18 ก.ค. 2021 เวลา 09:19 • นิยาย เรื่องสั้น
• บทสนทนาระหว่าง ซาตาน และ เจ้าสาวแดนมนุษย์ •
[เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องแต่ง ไม่อิงความจริงหรือศาสนาใดๆ ทั้งสิ้น]
ข้า... คือซาตาน
ใช่, ได้ยินถูกแล้ว ข้าคือซาตาน
คิดว่าข้าชั่วร้ายเพียงใด?
จากชื่อ คงถูกตัดสินต่างๆนาๆ ตัวตนที่แท้เป็นอย่างไร ไม่อาจมีมนุษย์ผู้ใดรับรู้ได้
หรือเมื่อรับรู้ เธอและเขามีโอกาสน้อย...ที่จะอาศัยอยู่บนผิวโลก มีชีวิตอยู่ในที่สามารถเล่าขานประสบการณ์ให้มนุษย์ผู้อื่นได้รับรู้
ดังเช่นเธอคนนี้, ผู้เป็นเจ้าสาวข้า
“ .... “
นัยน์ตานิลดำขลับจับจ้องจรดมองเจ้าสาวค่ำคืนนี้ กายสูงตระหง่านนั่งเอนลงบนโซฟาหนังสีน้ำตาล แขนข้างหนึ่งนาบราบลงบนพนัก เสื้อผ้าดำไม่หนานักถูกสวมใส่อย่างลวกๆ อย่างไรพบเจอมนุษย์...ด้วยร่างมนุษย์ คงดีกว่าเป็นไหนๆ
จะซาตานผู้กำเนิดจากความมืดทั้งมวล หรือชื่อบาปโทสะที่ถูกยัดเยียดเข้าให้ เหมือนคล้ายต่างอย่างไร ปีศาจตนนี้มิเคยใส่ใจ
ร่างงามของเจ้าสาวเห็นจากประตู เรียวมือหยาบกวักเรียก อีกมือตบเบาๆยังพื้นที่ว่างข้างกาย
นั่นคือสัญญาณให้เธอขยับเข้าหา เสียงทุ้มต่ำเอ่ยสารดังก้องกังวาน
“ มานี่ เจ้าสาว ในวันนี้...อยากได้อะไรดีเล่า? “
เพียงปีศาจตนหนึ่ง ที่ชื่อซาตาน
เพียงก่อกำเนิดจากความมืดไร้ขอบเขต
ต้นกำเนิดแห่งความชั่วร้าย หายนะทั่วปวงของโลกมนุษย์ตลอดจนแดนสวรรค์
ผู้เป็นปรปักษ์กับพระเจ้า กระนั้นยังไม่เคยได้รบตัดสินเป็นตายต่อกัน
หนังสือทางโลกเอ่ยว่าเช่นนั้น คิดว่าเป็นความจริงหรือไม่?
1
พวกเจ้าคิดว่า...ข้าไม่อาจทำลายล้างในสิ่งที่พระเจ้ารัก ถวิลหา ก่อสร้างมาได้ คิดว่าเงื้อมมือนี้บ่อนทำลายเพียงพริบตาไม่ได้หรือ?
บ้างก็ว่า ซาตานถูกกักขังใต้แดนนรก แต่มีหลายเหตุการณ์ที่ปีศาจตนนี้ปรากฎกายเหนือผืนโลก
2
บ้างว่าพระเจ้าไม่ทำลายทิ้ง เนื่องจากต้องการให้ข้าเป็นบททดสอบของมนุษย์
หากนั่นคือความจริง บททดสอบนี้ช่างยากเย็นเหลือเกิน ว่าเช่นนั้นหรือไม่?
“ เข้ามา “
ไม่รีรอ มือมนุษย์ในชื่อปีศาจร้ายฉุดสตรีงามลงนั่ง ร่างนั้นสั่นเทาด้วยความหวาดผวา เกรงกลัวการกระทำทุกสิ่งที่จ้าวแดนนรกกำลังให้
จะชื่อซาตาน มนุษย์ก็ล้วนเป็นผู้สรรค์สร้าง ทั้งความน่ากลัว อันตราย ภัยพิบัติทุกสิ่ง ล้วนถูกโยนความผิดมาที่เขาทั้งนั้น
“ ไม่ต้องกลัว “
เสียงทุ้มเอ่ยปลอบประโลม ให้ร่างสังเวยมนุษย์ใจเย็นลงเสียบ้าง คำว่า ‘เจ้าสาวซาตาน’ ไม่ต่างจากสังเวยชีวิตลงมา แม้วัตถุประสงค์จะเพื่อสนองอารมณ์ตัณหาใดของใครก็ตาม
“ พูดคุยกับข้า... เจ้าคงรู้จักข้าดีใช่หรือไม่ เจ้าสาว เอ่ยนามของเจ้ามาเสีย อย่ายืดเยื้อให้เสียเวลา “
แม้ประโยคสุดท้ายถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่เร่งรัด แต่จากรูปกาล หากอีกฝ่ายไม่ตอบสนองเขาโดยเร็ว เรื่องเลวร้ายคงเกิดเป็นแน่
หญิงสาวอาภรณ์ดำสนิท สวมผ้าคลุมใบหน้าทอตาข่ายถักละเอียด ลูกไม้ประดับสวยงามเช่นเจ้าสาวทั่วไป ต่างที่ชุดดำ... ควรใส่ในงานศพ มิใช่งานรื่นเริง
“ ฉันชื่อ... ลอร่า ท่านซาตาน ได้โปรด “
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานทว่าสั่นสะท้าน คู่สนทนาจึงเอ่ยถามต่อไป
“ ได้โปรดอะไร? เธอต้องการจะขออะไรจากซาตานกัน? “
“ ได้โปรด... อย่าทำร้ายฉันเลย ฉัน... นับถือพระเจ้า มีไม้กางเขน พระเจ้าต้องอยู่ข้างฉัน ต้องช่วยเหลือ และ... “
เอ่ยติดขัดไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจกระตุกด้วยความกลัวเข้าแทรก ไม่ต่างจากน้ำเปล่าในช่องแช่แข็ง จิตใจแทบแหลกสลายแต่คงความกล้าไม่เปลี่ยนแปลง
ใช่, เธอยินยอมมาเป็นเครื่องสังเวย เพียงเพราะต้องการสังหารปีศาจแสนชั่วร้ายด้วยน้ำมือหล่อน
กางเขนเงินถูกหยิบออก ชี้เข้าหาบุคคลตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
ทว่าการตอบรับ มีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังก้องทั่วห้องจัตุรัสเล็ก
“ ฮ่า..... พระเจ้าน่ะหรือ? “
มือหนาจับไม้กางเขน ดึงมันออกอย่างไม่เกรงกลัว
“ สาวน้อย หากเธอจะอ้อนวอนต่อพระเจ้า ไม่กางเขนไม่จำเป็นต้องใช้เสมอไป.... รายนั้นสอนว่าอะไร? ให้มีศรัทธา แต่ศรัทธานั้นต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่นใช่ไหม.. เธอคิดจะสังหารข้า นั่นถือเป็นการเบียดเบียน ไม่สิ เป็นการเข็ญฆ่าเลยนี่? “
4
ประโยคนี้ทำเธอติดขัดไม่มากก็น้อย ไม่นานจึงตอบกลับมา ไม้กางเขนที่ถูกดึงออก ยิ่งทำกายอรชรสั่นระรัว ทว่าอุ่นใจลงได้บ้าง ปีศาจที่ว่าร้ายกลับพูดคุยไม่ต่างมนุษย์นัก
“ ไม่ใช่.... ซาตานเช่นท่านไม่ใช่มนุษย์ และเรื่องเลวร้ายที่ทำนั้น... สมควร....ตาย... “
1
ประโยคสุดท้ายเริ่มแผ่วเบา ความไม่แน่ใจเข้าแทรก
“ อย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสิ่งมีชีวิต ไหนว่าทุกชีวิตไม่ควรเข็นฆ่า? ส่วนสมควรตาย.... บุตรีของพระเจ้า เธอคิดจะสังหารชีวิตแล้วหรือ แน่ใจไหม ว่าพระเจ้าสอนให้เธอทำแบบนั้น “
1
ไม่, เธอไม่แน่ใจ
เมื่อเห็นความเงียบเข้าแทรก ผู้เป็นจ้าวแดนนรกจึงเอ่ยต่อ
“ ข้าไม่เคยเข็นฆ่า หากทำเช่นนั้นจริง มนุษย์ตัวน้อยไม่สูญสิ้นเผ่าพันธุ์หรือ.... สิ่งที่ข้าทำ มีเพียงหลอกล่อให้พวกเธอยึดติดในตัณหา ซึ่งช่วงนี้ข้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ดูจากสภาพของพื้นโลกในตอนนี้ เรียกได้ว่า ข้าคงไม่ต้องออกมือเองแล้วล่ะมั้ง? “
1
เพียงคำพูดนี้ จุดประกายทั้งโทสะ ทั้งอารมณ์ไม่อยากยอมรับในความเป็นจริงของเธอผู้เป็นมนุษย์
“ ไม่... อาจจะจริงที่ท่านเห็นเป็นเช่นนั้น แต่ยังมีอีกมาก หลายจิตใจยังบริสุทธิ์ คนดี ต่อต้านซาตานเช่นท่านยังมีมากมาย “
“ แล้วเธอเข้าใจว่าซาตานเป็นอย่างไรกันแน่? “
1
ปีศาจคราบมนุษย์เอ่ยแผ่วเบาทุ้มต่ำ ดึงร่างเรียวให้เข้าใกล้ประชิดไม่อาจหลบหนี
“ ข้าทำตามหน้าที่ กิเลสตัณหาไม่ใช่ทั้งสิ่งที่ดีและแย่ ดีหรือเลว มนุษย์มักตัดสินกันเองทั้งนั้น เหตุใดจึงไม่โอนอ่อนต่อกิเลส หากใจของเจ้าต้องการยิ่งนัก แต่ถ้าไม่ต้องการ ก็เพียงตัดสินใจ เลือกมันใหม่
ยิ่งเธอหนี เธอจะยิ่งเข้าใกล้สิ่งนั้น
2
สิ่งที่เธอควรทำ คืออยู่กับมันเสียจนเบื่อหน่าย อย่าหนีจากกิเลสตัณหาเพราะคัมภีร์บอกว่ามันไม่ดี แต่จงศึกษา ทำตามสิ่งที่ต้องการด้วยตนเอง จนถึงวันที่เธอเบื่อกับของเล่นชิ้นนี้แล้ว เธอจะวางมันลงอย่างไม่เสียดาย นี่คือสิ่งที่เธอควรทำ ลอร่า “
“ ฉัน.... เข้าใจ แต่ถ้าอยู่กับมันมากๆ จะเป็นบาป และ....ฉันคงต้องตกนรก “
“ มองดูรอบตัวของเธอสิ นี่คือนรกหรือ? เธออยู่กับซาตาน นี่ก็ควรเป็นนรก จริงไหม? จะบอกอะไรให้ พระเจ้าก็เพิ่งมาจิบชากับข้าเมื่อไม่นานมานี้เอง “
1
“ อะไรนะคะ? “
“ อื้ม.... ชาค่อนข้างดีเสียด้วย สนใจไหม เดี๋ยวข้าจะรินให้สักแก้ว “
“ ..... “
จ้าวนรก ผู้กำเนิดจากความมืด
ทุกสิ่งคือความคิดจากแดนมนุษย์ ตัวตนที่แท้จริงของ ‘ซาตาน’ เป็นอย่างไรกันแน่
หรือคำถามที่ควรถามมากที่สุด...
‘ซาตาน’ ที่พวกเธอจินตนาการ มีอยู่จริงหรือเป็นเพียงจินตนาการขึ้นมาเอง
‘นรก’ ที่เธอเฝ้าหนี แท้จริงอาจไม่ใช่ดินแดนแห่งการทรมานอย่างหลายคนคิด
แล้ว ‘เธอ’ คือใครกันแน่?
—— END——-
——— อาจมีตอนต่อไปนะครับ
พูดคุย : เรื่องนี้จริงๆ อยากเขียนเป็นเรื่องสั้นที่เน้นบทสนทนาระหว่าง ซาตาน และใครอีกสักคนที่เป็นมนุษย์ จึงเลือกเจ้าสาวผู้เป็นเหยื่อสังเวย (ซึ่งจริงๆ แล้ว ผมก็ได้ยินมาว่าลัทธิซาตานจริงๆ ไม่มีการสังเวยมนุษย์อะไรนะครับ)
2
เรื่องนี้ไม่ได้อิงตามประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องนัก เพราะถ้าจากคัมภีร์ไบเบิ้ลของจริง ความหมายของซาตานก็มีอยู่มาก ในนี้ผมจะหมายความเพียงว่า ‘ผู้ที่กำเนิดจากความมืดทั้งหมด และเป็นศัตรูกับพระเจ้า’ (ถ้าคุณอ่านจนจบแล้ว จะรู้ว่าในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ)
3
ผมไปเอะใจตรงประโยคหนึ่ง ว่าพระเจ้าไม่ฆ่าซาตาน เพราะต้องการให้เป็นบททดสอบของมนุษย์
2
เลยคิดขึ้นมาว่า จะเป็นอย่างไร ถ้าซาตานไม่ได้ ‘ชั่วร้าย’ อย่างที่เราคิด ไม่ได้เป็นศัตรูกับพระเจ้า แต่เป็นอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่แสงสว่าง คอยดูแลและเฝ้ามองความเป็นไปของมนุษย์ด้วยกัน
3
เรื่องนี้อาจมีตอนต่อไป และอาจไม่ถูกใจใครที่เป็นสายศาสนามากนะครับ อาจมีอะไรที่แตกต่างพอสมควร ทั้งเรื่องนรกสรรค์และบาปบุญ ถือว่านี่ไม่ใช่ดินแดนและโลกที่เรารู้จัก คิดเหมือนเป็นโลกคู่ขนาน ที่มีคนละมุมมองก็ได้ครับ
ใครมีอะไรติชมก็สามารถบอกได้เลยนะครับ ไม่แน่ว่าผมจะทำเป็นเรื่องยาวด้วยครับ
โฆษณา