17 มิ.ย. 2021 เวลา 01:07 • นิยาย เรื่องสั้น
4.12. ดวงนางฟ้าตกสวรรค์
งอหลิงฉี นางฟ้าตกสวรรค์ - อ้วนเหยา คุณชายตกอับ - เล่าปี่ ผู้นำขุมกำลังเกงจิ๋ว
แน่นอนว่า อุยเอี๋ยนย่อมไม่มีน้องสาวร่วมสายเลือด หากแต่เมื่อครั้งที่หลบหนีชัวมอจากเมืองเกงจิ๋ว เดินทางมาที่เมืองเตียงสา เพื่อฝึกฝนวิชาการสู้รบกับฮองตงนั้น อุยเอี๋ยนบังเอิญได้ช่วยเหลือหญิงม่ายพลัดถิ่นชื่อ งอหลิงฉี จากอันธพาลข้างถนน
ทั้งสองอายุอานามใกล้เคียงกัน ไม่มีพันธะอื่นผูกพัน ต่างจึงรู้สึกชอบพอถูกชะตากัน ความใกล้ชิดในยามยากจึงก่อเกิดเป็นตำนานความรักจอมยุทธ์กับสาวงามขึ้นระหว่างการเดินทางนั้นเอง
หากแต่เมื่อมาถึงเมืองเตียงสา ทั้งสองต้องมาพักอาศัยอยู่กับอาจารย์ ซึ่งขึ้นชื่อในนิสัยที่แปลกประหลาดกว่าคนทั่วไป อุยเอี๋ยนจึงไม่กล้าเปิดเผยความสัมพันธ์เชิงชู้สาวออกไปให้ระคายเคืองต่อฮองตงในช่วงต้น ได้แต่ออกอุบาย อ้างว่าเป็นพี่ชายน้องสาวกัน
ภายหลังเมื่ออุยเอี๋ยนได้เข้าสังกัดเป็นศิษย์เอก พอคุ้นเคยกับพื้นที่ ได้ช่องขยับขยายออกมาพักอยู่ด้านนอกแล้ว จึงอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับงอหลิงฉีแบบลับๆ และยังไม่มีโอกาสชี้แจงความจริงในเรื่องนี้กับผู้ใด
ความยุ่งยากจึงบังเกิดขึ้น เมื่อเล่าปี่ซึ่งไร้คู่เคียงมาเนิ่นนานแล้ว เกิดชอบพอเข้ากับน้องสาวคนสวยของอุยเอี๋ยนเข้า จนสังเกตได้ไม่ยาก อุยเอี๋ยนไตร่ตรองดูแล้ว กลับเห็นว่าเป็นโอกาสในการเข้าถึงวงใน จึงได้แต่ตัดใจเกลี้ยกล่อมให้นางงอหลิงฉียอมเสียสละเพื่อตำแหน่งการงานของตน
หากแต่งอหลิงฉีกลับแจ้งว่า ตนกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆแล้ว อุยเอี๋ยนตะลึงในความลับนั้น พลันฉุกคิดถึงเรื่องราวของมหาอุปราชวานิช ลิปุดอุย (หลี่ปู้เหว่ย) กับจูกี๋ นางรำแห่งยุคสมัยเลียดก๊ก หรือนี่คือโชคชะตาครั้งสำคัญของมัน
“น้องเรา จงจำยอมโอนอ่อนกับเล่าปี่ไปก่อนเถิด เหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ปล่อยให้ข้าคอยจัดการเอง” อุยเอี๋ยนกล่าว โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าปั้นยากของสาวคนรัก
นางงอหลิงฉีคิดถึงอดีตเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่ตนเองเป็นเพียงเด็กสาวในครอบครัวยากไร้อาศัยอยู่ในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ พอเติบโตรู้ความ ก็ถูกทางบ้านขายให้มาเป็นสาวใช้ประจำตัวของนายหญิง ภรรยาของเจ้าเมืองใหญ่ แม้จะฐานะต่ำต้อย แต่ก็นับว่า อยู่กินสุขสบายกว่าแต่ก่อนมากนัก
เพียงไม่กี่เดือน นายใหญ่ให้ความเอ็นดู นายหญิงคล้ายเกิดถูกชะตา รับนางเป็นลูกบุญธรรม เลื่อนสถานะจากสาวใช้ปรับขึ้นเป็นคุณหนูใหญ่ อันดับสามในครอบครัวเจ้าเมือง คล้ายดั่งบุญหล่นทับ
แต่แล้ว ความงามของตนเองกลับเป็นต้นเหตุให้ท่านพ่อที่เป็นขุนศึกชื่อดัง ถูกพิษภัยทางการเมืองเล่นงาน กลายเป็นสงครามใหญ่ระหว่างจ้าวนครต่อเนื่องวุ่นวาย ทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด สุดท้าย ท่านพ่อถูกศัตรูสั่งประหารชีวิต ท่านแม่ อดีตนายหญิงก็หายสาบสูญไป ข้าทาสบริวารที่คุ้นเคยล้วนแยกย้ายกันไปหมดสิ้น
ส่วนตนเอง แม้ว่าจะโชคดี ปะปนกับสาวใช้คนอื่นๆหนีรอดออกมาได้ก่อน ไม่กล้าใช้ชีิวิตในเมืองใหญ่ ได้แต่เร่ร่อนขอทานประทังชีวิตบ้าง รับจ้างเย็บปักถักร้อยบ้าง พเนจรไปตามเมืองเล็กเมืองน้อย พอเริ่มจะคุ้นเคย กลับต้องเผชิญภัยตัณหาคุกคามให้ต้องหลบหนีอยู่เนืองๆ ตกยากอยู่นานนับปี
จนภายหลัง คล้ายโชคชะตาเล่นตลกให้นางได้ไปพบกับพ่อค้าขายใบชาที่เพิ่งลงหลักปักฐานในเมืองน้อย จนภายหลัง ค่อยทราบนามว่า คือ อ้วนเหยา บุตรชายของอ้วนสุด ผู้ที่เคยเกือบจะหมั้นหมายกันนั่นเอง
แม้ว่า จะได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมายกัน แต่ทั้งสองไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน พอโชคชะตาสรรค์สร้างเช่นนี้ จึงได้ตัดสินใจ ละทิ้งตัวตนฐานะดั้งเดิม ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแบบราษฎรธรรมดาๆที่มีความสุขตามประสาวัยหนุ่มสาวครอบครัวหนึ่ง
แต่อยู่ไม่ทันข้ามปี ก็เกิดเหตุร้ายไม่คาดฝัน พวกอันธพาลท้องถิ่น อดีตลูกน้องพรรคฟ้าเหลือง ก่อเหตุแย่งชิงตัวนางอีก และถึงกับทำร้ายทุบตีสามีจนตาย นางจึงต้องปิดร้านขายกิจการทิ้ง หลบหนีภัยอันธพาลที่ตามไล่ล่าไม่ลดละจนคับขันเกือบเสียที แต่โชคดีที่ได้อุยเอี๋ยนสอดแทรกเข้ามาช่วยไว้ และกำจัดเหล่าอันธพาลไปจนหมดสิ้นในที่สุด
นี่คือ ประวัติชีวิตคร่าวๆของนางงอหลิงฉี ตามชื่อแซ่เดิม หรือ ลิหลิงฉี บุตรีบุญธรรมของขุนพลอันดับหนึ่งของแผ่นดิน นาม ลิโป้ ซึ่งเคยมีชื่อเอ่ยอ้างถึงในฐานะที่เป็นเครื่องมือทางการเมืองของอ้วนสุด จนเกิดเหตุแย่งชิงตัวเจ้าสาว กลายเป็นชนวนเริ่มต้นศึกใหญ่ที่เมืองชีจิ๋วในอดีต
หากแต่เงามืดด้านหนึ่งที่นางงอหลิงฉีไม่เคยล่วงรู้ ก็คือ นายหญิง หรือ นางเตียวเสี้ยน เลื่อนระดับนางขึ้นจากสาวใช้ ให้เป็นลูกบุญธรรมนั้น ก็เพราะขุนศึกลิโป้ฉายแววจะยึดครองตัวนางไว้เป็นเมียน้อยนั่นเอง เตียวเสี้ยนจึงกลั่นแกล้งด้วยการเปลี่ยนสถานะของนาง ยั่วเย้าให้ลิโป้มองเห็นตรงหน้า แตไม่อาจครอบครองตามที่เคยหวัง
อย่างไรก็ตาม มาบัดนี้ นางก็อยู่บนทางแพร่งเดิมๆอีกครั้งหนึ่ง ความงามของนาง อาจจะทำให้คนรักของนางอยู่รอด หรือตกตาย เพราะเล่าปี่ เจ้านายใหม่ เกิดหมายปองในตัวนาง เล่าปี่ คนที่เป็นสหายเก่า และคู่ปรับทางการเมืองของท่านพ่อบุญธรรมลิโป้
สองครั้งที่ผ่านมา พ่อบุญธรรมลิโป้ สามีอ้วนเหยา คนที่นางรักต้องตกตาย เพราะนางไม่ยินยอมพร้อมใจตามกระแสความต้องการของคนร้าย ดังนั้น คราวนี้ นางจึงตัดสินใจต้องยินยอม เพื่อรักษาชีวิตคนที่นางรักเอาไว้ และขณะนี้ อุยเอี๋ยน เท่านั้น คือ คนที่นางรัก และพร้อมที่จะสละให้ได้แม้แต่ชีวิตของตนเอง
นางงอหลิงฉียังจดจำได้ว่า เมื่อตนเองยังเป็นเด็กน้อย เคยมีซินแสผ่านทางท่านหนึ่งทำนายดวงชะตาเอาไว้ว่า ดวงเกิดของนางเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ กล่าวคือ มีโชคดีในความโชคร้าย มีตำหนิในความโดดเด่น ความงามจะนำมาซึ่งเภทภัย ความทุกข์จะเสริมสร้างความสุข
“ตกต่ำสุด เธอคือขอทานข้างถนน จุดสูงสุด เธอจะเป็นถึงราชินีผู้ยิ่งใหญ่ และบั้นปลายของนางจะเป็นคนสำคัญของแผ่นดิน” ซินแสแซ่กวนผู้นั้นเคยกล่าวไว้
ด้วยเหตุดังนี้ ต่อมา “อุยหลิงฉี” น้องสาวของอุยเอี๋ยน จึงกลายเป็นอุยฮูหยินอย่างเป็นทางการ ลำดับที่สี่ของเล่าปี่ ถัดจากกำฮูหยิน บิฮูหยิน และซุนฮูหยิน และเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด เล่าเอ๋ง เล่าลี ในเวลาถัดมา
หลังจากที่เล่าปี่ได้ครองเมืองเสฉวนแล้ว มีคำเล่าขานกันภายในวังว่า อุยเอี๋ยน อุยหลิงฉี- อุยฮูหยินนั้น เป็นพี่น้องที่มีความรักใคร่สนิทสนมกันมาก ขุนพลผู้พี่มักจะเข้ามาเยี่ยมเยียนในวังในอยู่อย่างสม่ำเสมอ บางครั้ง ก็พบปะกันเป็นการส่วนตัวในที่ลับตา ไม่ให้คนนอกอยู่รับใช้
จนครั้งหนึ่ง เล่าเอ๋ง เล่าลีในวัยเด็กทารกไร้เดียงสา พลั้งเผลอเรียกท่านน้าเป็นท่านพ่อ นั่นแหละ ขุนพลอุยเอี๋ยนจึงเหมือนรู้สึกตัว ค่อยๆทิ้งระยะห่างออกไป แต่ก็ยังคงแวะเวียนมาบ้างอยู่ดี เมื่อมีโอกาส
หากแต่ยังมีเงามืดของเรื่องราวอีกเช่นกัน เล่าปี่ประเมินนางในฐานะน้องสาวของอุยเอี๋ยนเป็นเครื่องมือทางการเมือง หวังสร้างความสัมพันธ์ฉันท์ญาติกับขุนพลหนุ่มที่มีศักยภาพ ทดแทนกวนอู เตียวหุย หรือฮองตง ที่ล้วนแต่เริ่มเข้าสู่วัยชรา และถ่วงดุลย์อำนาจกับขงเบ้ง บังทอง ที่ดูเหิมเกริม กระหายอำนาจทั้งสิ้น
ดังนั้น ข่าวคราวที่เกิดขึ้น เพียงทำให้มันรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติของสองพี่น้อง แต่มิอาจทำให้มันลงมือทำร้ายความสมดุลย์ในอำนาจทางการทหารไปได้ในระยะสั้น กลยุทธ์ “ไร้สิ้นญาติโยม” ที่น้องสามสอนไว้ ถูกใช้เตีือนสติของมันอยู่ตลอดเวลา
ทุกคนที่รายล้อมตัวมัน ล้วนเป็นเพียงเครื่องมือไปสู่ความสำเร็จในบั้นปลายชีวิตทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่น้องสาม ผู้ที่สั่งสอนมันเอง
หมายเหตุ ภรรยาลำดับที่สี่ของเล่าปี่ บ้างว่า ชื่อ งอฮูหยิน เป็นเมียเก่าของญาติฝ่ายเล่าเจี้ยง บ้างว่า เป็นน้องสาวของอุยเอี๋ยน แต่ไม่ปรากฏนามชัดเจน ผู้เขียนจึงผูกเรื่องราวให้มีความสัมพันธ์กับอุยเอี๋ยน และโยงเอาลิหลิงฉี ตัวละครที่สาบสูญไปจากหน้าพงศาวดารมาไว้ด้วยกันในที่นี้ โดยที่นางเฝ้าแต่โทษตนเองว่า เป็นต้นเหตุของความยุ่งยาก แต่ที่จริงแล้ว มันก็เป็นแค่เกมการเมืองเท่านั้น ซึ่งผู้หญิงธรรมดาๆในยุคสมัยนั้น ไม่อาจเข้าใจได้
อีกประการหนึ่ง ตัวละครเล็กๆคนนี้ ได้สะท้อนให้เห็นชะตาชีวิตที่ไม่เคยสมหวังกับความรักในรูปแบบต่างๆ ประมาณว่า ความงามคือเภทภัยอย่างแท้จริง
ด้วยความร่วมมืออย่างแข็งขันของฮองตง อุยเอี๋ยน ขุนพลผู้มาใหม่ เมืองบริวารน้อยใหญ่ของเตียงสา เลงเหลง บุเหลง ฮุยเอี๋ยง อดีตพันธมิตรทั้งสี่เมืองใหญ่ที่เคยแยกตัวออกจากมณฑลเกงจิ๋วเดิมตั้งเนิ่นนาน จึงได้กลับคืนมาเป็นปึกแผ่นได้ดังเดิม
บัดนี้ ขุมกำลังเล่าปี่จึงพร้อมแล้วที่จะสยายปีกขยายดินแดนต่อไป ได้แต่นับวันรอเวลาที่จะบุกเข้าสู่ดินแดนตะวันตกของเล่าเจี้ยง หากแต่ยังไม่เห็นหนทางที่จะเป็นข้ออ้างเหมาะสมในการล้มล้างรัชทายาทเล่าเจี้ยงที่เป็นคนแซ่เดียวกันได้อย่างสะดวกใจ
การยึดครองสี่เมืองใหญ่นั้น ยังพออ้างอิงได้ว่า เป็นเขตแดนของขุมกำลังเกงจิ๋วมาก่อน พอเล่าเปียวสูญสิ้นอำนาจ โจโฉเข้ามายึดครอง จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงแยกย้ายไปพึ่งพิงขุมกำลังอื่น หากแต่มณฑลเสฉวนนั้น เป็นของเล่าเจี้ยงมาเนิ่นนานแล้ว จึงไม่มีน้ำหนักที่จะว่ากล่าวแย่งชิงได้เต็มที่
บังทองซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีในทางลับอยู่กับหวดเจ้ง ขุนนางชั้นสูงของเล่าเจี้ยง จึงคิดอ่านจะใช้ความได้เปรียบนี้ในการเดินหมากขั้นต่อไป และจัดการให้ฮองตง อุยเอี๋ยนอยู่เฝ้าระวังเมืองเตียงสาซึ่งเป็นชายแดนติดกับพวกกังตั๋งไปก่อน รอการเรียกตัวเข้ากองทัพบุกเสฉวนในลำดับต่อไป
ทั้งนี้ เป็นเพราะบังทองรับรู้ถึงความแค้นเก่า และนิสัยอันไม่แน่นอนของกวนอูกับฮองตง ถึงแม้วันนี้ ทั้งสองจะเหมือนเข้าใจกัน เคารพต่อกันแล้วก็ตาม หากแต่เมื่อมีอะไรสะกิดใจกันขึ้นมา ก็อาจจะกลับก่อกวนเรื่องราวได้อีก การแยกออกจากกันไว้ให้ไกลกันก่อน จึงจะเหมาะสมกว่า
ดังนั้น จึงเหลือเพียงเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย และบังทอง ที่เดินทางกลับเมืองเกงจิ๋วก่อน เพื่อรอคอยให้พ้นฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง และตระเตรียมหาเหตุบุกเมืองเสฉวนต่อไป
ในคืนก่อนการเดินทางแยกย้ายกันไปตามแผนการ ท่ามกลางความมืดมิดภายนอกกระโจมทหาร วงสุรานักรบกระชับมิตรที่จัดขึ้น โดยมีสมาชิกคือ กวนอู เตียวหุย ฮองตง และอุยเอี๋ยน ซึ่งถือว่าเป็นขุนพลระดับสูงในกองทัพ กำลังเป็นไปอย่างครื้นเครง
ที่จริง อุยเอี๋ยนยังถือว่ามีอาวุโสน้อยกว่าหลายขั้น สมควรอยู่ในระดับชั้นเดียวกันกับเล่าฮอง กวนเป๋ง จิวฉอง หรือเทียบเท่า บิต๊ก บิฮอง ที่มีความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติ หากแต่ด้วยความดีความชอบที่ช่วยเล่าปี่ในยามวิกฤตถึงสองครั้งสองครา อีกทั้งยังเป็นพี่เมียของเล่าปี่ด้วยแล้ว อุยเอี๋ยนจึงได้รับการเลื่อนตำแหน่งจนเทียบชั้นกับขุนศึกรุ่นใหญ่ในลำดับท้ายสุดไปแล้ว
ปกติ เล่าปี่ที่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบนักรบ จะต้องอยู่ร่วมวงสุราด้วย หากแต่เมื่อเล่าปี่ได้ใช้ชีวิตสุขสบายในแดนกังตั๋งเป็นต้นมา ก็เริ่มห่างเหินไปจากวงจรชีวิตเช่นนี้ ยิ่งเมื่อได้ตัวนางอุยหลิงฉีมาเป็นฮูหยินคนใหม่วัยเยาว์ด้วย เล่าปี่ก็ไม่มาร่วมคลุกคลีในวงสุราขุนพลอีกเลย
พอความเป็นศัตรูหายไปแล้ว มิตรภาพในรูปแบบของนักสู้ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่างคนต่างก็ผลัดกันเล่าขานตำนานวีรกรรมเด่นดังของตัวเองทั้งเรื่องลับ และเรื่องเปิดเผย อย่างเช่น การช่วยเหลือเล่าปี่ที่เมืองเกงจิ๋วในครั้งแรกโดยอุยเอี๋ยน การลอบสังหารกุยแกที่เมืองหลวง ซึ่งมีทั้งฮองตง เตียวหุย และจูล่ง อยู่ในเหตุการณ์ร่วมกัน จนสุดท้าย เตียวหุยก็หลุดปากถึงที่มาของเกาทัณฑ์ลึกลับที่เกือบสังหารฮองตงในครั้งล่าสุด
“เกาทัณฑ์นั้นเป็นของพี่ใหญ่ (เล่าปี่) ก็จริง แต่ท่านพี่ไม่ได้ถนัดใช้อาวุธเช่นนี้ คงจะเป็นทหารองครักษ์ที่ติดตามมา แอบนำมาใช้กระมัง” กวนอูตั้งข้อสังเกต
“หามิได้ ข้าเห็นกับตา คนที่ใช้เกาทัณฑ์ยิงท่านอา ก็คือ คนเดียวกันกับที่สังหารฮันเหียน เป็น กุนซือหงส์ผงาด บังทอง” เตียวหุยท่าทางมึนเมา โพล่งแทรกขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง “อุยเอี๋ยน เจ้าก็เห็นเหมือนกันกับข้านี่นา”
บรรยากาศของวงสุราเหมือนตกอยู่ในความเงียบงันไปในทันที เพราะฮองตงคล้ายกับสะกดกลั้นความโกรธที่ถูกคนคุ้นเคยกันหักหลัง ส่วนอุยเอี๋ยนหน้าสลดลง เพราะสู้อุตส่าห์ไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้ตั้งเนิ่นนาน ความลับที่ควรจะลืมเลือนกลับถูกนำมาเปิดเผยขึ้นกลางวงเหล้าเอาจนได้
ฝ่ายกวนอูที่ไม่ได้รู้ซึ้งในความสัมพันธ์ลับของพวกฮองตง จึงกลบเกลื่อนตามประสานักรบในหน้าที่ “เอาเถิด การสงครามย่อมต้องทำทุกวิถึทางเพื่อความได้เปรียบ ลืมมันไปเสียเถอะ ท่านผู้เฒ่า”
หากเป็นคนอื่น ฮองตงคงทำใจได้ แต่นี่คือ บังทอง สหายที่เคยสัญญาจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทำเช่นนี้ มีหรือ ฮองตงจะยินยอมได้ง่ายๆ
เตียวหุย-นางแอ่น ทำเป็นเมามายฟุบลงกับโต๊ะ แต่ที่จริง เพื่อเก็บซ่อนรอยยิ้มที่มันเพิ่งจะใส่ไฟให้กับบังทองได้สำเร็จ ปฏิบัติการณ์เนินหงส์ร่วงรอบสองใกล้จะเปิดฉากขึ้นแล้ว และครั้งนี้ เป็นหน่วยปักษาสวรรค์ร่วมกันขีดเขียนให้เอง
ทางด้านนครหลวงฮูโต๋ นางเปียนสี-เตียวเฟิง อดีตนายหญิงของอุยฮูหยิน จ้องมองดูกองทัพหลวงที่กำลังเดินทางออกไปสู่สนามรบ นางย่อมตระหนักถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตของม้าเท้งที่กำลังสวมรอยแทนโจโฉตัวจริงเป็นอย่างดี จึงโล่งใจไม่น้อยที่ได้อยู่ห่างไกลจากคนผู้นี้บ้าง
คนทั่วไปย่อมจะเข้าใจว่า การมีสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้นแล้ว คือการควบคุมอิสตรีได้ หากแต่นางเป็นคนสายจารชนมาตั้งแต่แรก ความสัมพันธ์เช่นนั้นจึงเป็นเพียงอาวุธสิ่งหนึ่งของนาง มิใช่ความผูกพันแนบแน่นอันใด
ช่วงเวลาที่ผ่านมา นางได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามความประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามให้ตายใจ และขันอาสาอยู่ดูแลกิจการภายในที่พักให้ตามปกติ เพื่อช่วยจับตาดูความเคลื่อนไหวของโจผี โจหยิน กาเซี่ยงที่เฝ้ารักษาเมืองหลวงอยู่ แต่ที่จริงแล้ว นางกลับรอคอยที่จะรุกคืบด้วยวิถีทางของนางเอง
ในยามนี้ ขุมกำลังพรรคฟ้าเหลืองลดน้อยลงทุกที หากยังคิดจะทำการณ์อันใด ช่วงเวลานี้กลับเหมาะสมไม่น้อย เตียวเลี้ยวคุมกองทัพหลายหมื่นอยู่ที่เมืองหับป๋าพร้อมกันกับโจเจียง ลูกชายคนโปรด ถือว่าเป็นฐานทัพหลัก เตียวคับปะปนอยู่ที่สมรภูมิเมืองเตียงอัน ย่อมเป็นไส้ศึกเฝ้าระวังที่ดี
เพียงแต่ต้องหากำลังสำคัญเพิ่มเติมสักคนสองคนช่วยในการก่อการณ์ยึดเมืองหลวง โดยนางมุ่งเป้าไปยังกลุ่มอำนาจเก่าที่ก่อการร่วมกันกับฮกอ้วน สมุหนายก ที่ยังสมควรหลงเหลืออยู่บ้าง
ครั้งหนึ่งในอดีต ฮกอ้วน สมุหนายก ซุนฮก กุนซือ ขงหยง พระราชครู อองลอง ขุนนางราชพิธี และสือฮิว เจ้ากรมอาลักษณ์ เคยร่วมมือกันทำหนังสือถอดถอนตำแหน่งผู้สำเร็จราชการ จนสืบสาวมาถึงขบถเล่าสือครั้งล่าสุดที่ อองลอง ประมุขสำนักหอสมุดใต้หล้าขลาดเขลากลัวตาย เปิดโปงคนสกุลฮกจนถูกสังหารตายล้างตระกูล
นางครุ่นคิดทีละขั้นตอน เป็นไปได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้ยังมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และสือฮิวยังคงเป็นคนที่ลอยนวลอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับคนอื่นๆที่อาจจะมีมากกว่านี้อีก ดังนั้น การกระทำของอองลองอาจจะเป็นเพียงการตัดตอนทิ้งไม่ให้เชื้อไฟลุกลามไปจนถึงใจกลางผู้ก่อการตัวจริงก็เป็นได้
การศึกครั้งนี้ อองลองถูกเกณฑ์ให้ติดตามกองทัพไปด้วยแล้วในฐานะของผู้ช่วยกองเสบียง แต่ก็เป็นไปได้ว่า ม้าเท้ง-โจโฉไม่ไว้วางใจ จึงนำตัวแกนนำสายวิชาการไปไว้ใกล้ตัว มิให้อยู่ก่อการอันใดในเมืองหลวง ในช่วงเวลาวิกฤต
นางจึงได้แต่ลองเดินหมากเรียกตัวอาลักษณ์สือฮิวมาพบเป็นการส่วนตัว เพื่อกดดันดูท่าทีของฝ่ายตรงข้าม และกลับเกินความคาดหมาย สือฮิวย่ิงขวัญอ่อนกว่าอองลอง พอถูกคาดคั้นเข้าหน่อย ก็เปิดเผยข้อมูลแทบทั้งหมดออกมา พร้อมทั้งอาสาเป็นตัวประสานงานให้กับกลุ่มคนที่หลงเหลืออยู่ในทันที
โครงสร้างของกลุ่มปฏิวัติกลางเมืองหลวงจึงถูกจัดตั้งขึ้นลับๆอีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้ ผู้นำกลับเป็นนายหญิงเปียนสี ซึ่งอดีตก็คือเตียวเสี้ยน ฮูหยินของลิโป้ ศัตรูตลอดกาลคนหนึ่งของโจโฉนั่นเอง เพียงแต่นางเปียนสียังไม่คิดจะเปิดเผยเรื่องโจโฉตัวปลอมกับผู้ใด สมาชิกกลุ่มคนสำคัญจึงมีเพียงสือฮิวที่กลายมาเป็นกุนซือคู่คิดให้เท่านั้น
...
หากแต่วันหนึ่ง ขณะที่ครอบครัวที่มีนางเปียนสี นางเอียนซีผู้เป็นภรรยา และโจหิม โจยอย สองเด็กน้อยไร้เดียงสา กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นกัน โจผีที่รักษาการแทนบิดา เมามายกลับมาที่พัก ถึงกับพร่ำเพ้อถึงนางรำในวังหลวงนามกุยฮุย ขึ้นมาต่อหน้าทุกคน หวังจะขอตัวมาเป็นเมีย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่โจผีเอ่ยถึงหญิงอื่นต่อหน้าภรรยา และครอบครัวของตนเอง
ที่จริงแล้ว กุยฮุยผู้นี้ไม่ใช่นางรำธรรมดา เพราะนางคือบุตรีคนสวยของกุยเฮง ขุนนางผู้ใหญ่สายการทูต และถูกส่งตัวเข้าไปในวังหลวง เพื่อฝึกปรือทั้งวิชาฝีมือและการร่ายรำ หวังปูทางวางตัวให้เป็นพระสนมของกษัตริย์เหี้ยนเต้ไปแล้ว หากมิใช่เกิดเหตุแทรกซ้อน ฮกฮองเฮาถูกประหารชีวิต และโจโฉผลักดันให้ลูกสาวสามคนแทรกลำดับขึ้นเป็นฮองเฮาและพระสนมแทนในช่วงเวลาที่ผ่านมา
นางเอียนซี ถึงแม้จะไม่ถูกชะตากับโจผี จนถึงกับหาเรื่องหลีกหนีปลีกตัวมาโดยตลอด แต่พอถึงเวลาเกิดเรื่องเช่นนี้ ก็ยังมิอาจทนรับเรื่องราวเช่นนี้ได้ จึงลุกขึ้นปลีกตัวไปอยู่ตามลำพังในห้องนอนที่แยกกันอยู่กับโจผีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้นางเปียนสีต้องออกโรงปลอบประโลมใจตามบทบาทของแม่ใหญ่ พร้อมสุราเลิศรส
เอียนซึในยามที่จิตใจเปราะบาง ได้แต่ดื่มสุราระบายความอัดอั้นตันใจให้กับแม่สามีที่ตกอยู่ในชะตากรรมคล้ายคลึงกัน เพราะทั้งสองล้วนแต่เป็นภรรยาคนสวยของคู่อริเก่าสกุลโจที่ถูกรับตัวเข้ามาอยู่ในฐานะเมียใหม่ด้วยความจำยอม ดังนั้น สองนางฟ้าตกสวรรค์จึงกลับถูกบรรยากาศชักพาไปให้เกิดความสัมพันธ์ทางกายที่ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิม
แน่นอนว่า นี่คือก้าวย่างที่จงใจของเปียนสี-เตียวเฟิง ที่ใช้เล่ห์มายาสวาทเป็นเครื่องมือผูกมัดจิตใจของเอียนซีให้มาอยู่เป็นพวกพ้องของตน เฉกเช่นเดียวกันกับที่ม้าเท้งเคยใช้กลอุบายเดียวกันกับนางมาแล้ว สาวสวยชนเผ่าเซียนเปยที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมมารยาอย่างเอียนซีจึงกลายเป็นเหยื่อทางการเมืองอีกครั้ง
เอียนสีถึงกับเปิดเผยความลับที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้ให้กับนางเปียนสี นั่นคือ นางเชื่อมั่นว่า โจโฉในยามนี้ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง หากแต่เป็นคนอื่นแอบสวมรอยมา และคนผู้นั้น อาจจะเคยปลอมเป็นทัวปาลี่เวย บิดาของนางมาแล้วช่วงเวลาหนึ่งด้วยซ้ำ นางเปียนสีจึงรีบห้ามปรามไว้ก่อน อ้างว่าเพื่อรอจังหวะที่เหมาะสมค่อยเปิดโปงความจริงออกไป
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา