18 มิ.ย. 2021 เวลา 03:03 • ความคิดเห็น
ถ้าพูดความจริงไม่ทั้งหมดเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจผิดนั้นย่อมผิด แต่จะให้พูดทุกเรื่องที่รู้ก็ไม่ใช่ เราสามารถสื่อสารในขอบเขตที่เหมาะสมได้บนพื้นฐานของความจริง และพูดในสิ่งที่เป็นจริงเท่านั้น
ยกตัวอย่าง
สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง อย่างที่เรารู้กันว่ามีชาวยิวถูกฆ่าตายด้วยนานาวิธี เช่น การรมแก๊สพิษมากถึง 6 ล้านคน โดยฮิตเลอร์ ถึงขนาดเกณฑ์คนไปฆ่าทิ้งแบบไม่มีละเว้น ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ จะยิงทิ้งก็เปลืองกระสุน จึงให้ถอดเสื้อผ้าแล้วพาเข้าห้องพร้อมกับแจกหินคนละก้อน หลอกว่าใช้แทนสบู่ ให้เข้าห้องไปอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้าหมดแล้วปล่อยแก๊สพิษหวังฆ่าให้ตายทั้งหมด
แล้วบังคับคนกลุ่มต่อไปให้ขนคนที่ตายแล้วขึ้นรถไปทิ้ง ขุดหลุมแล้วโยนศพลงหลุมกลบ กลุ่มคนที่กลบหลุมนั้น ก็บังคับให้กลับเข้าห้องแล้วฆ่าทิ้งต่อไป ชาวยิวทั่วโลกได้เห็นแล้วว่าจะเร่ร่อนอพยพอยู่ตามประเทศต่าง ๆ อย่างเดียวแบบที่เป็นมาเป็นพันปีไม่ได้แล้ว ต้องหาทางตั้งประเทศยังถิ่นฐานดั้งเดิมของตนเอง ซึ่งก็คือประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน
ชาวยิวรวมตัวกันก่อตั้งองค์กรไซออนิสต์ขึ้นมา แล้วตั้งรกรากอีกครั้งในแผ่นดินดั้งเดิมของตน ซึ่งตอนนั้นเป็นของต่างประเทศ เป็นส่วนหนึ่งในอาณานิคมของอังกฤษ ชาวยิวจึงต้องพยายามต่อสู้กับอังกฤษในฐานะเจ้าอาณานิคมอย่างถึงที่สุด มีเสียเปรียบบ้างแต่ก็ยังพอสู้ไหว
ชาวยิวรวมตัวกันก่อตั้งองค์กรไซออนิสต์
ชาวยิวสมัยนั้นสื่อสารกันทางวิทยุใต้ดิน ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ให้ผู้คุมอำนาจรัฐซึ่งก็คืออังกฤษรับรู้ พอเกิดการปะทะกันอังกฤษมักจะประกาศว่าฝ่ายตนเองได้เปรียบ เพื่อให้ประชาชนของตนเองสบายใจ ชาวอังกฤษฟังก็รู้สึกว่าอังกฤษได้เปรียบ รู้สึกมีขวัญและกำลังใจ
จริง ๆ แล้วการรายงานข่าวแต่ละครั้งของสถานีวิทยุอังกฤษ ประชาชนได้รับรู้ตัวเลขผู้เสียชีวิตของทั้งสองฝ่ายที่ไม่เป็นความจริงเลย ในขณะที่สถานีวิทยุเถื่อนของชาวยิวซึ่งเป็นฝ่ายกบฏ พยายามจะสู้เพื่อตั้งแผ่นดินใหม่ของตนเองให้ได้ กลับยึดหลักรายงานข่าวตรงตามความจริงที่เกิดขึ้นโดยตลอด เช่น พอเกิดการปะทะกันแล้ว ชาวยิวเจ็บตายมากน้อยแค่ไหน ฝ่ายอังกฤษเสียหายอย่างไรก็พูดความจริงเสมอ ไม่ห่วงเรื่องขวัญกำลังใจของประชาชน
ชาวยิวคิดแค่ว่าพวกเขาต้องสู้เพื่อให้มีโอกาสรอด จึงรายงานความจริงให้ทุกคนรู้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อจะได้เตือนให้ทุกคนเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์อย่างถูกต้อง ผู้คนจึงได้รับฟังข่าวความเคลื่อนไหวของทั้งฝ่ายตนเองและฝ่ายตรงข้ามตามความเป็นจริง
ผลที่เกิดขึ้นคือหนังสือพิมพ์ใหญ่ ๆ ของอังกฤษรายงานข่าวการรบในพื้นที่อิสราเอลไปสู่ประเทศตนเอง โดยกล่าวอ้างข้อมูลจากสถานีวิทยุเถื่อนของชาวยิวเป็นหลัก ไม่ใช่ข้อมูลข่าวจากสถานีทางการของอังกฤษแต่อย่างใด เพราะรู้ว่าแหล่งข่าวของชาวยิวเป็นความจริง เชื่อถือได้มากกว่า
ข่าวสารจากสถานีวิทยุฝ่ายผู้ก่อการร้ายในสายตาอังกฤษตอนนั้น กลับน่าเชื่อถือมากกว่าของตนเองเสียอีก นี่คืออานุภาพของการพูดความจริง สุดท้ายทหารชาวยิวไม่เสียขวัญ แต่กลับเกิดความเชื่อมั่นในองค์กรของตนเอง
และร่วมกันปรับปรุงพัฒนาศักยภาพทุกด้านจนประกาศตั้งประเทศของตนเองได้ในที่สุด กว่าจะยืนหยัดรวมตัวกันมาได้จนถึงปัจจุบันไม่ง่ายเลย แต่เพราะเขายืนบนพื้นฐานของความจริง และมุ่งมั่นพัฒนาสุดท้ายก็สำเร็จ ส่วนฝ่ายที่พูดไม่จริงสุดท้ายคนหมดความเชื่อถือ เพราะฉะนั้น ความจริงสำคัญที่สุด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับสามเณรราหุล พระโอรสของพระองค์ว่า
“ดูก่อนราหุล เธอจงอย่าโกหกแม้เพียงล้อเล่น”
นั่นเพราะมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น เราเองให้ยึดหลักว่า พูดความจริงเสมอ อะไรที่โกหกเราไม่พูด และพูดความจริงอย่างมีวาทศิลป์ไม่ให้เกิดความเสียหาย
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกันนั้นถ้าขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ขาดความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ก็จะเกิดปัญหาตามมามากมาย
ดังนั้น วิธีการพูด สิ่งสำคัญคือให้ยึดหลักพื้นฐานของการพูดความจริง แต่ต้องประกอบด้วยสติปัญญาและวาทศิลป์ในการพูด เพื่อทำให้ผู้รับฟังเกิดความสบายใจ ถ้าความคิดและคำพูดของเรานั้นตรงกัน เรียกว่าปากตรงกับใจ ก็จะทำให้เราเป็นคนน่าเชื่อถือ ที่สำคัญคำพูดของเราจะเป็นคำพูดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือของผู้อื่นอีกด้วย
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา