12 มิ.ย. 2021 เวลา 06:43 • การศึกษา
[ตอนที่ 27] ความแตกต่างระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปและฝั่งบราซิล (การออกเสียง)
The differences between European Portuguese & Brazilian Portuguese language (Pronunciation)
สำหรับเนื้อหาตอนที่ 7 ของซีรีส์ "ภาษาละตินเเละกลุ่มภาษาโรมานซ์" จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปกับภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิล ซึ่งอาจช่วยให้เราแยกภาษาโปรตุเกสทั้งสองฝั่งได้ดีขึ้น โดยครึ่งแรกจะเป็นเรื่อง "การออกเสียง" ครับ
ส่วนเนื้อหาจะเป็นอย่างไรนั้น...เชิญอ่านกันได้เลยครับ
"Fonética e Fonologia do Português" (วิชาสัทศาสตร์และสัทวิทยา (วิชาทางภาษาศาสตร์เกี่ยวกับการออกเสียง) ในภาษาโปรตุเกส) ซึ่งการออกเสียงเป็นหนึ่งในประเด็นความแตกต่างระหว่างภาษาโปรตุเกสทั้งสองฝั่ง
ดนตรีแนะนำให้เปิดฟังคลอประกอบระหว่างอ่านบทความ
- เพลงภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรป : เพลง O Amor é Assim โดย HMB และ Carminho ศิลปินชาวโปรตุเกส
- เพลงภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิล : เพลง Você Partiu Meu Coração โดย Nego do Borel, Anitta และ Wesley Safadão ศิลปินชาวบราซิล
ความแตกต่างระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรป กับภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิล จะมีหลายประเด็นประกอบด้วย
- การออกเสียง
- ไวยากรณ์
- คำศัพท์
- การสะกดคำ
หากเราใช้ภาษาโปรตุเกสในการพูดและการฟัง วิธีที่จะช่วยให้เราแยกว่าเป็นภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปหรือฝั่งบราซิลได้ดี จะเป็นการสังเกตการออกเสียง
สำหรับเนื้อหาตอนนี้จะแสดงเสียงอ่านด้วยตัว IPA (สัทอักษรสากล : ระบบตัวอักษรที่อาศัยพื้นฐานจากอักษรโรมันเพื่อระบุการออกเสียง) และพยายามทับศัพท์การออกเสียงตัวอย่างคำภาษาโปรตุเกสด้วยอักษรไทยให้ใกล้เคียงที่สุด แม้ว่าเสียงในภาษาไทยจะไม่สามารถแทนเสียงในภาษาโปรตุเกสได้อย่างสมบูรณ์แบบก็ตาม
ความแตกต่างในการออกเสียงระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปกับฝั่งบราซิลจะมีทั้งเสียงพยัญชนะและเสียงสระ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. เสียงพยัญชนะ (พยัญชนะต้นและตัวสะกด)
1.1. เสียงตัว D เมื่อเป็นพยัญชนะต้นของพยางค์
- ฝั่งโปรตุเกส: มีเสียงตามตัว IPA เป็น /d/ และ /ð/ ที่ทับศัพท์ด้วย “ด” ทั้งสองกรณี
- ฝั่งบราซิล: มีเสียงตามตัว IPA เป็น /d/ (เสียงออกไปทาง “ด”) และ /dʒ/ (เสียงออกไปทาง “จ”) ซึ่งกรณีที่มีเสียงออกไปทาง “จ” มักเป็นพวก Di หรือ De
คำตัวอย่าง :
- Saudade (ความคะนึงถวิลหาถึงสิ่งหรือคนรักที่อยู่แสนไกลโพ้น)
- Tailândia (ประเทศไทย)
- De nada (ไม่เป็นไร ด้วยความยินดี)
1.2. เสียงตัว T
เสียงตามตัว IPA /tʃ/ จะออกไปทาง “ช” ซึ่งฝั่งยุโรปจะใช้เฉพาะพยัญชนะประสม TCH (อย่างคำว่า Tchau, Atchim) แต่ฝั่งบราซิลจะใช้กับพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วย T ส่วนหนึ่ง (มักเป็นพวก Ti หรือ Te) กับพยางค์ที่มี T เป็นตัวสะกดบางคำ
คำตัวอย่าง :
- Destino (โชคชะตา จุดหมาย)
- Divertido (สนุก บันเทิง)
- Transporte (การขนส่ง)
- Ritmo (จังหวะ)
1.3. เสียงตัว R
ภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรป
- เมื่อ R เป็นพยัญชนะต้นพยางค์หรือเป็นพยัญชนะซ้อน RR : มีเสียงตรงกับตัว IPA สองแบบคือ /ʁ/ ออกเสียงคล้ายตอนกำลังกลั้วคอ ทับศัพท์ด้วยตัว “ฆ” และ /ɾ/ ออกเสียงไปทาง “ร”
- เมื่อ R เป็นตัวสะกด : มีเสียงตรงกับ IPA เป็น /ɾ/ ออกเสียงไปทาง “ร”
ภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิล
- เมื่อ R เป็นพยัญชนะต้นพยางค์หรือเป็นพยัญชนะซ้อน RR : แม้ว่าจะมีกรณีที่เสียงตรงกับตัว IPA เป็น /ʁ/ และ /ɾ/ แต่ก็มีกรณีที่ตัว IPA ตรงกับ /h/ (ออกเสียงไปทาง “ฮ”) /x/ หรือ /χ/ (ออกเสียงไปทาง “ค”)
- เมื่อ R เป็นตัวสะกด : มีเสียงตรงกับ IPA เป็น /ʁ/ /ɾ/ /h/ /x/ /χ/ หรือละเสียงตัวสะกด
คำตัวอย่าง :
- Preparar (เตรียมตัว)
- Reparar (ซ่อมแซม)
- Rio (แม่น้ำ)
- Rico (รวย)
- Retornar (กลับคืน ย้อนกลับ)
- Carro (รถ)
1.4. เสียงตัว L
เมื่อเป็นตัวสะกดของพยางค์ ฝั่งยุโรปจะออกเสียงไปทาง “ล” (ตัว IPA เป็น /l/) แต่ฝั่งบราซิลจะออกเสียงตรงกับตัว IPA เป็น /w/ เสมือนเปลี่ยนตัว L เป็น U เช่น ฝั่งบราซิลจะออกเสียง EL เป็น “เอว” IL เป็น “อิว”
คำตัวอย่าง :
- Portugal (โปรตุเกส)
- Brasil (บราซิล)
- Hotel (โรงแรม)
- Sol (ดวงอาทิตย์)
- Azul (สีฟ้า)
1.5. เสียงตัวสะกด S X Z
ฝั่งยุโรปจะออกเสียงไปทาง “ช” (ตัว IPA เป็น /ʃ/ และตัวสะกด X บางกรณีจะออกเสียงนี้) หรือไปทาง “จ” (ตัว IPA เป็น /ʒ/) แต่ฝั่งบราซิลจะออกเสียงไปทาง “ซ” หรือ “ส” (ตัว IPA เป็น /s/ และ /z/)
คำตัวอย่าง :
- Português (ภาษาโปรตุเกส)
- Exceção (การยกเว้น)
- Texto (การเขียน ข้อความ เรียงความ)
- Xadrez (หมากรุก)
- Mesmo (สิ่งที่เหมือนกัน)
2. เสียงสระ
2.1. เสียงตัว E
ฝั่งยุโรปมักจะออกเป็นเสียง E แบบไม่เน้นเสียง ตัว IPA เป็น /ɨ/ เสียงออกไปทาง “อึ” (แหล่งเรียนรู้หรือตำราส่วนหนึ่งจะมองว่า เสียง “อึ” นี้เบาจะถือว่าละเสียงนี้ได้) แต่ฝั่งบราซิลจะออกเสียงไปทาง “เอะ” หรือ “อิ” (มีตัว IPA เป็น /e/ หรือ /i/)
เสียงสระ E ที่ตรงกับตัว IPA /ɨ/ ในภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปเป็นผลจากการที่ภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปเป็นภาษาแบบ Stress-timed ซึ่งระยะเวลาออกเสียงของพยางค์ที่เน้นเสียง (Stress) จะค่อนข้างเท่ากัน จึงออกเสียงสระชัดเจนเฉพาะพยางค์ที่เน้นเสียง ส่วนพยางค์ที่ไม่เน้นเสียง จะกร่อนเสียงสระไปและออกเสียงสั้นกว่า ตัวอย่างของภาษาแบบ Stress-timed เช่น ภาษาอังกฤษ ที่เกิดเสียง Schwa (เสียงเบาออกไปทาง “เออะ”) ในพยางค์ที่ไม่เน้นเสียง
ขณะที่ภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิลจะออกเสียงสระชัดเจนกว่า เพราะภาษาโปรตุเกสฝั่งบราซิลเป็นภาษาแบบ Syllable-timed ที่ระยะเวลาของการออกเสียง “ทุกพยางค์” จะค่อนข้างเท่ากัน (ไม่ว่าพยางค์นั้นจะเน้นเสียงหรือไม่) จึงออกเสียงสระค่อนข้างชัดเจนทุกพยางค์ ตัวอย่างของภาษาแบบ Syllable-timed เช่น ภาษาสเปน
คำตัวอย่าง :
- Noite (กลางคืน)
- Chocolate (ช็อกโกแลต)
- Londres (กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร)
- Estou (Verb to be (คำกริยา “เป็น อยู่ คือ”) ใช้กับสรรพนามบุรุษที่ 1 เอกพจน์ "Eu")
เมื่ออ่านจนถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านคงจะพอเห็นภาพถึงความแตกต่างเรื่อง "การออกเสียง" ระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปกับฝั่งบราซิล ซึ่งอาจช่วยให้เราแยกภาษาโปรตุเกสทั้งสองฝั่งได้ดีขึ้น โดยเฉพาะภาษาโปรตุเกสที่เป็นภาษาพูดครับ
หากท่านชอบเนื้อหาในบล็อกนี้ สามารถกด “ติดตาม” บล็อกนี้บน Blockdit ได้ครับ...แล้วพบกันใหม่ในเนื้อหาตอนหน้า เรื่องประเด็นอื่น ๆ ของความแตกต่างระหว่างภาษาโปรตุเกสฝั่งยุโรปกับฝั่งบราซิลครับ
โฆษณา