25 มิ.ย. 2021 เวลา 02:04 • ปรัชญา
ในชีวิตคนย่อมเจอปัญหา ประเด็นสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นแค่ตัวปัญหา โดยที่เรายังรักษาใจตนเองไว้ได้ ไม่ไปขยายปัญหาให้ใหญ่ขึ้น แต่ทำปัญหาให้เล็กลง รู้สึกว่าตนเองจัดการได้ ปัญหาจะใหญ่จะเล็กเราก็รับมือไหว
2
เงื่อนไขภายนอกเป็นเพียงส่วนประกอบ แต่หัวใจสำคัญที่สุดคือใจของเรา ถ้าเรารักษาใจตนเองได้ ใจเราบอกว่าไหวก็คือไหว แต่ถ้าเมื่อใดที่ใจเราบอก ไม่ไหว ยอมแพ้ เราก็แพ้อย่างที่ใจคิด
ไม่ว่าจะแพ้ชนะ สู้ได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่ที่ใจเราทั้งสิ้น แล้วทำอย่างไรจึงจะรักษาใจของเราไว้ได้ท่ามกลางปัญหาที่ถาโถมเข้ามารอบทิศ ทั้งปัญหาธุรกิจการงาน ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเงิน ปัญหาสุขภาพ เมื่อปัญหามารอบทิศอย่างนี้เราจะรับมือได้อย่างไร
ชีวิตมนุษย์ทุกข์มากเพราะ “ความคาดหวัง”
ชีวิตคนเราปัจจุบันได้รับความสะดวกสบายชนิดที่ว่าคนเมื่อร้อยปีที่แล้วเทียบไม่ติด สมัยรุ่นคุณปู่คุณทวดแค่มีปัจจัยสี่ครบก็ถือว่าดีมากแล้ว มีข้าวกิน มีเสื้อผ้าใส่กันหนาวได้ มีบ้านอยู่ ป่วยไข้ไม่สบายอาศัยหมอ กลางบ้านบ้าง หมอผีบ้างก็เพียงพอแล้ว ชีวิตคนเราในสมัยก่อนเป็นอย่างนั้น
1
แต่พวกเราตอนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมทุกอย่าง รายได้ต่อคนก็สูงขึ้น สิ่งจำเป็นในชีวิตปัจจัยสี่ก็หาได้ไม่ยาก แต่ปัญหาคือการเปรียบเทียบกันเอง พอเราเห็นคนข้าง ๆ มีอะไรแล้วเราไม่มี ก็รู้สึกว่า ตนเองสู้เขาไม่ได้ ยิ่งในสังคมโซเชียลมีเดีย พอได้เห็นคนอื่นไปกินไปเที่ยว ก็เกิดความรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อย ไม่มีอย่างเขา รู้สึกหดหู่ท้อแท้เพราะมัวแต่เปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น
การเปรียบเทียบคือตัวกระตุ้นให้คนอยากได้อยากมีมากขึ้น ๆ มีความคาดหวังว่าตนเองจะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ สายตาคนรอบข้างที่มองมาเป็นแรงกดดันให้เรารู้สึกคาดหวัง สังคมที่กดดันเราตั้งแต่คนใกล้ตัว พ่อแม่คาดหวังในตัวเราบ้าง ความคาดหวังจากคู่ชีวิตบ้าง ลูก ๆ คาดหวังจากเราบ้าง ความคาดหวังต่าง ๆ เหล่านี้เกิดเป็นความกดดัน
เพราะฉะนั้น ความเครียด ความกลัดกลุ้มใจไม่ได้มีเฉพาะกับคนทั่วไป แม้เกิดเป็นเศรษฐีก็มีความเครียด เพราะความคาดหวังที่ขยับสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีเงินเป็นพันล้านก็ยังเครียด เพราะหวังว่าจะได้เงินอีกหมื่นล้าน ถ้าไม่ได้ก็ผิดหวัง มีหมื่นล้านก็เครียดเพราะหวังว่าจะได้เงินแสนล้าน มันเครียดตลอดอย่างนี้เพราะความคาดหวังที่จะพาตนเองให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
วิธีการรักษาใจตนเองให้เข้มแข็งอยู่ได้ท่ามกลางปัญหารอบตัวอย่างนี้คือ จัดการกับความคาดหวัง ด้วยการเข้าใจชีวิต รู้หลักความจริงของชีวิตว่า ชีวิตมนุษย์เกิดมาสั้นมาก เวลาบนโลกมนุษย์ 100 ปี ถ้าเทียบกับเวลาบนสวรรค์ชั้นดุสิตซึ่งเป็นชั้นของนักสร้างบารมี ชั้นของพระโพธิสัตว์นั้นผ่านไปแค่ 6 ชั่วโมง เท่านั้น เพราะวันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นดุสิตเท่ากับเวลา 400 ปีบนโลกมนุษย์
พระโพธิสัตว์บนสวรรค์ชั้นดุสิตมองมนุษย์ใช้ชีวิตบนโลกเหมือนกับเราเห็นแมลงที่มีวงจรชีวิตแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตายลง แล้วเราจะไปห่วงพะวงกับความคาดหวังอะไรกันมากมาย แต่ในเวลาที่สั้นนี้ก็เป็นเวลาที่สำคัญมาก เพราะเรามีกายมนุษย์เป็นกายหยาบ ถ้าทำบุญ ก็ได้บุญมาก ไปทำบาป บาปก็มหาศาล
1
ดังนั้น เราจะต้องใช้กายมนุษย์ที่มีอยู่ไปทำความดี สร้างบุญกุศล เมื่อมีบุญกุศลแล้วจะส่งให้เราไปเกิดในภพภูมิที่ดี มีความสุขอีกยาวนานยิ่งกว่าความสุขบนโลกมนุษย์มากมายนัก เราต้องเข้าใจหลักความจริงนี้ แล้วย้อนกลับมาดูว่าหน้าที่ของเราในการเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีอะไรบ้าง
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา