21 มิ.ย. 2021 เวลา 02:14 • ปรัชญา
ในยามที่เราต้องเจอเรื่องไม่พึงปรารถนาเกิดความทุกข์ รู้สึกจิตใจตกต่ำห่อเหี่ยว มีข้อแนะนำ 8 ข้อ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้
ข้อ 1 ตั้งเป้าหมายในชีวิต
เราควรตั้งเป้าหมายในชีวิตว่า อยากจะประสบความสำเร็จระดับใด ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตแล้ว ก็จะเสริมสร้างกำลังใจและความพยายามเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จนั้น ๆ ได้ในที่สุด
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าอะไรไว้เลย ใช้ชีวิตไปวัน ๆ พอมีอุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นในชีวิต เราจะรู้สึกว่าไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ไม่รู้จะทำเพื่อใคร ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำให้กำลังใจถดถอย การตั้งเป้าจะเป็นการเสริมกำลังใจไปโดยปริยาย เพื่อให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้น ๆ
บางครั้งเราสามารถตั้งเป้าไว้สูงได้ แต่ควรแบ่งระดับของความสำเร็จย่อยออกมาด้วย เพราะเป้าที่สูงบางอย่างใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ โดยเราอาจจะตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายใน 2 ปี เราอยากจะประสบความสำเร็จระดับใด หลังจากปีที่ 4 เราอยากจะประสบความสำเร็จในระดับใดต่อไป
การที่เราซอยเป้าหมายออกมาจะทำให้เราประสบความสำเร็จตามเป้าหมายนั้น ๆ ได้ง่ายขึ้น เป็นเหมือนการเสริมสร้างกำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ต่อไปได้ด้วยแนวทางที่ชัดเจน ซึ่งคนที่กำลังตกอยู่ในภาวะสับสน ถ้าหากไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะก้าวไปทิศทางใด มักจะเผลอหลงออกนอกเส้นทาง
ข้อ 2 ใช้ชีวิตเอื้ออำนวยต่อความสำเร็จ
พยายามทำร่างกายตนเองให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะถ้าร่างกายเราไม่แข็งแรงแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรต่อไปก็ลำบากไปหมด และพยายามเสริมสร้างกำลังใจให้เข้มแข็งเสมอ พยายามคิดบวก สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้าง และพยายามหาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตนเอง เช่น เราอยากจะประสบความสำเร็จ อยากจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราก็ควรนำตนเองไปใกล้ชิดกับคนที่ประสบความสำเร็จ คนที่ตั้งใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จ แต่กลับพาตนเองไปคลุกคลีอยู่กับกลุ่มคนที่ชอบเที่ยว เสมือนอยากได้ความสำเร็จ แต่ไม่ทุ่มเทความพยายาม เราก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จได้
ถ้าอยากมีกำลังใจก็ต้องอยู่ใกล้คนที่มีกำลังใจสูง กฎของธรรมชาติคืออยู่ใกล้ใคร เราก็จะเป็นเหมือนเขา หากเขามีกำลังใจ มีความพยายามในการแก้ไขปัญหา เราก็จะซึมซับมาด้วย แต่ถ้าเราอยู่กับคนที่มักจะท้อแท้ต่อชีวิต เราก็จะท้อแท้ตามไปด้วย ตรงกับมงคลชีวิตในคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มงคลที่หนึ่งคือไม่คบคนพาล มงคลที่สอง คือ คบบัณฑิต
ข้อ 3 ถอยห่างจากพฤติกรรมให้โทษ
หลีกหนีพฤติกรรมบั่นทอนทั้งกายใจ เช่น การดื่มสุรา เที่ยวกลางคืนเพราะจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม แล้วส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ มีกิจกรรมมากมายในปัจจุบันที่อาจจะบั่นทอนจิตใจแต่เรากลับมองข้ามไป เช่น เล่นโซเชียลมีเดียมากเกินไป บางทีอ่านข่าวมาก ๆ แล้วเกิดความรู้สึกหงุดหงิด คุณภาพใจตกต่ำ ก็ถือว่าเป็นการบั่นทอนจิตใจโดยไม่จำเป็น เพราะฉะนั้น เราควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
1
ในยามที่มีปัญหา สภาพจิตใจย่ำแย่ เรายิ่งไม่ควรเสพข่าวไม่ดี คืออย่าไปสร้างปัญหาเพิ่มให้กับตนเอง จะได้มีสติแก้ไขปัญหาเดิมให้จบก่อน แล้วหมั่นเติมเรื่องใหม่ที่ดี ๆ ให้กับใจ
ข้อ 4 พยายามบำรุงจิตใจตนเอง
สร้างจิตใจตนเองให้เข้มแข็งและมีพลังอยู่เสมอ พยายามออกไปดูงานใหม่ๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ เช่น ไปดูงานดนตรี งานศิลปะเชิงบวก เหล่านี้จะทำให้เราเกิดความสบายใจ เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่ได้ต่อไป
หรือจะเลือกหาหนังสือดี ๆ มาอ่าน ประเภทหนังสือที่เกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ หรือหนังสือเชิงปฏิบัติธรรมเพื่อการสงบจิตใจมาอ่าน แม้กระทั่งการออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ใจเราสบาย เมื่อใจเราสบายความคิดสร้างสรรค์ก็จะเข้ามาสู่ใจเราได้ง่ายขึ้น เรียกว่าเติมกำลังใจให้กับตนเองด้วยพลังบวก รวมทั้งได้ให้รางวัลกับตนเองด้วยการเติมความรู้สึกชื่นบานใส่ใจ
ข้อ 5 ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ
เมื่อเกิดปัญหาให้เราดึงสติ พยายามใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ ก็จะทำให้การตัดสินใจครั้งนั้น ๆ ถูกต้องมากขึ้น วิธีการคือพยายามเขียนจัดลำดับข้อดี ข้อเสียของแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยเรียบเรียงไว้เป็นข้อๆ เพราะถ้าเราได้เห็นข้อดีข้อเสียอย่างเป็นรูปธรรมว่ามีอะไรบ้าง โดยไล่เรียง 1... 2... 3... 4... และพยายามอ่านทบทวนหลายๆ ครั้งแล้ว ก็จะเป็นการกระตุ้นสมองเราให้คิดหา เหตุผลได้มากขึ้น เหตุผลที่มากขึ้นนี้เองจะถ่วงดุลความรู้สึกอยาก ใช้อารมณ์ ให้ท้ายที่สุดเราคิดตัดสินใจได้ถูกต้องมากขึ้น
ความจริงแล้วอารมณ์กับเหตุผลนั้นสำคัญทั้งคู่ เหมือนการปลูกต้นไม้ที่เราต้องให้ทั้งน้ำและปุ๋ย ถ้าเราให้น้ำอย่างเดียว ต้นไม้อาจจะเติบโตได้ระดับหนึ่ง ถ้าเราให้น้ำมากไปรากก็เน่า ถ้าให้ปุ๋ยมากไปต้นไม้ก็เฉาตาย ใจเราเองก็เช่นกัน ต้องสมดุลกันทั้งอารมณ์และเหตุผล
ข้อ 6 ป้องกันจิตใจไม่ให้ตกต่ำไปกว่าเดิม
ให้นึกถึงความสำเร็จต่าง ๆ ในอดีตว่าเราเคยเอาชนะอุปสรรคที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งมาได้อย่างไร พอเราได้นึกถึงความสำเร็จนั้น ๆ ก็จะเกิดแรงบันดาลใจว่า อุปสรรคครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันกับครั้งก่อน ไม่น่าจะยากเกินไปที่เราจะรับมือได้ และไม่เกินความสามารถของเราอย่างแน่นอน
การทบทวนความดีของตนเองที่ผ่านมาเป็นเรื่องจำเป็น ถ้าก่อนนอนเราได้ทบทวนทุกวัน ๆ เราจะเกิดกำลังใจมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว
ข้อ 7 สร้างความเชื่อมั่นตนเอง
หมั่นทบทวนตนเองว่าเรามีข้อดีอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองอยู่เสมอว่า เราก็เป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน เราก็เป็นคนที่มีคุณค่าเหมือนกัน เพราะฉะนั้น โอกาสสร้างความสำเร็จในครั้งนี้ย่อมไม่เกินความสามารถของเราเช่นกัน
ทุกคนมีทั้งข้อดีข้อเสียอยู่ในตนเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมองอะไร ดังนั้น เราควรเลือกมองข้อดี เลือกมองความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นแล้วในชีวิต เพื่อเป็นกำลังใจดี ๆ ในการก้าวต่อไป
ข้อ 8 ปล่อยวางทุกอย่างลง
ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมาก หลายครั้งเราอาจจะเคยพยายามทำทุกอย่างทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ รู้สึกว่าจิตใจยังตกต่ำ ยังไม่รู้สึกดีกับตนเองและสิ่งที่เกิดขึ้นเลย หรือยังหาวิธีแก้ปัญหาไม่เจอ คำแนะนำข้อนี้คือให้เราปล่อยวางทุกอย่างลงโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย นิ่งอย่างเดียว
บางครั้งเราคิดแล้วคิดอีกจนปวดหัวไปหมดก็ยังหาทางแก้ไม่ได้ แต่หลายครั้งวิธีการสุดท้ายก็ได้ผล คือวางตัววางใจนิ่งเฉยเข้าไว้ หลังจากจิตสงบ ใจเราจะผ่อนคลาย แล้วรู้สึกสบายไปเอง ทุกอย่างก็จะดูโล่งโปร่งสบาย คำตอบก็จะผุดขึ้นมาเองในหัว ดังคำกล่าวที่ว่า “คิดอะไรไม่ออกก็ให้ออกจากความคิด ทำจิตให้สงบ แล้วจะพบทางออก”
ในการทำจิตใจให้เข้มแข็งต้องอาศัยความพยายาม ความทุ่มเทฝึกฝนอย่างมีสติ สติเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะนำมาซึ่งปัญญา ถ้าเรามีปัญญาแล้วกำลังใจก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ พอมีทั้งสติปัญญา ความพยายามและกำลังใจ ความสำเร็จจะไปไหนเสีย
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา