1 มิ.ย. 2021 เวลา 10:59 • หนังสือ
Ep. 7/7 Eat that Frog!
จำไว้เสมอว่า "ทำไม" เราถึงเริ่มต้นทำสิ่งนั้น
1
Ep. สุดท้ายของซีรีย์หนังสือ "กินกบตัวนั้นซะ"
เพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านงานเล่าหนังสือของพวกเราคงจะสังเกตเห็นว่า เวลาที่เราเล่า จะมีการเสริมต้นเรื่องนอกหนังสือ เพราะต้องการแชร์มุมมองอื่นในสิ่งที่พวกเราได้จากหนังสือเล่มนั้น มากกว่าเพียงการรีวิวหรือเล่าเนื้อหาในหนังสือ
2
Cr. unsplash.com
เพราะเชื่อมั่นว่าการอ่านแบบนี้ จะช่วยสังเคราะห์ความคิดและให้มีการ "จำได้" ติดตัวและนำไปใช้ได้ตลอด ซึ่งพวกเราติดวิธีการอ่านแบบนี้จากการเรียนในคลาส MBA ที่เกือบทุกวิชาจะมีการเรียนกรณีศึกษาหรือ case ควบคู่ไปกับทฤษฎี แล้วใช้การ "ถกประเด็น" กันในห้อง คล้ายกับที่เคยเล่าในโพสต์แรกของพวกเรา
ปกติพวกเรามีการแชร์ความรู้และถกกันในกลุ่มเล็กๆ อยู่แล้ว พวกเราจึงสร้างเพจ Blockdit นี้ขึ้นมา เพียงเพราะว่าต้องการแชร์ความรู้ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในวงที่กว้างขึ้น ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือแรงบันดาลใจหรือ passion หรือไม่
เรารู้กันดีว่าคนที่มีแรงบันดาลใจหรือ passion ในตัวเองโดยไม่ต้องค้นหา หรือไม่ต้องพยายามสร้างมัน คือคนที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่งานวิจัยร่วมของมหาวิทยาลัย Yale NUS และ Stanford [1] ในปี 2018 กลับพบว่าความพยายามในการ "ค้นหา passion" เป็นข้อสันนิษฐานว่าจะทำให้คนนั้นมีความยึดติดกับความคิด มีส่วนที่ทำให้กลายเป็นคน fixed mindset ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามี "อัตตา" หรืออีโก้รุนแรง ทำให้แทนที่จะมีอิสระทางความคิดและเปิดกว้างพร้อมรับการเรียนรู้และพัฒนาสิ่งใหม่ๆ
นอกจากนั้น คนที่มีความคิดยึดติดกับ passion ของตนมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้เมื่อเจออุปสรรคอย่างหนักหน่วง จนไม่สามารถทนทานได้ เปรียบเทียบได้กับ "คนที่มี passion มุ่งมั่นทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างเต็มที่ เปรียบเหมือนการใส่ไข่ทั้งหมดลงในตะกร้าใบเดียว แล้วพวกเขาก็ทิ้งตะกร้านั้นทั้งหมด เมื่อมันยากเกินไป และไม่สามารถทนต่อการแบกรับมันได้อีกต่อไป"
แล้วอะไรคือสิ่งที่ทดแทน สำหรับคนที่ไม่มีแรงบันดาลใจ หรือยังหา passion ไม่เจอ?
สิ่งนั้นคือ "การพัฒนาแรงบันดาลใจ (develop passions)" ซึ่งหมายความว่าความสนใจและลงมือทำในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการพัฒนา ไปเรื่อยๆ แทนที่จะพยายามทำและยึดติดกับสิ่งที่เลือกไว้ล่วงหน้าและกำหนดไว้ตายตัวว่าจะต้องทำสิ่งนั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ความคิดของคนที่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องของบุคคลที่มี growth mindset คือเป็นลักษณะของบุคคลที่มีความเชื่อว่าหากต้องการทำอะไรแล้ว ทักษะต่างๆ สามารถพัฒนาได้เสมอเมื่อมีความพยายาม และการทำตามเป้าหมายที่วางแผนไว้และปรับปรุงอยู่เสมอจะเป็นตัวช่วยให้ประสบความสำเร็จมากกว่าการทำตาม passion ที่ถูกยึดติดไว้ตั้งแต่ต้น
เราเชื่อว่าจริงๆ แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องเรียกหรือหาคำจำกัดความในสิ่งที่เราอยากทำว่าเป็นแรงบันดาลใจหรือ passion หรือไม่ เพราะการให้ค่าในสิ่งที่อยากทำแบบนั้นอาจทำให้เราติดกับดักและกดดันตัวเองเกินไปเหมือนใส่ไข่เก็บไว้ในตะกร้าใบเดียว
Cr. freepik.com
เรากลับมาที่ 3 กฎสุดท้ายของซีรีย์หนังสือ "กินกบตัวนั้นซะ"
1️⃣9️⃣ กฎข้อที่ 19 สร้างช่วงเวลาขนาดใหญ่
การทำงานที่มีความสำคัญกับชีวิตมากๆ ให้สำเร็จมักต้องใช้เวลาที่ต่อเนื่องและยาวนานเหมือนการวิ่งมาราธอน และคนที่ทำได้คือคนที่มีวินัยในตนเอง
กุญแจสำคัญของการแบ่งเวลาคือ "Timeboxing" ซึ่งเราได้เคยเล่าในหลายตอนที่ผ่านมาแล้ว โดยให้แบ่งเวลาแต่ละวันเป็นช่วงๆ เช่น 30 นาที 60 นาที แล้วกำหนดงานที่แน่นอนลงไปในแต่ละช่วงเวลา จะทำให้เรามีประสิทธิภาพได้มากขึ้นมากกว่า 2 เท่า หรืออาจถึง 5 เท่า
ใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่า แม้เวลาเดินทาง ระหว่างนั่งรอรถไฟฟ้า รถติด ขึ้นเครื่อง เพียงแค่ 10 นาที ก็มีประโยชน์มหาศาล
2️⃣0️⃣ กฎข้อที่ 20 สร้างสำนึกแห่งความเร่งด่วน
คุณสมบัติที่สังเกตเห็นได้ง่ายของผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ พวกเขาจะมุ่งเน้นการลงมือทำ และรีบเร่งทำงานสำคัญๆ เสมอ โดยมีการคิด วางแผน และจัดลำดับความสำคัญเป็นขั้นตอน
เมื่อทำงานสำคัญและจดจ่ออยู่กับงานอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดสภาวะลื่นไหลหรือ "flow" ที่เราเคยเล่าใน Ep. 6 ของซีรีย์ "เทคนิคจำแบบไม่ต้องจำ" และผู้ที่ประสบความสำเร็จจะเข้าสู่สภาวะนี้ได้ง่ายและบ่อยกว่าบุคคลทั่วไป
วิธีการกระตุ้นให้เกิดสภาวะ flow นี้ คือการสร้างสำนึกแห่งความเร่งด่วน ซึ่งเป็นแรงผลักดันภายใน และเมื่อมีความสำนึกความเร่งด่วนนี้เกิดขึ้นแล้วย่อมมีความอยากที่จะลงมือทำทันที
2️⃣1️⃣ กฎข้อที่ 21 แน่วแน่กับงานทุกอย่างที่ทำ
"เมื่อลงมือทำแล้ว จงทำต่อไป" โดยมีการประเมินกันว่าการทำงานอะไรที่ทำๆ หยุดๆ จะใช้เวลามากกว่าการทำต่อเนื่องถึง 500% เช่นปกติอ่านหนังสือ 1 เล่มใหญ่วันละ 2 ชั่วโมงต่อเนื่องใช้เวลา 1 สัปดาห์ แต่ถ้าอ่านแบบ 3 วันแล้วหยุดไป 4 วัน จะใช้เวลามากถึง 12 สัปดาห์ เหตุผลเพราะทุกครั้งที่กลับไปทำงานใหม่อีกครั้ง เราจะต้องกลับไปทบทวนสิ่งที่ผ่านมาก่อน ต้องนึกย้อนว่าทำงานค้างตรงไหน มีอะไรที่ต้องทำต่อ แล้วต้องเอาชนะความเฉื่อยชาและความท้อใจอีกด้วย
กุญแจสำคัญคือความสามารถในการมีวินัยในตนเองอย่างต่อเนื่องหมายถึง ความสามารถในการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ควรทำในเวลาที่สมควร ไม่ว่าเราอยากจะทำมันหรือไม่ก็ตาม
ด้วยการจดจ่อกับงานที่สำคัญที่สุดและทำมันอย่างต่อเนื่องจนกว่าสิ่งนั้นจะสำเร็จ สมบูรณ์ตามเป้าหมาย จะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาและหล่อหลอมนิสัยติดตัวที่ดีขึ้นให้กับเราได้
จบซีรีย์ Eat that Frog!
ขอสรุปทั้งเล่มที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ในหนึ่งประโยคว่า "ระบุงานที่มีคุณค่าและสำคัญที่สุดในชีวิตตอนนี้ออกมา แล้ววางแผนอย่างเป็นระบบและลงมือทำมันซะ"
1
ขอบคุณสำหรับการติดตาม ขอให้เพื่อนๆ ที่ตามอ่านบทความของพวกเรา ประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิตตามเป้าหมาย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา