Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
วันนี้คะ 😁
•
ติดตาม
3 มิ.ย. 2021 เวลา 23:30 • ไลฟ์สไตล์
ความพิการที่มองไม่เห็น....
หลังฟื้นตัวจากอาการป่วยหนัก สมองถูกทำลายบางส่วน... ฉันอ่านหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ออก... อาการเป็นยังไง คิดถึงตัวเองตอนเด็กๆที่เราเห็นตัวหนังสือแล้วเรารู้จักแต่พยัญชนะ บางทีก็นึกตัวพยัญชนะ นึกเสียงไม่ออก ผสมคำไม่คล่อง อ่านแบบต้องหัดสะกด แล้วงงกับการผันเสียง งงกับการแยกคำ แยกไม่ออกว่าพยัญชนะนี้เป็นของคำไหน....สภาพนั้นละค่ะ....
เป็นหมอ.... อ่านหนังสือไม่ออก ชีวิตจะไปทางไหนต่อ ขาขาดสองข้างยังไปต่อกับวิชาชีพนี้ได้
แม้ลำบากยังพอมีกายอุปกรณ์.. อ่านไม่ได้มันคือหมดทางเดิน....ถ้ามันไม่กลับมา มันคือสิ้นหนทาง
...
พอรู้ตัวว่าอ่านหนังสือไม่ได้ ฉันรีบเช็คหน้าที่อื่นของสมองตัวเองทันที...แขนขาไม่มีอ่อนแรงอยู่แล้ว ร่างกายทุกส่วนทำงานปกติ .. .
แล้วหน้าที่อื่นล่ะ.... ความจำระยะสั้นระยะยาว บวกลบคูณหาร ชื่อยา โรคต่างๆ ขนาดยา การคิดขนาดยา การเขียน พอเขียนได้ แต่ยากตรงนึกคำไม่ออก สะกดยังไง....
อะไรที่คิดว่าเป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าของการทำงานที่สมองเล็กๆนี้บรรจุอยู่เพื่อใช้เป็นหมอ.... ฉันเช็คว่าเหลืออะไรบ้าง...
.... การอ่านพังยับ เขียนพลอยลำบาก....
ความกลัวเกิดขึ้นจับใจ.... ชีวิตจะไปทางไหนต่อ
ฉันบอกอาจารย์ บอกทีมหมอที่ดูแล.... ทุกคนรับรู้ เหมือนที่ฉันรับรู้ แล้วบอกฉัน เหมือนที่ฉันรู้...
ไม่เป็นไร ค่อยๆหัดอ่านนะ....
แล้วจะอ่านได้เมื่อไหร่..... ไร้คำตอบจากทุกคน...
ทุกคนรู้เหมือนที่ฉันรู้ ระบบประสาทพังรอไป
หกสัปดาห์ถึงหกเดือน ถ้ากลับมาเร็ว ยิ่งเร็วคือยิ่งดีถ้ากลับช้า ยิ่งช้าก็ต้องทำใจ ถ้าไม่กลับคือไม่กลับมา.... แล้วฉันล่ะ....
ณ.เวลาที่ลอยคออยู่กลางทะเล ไม่มีใครรู้ว่าฝั่งอยู่ตรงไหน จะว่ายถึงฝั่งเมื่อไหร่... ความหวังอยู่ตรงไหน....หรือฉันต้องจมน้ำตาย....
1
เกิดมาชีวิตไม่เคยหดหู่ สิ้นหวัง ผิดหวัง สูญเสีย ท้อแท้แบบนี้มาก่อน.... ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะหายไปจากตัวเอง.... เด็กชอบอ่าน อ่านออกเขียนได้ตั้งแต่อายุน้อยด้วยความสมัครใจไม่ใช่พ่อแม่บังคับ มีหนังสือเป็นเพื่อนตอนปิดเทอมตั้งแต่เล็กๆ เรียนมาจนถึงขนาดนี้เพราะอ่านหนังสือได้....มัน.... มีค่ามีความหมายมากสำหรับฉัน
ถ้านักบอล... นั่นก็คงหมายถึงฝีเท้า....
1
ไหนใครบอกว่าวิชาความรู้ของเรา มันจะติดตัวเราจนตายไง ใครบอกว่าอะไรก็เอาไปจากเราไม่ได้ไง ทรัพย์สินเงินทองโจรปล้นได้ แต่ความรู้ความสามารถเป็นของเราไง...
ฉันตั้งใจเรียนมาตลอดชีวิตยี่สิบกว่าปี ก็เพื่อครอบครองสิ่งนี้ และมั่นใจมาตลอดว่ามันเป็นของตัวเอง ใครก็มาแย่งไปไม่ได้.... แล้ว...
มันหายไปไหน...
ฉันคิดได้แค่นี้
6
อาจารย์ให้ฉันกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ฉันกลับบ้านด้วยหัวใจหดหู่ หลังเรียนจบแพทยศาสตร์ ฉันได้โอกาสเรียนต่อพร้อมการใช้ทุนในสาขากุมารเวชกรรมตามความต้องการของตัวเอง
ตอนที่ป่วยฉันกำลังจะขึ้นเป็น chief คือปีที่สี่ของการฝึกอบรม ปีสุดท้ายของหลักสูตร ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าฉันกำลังจะเป็น chief ฉันยังต้องทำงานวิจัยเพื่อยื่นขอจบ ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบวุฒิบัตรสาขากุมารเวชกรรมพร้อมเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน....
ฉันยังต้องตรวจยังต้องรักษาคนไข้ในแต่ละวัน ต้องอ่าน ต้องเตรียมงานวิชาการในฐานะแพทย์ใช้ทุนประจำสาขา
แล้วฉันอ่านหนังสือไม่ออก...
ฉันไม่เคยเกิดมาเพื่อคิด ทำ หรือเป็นอย่างอื่น เป้านี้ฉันตั้งเองตั้งแต่เล็กๆ และพยายามเดินด้วยตัวเองทีละขั้นๆ.... ฉันโง่เกินกว่าที่จะทำอย่างอื่นได้
ฉันรู้จักทางเดินแค่ทางเดียว....ทางที่สมัครใจเลือกเอง ไม่ได้มีใครบังคับ ชี้แนะหรือชักจูง... ห้ามด้วยซ้ำ... 😅...
ฉันนั่งหัดอ่านหนังสือพิมพ์กลางบ้านค่อยๆสะกดทีละตัว ทีละตัว เหมือนตอนอยู่ป.หนึ่ง
พ่อนั่งฟังฉันหัดอ่านหนังสือเหมือนตอนฉันอยู่ป.หนึ่งเหมือนกัน
ตอนป.หนึ่ง ฉันหกขวบ การหัดอ่านสนุกมาก เพราะฉันไม่เคยทำได้มาก่อน ได้หนึ่งคำคือความสุขหนึ่งคำ แต่ตอนยี่สิบปีก่อน... ฉันอายุยี่สิบห้าปี ฉันเคยอ่านมาแล้วได้ดีกว่านี้ ได้หนึ่งคำคือเจ็บปวดหนึ่งคำ อ่านไปสักพักฉันร้องไห้...
มันลำบากเหลือเกินกับการอ่านให้ออกแต่ละคำ
.... พ่อ หนูอ่านไมได้ น้ำตาไหล....
ชีวิตมันพังทุกอย่าง ความหวัง ความฝัน ความเชื่อมั่น คุณค่าในตัวเอง ทุกอย่างของฉันอยู่ในนั้น
1
พ่อกอดแล้วบอกว่า...
ไม่เป็นไร อ่านไม่ได้ก็ไม่ได้ ลูกสาวคนเดียวพ่อเลี้ยงเองได้....
ได้แต่กอดพ่อร้องไห้.... นี่มันบ้าบออะไร ฉันต้องให้ผู้ชายแก่เกษียณแล้วมานั่งเลี้ยงฉันจนเค้าตายจริงๆเหรอ....
อาจารย์ทุกท่านรับทราบอาการ ทุกคนเข้าใจ และไม่มีใครเร่งรัดให้ฉันกลับไปทำงานยกเว้น....
อาจารย์ขา หนูขอพักแค่เดือนเดียว แล้วหนูขอ
กลับไปทำงานะคะ หนูพอเขียนได้ หนูขอกลับไปตรวจคนไข้นะคะ...
แล้วอาจารย์ก็ทนความดื้อรั้นของฉันไม่ได้...
พี่....หนูเห็นโอพีดีการ์ดของคนไข้ที่พี่ตรวจตอนช่วงที่พี่ไม่สบายด้วยละ หนูมาดูต่อ... พี่เขียนมันไม่เสร็จ...
พี่....หนูเข้าภาคแบบฉิบหาย... พี่ไม่สบาย chief หนูหายไปไหน (หมอเรียนแบบพี่สอนน้อง พี่มีหน้าที่ดูแลงานน้องๆสอนงาน พี่รับผิดชอบทีมรองจากอาจารย์ และทำงานไปด้วยกัน ถ้าฝึกน้องได้ดี ทำงานคล่อง น้องเก่ง เราสบาย มีคนช่วยผ่อนแรงแบบไว้ใจได้)
หนูรู้แต่พี่ป่วยหนัก ใครๆก็พูดถึงพี่ อาจารย์บอกพี่ไม่สบาย....
รุ่นน้องห่างกันสองปีเล่าให้ฟังภายหลัง
ใช่ค่ะ ฉันพยายามฝืน หลังจากพักฟื้นไปหนึ่งเดือน ฉันอ่านกระท่อนนกระแท่น เรียกว่าแทบจะไม่ได้เลย แต่ความรู้ทางการแพทย์ไม่หายไปไหน เรื่องโรคเรื่องยา เรื่องการรักษา ...ฉันอยากลอง แต่ไม่รอด ฉันเขียนบันทึกคนไข้ไม่ได้ ไปได้วันเดียวก็ต้องยอมรับสภาพว่าฉันทำไม่ได้....
อาจารย์ให้พักแบบไม่มีกำหนด....
2
เราไม่ต้องกังวลนะ อาจารย์เป็นห่วงมาก อาจารย์บอกไม่ต้องห่วงเรื่องสอบนะ ถ้าปีนี้ไม่พร้อม อาจารย์จะส่งชื่อสอบปีหน้า.... อาจารย์ฝากรุ่นพี่สนิทกับฉันมาบอก อาจารย์เลือกคนที่อาจารย์คิดว่าฉันน่าจะฟัง...
พี่... ขอเวลาหน่อย... ถ้าอีกสองเดือนมันไม่ดีขึ้น จะยอมสอบพร้อมน้อง... อยากสอบพร้อมเพื่อน...
ขออาจารย์ให้ได้ไหม
เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต คือความสูญเสียสิ่งที่คิดว่าไม่มีทางสูญเสีย เคยคิดว่าตัวเองเก่ง มีความสามารถ กลายเป็นไร้สมรรภาพ
ฉันกลับมาอยู่บ้านอย่างหดหู่.... โลกเป็นสีเทา ไม่มีความหวังเลย... วันๆอ่านไม่ได้ จน... ไม่อยากอ่าน ไม่มองหนังสือ ไม่แตะ สิ้นหวัง... กินไม่ได้ เบื่ออาหาร มองยาที่ต้องกินวันละเกือบสามสิบเม็ดด้วยความรังเกียจ ร่างกายเต็มไปด้วยผลข้างเคียงจากยาที่ใช้รักษา จิตใจไม่มีคำว่าความสุขแม้เสี้ยววินาทีในหนึ่งวัน..นอนไม่หลับ เข้านอนสองทุ่ม ตีสองยังพลิกตัว แขนขาไม่มีแรง เดินไปเข้าห้องน้ำก็แสนเหนื่อย...
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในใจเลยคือ.. คำว่าอยากตาย.... ฉันรู้แค่ฉันทุกข์มากแสนสาหัส แต่ไม่เคยอยากตาย....
1
6
จากเด็กสดใจ ร่าเริง มั่นใจ มีความสุข กลายเป็นคนละคน... พ่อแม่ก็พลอยทุกข์ใจด้วย
ชีวิตจมกับความทุกข์และสิ้นหวัง คนดูไม่พิการ
แต่เสมอนพิการ ถ้าทำอาชีพอื่นบางอย่าง ฉันอาจจะไม่ทุกข์ทรมานเพราะเรื่องอ่านไม่ได้ขนาดนี้
ฉันทุกข์สาหัสจากสิ่งที่เคยทำให้มีความสุขและภาคภูมิใจที่สุด ฉันทุกข์ที่สุด เพราะสูญเสียมันไป ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะหายไปจากชีวิตตัวเองได้.... ของมันไม่มีตัวตนให้ขโมยแต่กลับสูญหาย....
ฉันคิดว่า... เมื่อคนเราเจอปัญหา เจอความทุกข์ การหาทางออกอยู่ที่เราตั้งคำถามให้กับตัวเอง คำถามที่เราตั้งเป็นตัวชี้ทางออก...
เคยมีคนเขียนบทความเรื่องความสำคัญของ
การตั้งคำถาม... ฉันเพิ่งอ่านมันเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา
ฉันเพิ่งนึกได้ว่า... คำถามสำคัญกับทางออกของปัญหาจริงๆ
การตั้งคำถามของแต่ละคน.... คงแตกต่าง..
ส่วนฉัน.....ฉันไม่มีประเด็นความสงสัยถึงอาการและเหตุผล เพราะฉันเป็นหมอ ฉันจึงไม่มีข้อสงสัยถึงสภาพของมัน ยางเรื่องของการวินิจฉัย หบายอน่างไม่ได้คำตอบ หรือตอบอะไรทั้งหมดได้ในครั้งเดียว.....ฉันไม่สงสัยกับการต้องค้นหาหมอที่เก่งที่สุดในโลกหรือวิ่งสรรหายาดีๆกว่าที่มีอยู่....
ฉันยอมรับสภาพการเจ็บป่วยโดยดุษฎีด้วยเหตุผลทางการแพทย์ แต่ยอมรับผลของมันไม่ได้....
ตอนนั้นได้แต่ตั้งคำถามถามตัวเองแบบนี้
ทำไมเราเรียนมาขนาดนี้ หน้าที่การงานคนก็ยกย่องชื่นชม เกียรติในสังคมก็มี ยศก็มีทางสังคม.... ทำไมมันทุกข์ได้ขนาดนี้
อาชีพช่วยไม่ได้ เรียนมาตั้งเยอะทำไมแก้ไขปัญหาตัวเองไมได้ ทำไมเอาทุกข์ออกจากใจตัวเองไม่ได้ ทำไมมันไม่ได้ดั่งใจ....
ทำไมอาจารย์ก็ทำให้เราเหมือนเดิมไม่ได้ ทำไมไม่มีหมอคนไหนบอกเราได้ว่าเราจะอ่านหนังสือเหมือนเดิมได้ไหม ได้เมื่อไหร่ ทำไมแม้แต่เราเป็นหมอเราก็บอกไม่ได้....
รู้สึกตัวเองเหมือนแค่ธุลีดิน เป็นแค่เศษฝุ่นที่ทำอะไรไม่ได้
ถามตัวเองแบบนี้ซ้ำทุกวันจน... นึกได้ว่ามีหนึ่งคนสอนเรื่องทุกข์และการออกจากทุกข์....
พระพุทธเจ้า.... ท่านสอนเรื่องนี้ ทำไมเราไม่ได้เรียนได้รู้ล่ะ ใช้ชีวิตมาตั้งนานทำไมไม่เคยรู้
นั่งคิดถึงความรู้พระพุทธศาสนาตอนสมัยมัธยม เรื่องอริยสัจจ์ 4 เริ่มเข้ามาในหัว....
ท่านสอนเรื่องนี้... เรื่องทุกข์
เราทุกข์เหลือเกิน จะดับยังไง....ทำไมเราไม่รู้วิธี เราอยากอ่านได้เหมือนเดิม ถ้าอ่านได้เราจะหายทุกข์... ตอนนั้นคิดได้แค่นั้น....
กำลังใจฉันไม่เหลือแล้ว.... ฉันผิดหวัง หมดหวังหดหู่ ทุกอย่างเคยมีเคยเป็น มันไม่เหมือนเดิม มันพัง มันสลาย.... หัวใจจมในกองทุกข์ตลอดทั้งวันวันแล้ววันเล่านานนับเดือน เกินเดือน....
หัวใจฉันต้องการที่พึ่ง.... เพื่อเดินต่อ...
ที่พึ่งเดียวที่ฉันมองเห็น ตอนนั้นไม่ใช่หมอ รอบตัวฉันมีแต่หมอ ฉันเองก็เป็นหมอ....
ของมันพังก็คือพัง...
ขาขาดยังมีขาเทียม.... ขาขาดยังเป็นหมอต่อได้สมองพังเอาอะไรมาแทน.... ผ่านไปแล้วเดือนครึ่งเกือบสองเดือนยังไม่มีวี่แววกลับมาแม้แต่น้อย
ตอนนั้น.. สิ่งที่ฉันคิดจะพึ่งคือ... คำสอนที่ฉันไม่เคยสนใจเรียนอย่างใส่ใจ....
ใครที่ชีวิตพังเพราะโควิด ขอให้รู้ว่า บนโลกใบนี้คุณไม่ใช่คนแปลก โชคชะตาเล่นตลกกับใครก็ได้ แต่ละคนมีวิถีการเติบโตและมีแบบทดสอบชีวิตของตัวเอว ข้อสอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ เราต้องแก้โจทย์ชีวิตเราด้วยตัวเอง...
ชีวิตมีทางเลือก แค่เราจะเลือกอะไร ขอให้ใช้หลักที่ดีเป็นแกนในการเลือก เราจะเจอทางออกที่ดีเช่นกัน......
หลายคนเป็นแบบคุณในตอนนี้ หลายคนยอมแพ้ต่อความพัง หลายคนเรียกร้องให้คนอื่นมาช่วย หลายคนเดินหน้าต่อ
หลายคนก้าวผ่านวันที่เลวร้ายเจ็บปวด.....
ทุกอย่างอยู่ที่เราบอกหัวใจตัวเอง เลือกและเดินต่อไปอย่างไรค่ะ....
ทุกข์ได้ ขอให้ทนกับมันให้ได้ ท้อได้ แต่อย่าถอยแบะอย่าจมอยู่กับความท้อแท้นานๆ มันดูดพลังชีวิตของคุณ....
สิ่งมีค่าที่สุดคือชีวิตและลมหายใจ
รักษามันไว้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น เราจะเติบโตขึ้น เข้มแข็งมากขึ้น..
เราจะเติบโตและเข้มแข็งขึ้นเสมอ เมื่อเราก้าวข้ามความทุกข์ยากและลำบากมาได้...
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ในภาวะที่ยากลำบาก อย่าคิดว่าหมดหนทาง ทุกอย่างอยู่ที่เราคิดค่ะ.....เพราะเราจะทำตามความคิดของเรา...
เรื่องของหมอยังไม่จบค่ะ... ชีวิตส่งบททดสอบมาเยอะ ยาวนาน และต่อเนื่อง.... ธรรมชาติคงอยากให้หมอเติบโตจึงเคี่ยวเข็ญมั้งคะ... 😅
ชีวิตต้องไปต่อค่ะ....
บันทึก
5
21
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
การเดินทางของหัวใจ
5
21
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย