Billion Dollar Loser ตอนที่ 4 : WeWork – Revolution at Work
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับโปรเจค Green Desk มันก็ถึงเวลาที่ทั้ง Adam และ Miguel ต้องมาลุยเต็มตัวกับโปรเจคนี้ เพราะพวกเขากำลังมองเห็นอนาคตบางอย่างกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่
2
Billion Dollar Loser ตอนที่ 4 : WeWork – Revolution at Work
โลกแห่งเทคโนโลยีกำลังเร่งเข้ามาแทนที่ Wall Street ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญใหม่ของความทะเยอทะยานทางธุรกิจของชาวอเมริกัน Coworking Space กำลังปรากฏขึ้นทั่วในเมืองใหญ่ เช่น ในนิวยอร์ก หรือ ซานฟรานซิสโก
2
Coworking Space กำลังปรากฏขึ้นทั่วในเมืองใหญ่ทั่วอเมริกา (CR:medium.com)
เหล่าฟรีแลนซ์ที่ใช้แล็ปท็อปได้เช่าโต๊ะทำงานในพื้นทีที่ใช้ร่วมกันด้วยความสวยงามแบบ DIY ความหวังของ Adam และ Miguel คือการผสมผสานระหว่างการเปิดกว้างและโลกที่คลุมเครือของสำนักงานแบบดั้งเดิม
ในช่วงฤดูใบร่วงปี 2009 เพื่อนคนหนึ่งแนะนำ Adam ให้ดูอาคารที่ 154 Grand Street ย่านโซโห มันเป็นย่านที่มีตึกระฟ้าระดับคลาส A+ ไปจนถึงตึกซอมซ่อ โดยอาคารดังกล่าวที่ Adam ได้ไปดูนั้นกำลังมีการปรับปรุงระบบทางเดินรวมถึง Facility ครั้งใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายนับล้าน
2
แม้แต่เจ้าของอาคารทรุดโทรมดังกล่าว ก็ยังไม่อยากจะทำอะไรกับมัน Miguel และ Adam ได้เดินหน้าเจรจากับเจ้าของ และการเจรจาก็เริ่มตึงเครียดเพราะทั้งคู่ต้องการให้เก็บค่าเช่าในระดับต่ำ ๆ ในขณะที่ต้องการเงินค่าก่อสร้างจำนวนมหาศาลเพื่อปรับปรุงพื้นที่ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการขยายตัวในอนาคต
แต่เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน การเจรจาก็สัมฤทธิ์ผล การก่อสร้างเริ่มขึ้นทันที โดยมีแผนที่จะเปิดทีละชั้น ทั้ง Miguel และ Adam บอกผู้เช่าว่า พวกเขาตั้งใจจะสร้างห้องออกกำลังกายที่ชั้นใต้ดินของอาคาร และกำลังคุยกับทางเทศบาลเมืองนิวยอร์กเกี่ยวกับการสร้างสวนสาธารณะในที่ว่างฝั่งตรงข้ามถนน
Miguel ต้องการทำให้ WeWork รู้สึกเป็นเหมือนสำนักงานให้น้อยที่สุด แต่ให้มันเป็นเหมือนโรงแรมบูติกเสียมากกว่า ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วเมืองนิวยอร์ก
WeWork ต้องการเป็นมากกว่าสำนักงาน หัวใจสำคัญที่ Adam และ Miguel วางตำแหน่งของ WeWork คือ การเสนอทางเลือกให้กับความฝันแบบ American Dream ซึ่งมันไม่ใช่รูปแบบองค์กรสมัยโบราณที่ต้องไต่เต้าตำแหน่งเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดขององค์กรอีกต่อไป
1
เฉกเช่นเดียวกับผู้ประกอบการหลาย ๆ คน Adam นั้นชื่นชอบ Steve Jobs และมองเป็นไอดอลของเขา ความทะเยอทะยานที่สุดที่เขาได้แนวคิดจาก Jobs คือ การขับเคลื่อนองค์กรโดยไร้ซึ่งความปราณี แบบที่ Steve Jobs ทำกับ Apple
2
เหล่าพนักงานกลุ่มแรก ๆ ของ WeWork หลายคนรู้สึกงงงวยกับอารมณ์ที่แปรปรวนของ Adam WeWork เองก็ไม่ได้เสนอเงินเดือนจำนวนมาก และไม่ได้ให้ตัวเลือกในการจัดสรรหุ้นให้กับพนักงาน มีแต่คำพูดลอย ๆ ของ Adam ที่บอกว่า WeWork จะช่วยสร้างวิธีการทำงานที่ดีขึ้น และเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ขึ้น
4
แม้ในช่วงแรก Adam จินตนาการถึงบริษัท ที่มีสำนักงานกว่าร้อยแห่ง และ บอกกับเพื่อน ๆ เขาว่า เขากำลังสร้างธุรกิจแสนล้านดอลลาร์อยู่ แต่ไม่มีใครในโลกแห่งอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก ที่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับสไตล์การแต่งตัวของ Adam ด้วยเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ของเขา
ในการประชุมด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ Park Avenue ทาง Adam ได้ถามผู้เข้าร่วมประชุมคนหนึ่งว่า บริษัทใดที่ให้เช่าพื้นที่สำนักงานมากที่สุดในนิวยอร์ก คำตอบคือ JPMorgan ซึ่งมีพื้นที่สามล้านตารางฟุต WeWork นั้นมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงเล็กน้อยในตอนนั้น แต่ Adam ก็มีความฝันว่าเขาจะแซงหน้า JPMorgan ได้ในสักวันหนึ่ง
Adam และ Miguel มักจะจับมือทำงานร่วมกันในทุกส่วนของการดำเนินงานของ WeWork โดย Adam นั้นให้อำนาจเต็มที่กับ Miguel ในการจัดการรูปแบบของพื้นที่ใหม่แต่ละแห่ง
Adam จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการก้าวเข้าสู่บทบาทซีอีโอ โดยรวบรวมวิสัยทัศน์ของบริษัท แสวงหาพันธมิตรที่มีศักยภาพ เขาเริ่มมีชื่อเสียงไปทั่วนิวยอร์ก ต้องบอกว่า Adam เป็นคนช่างฝันและเป็นคนคอยจัดการสิ่งต่าง ๆ ส่วน Miguel นั้นทำให้ WeWork แตกต่าง
3
เริ่มมีการสร้างลำดับชั้นของพนักงานขึ้นใน WeWork ซึ่ง Adam ได้รวมรวมพนักงานกลุ่มหนึ่งและมอบหน้าที่ให้กลายเป็นทูตของ Brand “WeWork” และต้องแต่งตัวตามสไตล์ของเขา
Adam นั้นสวมเสื้อยืดและกางเกงยีนส์เกือบทุกวัน แต่เสื้อของเขามาจากร้าน James Perse และมีราคา 200 เหรียญ “มันเป็นเสื้อยืดที่มีความแตกต่าง” Adam กล่าวกับทีมของเขา
เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ที่ Adam นั้นใส่มาทำงานแทบทุกวัน (CR:The News Republic)