22 พ.ค. 2021 เวลา 02:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สัญญาณทางเทคนิค บอกหุ้นขาขึ้น-ขาลง
สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนทั่วไปมักจะมีคำถามคล้ายๆ กันก็คือ ตอนนี้เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือยัง หรือเป็นแนวโน้มขาลงหรือยัง
ลองมาดูสัญญาณทางเทคนิคที่จะมาเป็นตัวช่วยบอกหุ้นขาขึ้น หรือขาลงว่าเป็นยังไง ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมมาให้มี 4 รูปแบบ ดังนี้ค่ะ
⛳ รูปแบบแท่งเทียน
ที่แท่งเทียนจะถูกสร้างขึ้นมาได้ 1 แท่งนั้น เกิดจากราคาเปิด (Open) ราคาปิด (Closed) ราคาสูง (High) ราคาต่ำ (Low) เป็นสิ่งที่มีนัยยะสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราจะรู้ว่าแรงซื้อแรงขายเข้ามาช่วงไหน ใครกำลังเล่นหุ้นตัวไหน กลุ่มไหนอยู่ และคนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่คิดอะไร
ให้พิจารณาว่า 1 แท่งเทียนเป็นเพียงหนึ่งเหตุการณ์ แต่ถ้าหลายแท่งเทียนจะเกิดเป็นเรื่องราว
ดังนั้นถ้าเราดูเพียง 1-2 แท่งเทียน อาจไม่เพียงพอที่จะรู้ในสิ่งที่ต้องการได้ แต่ถ้าภาพเริ่มกว้าง เราจะเริ่มเห็นภาพชัดขึ้น ข้อมูลมากขึ้น ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
เราจึงได้รวบรวมสัญญาณที่ดีและแย่ของแท่งเทียนมาเพื่อให้แยกออกได้ว่า หุ้นตัวไหนกำลังขึ้น ตัวไหนเตรียมระวังแรงขาย!!
ภาพจากหลักทรัพย์บัวหลวง
ภาพจากหลักทรัพย์บัวหลวง
⛳ เส้นแนวโน้ม (Trend Line)
ใช้ตีเพื่อหาแนวโน้มการเคลื่อนไหวของหุ้น หากตัดสินหุ้นด้วยวิธีนี้ ก็ต้องลงมือลากเส้นกันหน่อยค่ะ
📌 Uptrend เส้นแนวโน้มขาขึ้น
เมื่อไรที่ราคาเคลื่อนไหวผิดไปจากเดิม แล้วราคาเริ่มปรับตัวต่ำกว่า เส้นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ตอนนั้นแหละที่บอกว่า แนวโน้มขาขึ้นใกล้สิ้นสุดลง และกำลังเดินหน้าเข้าสู่แนวโน้มขาลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณขาย เพื่อ Stop loss
2
📌 Downtrend เส้นแนวโน้มขาลง
แต่เมื่อไรก็ตามที่การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มปรับตัวสูงขึ้นกว่า เส้นแนวโน้มขาลง (Downtrend) เริ่มจับตาดูกันได้เลยว่า แนวโน้มขาลงใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น มองเป็นสัญญาณซื้อ
1
⛳ เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือที่เรียกกันว่าเป็นเส้นแบ่งนรก/สวรรค์อย่างชัดเจน
1
เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน หรือราวๆ เกือบ 1 ปี นานเลยใช่ไหมคะ จึงเป็นเส้นที่มีนัยยะสำคัญอย่างมากในการเปลี่ยนให้เกิดแนวโน้มใหม่หรือสิ้นสุดแนวโน้มเดิม
การที่หุ้นเป็นแนวโน้มขาลงมาโดยตลอด หากทะลุผ่าน และยืนเหนือเส้น 200 วันได้ แสดงว่านั่นเป็นการยืนยันว่าแนวโน้มได้เปลี่ยนแปลงเป็นขาขึ้นแล้ว
ตรงกันข้ามกับหุ้นที่หลุด 200 วัน หากไม่รีบ Cut Loss แล้วจะซึ้งกับประโยคที่ว่า นรกมาเยือนเป็นอย่างไร เพราะคุณกำลังเดินเข้าสู่ช่วงแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน
⛳ Indicators
Indicators ที่สำคัญนั้นประกอบไปด้วย RSI และ MACD ค่ะ
📌 RSI >> Relative Strength Index
- วัดการแกว่งของราคาหุ้นแบบโมเมนตัม ที่วัดความเร็ว และ การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น
- การวัดการแกว่งของราคาหุ้น เพื่อดูสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือขายมากเกินไป (Oversold)
- RSI จะแกว่งระหว่าง 0 ถึง 100
- โดยทั่วไปจะถูกนำมาพิจารณาขอบเขตซื้อมากเกินไป ที่ระดับเหนือ 70% (บอกภาวะ Overbought) และขายมากเกินไป ระดับต่ำกว่า 30% (บอกสภาวะ Oversold)
- ควรระวังการใช้ RSI ในช่วงที่หุ้นอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- เทคนิคการลงทุนด้วย RSI ถ้าซื้อมากเกินไป ต้องระวัง ถ้าขายมากเกินไป ต้องเตรียมพร้อมซื้อ
ค่า RSI สามารถนำมาใช้ประกอบกับ Elliott Wave ได้เป็นอย่างดี โดยให้ดูยอดคลื่นที่สูงที่สุดของ RSI เทียบกับยอดคลื่นราคา ยอดคลื่น RSI ที่สูง จะตรงกับคลื่น 3 และคลื่น b เสมอ
📌 MACD >> Moving Average Convergence Divergence
-บอก Trend หุ้น Up & Down
-สามารถบอกสัญญาณซื้อขายได้
-วัดความแรงของตลาดว่าเป็น BULLหรือ BEAR
โดยที่ถ้าเป็นตลาด BULL เราสามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนที่สูงได้
แต่ถ้าเป็นตลาด BEAR นักลงทุนควรถือเงินสดให้มากกว่าสินทรัพย์เสี่ยง และมีความอดทนรอดูสถานการณ์จนกว่าตลาดจะฟื้นตัว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เน้นป้องกันการขาดทุน
💦.....พอจะเห็นภาพของสัญญาณหุ้นขาขึ้นและขาลงกันไปแล้ว หวังว่าบทความนี้จะช่วยนำทางให้ท่าน ได้เดินทางไปต่อยังจุดหมายต่อไปได้บ้างนะคะ และจงอย่ากลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ เพราะมันคือส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ที่ดีที่สุดค่ะ และใครคิดว่าตัวเองเหมาะกับวิธีไหน ก็อย่าลืมหยิบจับไปใช้กันได้นะคะ
โชคดีในการลงทุนทุกท่านค่ะ 😊
อ้างอิง : หลักทรัพย์บัวหลวง
เรียบเรียงโดย : ลงทุนในบัญชีและภาษี
ช่องทางอื่นในการติดตาม เพจลงทุนในบัญชีและภาษี
ขอบคุณกำลังใจและการติดตามนะคะ ทุกการอ่าน ไลค์ แชร์ หรือคอมเม้นท์มีความหมายเสมอค่ะ ❤❤🙏🙏❤❤

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา