู่บ้านถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำเลยทำให้อ่านได้ไม่หมด และหินก้อนที่สองมีข้อความว่า
“ …เพื่อเอ่ยคำสุดท้าย
ฉันจะพูดแค่ครั้งเดียว
มันไม่มีอะไรมาก
มันไม่มีอะไรมาก”
ตะไคร่น้ำยังครอบคลุมบางส่วนของข้อความด้วย มายูโกะขมวดคิ้วสับสน นั่นเป็นบทกวีเก่า ๆ หรืออะไร? เธอไม่รู้และเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เธอเดินไปที่หมู่บ้านโดยไม่ลังเลอีกต่อไป
สุดทางเดินมีหมู่บ้านที่ดูเก่าแก่ ประดับประดาไปด้วยโคมไฟรอบ ๆ สิ่งแรกที่มายูโกะสังเกตเห็นคือไม่มีใครอยู่ตามท้องถนนเลย ทุกคนอยู่ในบ้านของพวกรึเปล่า? ทำไมกัน? มายูโกะอยากจะโทรขอความช่วยเหลือ เธอเดินไปที่บ้านหลังแรก เมื่อเธอเข้าใกล้ประตู (ประตูบานเลื่อนญี่ปุ่น) กลิ่นบางอย่างที่รุนแรงก็โชยเข้าจมูก กลิ่มมันมาจากในบ้าน มายูโกะไม่สนใจและเคาะประตูเบา ๆ "สวัสดี? มีใครอยู่ไหม?" มายูโกะถาม เธอรอคำตอบ แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา เธอเคาะอีกครั้ง “ ใครก็ได้ช่วยหนูหน่อยได้ไหม? หนูหลงทาง…"
มายูโกะรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ แต่ไม่มีใครตอบกลับมา ถ้าไม่มีใครอยู่บ้าน เธอก็คิดว่างั้นไปบ้านหลังต่อไปแล้วกัน เธอเคาะประตูอีกครั้งและร้องเรียกเจ้าของบ้านและก็เป็นอีกครั้งก็ไม่มีใครตอบกลับมา “ ไม่…ไม่มีทาง…” มายูโกะพึมพำกับตัวเองในที่สุดเธอก็เชื่อแล้วว่าหมู่บ้านนี้คงจะเป็นหมู่บ้านร้าง
ในขณะที่เธอกำลังจะหมดหวัง มายูโกะก็สังเกตุเห็นได้ว่าประตูทั้งหมดนั้นเปิดไว้ตลอด มันไม่ได้เปิดกว้างแบบเต็มบาน แต่มันแค่เปิดแง้มเล็กน้อย มายูโกะกลั้นหายใจขณะที่เธอเลื่อนประตู กลิ่นเดิมกลับมา ภายในบ้านมืดสนิท มายูโกะต้องปรับสายตาให้เข้ากับความมืด พื้นและผนังชุ่มไปด้วย ... สีดำ? ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมันเป็นที่มาของกลิ่นนี้อย่างแน่นอน มายูโกะใช้นิ้วแตะมันอย่างระวัง มันไม่ใช่สี มันอุ่นๆและเหนียว
มายูโกะเช็ดนิ้วของเธอที่กระโปรงแล้วเดินกลับออกไปข้างนอก คราวนี้ท้องฟ้าดูมืดลงยิ่งกว่าเดิม จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่อยู่ด้านหลังต้นไม้นั่นคือเสาโทริอิ (ซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น) ตอนแรกเธอแทบจะมองไม่เห็น แต่เสาสีแดงทำให้มันพอมองเห็นได้ในความมืด เธอเดินเข้าไปอย่างช้าๆ ด้านหลังมีบันไดขนาดมหึมาที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แต่ความอยากรู้อยากเห็นของมายูโกะ ทำให้เธออยากลองเดินขึ้นไป
ตามที่เธอคาดไว้บันไดนั้นนำไปสู่ศาลเจ้า แต่มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป มันมีบรรยากาศที่น่าขนลุก จู่ๆมายูโกะก็เริ่มกลัว มีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อมายูโกะเข้าใกล้ศาลเจ้า ความรู้สึกหวาดกลัวก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ทุกย่างก้าวมันทำให้หัวใจของมายูโกะ เต้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น เธอรู้สึกราวกับว่ามีใครบางกำลังคนจ้องมองเธออยู่
มายูโกะเปิดประตูศาลเจ้า กลิ่นที่น่ารังเกียจเหมือนกับตอนนั้นกลับมาอีกแล้ว แต่ตอนนี้กลิ่นมันแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า มายูโกะแทบจะอ้วกออกมาแต่ต้องข่มมันไว้ ผนังและพื้นถูกปกคลุมไปด้วยสีดำอย่างสมบูรณ์ ตรงกลางห้องคือ โถพอร์ซเลนธรรมดา ขนาดประมาณแขนของมายูโกะ
ด้วยเหตุผลบางอย่างมายูโกะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองราวกับว่าเธอไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ เธอเวียนหัว แทบจะทรงตัวไม่ได้ แต่เธอก็สามารถไปเดินไปถึงโถได้ แล้วเธอก็เปิดฝาโถ มันราวกับมีเวทมนตร์ หลังจากเปิดฝาเธอก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง เธอถอยห่างและจ้องไปที่โถด้วยดวงตาเบิกกว้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ…จนกระทั่งโถเริ่มสั่นและขยับไปมาราวกับว่ามันมีชีวิต มายูโกะไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น เธออยากจะวิ่ง แต่ขาของเธอไม่ยอมให้ความร่วมมือ เธอกรีดร้องสุดเสียงเมื่อมีแขนโผล่ปริศนาค่อยยื่นออกมาจากโถ แขนที่ยาวผิดธรรมชาติและถูกปกคลุมไปด้วยสีดำ มือของมันมีกรงเล็บที่แหลมคมซึ่งขูดและข่วนพื้นเหมือนมีด จากนั้นแขนอีกข้างก็ปรากฏขึ้นตามด้วยศีรษะ และใบหน้าของมันซ่อนอยู่หลังหน้ากากตุ๊กตาพอร์ซเลนสกปรก
ในที่สุดมายูโกะก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว แล้วก็ได้แต่คิดว่านี่เธอทำอะไรลงไป สิ่งนั้นคือปีศาจอย่างไม่ต้องสงสัย มีคนปิดผนึกมันไว้ในโถ น่าจะหลังจากที่มันทำลายหมู่บ้าน แต่ตอนนี้มันก็เป็นอิสระแล้ว ในพริบตาเดียว ปีศาจก็ออกมาได้แล้ว มันสูงอย่างน่าเหลือเชื่อและแขนขาของมันบิดเบี้ยวแบบผิดมนุษย์
มายูโกะจ้องมองไปที่เจ้าตัวนั้นและมันก็จ้องมาที่เธอ มายูโกะค่อยถอยออกจากศาลเจ้าอย่างระมัดระวัง เธอเกือบจะออกไปข้างนอกได้แล้ว… แต่จู่ๆปีศาจก็เริ่มเดินมาหาเธอ มายูโกะร้องลั่นแล้วหันหลังวิ่ง ทุกๆสิ่งรอบตัวเธอช่างพร่าเลือน เธอได้ยินเสียงปีศาจวิ่งตามหลังเธอ มันเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะที่วิ่งลงบันไดเพื่อที่กลับไปหมู่บ้าน มายูโกะสะดุดล้มจนข้อเท้าแพลง เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอล้มลงและร้องไห้ออกมา แล้วจากนั้นเธอก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาคว้าแขนของเธอ ปีศาจจับตัวเธอได้ แต่เธอไม่ยอมแพ้ เมื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ออกแรงสลัดตัวหลุดจากเงื้อมมือของปีศาจและวิ่งต่อไป
ในที่สุดมายูโกะก็กลับมาที่หมู่บ้านได้ ปีศาจรู้ตัวว่าเหยื่อของเขากำลังจะหลบหนีจึงพยายามยื่นมือเข้ามาหาเธออย่างเต็มที่ แต่มายูโกะเร็วกว่า เธอวิ่งผ่านเส้นทางลูกรังและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นรถไฟยังอยู่ที่นั่นราวกับว่ามันกำลังรอให้เธอกลับไป มายูโกะวิ่งอย่างสุดกำลัง นั่นคือความหวังเดียวของเธอ แล้วในที่สุดเธอก็ขึ้นมาที่รถไฟได้สักที เธอรีบมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ไม่เห็นปีศาจตัวนั้นเลย เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกและร้องไห้เป็นเวลาหลายชั่วโมง อาจเป็นเพราะความเจ็บปวดที่แขนขวาของเธอ หรืออาจเพราะเรื่องน่าเหลือเชื่อทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอ
แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียง เสียงปีศาจที่กำลังพยายามเข้ามาในรถไฟ แต่ประตูนั้นเล็กเกินกว่าที่มันจะผ่านเข้ามาได้ แม้ว่ามันจะสวมหน้ากาก แต่มายูโกะก็แทบจะมองเห็นความโกรธจากแสดงออกของเขาร่างกายมันได้ ร่างกายปีศาจกระตุกด้วยความโกรธ มายูโกะลุกขึ้นยืนอย่างกล้าหาญและเข้าไปหาปีศาจ ทันทีที่เธอเข้าไปใกล้ มันพยายามจะคว้าเธอแต่ก็ทำไม่ได้ มายูโกะร้องลั่นและผลักเจ้าปีศาจตัวนั้นออกจากรถไฟ แล้วมันก็ตกลงไปที่พื้น
ขณะที่ปีศาจกำลังจะพยายามคว้าตัวมายูโกะอีกครั้งไฟรถไฟก็สว่างขึ้นและประตูก็ได้ปิดลง ก่อนที่รถจักรเริ่มเคลื่อนตัว
มายูโกะยังคงได้ยินเสียงของปีศาจดังขึ้นที่ประตู ดูเหมือนว่ามันพยายามจะเปิดประตูแต่ไม่ได้ผล มายูโกะล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง มันจบแล้วในที่สุดก็จบสักที ลมหายใจของเธอไม่คงที่ ดวงตาของเธอยังคงเบิกกว้างจากความกลัว เธออยู่ที่นั่นจนกระทั่งประตูรถไฟเปิดอีกครั้ง คราวนี้มันเผยให้เห็นสถานีที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอจะได้กลับบ้านแล้ว
เธอออกจากรถไฟด้วยกระเป๋าเป้สะพายหลัง ขณะที่เธอเดินไปตามถนนผู้คนต่างมองมาที่เธอและกระซิบกับอีกคนด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ มายูโกะใช้เวลาสักพักเพื่อหาข้ออ้างเรื่องการแผลของเธอ เธอเพิ่งบอกแม่ของเธอว่าเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งทุบตีเธอที่โรงเรียนและแม่ของเธอก็เชื่อ ไม่มีทางที่มายูโกะจะบอกแม่ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพราะแม่ของเธอคงไม่มีทางเชื่อเธอแน่
คืนนั้นมายูโกะนอนแทบไม่ค่อยหลับ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมามายูโกะไปหาหมอกับแม่ พวกเขาขึ้นรถไฟเพื่อไปที่คลินิก พอขึ้นมาบนรถไฟมายูโกะรู้สึกหนาวสั่นกระดูกสันหลังของเธอทันที ความทรงจำทั้งหมดจากสัปดาห์ก่อนมันกลับมา แต่เธอพยายามที่จะลืมมันไป แล้วมันก็ดีขึ้น
เธอกลับมารู้สึกผ่อนคลายอีกครั้ง
มายูโกะมองออกไปนอกหน้าต่างชื่นชมทิวทัศน์ที่รถไฟแล่นผ่าน และทันใดนั้นเธอก็เห็นสถานที่นึง หัวใจของเธอตกลงไปที่ตาตุ่ม สถานที่นั้นไม่มีทางเดินดินอย่างที่เคยมี แต่มีเพียงแค่หินสองก้อนที่แตกอยู่เท่านั้น
บันทึก
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องสั้น ขวัญผวา
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย