24 มิ.ย. 2021 เวลา 08:51 • หนังสือ
สรุปหนังสือ | หนังสือเสียง EP.23 | เชื่อเถอะอย่าเยอะเกิน Don’t sweat the small stuff โดยริชาร์ด คาร์สัน (อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่)
✅หนังสือเล่มนี้มีมุมมองความคิดที่เน้นเรื่องอะไรควรใส่ใจ ควรมอง ควรทำ …เพื่อให้เราสงบสุขมาจากข้างใน …การเปลี่ยนโลกภายในก่อน ภายนอกก็จะเปลี่ยนตาม …เหมือนเปลี่ยนแว่นตาที่ใช้มองโลก เราแก้ไขภายนอกไม่ได้ แต่แก้ไขภายในตามที่เราต้องการได้ …แล้วโลกของคุณจะอยู่ในการควบคุมของคุณเอง ..เล่มนี้อ่านแล้วมีความสุขมากค่ะแล้วก็สงบใจจริงๆค่ะ
....การค้นพบยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงอายุของข้าพเจ้าก็คือมนุษย์เปลี่ยนไปชีวิตได้ด้วยการเปลี่ยนทัศนคติของตน: วิลเลียม เจมส์
....มีกฎสองข้อในการใช้ชีวิตด้วยใจที่สุขสงบ....อย่าเสียเวลากับเรื่องเล็ก....ทุกอย่างล้วนไปเรื่องเล็ก : ดร. เวย์น ไดเออร์
1
🌷เมื่อใดที่ต้องรับมือกับเรื่องร้ายๆ คนเราจะมีปฏิกิริยาเกินกว่าเหตุ ...วิตกกังวล ...หยุดมัน...ทำให้เวลาของเราก็จะถูกดึงด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ...เช่น...หงุดหงิด...รำคาญ...ทำให้เราขัดข้องใจ...ขวางไม่ให้เราได้รับสิ่งที่ต้องการ...เราจะไม่เห็นภาพใหญ่...เพ่งมองแต่แง่ลบ...เราใช้ชีวิตราวกับมันเป็นภาวะเร่งด่วนที่ใหญ่โตและดูวุ่นวาย...พยายามแก้ไขปัญหา...แต่ในความเป็นจริงคือเราเอาปัญหาทั้งหมดมาปนกันแล้วก็ทำ ...แล้วก็ทำให้มันดูเป็นเรื่องใหญ่...เราเลยใช้ชีวิตกับดราม่า
2
🌷ปล่อยตัวเองให้ลองไหลไปตามกระแส+การเรียนรู้ที่จะตอบพี่สนองต่อชีวิตอย่างนุ่มนวลและผ่อนคลาย... แทนที่จะยึดติดเปลี่ยนสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้.....ยอมรับสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง
🌷อย่าปล่อยให้ตัวเองจมกับสิ่งต่างๆที่มันเล็กๆ...ทำให้ลืมความงดงามและมหัศจรรย์ของชีวิต เช่น มีคนขับรถปาดหน้า,การเงิน,เข้าคิว,ฟังคำวิจารณ์ที่ไม่เป็นธรรม
🌷ปรองดองกับความไม่สมบูรณ์แบบ
....ผมยังไม่เคยเจอผู้นิยมความสมบูรณ์แบบสุดๆที่มีชีวิตอย่างสงบสุขเลยซักคน....เมื่อเรายึดติดอะไรบางอย่างว่าต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่ง....ต้องให้มันดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่....เท่ากับเราได้เข้าร่วมสงครามที่เราเป็นฝ่ายแพ้ตั้งแต่แรก.....แทนที่จะพึงพอใจและรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตัวเองมี......เมื่อเราให้ความสำคัญกับข้อบกพร่องเราก็จะรู้สึกไม่พอใจไม่สบอารมณ์
🌷การมุ่งไปที่ความไม่สมบูรณ์แบบเป็นการดึงเราออกจากเป้าหมายของความอ่อนโยนมีเมตตา....นี่พูดถึงการยึดติดและให้ความสำคัญกับความผิดพลาดในชีวิตมากเกิน ....ชีวิตเป็นไปตามวิถีทางของมัน....ถึงไม่มีการตัดสินของคุณทุกอย่างก็ยังไปต่อได้
🌷เลิกคิดว่าคนอ่อนโยนและผ่อนคลายจะไม่สำเร็จในระดับสูง
.....ความกลัวและความกังวลกระวายนั้นกินพลังงานมหาศาล.....ยังบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์และทรมาณใจ....ปิดกั้นศักยภาพสูงสุดของตัวเอง.....ความเบิกบานใจเมื่อเราสงบใจจะจดจ่อมุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายและมอบสิ่งดีดีให้คนอื่นได้ง่ายขึ้นขึ้น
1
🌷ใช้กระดาษจดสิ่งที่ต้องทำไม่อย่างนั้นจะสร้างสโนว์บอลในใจ
......คือความคิดซ้ำไปมาในสิ่งที่ต้องทำ เช่น พรุ่งนี้ต้องโทรศัพท์สายสำคัญ....คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าต้องโทรเยอะมาก.....รู้สึกถูกรุมเล้าจากทุกทิศทาง.....รู้สึกยุ่งมากกระวนกระวายและไม่สงบ
🌷เราไม่อาจทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่บนโลกนี้.....เราทำได้เพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆด้วยความรักอันยิ่งใหญ่....แม่ชีเทเรซ่า
.....แล้วบ่มเพาะความเมตตากรุณาได้ด้วยการฝึกฝน....เกี่ยวข้องกับสองสิ่ง คือ....ความตั้งใจที่จะไม่ลืมเปิดใจให้ผู้คน.....และสิ่งที่เราทำกับความตั้งใจนั้น
......ความเมตตากรุณาช่วยเพิ่มพูนความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ....ดึงความสนใจออกจากเรื่องเล็กน้อยเพราะข้อบกพร่องในเรื่องเล็กๆที่เราเปลี่ยนเป็นเรื่องใหญ่
🌷เตือนตัวเองว่าต่อให้เราตายไปตะกร้างานก็ไม่มีวันว่างเปล่า
.....เราใช้ชีวิตราวกับมีเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จทุกอย่าง.....อยู่ดึกดื่น....ตื่นเช้าตรู่....หลีกเลี่ยงความสนุกสนาน....บอกให้คนที่เรารักเราคอย....หมกมุ่นกับสิ่งที่ต้องทำ
....เป้าหมายของชีวิตไม่ใช่ทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้น....แต่เป็นการมีความสุขกับแต่ละย่างก้าวในระหว่างทาง...ยังไงตะกร้างานไม่มีวันว่าง ....ธุระเกือบทุกอย่างรอได้ .....ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขและความสงบใจ
2
🌷อย่าขัดจังหวะคนอื่นเลยชิงตอบประโยคให้เค้า
(เป็นนิสัยปกติมากๆของคนที่มีธุระยุ่ง)จะกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายเร่งโพลาคิดให้เร็วขึ้นทำให้ประสาทเสียหงุดหงิดและรำคาญผู้สนทนารู้สึกว่าไม่ได้รับฟังสิ่งที่พวกเขาพูดหากรู้ว่าตัวเองชอบขัดจังหวะคนอื่นให้หยุดคอนเสิร์ตศาลด้วยจะผ่อนคลายมากขึ้นนะรู้สึกว่ามีคนรับฟังและเข้าใจเราก็ผ่อนคลายมากขึ้นเหมือนกัน กลายเป็นคนน่ารักและผ่อนคลาย
🌷เวลาเราทำดี…เราอยากให้คนอื่นรู้ เพื่อให้เขายกย่องชื่นชมเรา
…แต่ว่าถ้าสมมุติว่าเราทำดีโดยไม่ปริปากบอกใคร …จะทำให้มหัศจรรย์ยิ่งกว่าทำให้รักษาความรู้สึกบวกทั้งหมดไว้ได้ …เป็นความรู้สึกอบอุ่นหัวใจจากการให้
2
🌷ยอมให้คนอื่นได้หน้า
…การที่ต้องการความสนใจมากเกินไป ยึดติดกับอัตตาตัวตนเป็นศูนย์กลาง …เรื่องราวของฉันน่าสนใจกว่าเรื่องของคุณ …เพื่อให้คนอื่นเชื่อว่าเราเป็นคนพิเศษ …ซึ่งเกิดจากการที่คนอื่นต้องสูญเสียอะไรบางอย่าง …ทำให้ความเบิกบานใจอีกฝ่ายลดลง เป็นช่องว่างคนกับคนอื่นมีแต่เสียกับเสีย
…แก้ไขโดยให้ความเบิกบานไปกับความภูมิใจของคนอื่นแทน …แทนที่จะพูดว่าเคยทำเหมือนกันให้พูดว่าเยี่ยมไปเลย ….ฝ่ายตรงข้ามจะรู้สึกผ่อนคลาย ..ทำให้เค้ามั่นใจและน่าสนใจยิ่งกว่าเดิม …ทำให้เรามั่นใจลึกๆอยู่ข้างใน
🌷ปัจจุบันคือที่ที่ต้องอยู่เสมอ
….ไม่ต้องคำนึงถึงเมื่อวาน …ปีที่แล้วหรือพรุ่งนี้ …เป็นการผัดความสุขในใจ …สิ่งที่เราบอกว่าสำคัญกับชีวิตและเลื่อนความสุขออกไปก่อน …ซักวันนึงมันมาไม่ถึง เราจึงพลาดโอกาสไป
…ชีวิตปัจจุบันเป็นช่วงเวลาเดียวที่เราควบคุมได้ …วิธีที่ต่อสู้ที่ดีสุดกับความกลัว คือการดึงความสนใจมาอยู่ปัจจุบัน (มาร์ค ทเวน)
1
🌷จินตนาการว่าทุกคนกำลังสอนอะไร
…คุณทำให้ตัวเองรำคาญ ทุกข์ร้อนและหงุดหงิดจากการกระทำไม่สมบูรณ์แบบของคนอื่นน้อยลง …ถามตัวเองเสมอว่าเขากำลังสอนอะไรเรา เช่น ทำงานที่คนไม่ชอบก็คือทำให้ฝึกความอดทน …ทำแบบนี้จะรู้สึกว่าสนุกสนานและง่ายดาย
🌷อดทนให้มากขึ้น
…ยอมรับสิ่งที่เป็นอยู่ได้…แทนที่จะดึงดันให้ชีวิตเป็นอย่างที่อยากเป็น=ทำให้หงุดหงิดรำคาญ
…อาศัยการเปิดใจให้กับปัจจุบัน…หยุดการสร้างสโนว์บอลก่อนที่ความคิดจะเหนือการควบคุม…และให้ตัวเองผ่อนคลาย ให้คิดว่าเป็นเรื่องเล็ก และเล็งเห็นความบริสุทธิ์ใจในตัวผู้อื่น เช่น ลูกมาขัดจังหวะตอนทำงาน ให้มองว่าลูกมาเพราะลูกรักเราไม่ใช่วางแผนมาขัดจังหวะ
1
🌷เมื่อหงุดหงิด…ให้จินตนาการว่าคนนั้น…เป็นทารกน้อยและผู้ใหญ่อายุ 100 ปี
…ทารกน้อยย่อมทำสิ่งผิดพลาด…วัยไม้ใกล้ฝั่งฉายแววแห่งปัญญา+การยอมรับความผิดพลาด
🌷เลือกเรื่องที่จะรบอย่างชาญฉลาด
…จะทำให้เป็นเรื่องใหญ่หรือวางเฉย …การรบทำให้ใช้ชีวิตแบบเคร่งเครียด …ถ้าไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ ไม่ต้องสู้รบกับอะไรเลย …ไม่ต้องพิสูจน์ว่าใครถูกหรือผิด …ไม่จำเป็น
🌷พยายามเข้าใจคนอื่นก่อน
…เข้าใจที่มาที่ไปของคน…เค้ากำลังพยายามบอกอะไร…อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับเขา …ความเข้าใจจะเกิดโดยธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายาม …แก้ไขโดยเลิกขัดจังหวะกันและกัน …รับฟังอย่างตั้งใจแทนที่จะปกป้องจุดยืนของตน …การเข้าใจคนอื่นก่อนไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครถูกหรือผิด …แต่เป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิผล
🌷มองให้พ้นจากพฤติกรรม / เห็นความบริสุทธิ์ใจ
…เช่น …อย่าไปถือสาเค้าเลย…เค้าไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ …มีความคิดเชื่อมั่นในตัวคนอื่น …เหมือนการรักลูก ที่ไม่ได้รักเพราะยึดพฤติกรรมเป็นหลัก …เข้าใจให้ถึงเบื้องหลังการกระทำที่แปลกๆนี้
…มองให้พ้นพฤติกรรมนั้น …เราจะไม่หัวเสียกับพฤติกรรมคนอื่น …เวลาใครทำสิ่งที่เราไม่ชอบให้ถอยออกห่างและมองไปเบื้องหลังพฤติกรรมนั้น
🌷เลือกเป็นคนมีเมตตามากกว่าเป็นฝ่ายถูก
…เหตุผลที่เราดูถูก ตำหนิ …แสดงว่าเขาผิดเราถูก คือ อัตตาที่เราเชื่อแบบผิดๆ …เราจะรู้สึกแย่มากกว่าเดิม …แต่หากเราทำให้เขารู้สึกดีขึ้น …ร่วมเบิกบานใจกับเขา …ชมเชยเขา เราจะรู้สึกดี
…ถามตัวเองต้องการอะไรแน่จากปฏิสัมพันธ์นี้ …ใจแข็งไม่เถียงให้เป็นฝ่ายถูก + เลือกเมตตาแทน…จะสงบสุขในใจ …เลือกความสุขมากกว่ามีความดีความชอบ …หากยืนกรานว่าต้องเป็นฝ่ายถูก มักต้องแลกด้วยบางสิ่ง
1
🌷ฝึกความอ่อนน้อมถ่อมตน
…ยิ่งพิสูจน์ตัวเองกับคนอื่นน้อยลง…ยิ่งสงบใจมากขึ้น …การพิสูจน์ตัวเองใช้พลังงานมหาศาล…พยายามให้คนสนใจเรา …โอ้อวด …พยายามโน้มน้าวให้เห็นคุณค่าเรา …คนยิ่งปลีกตัวออกห่าง…คนที่มีความมั่นใจไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองดูดี …ต้องเป็นฝ่ายถูก …เอาหน้า …โอ้อวด …ให้แบ่งปันออกจากใจ …ไม่ใช่จากอัตตา
1
🌷เป็นผู้ฟังที่ดีกว่าเดิม
…หลีกเลี่ยงการขัดจังหวะตอนคนอื่นพูด / จบประโยคแทนเขา …พึงพอใจที่จะรับฟังความคิดทั้งหมด …ไม่ใช่รอจังหวะโต้ตอบอย่างกระสับกระส่าย …การชะลอการโต้ตอบ+ตั้งใจฟังทำให้สุขสงบ …ไม่กดดัน…ผ่อนคลาย…ยกระดับความสัมพันธ์ …ทุกคนชอบคนที่ตั้งใจฟัง
🌷ยินดีเรียนรู้จากเพื่อนๆและคนในครอบครัว
…ยอมรับคำเทศนา + คำแนะนำจากพวกเค้า โดยไม่ปิดกั้น …ความอาย + กลัว + ดื้อร้ัน + ทะนงตน
🌷หายใจก่อนพูด
…อดทนสูงขึ้น / มีมุมมองใหม่ๆเพิ่มไ / ด้รับความขอบคุณ+เคารพจากผู้อื่นมากขึ้น (อาจรู้สึกนานแต่แค่เสี้ยววินาที) ไม่ใช่รอให้ถึงตาตัวเองพูด ปล่อยให้คนอื่นแสดงความคิดเห็นจนเสร็จสิ้น
🌷ฝึกเป็นนักมนุษย์วิทยา
…คือสนใจคนอื่นโดยไม่ตัดสินเขา ทำให้เรามีความกรุณา+อดทนอดกลั้นมากขึ้น …จะอยากเข้าใจความรู้สึกเขา+หงุดหงิดน้อยลง
…มองผ่านแว่นตาของเขา ว่าเขามีวิธีคิด+มองอย่างไร …ไม่ใช่ว่าวิธีของเราดีกว่าหรือถูกกว่า …การตัดสินคนอื่นใช้เวลามหาศาล+ดึงคนออกจากจุดที่อยากไปให้ถึง
🌷เข้าใจว่าแต่ละคนมองโลกต่างกัน
…วัฒนธรรมแต่ละประเทศต่างกัน ต่างสถานที่ …ความคิด / การมองโลกต่างกัน …อย่าคาดหวังว่าคนอื่นจะมองเหมือนเรา …จะลดความขัดแย้ง …เห็นคุณค่าในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทุกคน
🌷แทนที่จะปกป้องจุดยืนของตัวเอง…ลองเข้าใจมุมมองของอีกฝ่ายก่อน
…การเข้าข้างตัวเองเป็นอัตราที่ไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่ + สร้างความเครียด (ฝ่ายตรงข้ามปกป้องตัวเอง) …อธิบายหน่อยทำไมถึงคิดแบบนั้น …ให้เขาพอใจกับการเป็นฝ่ายถูก …ไม่ได้ทำให้เราอ่อนแอ / ตัวเองผิด …เป็นการพยายามเข้าใจอีกมุมมอง …เขาจะซาบซึ้ง+เคารพคุณ …อาจฟังมุมมองเราด้วย (เราไม่ฟังเขา+เขาก็ไม่ฟังคุณ)
🌷สร้างช่วงเวลาฝึกความอดทน
…เช่น 5 นาทีต่อจากนี้จะไม่ปล่อยตัวเองอารมณ์เสีย…ทำให้อยู่กับปัจจุบัน…มีมุมมองที่กว้างไกล…แม้ในสถานการณ์ยากลำบาก…จะระลึกได้ว่าเป็นสิ่งท้าทาย อุปสรรคเล็กๆที่ต้องจัดการไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ
🌷รู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง+อย่าหลงไปกับอารมณ์ด้านลบ
…เวลาอารมณ์ดีชีวิตจะยอดเยี่ยม …แก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง …ความสัมพันธ์ราบรื่น
…อารมณ์ไม่ดี …จริงจัง …ยากลำบาก …มุมมองคับแคบ …ตีกรอบความคิดคนรอบข้างผิด …ไม่เห็นภาพรวม …ทุกอย่างดูเร่งด่วน
…อารมณ์…ทำให้เรารับรู้สถานการณ์เดียวกันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
…โกรธ …ขัดข้องใจ …ตึงเครียด …ซึมเศร้า =กำลังรู้สึกปกป้องตัวเอง
.เวลาอารมณ์เสียคิดว่าเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ …เดี๋ยวก็ผ่านไป …อย่าวิเคราะห์ตัวเองตอนจิตตก …ให้ขอบคุณอารมณ์ดีๆ
1
🌷จงปิติเมื่อรู้สึกดี+ไม่ลนลานเมื่อรู้สึกแย่
…คนทุกคนมีอารมณ์สุข+หดหู่+ผิดหวังทั้งนั้น …แต่ไม่ได้จากมีความบ่อยแค่ไหน …แต่ว่าจากทำอย่างไรกับอารมณ์นั้น …คนส่วนใหญ่ซึมเศร้าหดหู่ จะพยายามจัดการ เพื่อผลักดันอารมณ์นั้นออกไป …เป็นการเพิ่มปัญหาแทนการแก้
…แต่คนสงบสุข เค้ารู้ว่าทุกอย่างมีเกิดขึ้นก็มีดับ …ให้ยอมรับความรู้สึกตัวเอง / ไม่ต้องใส่ใจ / ไม่ต่อต้าน …เดี๋ยวความรู้สึกลบก็จะผ่านไป …เหมือนพระอาทิตย์ตก
🌷พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี / พึ่งพาการยอมรับจากคนอื่นน้อยลง
…ความคิดเรากับความคิดคนอื่นไม่ตรงกันเสมอไป
🌷เติมความรักให้ชีวิต
…เริ่มจากภายใน …เป็นวิสัยทัศน์ + แหล่งกำเนิดความรักเอง …ใช้ความเมตตาของเราเอง
…ระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างจุด2จุด คือความตั้งใจ …มอบความรักออกไป เป็นสิ่งที่ควบคุม
🌷ลดระดับความอดทนต่อความเครียด
…คนรับมือความเครียดได้มาก…มักตกอยู่ในความเครียดมหาศาล คนมักยกย่องคนทำงานหนัก+เครียดสุดๆ เป็นสิ่งที่เข้าใจผิด …สังเกตความเครียด ถอยออกมาทบทวนตัวเอง …หากเริ่มควบคุมไม่ได้…ทุกอย่างอยู่เหนือความควบคุม…ข้องใจไปหมด …แทนที่จะลุย ให้ไปเดินเล่นสักครู่เมื่อจิตใจกระจ่างสงบ…จะมีประสิทธิภาพ…สนุกสนาน…มีความคิดสร้างสรรค์
🌷แสดงความรักก่อน+ยื่นมือออกไปก่อน
…เป็นหนทางที่จะให้อภัยและฟื้นมิตรภาพ…ไม่ยึดติดกับความขุ่นเคืองเล็กๆน้อยๆที่เกิดจากการโต้เถียงหรือเข้าใจผิด ซึ่งการยึดติดนี้เปลี่ยนเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่…คิดว่าจุดยืนสำคัญกว่าความสุข…ความสุขคือการปล่อยวาง+ยื่นมือออกไป …ยอมให้คนอื่นเป็นฝ่ายถูก (แม้เราไม่ได้ผิด) เค้าจะปกป้องตัวเองน้อยลง ทำให้สงบสุข
1
🌷เขียนจดหมายจากใจสัปดาห์ละครั้ง
…เพื่อแสดงความรัก…ความรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณ …เป็นของขวัญที่มาจากใจ…ทำให้มุ่งความสนใจไปสิ่งที่ถูกที่ควรในชีวิต …คนได้รับจดหมายจะประทับใจ+ซาบซึ้ง=เป็นจุดเริ่มต้นของวงจรความรัก
🌷ฝึกสุ่มส่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และหยิบยื่นความงามโดยไม่ต้องมีเหตุผล
…ก่อให้เกิดการกระทำที่มีเมตตาต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เช่น …จ่ายค่าทางด่วนให้คันข้างหลัง …เก็บขยะในละแวกบ้าน …บริจาคเงินโดยไม่ออกนาม
🌷สร้างรูปแบบการช่วยเหลือของคุณเอง เช่น เก็บขยะแถวบ้าน กวาดหิมะออกจากทางจอดรถหน้าบ้านคนอื่น ทำประโยชน์อะไรเล็กๆน้อยๆได้ให้ทำไป
🌷ถือคติว่าการให้ความช่วยเหลือเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต
…เริ่มต้นชีวิตแต่ละวัน ด้วยการถามตัวเองว่าจะช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไรบ้าง =เตือนให้ทำตัวให้มีประโยชน์ต่อผู้อื่น …เป็นการให้รางวัลโดยตัวมันเอง …ได้ความสุขสงบ
🌷ให้ความช่วยเหลือโดยไม่ร้องขอ / คาดหวังสิ่งตอบแทน
…ไม่ใช้การเก็บแต้ม (ฉันทำอันนี้แล้ว…เธอทำอันนั้นสิ)
🌷เมื่อพยายามจะช่วยเหลือให้มุ่งความสนใจไปยังเรื่องเล็กๆ
…แม่ชีเทเรซ่า…เราไม่อาจทำสิ่งยิ่งใหญ่บนโลกนี้ …เราทำได้เพียงสิ่งเล็กๆด้วยความรักอันยิ่งใหญ่…เราไม่อาจเปลี่ยนโลก…ให้มุ่งไปทำในสิ่งที่เราทำได้เล็กๆน้อยๆที่ทำได้ตอนนี้
🌷รับอุปการะเด็กทางจดหมาย
…เป็นความอิ่มเอมเบิกบาน รับรู้เรื่องราวชีวิตกันและกัน …เตือนว่าคุณโชคดีที่อยู่ในสถานะผู้ให้ความช่วยเหลือ
🌷เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการคิดถึงใครที่อยากจะขอบคุณ
…ทำให้รู้สึกสงบ…เห็นคุณค่าของผู้คน…ให้เพ่งสมาธิกับสิ่งดีงาม
🌷บอกคน3คนว่าคุณรักเขาแค่ไหน (ในวันนี้เลย)
…หากคุณมีเวลาใช้ชีวิตอีก 1 ชั่วโมง + โทรศัพท์ได้1 ครั้ง …จะโทรหาใคร …พูดอะไรและรออะไรอยู่(สตีเว่น เลอวีน) …อย่ารอนานเกิน …ไม่มีเหตุผลที่ต้องรอ …บอกเขาว่าใส่ใจเขาเพียงใดให้เคยชิน
🌷บอกคนอย่างน้อย1คนทุกวัน ถึงสิ่งที่คนชื่นชอบ +ชื่นชม+ยกย่องในตัวเขา
…อย่าคิดว่าเค้ารู้อยู่แล้ว /เขิน …การชื่นชมเป็นการส่งความเอื้อเฟื้อ …ทุกคนอยากให้คนอื่นยอมรับ+เป็นคนพิเศษ …ยิ่งมาจากคนแปลกหน้า ยิ่งรู้สึกว่ามาจากใจ …สร้างความคิดแง่บวก+ความสุขในใจเรา
🌷เจียดเวลาวันละนิด คิดถึงใครสักคนที่จะรัก
…เหมือนกินแอปเปิ้ลวันละผล ช่วยให้ห่างไกลหมอ …คิดถึงคนที่จะรักวันละคน ช่วยให้ห่างไกลความขุ่นเคือง …หากเพ่งไปที่แง่ลบ จะหงุดหงิดรำคาญ …ให้พลังกับสิ่งไหน สิ่งนั้นจะใหญ่
…ขึ้นถามตนเอง …วันนี้ฉันจะส่งความรักไปให้ใครดี …นึกภาพเค้าทำให้หัวใจอิ่มเอิบมีความสุข
🌷ยิ้มให้คนแปลกหน้า…มองเข้าไปในตา…เอ่ยทักทาย
🌷ปลูกต้นไม้
…เป้าหมายสำคัญของความสุขสงบ คือเรียนรู้ที่จะรักอย่างไม่มีเงื่อนไข …ไม่ใช่รักเพราะทำบางอย่าง …เปลี่ยนตัวเองเพื่อฉัน …เหมือนสัตว์เลี้ยงรักเรา …ฝึกฝนรักต้นไม้ + ดูแลมันเหมือนลูก
🌷ถามตัวเองว่า…เรื่องนี้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้ายังสำคัญอยู่ไหม…
…จินตนาการว่าสิ่งที่เรากำลังทุ่มเท อีกหนึ่งปีข้างหน้ายังสำคัญอยู่ไหม ทำให้รู้ว่าเรื่องไหนจริงจัง ควรทุ่มเทหรือไม่
🌷นับหนึ่งถึง 10
…หายใจนับหนึ่งถึง 10 ตอนโกรธ = เป็นการจัดการความเครียด / ความข้องใจ / ความรู้สึกไม่ดี / ช่วยให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก / ผ่อนคลาย
🌷ฝึกที่จะอยู่ในดวงตาแห่งพายุ
…ช่างสงบนิ่งทั้งๆที่รอบๆปั่นป่วน …โดยฝึกหายใจ / รับฟัง / ให้คนอื่นเป็นฝ่ายถูก / ให้เขาได้หน้า…ทำให้อยู่กับปัจจุบัน …รับมือกับความยากลำบาก …ฝึกฝนไปเรื่อยๆ
🌷ยอมรับว่าชีวิตไม่ยุติธรรม
…เราจะไม่จมกับความสงสารตัวเอง กระตุ้นให้เราทุ่มสุดกำลังกับสิ่งที่มีอยู่…เป็นความท้าทาย
…ทุกคนมีจุดแข็ง+ความท้าทายเฉพาะตัว…ความสงสารเป็นอารมณ์บ่อนทำลายตัวเอง ฉุดตัวเองออกจากความสงสาร + ผลักดันให้ทำในสิ่งที่มีประโยชน์…ไม่ได้เป็นเหยื่อ
🌷ชีวิตคือบททดสอบ / เป็นเพียงบททดสอบ
…เตือนตัวเองไม่ให้จริงจังกับชีวิตมากเกินไป …ทุกปัญหาเป็นโอกาสให้เติบโต …ได้ยืดหยุ่นไปกับสถานการณ์ …แต่หากมองว่าต้องเอาชนะเพื่อความอยู่รอด…จะตกอยู่ในการเดินทางแสนเข็ญ
…แทนที่จะดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรค …ให้ดูว่ามีอะไรที่เรียนรู้ได้บ้าง …ทำไมเกิดปัญหานี้ในชีวิต …หมายความว่าอะไร …ต้องทำอย่างไรถึงก้าวผ่านไปได้ …มองมุมอื่นได้หรือไม่ …เป็นบททดสอบอย่างไรบ้าง…ยอมรับในแบบที่มันเป็น
🌷ยอมให้ตัวเองรู้สึกเบื่อหน่าย
…สมัยนี้คนนั่งเฉยๆโดยไม่ทำอะไรไม่ได้…ถ้ายอมให้ตัวเองเบื่อหน่ายโดยไม่ต่อต้านมัน…ความสงบสุขจะเข้ามาแทนที่…ฝึกฝนไปจะรู้จักวิธีผ่อนคลาย=อยู่กับปัจจุบัน
…ความวิตกกังวล+การดิ้นรนภายใน…เกิดจากจิตใจที่วุ่นวาย+มีปฏิกิริยาเกินกว่าเหตุ=เลยต้องการความบันเทิง…กลัวความคิดว่าไม่มีอะไรทำ…จิตใจเมื่อได้พัก จะแข็งแกร่ง คมชัด มีสมาธิสร้างสรรค์กว่าเดิม
🌷หาเวลาเงียบๆให้ตัวเองทุกวัน ทำให้ผ่อนคลายมีสติและรู้สึกขอบคุณ + เปลี่ยนเป็นคนตื่นเช้า เพื่อมีเวลาให้กับตนเอง
🌷มีความสุขใจจุดที่คุณอยู่
…อย่าคิดว่าสักวันจะมีความสุข + ดีขึ้น …ให้มีความสุขตอนนี้เลย คือวิธีที่เราใช้
…ดีโชว์ซา…เป็นเวลาเนิ่นนานที่ผมรู้สึกราวกับชีวิตที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นเสียที แต่มักมีอุปสรรคเข้ามาขวางการเสมอ ผมต้องฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นน่ะให้ได้เสียก่อน กิจธุระที่ยังค้างค้าง เวลาที่ยังต้องเผื่อไว้ทำสีต่างๆ หนี้สินที่ต้องหาเงินมาชำระ …จากนั้นชีวิตถึงจะได้เริ่มต้น แต่ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่า อุปสรรคเรานั่นแหละคือชีวิตของผม
🌷ทำใจให้สงบ
…ปาสกาล…ปัญหาทุกอย่างของมนุษย์ เกิดจากการที่มนุษย์ไม่สามารถนั่งเงียบๆอยู่ในห้องเพียงลำพัง …เทคนิคการทำให้ใจสงบคือการนั่งสมาธิ ฝึกโยคะ
🌷จินตนาการว่าคุณอยู่ที่งานศพของตัวเอง
…ทำให้ย้อนมองชีวิต…ขณะยังมีโอกาสสร้างความเปลี่ยนแปลงสำคัญบางอย่างอยู่ …เตือนให้ระลึกในแบบที่คุณอยากเป็น…และจัดลำดับความสำคัญ = เป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงอันยอดเยี่ยม
🌷ใช้ชีวิตในวันนี้ให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย
…เราใช้ชีวิตเหมือนเป็นอมตะ …ผัดวันประกันพรุ่ง …อ้างข้อจำกัดของตัวเอง …ชีวิตสำคัญเกินกว่าจะจริงจังกับมันมากเกินไป …อย่าเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ
🌷อีก 100ปีนับจากนี้ทั้งโลกจะมีแต่คนใหม่ๆ
…สิ่งที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้อีก 100 ปีก็ไม่มีใครจดจำ ใส่ใจ …ทำให้ไม่กดดัน / เครียดมากเกินไป
1
🌷อย่าตึงกับชีวิตเกินไป
…เพราะไม่ยอมรับว่าชีวิตแตกต่างจากความคาดหวัง (อยากให้ทุกอย่างเป็นไปดังหวัง)
…เบนจามิน แฟรงกลิน …มุมมองอันคับแคบ ความหวัง และความกลัว ได้กลายมาเป็นมาตรวัดชีวิตเรา …และเมื่อสถานการณ์ต่างๆไม่ได้ตรงกับความคิดเรา …มันจึงกลายเป็นความยากลำบากทุกความตึงเครียด…เราเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง + ปล่อยวางจากความคาดหวัง ยอมรับชีวิตที่เป็นคลายความยึดติด ไม่คาดหวัง ไม่ตึงเครียด
🌷ย้ำกับตัวเองว่าชีวิต…ไม่ใช่ภาวะเร่งด่วน
…คนพร้อมทำทุกอย่าง แต่ไม่ใส่ใจครอบครัว+ความฝันของตัวเอง …เพราะคิดว่าชีวิตเป็นภาวะเร่งด่วน …เป็นเราที่กดดันตัวเอง …เห็นเป้าหมายเป็นเรื่องจริงจัง…คอขาดบาดตาย…จนลืมสนุกสนานรื่นรมย์ระหว่างทาง
🌷เปลี่ยนละครน้ำเน่าให้เป็นละครน้ำดี
…เรามีปฏิกิริยาเกินกว่าเหตุ+ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ (เวลาตื่นเต้น / จริงจังกับชีวิตเกิน) …บอกกับตัวเองว่า …เอาอีกแล้วละครน้ำเน่ากำลังเริ่มเปิดฉากแล้ว …ชีวิตไม่ได้เป็นภาระเร่งด่วน
🌷เขียนทัศนคติที่ดื้อรั้นที่สุดของคุณมา5อย่าง…แล้วดูว่าทำให้อ่อนลงได้หรือไม่
…การระบุสิ่งที่ดื้อรั้นเป็นการยอมรับว่ายึดติดกับความคิดบางอย่าง …การปรับทัศนคติไม่ได้ทำให้คนอ่อนแอ…แต่ทำให้คุณเข้มแข็ง …เมื่ออ่อนลงจะพบความจริงใหม่ๆที่เราไม่เคยมอง
🌷แก้ปัญหาด้วยวิธีของเตาหุงต้ม
…การปล่อยให้จิตใจ แก้ปัญหาในขณะที่ทำอย่างอื่นอยู่ …ช่วยแก้ปัญหาและลดความตึงเครียดได้มาก
🌷เมื่อไม่แน่ใจว่าถึงเวรใครทิ้งขยะให้คุณเอาไปทิ้งเลย
…คือมัวแต่กังวลว่าจะถูกเอาเปรียบ…เหมือนต้องเป็นฝ่ายถูก …อย่ามัวแต่กังวลว่าใครทำอะไรมากกว่า …ใครทำไปเลย
🌷หยุดเสาะหาข้อบกพร่อง
…มันกระตุ้นให้หาสิ่งผิดปกติ …ชอบจับผิด …ไม่ชอบ …แทนการเห็นคุณค่า+ความสัมพันธ์+และชีวิต …ช่วงแรกที่รู้จักใคร…เราจะชื่นชม+ยอมรับความแตกต่างจากใจจริง …ว่ามีความคิดเห็น…ความชอบ…รสนิยม…ลำดับความสำคัญ …ไม่เหมือนกัน …แต่พอผ่านไปมักอยากไปเปลี่ยนคนอื่นเพื่อให้เป็นแบบเรา …หยุด
🌷อดกลั้นความวิพากษ์วิจารณ์
…การวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับคนนั้นเลย …แต่มันบอกเกี่ยวกับตัวเราเอง …ไม่มีใครอยากถูกวิจารณ์ …จะปกป้องตัวเอง / เก็บเนื้อเก็บตัว / แล้วเราจะห่อเหี่ยว / เป็นนิสัย
🌷ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อตัวคนแบบขำๆแล้วปล่อยให้มันผ่านไป
…เรามักปกป้องตัวตอนราวกับอยู่ในสงคราม …คำวิจารณ์เป็นข้อสังเกตจากคนอื่นเกี่ยวกับตัวเรา /การกระทำของเรา /ความคิดของเรา …ซึ่งไม่ตรงกับทัศนะของเราก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต …หากเราโต้ตอบแบบปกป้องตัวเอง …เป็นการเติมความโกรธลงในใจ …ให้ยอมรับ+เรียนรู้อะไรบางอย่าง จากคำวิจารณ์
…อันที่จริงปฏิกิริยาตอบสนองในแง่ลบ …ทำให้ผู้วิจารณ์เชื่อว่าเราเป็นแบบที่เขาวิจารณ์จริง …ยอมรับ / เห็นด้วย …แล้วคุณอาจจะได้อะไรบอกๆกลับมา
🌷ถ้าพูดว่าทำไม่ได้ คุณก็จะทำไม่ได้
…การอ้างเหตุผลใช้พลังมหาศาล …เมื่อคุณบอกตัวเองยังไงจะเป็นแบบนั้น …หยุดอ้างเหตุผลแง่ลบให้กับข้อจำกัดของตัวเอง …ให้บอกตัวเองในแง่บวกแทน เช่น ฉันทำไม่ได้->เป็นฉันทำได้
🌷จำไว้ว่าทุกสิ่งมีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าประทับอยู่
…สิ่งที่พระเจ้าสร้างมาล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์แฝงอยู่ …การที่เราไม่เห็นความงามในบางสิ่ง ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่ …แค่เรายังดูไม่ดีพอ / มุมมองยังไม่กว้างพอ
🌷ค้นหาเศษเสี้ยวความจริงในความคิดเห็นอื่นๆ
…ทุกคนจะรู้สึกว่าความคิดเราดีจึงไปบอกคนอื่น …แต่พอเราได้ฟังชอบไปเปรียบเทียบ ว่าเหมือน /จับผิด …ทำให้เราไม่ได้เรียนรู้อะไร …ทุกความคิดเห็นมีข้อดี แม้เพียงเศษเสี้ยวก็มี…หาให้เจอ แล้วจะเข้าใจคนตรงหน้า …ถูกดึงดูดเข้าหาพลังที่รักใคร+น่ายอมรับของคุณ +รู้สึกดีกับตัวเอง
🌷มองเป็นแก้วที่แตกแล้ว (รวมทั้งอย่างอื่นด้วย)
…ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ …ต้นไม้เกิดจากเมล็ดและสุดท้ายสู่พื้นดิน …ร่างกายเราเกิดมาและตายไป …ทุกอย่างมีสูญสลาย …จึงไม่ประหลาดใจ / ผิดหวัง เมื่อมันถูกทำลาย …จะซาบซึ้ง+ขอบคุณช่วงเวลาที่เคยมีมัน …ชื่นชมความงาม+ประโยชน์ที่ได้รับจากมัน …จะรักษาความสงบ+ชื่นชมกับชีวิต
🌷เข้าใจความหมายของคำกล่าวว่า…ไม่ว่าคุณไปที่ไหน…ตัวตนคนเดิมก็อยู่ที่นั่นด้วย
…ไม่ว่าคุณไปที่ไหน หากมีนิสัยเดิม ไปถึงไหนก็เหมือนเดิม เช่น หงุดหงิด…เปลี่ยนที่ใหม่ / อยู่กับคนใหม่ก็หงุดหงิดเหมือนเดิม …ทุกอย่างขับเคลื่อนจากภายในสู่ภายนอก
🌷ลดความก้าวร้าวลงเวลาขับรถ
…เพราะกำลังนำตัวเอง+คนรอบข้างเข้าสู่อันตราย+เครียด …ไม่ได้ไปถึงเร็วขึ้นเท่าไหร่ …เลือกใช้เวลาในรถเพื่อผ่อนคลาย + ได้คิดกับตัวเอง + มีความสุข
🌷ผ่อนคลาย
…คนเราใช้ชีวิตราวกับเป็นภาวะเร่งด่วน …ผัดผ่อนช่วงเวลาผ่อนคลายไปจนกว่าตะกร้างานจะว่างเปล่า …แต่มันไม่มีวันเป็นเช่นนั้น …ความผ่อนคลายสามารถทำได้เลย …และความคิดสร้างสรรค์…ความลื่นไหลมา …ฝึกฝนในการผ่อนคลาย
🌷อ่านบทความ+หนังสือที่มีมุมมองต่างจากคนโดยสิ้นเชิง+พยายามเรียนรู้อะไรบางอย่าง
…คนเราจะอ่าน หรือหาอะไรมาสนับสนุนสิ่งที่เราเชื่อ …แต่ความดื้อรั้นที่ปิดกั้นความคิดต่างใจที่ปิด…ก่อให้เกิดความเครียดมหาศาล …ยืดหยุ่น …เปิดรับสิ่งใหม่ …จะขยายมุมมองชีวิตให้กว้าง
🌷ทำทีละอย่าง
…เราพยายามทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน …ทำให้ไม่อยู่กับปัจจุบัน …สูญเสียความเพลิดเพลิน +สมาธิ+ประสิทธิภาพลดลง …พยายามจดจ่อกับสิ่งนั้น ทำให้มีสมาธิ+มีความสุข+ทำได้อย่างรวดเร็ว+มีประสิทธิภาพ
🌷ยืดหยุ่นกับความเปลี่ยนแปลงในแผนการต่างๆ
…เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ถามตัวเองอะไรที่สำคัญจริงๆ …แน่นอนเราจะหงุดหงิดเมื่อแผนเปลี่ยน …แต่ให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่า …แทนที่จะยึดติดกับตารางเวลาอันเข้มงวด …เรียนรู้ที่จะปล่อยไปตามกระแส / ยืดหยุ่น / คาดการณ์ล่วงหน้าว่ามีการเปลี่ยนแผน …จะผ่อนคลาย / ผลลัพธ์เท่าเดิม / มีประสิทธิภาพมากขึ้น
🌷คิดถึงสิ่งที่มีแทนสิ่งที่อยากมี
…ไม่งั้นจะไม่มีความสุข เพราะโหยหาความต้องการใหม่ๆ …ให้เปลี่ยนการจดจ่อไปสิ่งที่เรามี …อย่ายึดติดกับดักว่าฉันอยากใช้ชีวิตต่างจากเดิม …ให้รู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่มี
🌷เลิกคิดว่ายิ่งมากยิ่งดี
…=ไม่เคยพอ …เรียนดูที่จะพึงพอใจ มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน …หากความคิดไม่เปลี่ยน แม้มีมากขึ้นก็ไม่มีความสุข …เห็นคุณค่าสิ่งที่มี
🌷ฝึกมองข้ามความคิดแง่ลบ
…วันหนึ่งมีความคิดผุดในหัวประมาณ 50,000 ความคิด …ทั้งความคิดบวก …ความคิดลบ …มองข้ามแง่ลบง่ายกว่าฝึกที่จะสุข …ทุกความคิดทำร้ายคุณไม่ได้หากไม่ยอม …หากเป็นความคิดจากอดีต เลือกที่จะไม่สนใจ …เพราะเราเลือกได้ว่าจะให้ความสนใจกับความคิดใด …ต้องอาศัยการฝึก
🌷มองว่าปัญหาคือครูที่แฝงตัวมา
…ยิ่งเราดิ้นรนต่อสู้ ปัญหาก็ยิ่งเลวร้าย …ทำให้เครียด …ยอมรับมัน …ถามตัวเองว่ามันสอนอะไร + เรียนรู้จากใจจริง …ทันทีที่เราเรียนสิ่งที่จำเป็นต้องรู้…ปัญหาก็
เริ่มจางหาย
🌷ปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ของคุณกับปัญหา
…ความสุขไม่ใช่ขจัดปัญหาทั้งหมดออกจากชีวิต …แต่เกิดเพราะเมื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์กับปัญหา …ปัญหาเป็นแหล่งการตื่นรู้ …เพื่อฝึกความอดทน+เรียนรู้+เข้าใจ+ยอมรับมัน
🌷คุณฝึกฝนอะไรมากที่สุด…คุณจะกลายเป็นสิ่งนั้น
…ทั้งนิสัยภายใน + ภายนอก + ความสนใจ …ใช้เวลาอย่างไร…กำลังบ่มเพาะนิสัยที่มีประโยชน์ต่อเป้าหมาย ไม่เลือกประเภทของการฝึก
🌷ยอมรับตัวตนทั้งหมดของคุณ
…ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบตัวเอง …แบบที่เป็น… ไม่ใช่ฝั่งกลบความรู้สึกที่เราไม่ชอบ
🌷เปิดใจให้กับสิ่งที่เป็นอยู่
…แทนดึงดันชีวิตไปทางใดทางหนึ่ง …มีความสุข+เรียนรู้จากช่วงเวลาปัจจุบัน ยอมรับมัน ไม่ประสาทเสียกับมัน
🌷ฟังความรู้สึกของตัวเอง
…มันกำลังพยายามบอกอะไรคุณ …ความรู้สึกเป็น GPS ของคุณ
…ความรู้สึกแง่บวก = ใช้ความคิดในทางที่เป็นประโยชน์ …หาสาเหตุว่าทำไมเศร้า / โกรธ / เครียด เพราะจริงจัง+เร่งรีบเกิน …เป็นการเอานอกเส้นทาง …ผ่อนคลายบ้าง
🌷สบายใจที่ไม่รู้
…นิทานเรื่องวัวหายได้ม้า…ลูกขี่ม้าขาหัก…ไม่ต้องเกรณ์ทหาร = เรามักคิดถึงสิ่งแย่ๆที่จะเกิด โดยมากคือคิดผิด ทำใจให้สงบ …อะไรจะเกิดก็เกิด
🌷ถ้ามีใครโยนลูกบอลมาให้…คุณไม่ต้องรับมันไว้ก็ได้
…การดิ้นรนภายในใจเกิดจากการไปยุ่งกับปัญหาคนอื่น …ปล่อยลูกบอล =ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น …เราต้องรู้ข้อจำกัดของตัวเอง …เราเลือกที่จะรับ / ปล่อยได้ในทุกเรื่อง
🌷สนใจแต่เรื่องของตัวเองเถอะ
…ฉันคงไม่ทำอย่างนั้นถ้าฉันเป็นเธอ …เธอคิดอะไรของเธอ (ไม่ใช่เรื่องของคุณ)
…เป็นโรคอยากมีส่วนร่วมเกินเหตุ รวมถึงซุบซิบนินทา พูดลับหลัง ประเมินคนอื่น
…ที่มองจุดอ่อน / ปัญหาคนอื่น …เพื่อเลี่ยงการมองตัวเอง …มามองในเรื่องของเราที่เราต้องการ
🌷ก็อีกแค่หนึ่งการแสดงที่มันกำลังจะผ่านพ้นไป
…ทุกอย่างทั้งดีเลว …ความเจ็บปวด …ชอบไม่ชอบ …สำเร็จ …ผิดพลาด …ชื่อเสียง …อับอาย
…ทุกอย่างมีเริ่มมีจบ …ความผิดหวังคือความปิติอยากให้อยู่ตลอด …ความเจ็บปวดอยากให้จางหาย …ความทุกข์คือการต่อสู้กับการไหลตามธรรมชาติ …เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
🌷ผ่อนปรนให้ตัวเองเสียบ้าง
…ชีวิตคือกระบวนการค่อยเป็นค่อยไปทีละอย่าง …หากพลาดก็เริ่มต้นใหม่ …ไม่มีใครหวดลูกโดน 100% = สิ่งสำคัญคือคุณกำลังทำสุดความสามารถและมุ่งไปถูกทางหรือยัง (ฉันพลาดอีกแล้ว…คราวหน้าจะใช้วิธีอื่นรับมือกับมัน)
🌷ตระหนักถึงพลังความคิดของคุณเอง
…การขับเคลื่อนทางใจคือตระหนักรู้ความคิดกับความรู้สึก …ความคิดต่างหากเป็นแง่ลบ…ไม่ใช่ชีวิตคุณ …มีความคิดก่อนถึงมีความรู้สึก (ตระหนักรู้+ฝึกฝน)
🌷มองหาความพิเศษในความธรรมดา
…นิทานคนก่ออิฐ …คนเราเห็นชีวิตในแบบที่เราอยากเห็น …หากเรามองหาความพิเศษ เราก็เห็นความพิเศษได้ …ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ …ชีวิตเราพิเศษยังไง
🌷จัดตารางเวลาให้กับการทำความเข้าใจโลกภายใน
…การเงิน = จ่ายให้ตัวเองก่อนจ่ายบิลค่าใช้จ่ายอื่นๆ …จัดเวลาให้กับสิ่งที่เราต้องการ …เลือกใช้เวลาอยู่ที่ตัวเรา
🌷ถามตัวเองบ่อยๆอะไรที่สำคัญจริง
…เป็นการเตือนตัวเองไม่ให้หลงทาง …อะไรคือสิ่งสำคัญสุดในชีวิต …ทุ่มเทให้กับอะไรดี …ทำให้ไม่ออกนอกเส้นทาง
🌷เชื่อมั่นสัญชาตญาณในใจ
…ว่าแล้วเชียว…ฉันน่าจะทำอย่างนั้น…ให้เชื่อมั่นจากใจว่าต้องทำอะไร …มีความคิดดีๆให้จำและทำตาม
🌷เลิกโทษคนอื่น
…ทำให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ …สถานการณ์เผยให้เห็นตัวตน …ตัวเรารับผิดชอบความสุขของตัวเอง+สถานการณ์รอบตัว เช่น บ้านรก=ทำความสะอาดบ้าน มีแต่เราทำให้เรามีความสุขได้ …การโทษคนอื่นทำให้ไร้อำนาจในชีวิตตัวเองเพราะความสุขขึ้นกับคนอื่น เราเป็นผู้เลือก+สร้างสรรค์ความรู้สึกตัวเอง
🌷ความหมายที่แท้จริงของความสำเร็จคือความสุขสงบ
…เช่น เรียนรู้ที่จะหนักแน่นมั่นคงเมื่อเผชิญความทุกข์ยาก …มาตรวัดความสำเร็จไม่ได้มาจากสิ่งที่เราทำ …แต่มาจากเราเป็นใครมีความรักในหัวใจมากเพียงใด …อย่าให้น้ำหนักกับความสำเร็จภายนอกเพียงอย่างเดียว
3
.
.
. เพิ่มการพัฒนาตัวเองวันละนิด
. เหมือนเติมวันละ 1 องศา
. 1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
. 10 วันไม่มีความต่าง
. แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
. จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
.
. มาพัฒนาวันละ 1 องศา
. เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปด้วยกัน
. ...กับเพจ #องศาที่หายไป
.
.
. 🪴🪴🪴🪴🪴🪴
👍🏻เลื่อนนิ้วโป้งกด Like กด Share ให้จูลสักนิด..เพื่อชีวิตที่มีกำลังใจให้จูลนะคะ..ขอบคุณค่ะ
⭐️ติดตามที่ Blockdit
❤️ติดตามที่ Youtube
💙ติดตามที่ Facebook

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา