19 พ.ค. 2021 เวลา 09:42 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น ขวัญผวา ตอน ประตู
ผมเป็นลูกบุญธรรมของครอบครัวหนึ่ง ผมไม่เคยเห็นแม่ที่แท้ๆของผมเลย เธอทิ้งผมไปตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ แต่ตอนนี้ผมรักครอบครัวบุญธรรมของผม พวกเขาใจดีกับผมมาก ผมกินดีอยู่ดีในบ้านที่อบอุ่นและสะดวกสบาย
ผมจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับครอบครัวใหม่ของผม คนแรกคือแม่ของผม ผมไม่เคยเรียกเธอว่าแม่หรืออะไรแบบนั้นเลย ผมแค่เรียกเธอด้วยชื่อ เธอชื่อ เจนิซ เธอไม่รังเกียจผมเลย ผมเรียกเธอแบบนั้นมานานมาก เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก ผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการรับผมเป็นลูกบุญธรรม บางครั้งผมจะนอนพิงเธอหน้าโทรทัศน์และเธอจะจี้หลังผมด้วยเล็บของเธอ เธอเป็นหนึ่งในคนที่แสนดีที่สุด
คนที่สองนั่นคือพ่อ ชื่อของเขาคือริชาร์ด แต่เขาดูจะไม่ค่อยชอบผมมากเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงเริ่มเรียกเขาว่าพ่อด้วยความพยายามอย่างยิ่งที่จะได้รับความรักจากเขา แต่มันก็ไม่ได้ผล ผมคิดว่าต่อให้ผมจะเรียกเขาว่าอะไรก็ตาม เขาก็ไม่มีวันรักผมเท่าลูกแท้ๆของเขาอย่างแน่นอน มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ดังนั้นผมจึงพยามยามไม่คิดมากกับเรื่องนี้ ลักษณะเด่นที่สุดของพ่อคือ เป็นคนที่ดุและไม่ยอมใครง่ายๆ เขาจะลงโทษลูกๆเมื่อพวกเขาทำผิด ก่อนหน้านั้นเขาไม่ลังเลที่จะตบผม เพื่อสอนให้ผมใช้ห้องน้ำเป็น นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในวิธีการสอนลูกของเขาก็ได้
และคนสุดท้ายคือพี่สาวของผม เอมิลี่ เราอายุไล่เลี่ยกัน แต่เธอแก่กว่าเล็กน้อย ผมชอบคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของผม เราเข้ากันได้ดีเกินกว่าที่พี่น้องจะเข้ากันได้ เรามักจะนอนดึกด้วยกันและคุยกัน เธอเป็นคนพูดเก่ง ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายรับฟัง เพราะผมรักเธอ มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม! เรามักจะอยู่ในห้องนอนด้วย เพราะผมไม่อยากนอนในห้องของตัวเอง มันยอดเยี่ยมสำหรับผมเพราะผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเธอและผมก็รู้สึกดีที่ได้รับการปกป้องจากพี่สาวของผม
ทุกอย่างเปลี่ยนไปในคืนวันพุธที่น่าสยดสยอง ผมกำลังนอนอยู่ที่บ้าน อยู่ๆเอมิลี่ก็เปิดประตูหน้าบ้าน เสียงเปิดประตูทำให้ผมสะดุ้งตื่น และผมก็เดินออกจากห้องไปที่ห้องนั่งเล่น นั่นคือตอนแรกที่ผมจำได้ว่ามันคือวันพุธ ผมไม่เคยรู้เลยว่าวันนี้เป็นวันอะไร ความรู้สึกของผมบอกว่า มันเป็นวันที่น่ากลัว! แต่อย่างไรก็ตามผมรู้ว่าเป็นวันพุธเพราะเอมิลีเพิ่งกลับบ้านจากการรวมกลุ่มเยาวชนของโบสถ์ เธอเดินเข้ามาที่ประตูหน้าและเข้ามากอดผม จากนั้นพ่อกับเจนิซก็เดินตามเข้ามา
“หลับสบายดีไหมลูก?” เจนิซพูดอย่างล้อเลียนขณะที่เธอขยุ้มผมของผม ผมแค่ส่ายหัวไปมาและทำเสียงกรนด้วยท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าผมกำลังแกล้งเธอ
“อย่าทำเสียงแบบนั้นใส่แม่!” พ่อผู้มีอำนาจของผมพูดอย่างไม่พอใจ เขาปิดประตูด้านหลังและแขวนเสื้อโค้ทของเขา
“ผมแค่ล้อเล่นครับ…” ผมคำรามเสียงเบาๆ ซึ่งเขาน่าจะไม่ได้ยินผม เพราะถ้าได้ยินผมคงโดนเขาตบไปแล้ว เอมิลี่ไปที่ห้องของเราแล้วผมก็เดินตามไป เธอเริ่มเล่าเรื่องของเธอในวันนี้ให้ผมฟัง มันเป็นเรื่องปกติของเด็กสาววัยรุ่น แต่ผมฟังเพื่อที่เธอจะรู้สึกดีขึ้น หลังเล่าเรื่องเสร็จ เธอก็อยากดูทีวีและผมก็ต้องจำใจกระโดดขึ้นไปบนโซฟา ขณะที่เธอกำลังจะหยิบที่รีโมท เธอกลอกตาของเธอที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไล่ผมไปนั่ง ทีวีเปิดขึ้นและเราก็ดูด้วยกันจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เอมิลี่เป็นเด็กผู้หญิงแต่แทนที่จะดูการ์ตูนแต่เธอกลับเลือกดูละครน้ำเน่าแทน แต่ผมก็ชอบเหมือนกันผมก็เลยไม่ได้สนใจอะไร อันที่จริงช่องเหล่านี้เป็นช่องทางเดียวที่สามารถดึงดูดความสนใจของผมได้
มาถึงตอนดึก “เอมิลี่ นี่มันเลยเวลานอนของลูกแล้วนะ ปิดโทรทัศน์แล้วไปที่ห้องของลูก ลูกก็ด้วย." เธอชี้มาที่ผม เอมิลี่ปิดรายการที่เรากำลังดูอย่างไม่พอใจและลุกขึ้นยืน เธอเริ่มเดินไปตามทางเดินและไปที่ห้องของเรา ขณะที่เดินตามเธอไป ผมไม่ทันสังเกตุเลยว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
เราเข้าไปในห้องและเอมิลี่ก็ปิดไฟ ในตอนนั้นผมสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่จากมุมตาของผม มีอะไรอยู่นอกหน้าต่าง แต่ทันทีที่ผมเปลี่ยนเส้นทางสายตาของผมไปยังหน้าต่าง แต่ก็มันหายไปแล้ว ผมยังคงตกใจอยู่แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะกลัวว่าจะทำให้เอมิลี่กลัวไปด้วย
ผมนอนอยู่ภายใต้ความมืดโดยไม่มีอะไรเลยนอกจากแสงบาง ๆ จากโคมไฟถนนด้านนอกที่ส่องสว่างเข้าในห้อง ผมสามารถสาบานได้ว่าผมได้ยินเสียงแผ่วเบาที่อยู่นอกหน้าต่างครั้งแล้วครั้ง กิ่งไม้หัก ต้นไม้ไหวเอน และผมก็ยังได้กลิ่นเหม็นของเหงื่อและเลือด มันทำให้ผมข่มตาหลับไม่ได้เลย
เสียงข้างนอกเริ่มเบาลงและกลิ่นนั่นหายไปแล้ว ผมเริ่มอุ่นใจ แล้วเปลือกตาของผมก็ปิดลง
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้ยินเสียงดังมากที่อีกด้านหนึ่งของบ้าน ผมตื่นขึ้นมาในทันที “ มีใครบางคนอยู่ในบ้าน!” ผมตะโดนด้วยอะดรีนาลีนที่พุ่งผล่าน "ตื่น ตื่น!" ผมโหยหวนเรียกเอมิลี่ เธอตื่นและทันทีที่ผมเห็นเธอลุกขึ้นนั่ง ผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องพ่อแม่ของผม ...
พ่อตายไปแล้ว คอของเขาถูกเปิดออกและอ้าปากค้างขณะที่เลือดไหลออกมาจากเตียงและลงบนพื้นไม่หยุด ผมเห็นว่าประตูห้องน้ำเปิดอยู่ และมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่นั่น
ผู้ชาย…ผมไม่รู้ว่าจะเรียกแบบนั้นได้รึเปล่า
เขาดูตัวใหญ่และแข็งแรงมาก เขาหันมองมาที่ผม และนั่นคือตอนที่ผมจำเขาได้แม่นเป็นครั้งแรก ผมจะไม่ลืมมัน ดวงตาของเขากลมโตและนิ่งเหมือนติดอยู่กับตัณหา เขามีหนวดเคราที่รุงรังจนและมีเลือดไหลออกมา เสื้อผ้าของเขาสกปรกและใบหน้าของเขาก็เย็นชา จากนั้นผมก็สังเกตเห็นกลิ่นเหงื่อและเลือดที่น่ากลัวแบบเดียวกันจากก่อนหน้านี้ แต่ครั้งนี้มันท่วมท้นและรุนแรง
เขากำลังมองผม จากนั้นเขายิ้มภายให้เห็นฟันเหลืองทั้งปาก รอยยิ้มนั้นทำให้ผมหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่ม ผมคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่แล้วเขาก็หันกลับไปที่ประตูห้องน้ำโดยไม่สนใจผม ผมกลัวมากและไม่ได้ทำอะไรเลย ผมแค่ตะโกนและร้องไห้ ผมเฝ้ามองขณะที่เขาเดินเข้าประตูนั่นไป ผมดูขณะที่เขายกมีดโกนขนาดใหญ่ที่เขาถืออยู่ขึ้นมา เห็นได้ชัดเลยว่ามันมีไว้ทำอะไร ผมทำได้แค่ดู ขณะที่เขาหั่นเธอและฉีกเธอเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ...
จากนั้นผมก็ได้ยินอะไรบางอย่าง สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากได้ยิน ... มันคือเสียงกรีดร้องของเอมิลี่ที่ดังมาจากข้างหลังผม สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่เงยหน้าขึ้นมอง ในขณะที่กำลังฆ่าแม่ของผมอยู่ เขามองมาที่พี่สาวของผม ผมรู้สึกว้าวุ่นใจ เขาลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินมาหาเราอย่างรวดเร็ว พี่สาวของผมหันหลังแล้วรีบวิ่ง ผมขยับตัวไม่ได้เลยตอนที่เขาเดินผ่านผมไป แล้วเขาก็เดินตามเธอไป ทำไมเธอยังอยู่ในบ้าน? ทำไมเธอไม่วิ่งหนีไปตั้งแต่ตอนแรก? มันต้องฆ่าเธอแน่ๆ และถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะต้องอยู่คนเดียว
ทันทีที่สลัดความกลัวได้ ผมรีบวิ่งตามพวกเขาทั้งสองไป ผมคิดว่าชายคนนั้นจะฆ่าเธอ แต่ผมก็คิดผิด เขาจับแขนเธอและเหวี่ยงเธอเพื่อที่จะจับตัวเธอไว้ เขาลากเธอ…ตอนนี้ผมส่งเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ หวังและภาวนาว่าจะมีคนมาช่วยผม
ในขณะที่เขาเดินผ่านผมไป ผมก็ถอยไปพิงกำแพงและคร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว“ ทำไม?” เขาไม่ตอบอะไรนอกจากวางมือข้างที่ว่างไว้บนหัวของผม แล้วเขาก็พูดว่า "เด็กดี" เขายิ้มและหัวเราะเยือกเย็นผิดมนุษย์ ผมเดินตามเขาไปที่ประตู ซึ่งเขาลากเอมิลี่ที่พยายามดิ้นรนตามเขาไป เขาเปิดประตูห้องนอน แล้วผลักเอมิลี่เข้าไปจากนั้นเขาก็ล็อกประตู
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในบ้านกับพ่อแม่บุญธรรมที่ร่างกายขาดวิ่น ได้แต่นั่งตัวสั่นและคร่ำครวญด้วยความหวาดกลัว เขาอยู่ในห้องนั้นกับเธอ ไม่ต้องบอกเลยว่าเขาทำอะไรกับเธอ แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าผมทำได้ล่ะก็ ผมจะไล่ตามพวกเขาไป แต่ผมทำไม่ได้ ผมนั่งอยู่ที่นี่มองไปที่หน้าประตู
ผมได้แต่มองลงไปที่อุ้งเท้าของผม ผมใช้มันเปิดประตูไม่ได้ ...
Part 1
Part 2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา