10 พ.ค. 2021 เวลา 04:54 • นิยาย เรื่องสั้น
ปรุงยาเสน่ห์ : สามเหลี่ยมแห่งรัก
สองขาขยับก้าว ฝีเท้าเบาเข้าห้องยา
จิตคิดพินิจหา สามผกางามในตำนาน
ตำรากล่าวไว้
หากปรุงยาเสน่หา
ต้องใช้บุปผางามสามดอกรวมกัน
บุปผาแรก—วิมลัก [รักยิ่ง]
1
บุปผาสอง— สัมภัต [มิตร]
บุปผาสุดท้าย— ราหุล [บ่วง]
1
สามมาลี มาลีละสามกลีบ รวมเป็นเก้ากลีบ เข้าร่วมในหม้อดินโบราณ เทผสมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ผสมเข้าร่วมกับธาตุทั้งหมดของมนุษย์ ต้มเข้าในน้ำเดือดที่เพิ่งขึ้นฟอง
1
เมื่อสีจากกลีบทั้งเก้า
ละลายจนกลีบกลายสภาพเป็นสีขาวนวลดุจหิมะ
เมื่อนั้น_จักได้ยาเสน่หา ที่แม้นอินทรายังเกรงกลัว
ร่างหนึ่งย่างก้าว เข้าเปิดตำรา
เมื่อได้สูตรยา—-เสน่หาวายฤทัย
1
ตนนั้นพับปิด
เก็บศาสตร์ไว้ในที่มิด
ก่อนเพ่งพินิจ
คิดหาบุปผานั้น ให้ทันกาล
▪️บุปผาแรก—วิมลัก [รักยิ่ง] ▪️
“ วิมลัก... “
สุรเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยกล่าว จดจำชื่อดอกไม้นั้น ทบทวนให้ผ่านริมฝีปากนั้นจนจำได้เสียขึ้นใจ รอยยิ้มของบุรุษหนุ่มนักปรุงยายังวาดประดับใบหน้าคม แม้นสถานที่ในครานี้ จะเป็นแดนหิมาลัยอันหนาวเหน็บ
เหมันต์เข้าแทรก ลมหายใจอุ่นกระทบกับบรรยากาศขาวโพลน มือเท้าคงสั่นไปเสียแล้ว หากตนไม่ควบคุมลมปราณสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย
การจะค้นหาวิมลักบุปผา
เจ้าจะต้องรักษาหัวใจไว้ให้ดี
ก้าวเดินไปยังพื้นที่สีขาวสุดลูกตา ปลายสายตาพบกระท่อมเล็กหลังหนึ่ง
เดินเข้าไป ตนพบเจอกับฤาษี—นุ่งผ้าสีน้ำตาลดูซอมซ่อ แต่เนื้อตัวกลับสะอาดเอื่ยม
“ ข้ามาหาวิมลัก “
ฤาษีท่านนั้น ได้ลืมตาขึ้น เอ่ยกล่าววาจาด้วยเสียงอ่อนนุ่มทุ้มต่ำ หากแต่ดังกังวาน
“ เจ้าพบรักยิ่งแล้วหรือไม่ “
ชายหนุ่มเอ่ยตอบ น้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ ข้าพบแล้ว ข้าพบรักยิ่ง
รักยิ่ง เสียยิ่งกว่าสตรีหรือบุรุษคนใด
รักยิ่ง เสียยิ่งกว่าเวหาที่กว้างใหญ่
 
ยามวัสสานฤดู, แม้นดินจะถูกฝนกระทบเพียงใด
ดินนั้นก็ไม่แหลกหลาย
1
ยามวสันตฤดู, ยอดใบใหม่แตกออกเพียงใด
ใจข้าก็ยังไม่แตกหาใครอื่น
แม้นยามสารทฤดู, สรรพสิ่งร่วงหล่นโรยรา
ตัวข้าย่อมไม่ร่วงไปจากท่าน
อาจร้อนรุ่มปานกองเพลิง ดุจคิมหันตฤดู
แต่ไม่เคยจะเหน็บหนาว เช่นเหมันตฤดู
จะยามไหน เพลาไหน ข้ารักเขา
1
และเป็นเช่นนี้, เสมอมา “
ฤาษีนิ่งเงียบ รับฟังจนเสร็จสิ้น
ก่อนจะเอ่ยถามไปอีกครา
“ รักมากเช่นนี้ ไม่มีทุกข์ใจเลยหรือ “
1
“ ความทุกข์ย่อมมี หากยิ่งรักมาก ยิ่งทุกข์มาก แต่ข้าเลือกรักถูกคน เช่นนั้น ข้าย่อมมีความทุกข์ที่น้อยครั้งกว่า “
1
ฤาษีฟังดังนั้น จึงเอ่ยถามตอบกลับไป
“ แล้วเจ้าจะรู้ได้อย่างไร ว่ารักถูกคน “
รอยยิ้มถูกวาดขึ้นบนใบหน้านักปรุงยา น้ำเสียงนุ่มเอ่ยตอบ
“ รักถูกคน คือรักที่ไม่บั่นทอน คือรักที่เกื้อกูลสนับสนุน และคือรักที่มั่นคงซื่อสัตย์ “
เขาหยุดนิ่ง และเอ่ยออกมา
“ และคือรัก, รักตนเองมากที่สุด “
1
เอ่ยจบ วิมลักบุปผา ก็ปรากฎออกมาให้นักปรุงยาได้เห็น
กลีบสีแดงสามกลีบ ร่วงหล่นจากดอก ลอยสัมผัสมือนั้นของนักปรุงยา
ฤาษีวาดรอยยื้ม พยักศีรษะให้อย่างพึงใจ
“ สามกลีบสีแดงนี้ เป็นของเจ้า รักยิ่ง, ให้รักทั้งเขา และรักทั้งตัวเจ้าเอง “
1
▪️บุปผาสอง— สัมภัต [มิตร] ▪️
สัมภัต นั่นคือมิตร
วิธีพบเจอสัมภัต
นั่นคือเจ้าต้องค้นหามิตรในรัก
เสียงหยดน้ำไหลลงกระทบใบไม้ ดังขึ้นคละคลอไปกับเพลงจากเหล่านกแมลงในพงไพรกว้าง
จะค้นหามิตรในรักได้
เจ้าต้องมีความจริงใจ
หากแต่ยาเสน่ห์นี้ จะหาความจริงใจจากไหนได้กัน
สองขาก้าวไปยังจุดลึกที่สุดของป่า บริเวณนั้นเป็นแอ่งน้ำ ไม่ลึกสักเท่าไหร่นัก เพียงประมาณหัวเข่าของนักปรุงยาก็เท่านั้น
ตรงกลางนั้น มีเนินเกาะเล็กๆ ที่ลอยอยู่กลางน้ำ กลางเนินมีศาลเจ้าโบราณตั้งอยู่
สองขาเดินขึ้นเนินนั้น คุกเข่าลงต่อหน้าศาลเจ้า
“ ทวยเทพพยาดา ข้าขอหลั่งโลหิตสาบาน จะมีมิตรไมตรี และมีเพียงความจริงใจให้แก่คนรักข้า “
มิตรภาพ เป็นสิ่งจำเป็นในความรัก
แขนเสื้อถูกเลิกขึ้น มีดเล่มหนึ่งหยิบออก กรีดเข้าข้อแขน เพื่อให้โลหิตไหลลงกระทบดินเนินนั้น
เมื่อหยดแรกลงกระทบ บุปผาสีเหลืองงาม นามสัมภัตก็ปรากฎขึ้น
กลีบดอกร่วงลงสามกลีบ ตกประปรายบริเวณพื้นนั้น ก่อนที่ดอกสัมภัตจะสลายหายไป
หลั่งโลหิต สัญญาแทนมิตรภาพ
และนี่ คือวิธีได้สัมภัต ในแบบที่ไม่ถูกนัก
▪️บุปผาสุดท้าย— ราหุล [บ่วง] ▪️
“ ราหุล... “
แทบไม่มีใคร ไม่รู้จักชื่อนี้
‘บ่วง’ แทนโซ่ตรึง เป็นบ่วงที่คล้องไว้ ให้หลุดออกจากกันยากขึ้น
และดอกไม้งามนี้ พบหาได้ง่ายที่สุด
สองขาก้าวเดินเข้าไปยังตลาดยามราตรี เสียงผู้คนเอ่ยร้องตะโกนหา บ้างก็ขายสินค้า บ้างก็คุยกันเล่น ถือเป็นตลาดยามค่ำคืนที่คึกครื้นในระดับสูงก็ว่าได้
นักปรุงยาเดินเข้าไปยังร้านแห่งหนึ่ง หน้าร้านติดป้ายว่าร้านดอกไม้สด
“ ข้าขอราหุลสามกลีบ “
ตำลึงสามก้อนถูกส่งให้ พ่อค้ารับมา และยื่นกลีบราหุลสีน้ำเงินให้
เพียงเท่านี้ ก็เสร็จสิ้น
ราหุล คือบ่วง
บ่วงแห่งความรัก คือการมีข้อผูกพัน มีสิ่งที่ทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานงาน หรือแม้กระทั่งการหมั้นและแต่ง
สิ่งนั้น, สิ่งทางโลกเหล่านั้น ทำได้ง่ายที่สุด
แต่นั่นก็แลกกับราคาของทางโลกเช่นกัน
และนักปรุงยา, ก็ได้ส่วนผสมครบทั้งหมด
สองขาขยับก้าว ฝีเท้าเบาเข้าห้องยา
เดินไปเข้าค้นหา หม้อโบราณไว้ใช้ปรุง
“ ราหุล สัมภัต วิมลัก “
1
ความรัก มิตรไมตรี ข้อผูกพัน
1
รวมเป็นสามเหลี่ยมแห่งความรัก
ตามทฤษฎีของชาวตะวันตกที่กล่าวไว้
ใครจะรู้ ว่ามันกลับกลายมาเป็นสูตรปรุงยาที่ดีที่สุด
นักปรุงยาไม่รอช้า
เริ่มหาธาตุทั้งหกจากรอบตัวตนทันที
หม้อดินโบราณถูกยก ตั้งเข้ากับเตาถ่าน
ในหม้อนั้น มีพลังธาตุดินอยู่ใน
เขาเริ่มหยิบขลุ่ยเหล็กของตนออกมา ริมฝีปากค่อยๆ ทาบไปยังตัวปาก เป่าลมอุ่นร้อนไปเพื่อเริ่มบรรเลงเพลงเร็ว โน้ตดนตรีค่อยๆ ปรากฏเข้าสู่โสตประสาทสมองของตน
ทันใดนั้น รอบตัวก็ปรากฏแสงสว่างวาบ อัสนีพลันประกายสว่างขึ้นรอบบริเวณ เส้นอัสนีเล็กๆ ผุดขึ้นหมุนเวียนทั่วร่าง
แสงสีเหลืองนวล ส่องตัดประกายเข้ากับบรรยากาศนี้ เส้นอัสนีเล็ก ถูกควบคุมและส่งผ่านเข้าไปยังหม้อดินโบราณนี้
ทันทีที่เส้นอัสนีเข้ากระทบหม้อดิน
เสียงดังสนั่นก็เกิดขึ้น, และดับลง
ริมฝีปากวาดรอยยิ้มขึ้นอย่างพึงใจ ก่อนจะบรรเลงเพลงที่สอง ทันทีที่เสียงขลุ่ยเริ่มเปลี่ยนเข้าเป็นเพลงช้า ควบคุมมวลน้ำกลั่นจากขวดที่เตรียมไว้ ให้ลอยขึ้นสูง ขยับเข้ามาเริงระบำรอบตัว
ขยับควบคุมธาตุน้ำเหล่านั้นให้ลอยเหนือหม้อดิน และส่งน้ำนั้น ให้ตกลงเข้าในหม้อดินโบราณ
อีกมือหยิบยันต์สีเหลืองขึ้นมาสองแผ่น ก่อนจะค่อยๆ ตั้งจิตร่ายมนต์ในใจ
ยันต์แผ่นแรกเปล่งแสงวาบ มือหนานั้นนำไปแปะเข้ากับหม้อดิน
ทันทีที่สัมผัส ไฟจากเตาถ่านก็ลุกโชนขึ้น
ยันต์แผ่นที่สองค่อยๆ เคลื่อนขยับ ลอยปลิวหลุดออกนอกหน้าต่างของห้องปรุงยา
ทันทีที่ยันต์ลับตา ลมอันบางเบา ก็พัดเข้ามาบริเวณทั่วห้อง ช่วยให้ไฟนั้นลุกโหมขึ้นไปอีก
นี่ คือธาตุไฟและลม
เมื่อน้ำเริ่มขึ้นฟอง กลีบทั้งเก้าจึงถูกโปรยลง
สีแดง เหลือง และน้ำเงิน
ทั้งสามสี ล้วนแทนแม่สีทั้งสาม
ผสมก่อกำเนิดเป็นสีอื่นอีกมากมาย
เมื่อผสมทุกอย่างเข้าเสร็จสิ้น ตัวนักปรุงยาจึงตั้งจิต เสียงนุ่มทุ่มเอ่ยวาจา เปล่งคาถาคล้ายคำพูดออกมา
“ โอ้, ความเอ๋ย ความรัก
จะหวังเรียน ชั้นต้น ณ หนใด
จะก้าวสู่ แผ่นฟ้ารัก ที่แสนไกล
ไฉนใย ใจมนุษย์ จึงปิดบัง
1
ข้าขอมอบ สิ่งวิเศษ ทั้งหมดนี้
เพื่อให้มี รักที่ เสน่หา
รักแท้ยิ่ง มิตรภาพ บ่วงตรวนตรา
เป็นบุปผา เก้ากลีบงาม ให้ชมใจ
อันเลขเก้า เป็นมงคล ก้าวข้างหน้า
ให้ตัวข้า ก้าวเข้าสู้ สู่ใจท่าน
ก้าวเข้าใน จิตมนุษย์ ที่ลึกนั้น
จักต้องใช้ ธาตุทั้งหมด ช่วยปราณี
อัสนี เติมประกาย ช่วยเข้าแต่ง
วารีเข้า ช่วยเติมเต็ม สิ่งว่างเปล่า
เมธินี ที่กล้าแกร่ง ไว้เหนือเกล้า
อัคคีเข้า ก่อความร้อน หลอมรวมกัน
วาโยนั้น เพิ่มทุกสิ่ง ให้แรงกล้า
ทั้งห้าธาตุ เข้าผสาน เช่นผืนฟ้า
หลอมรวมกับ บุปผางาม จนละลาย
แล้วจักได้ ยาเสน่หา ทุกชาติไป “
เอ่ยจบ กลีบทั้งเก้าก็กลับกลายเป็นสีขาวนวล
“ เรียบร้อย “
นักปรุงยาดับไฟลง สายตาคมก้มมองหม้อนั้น น้ำกลั่น—-ยาเสน่หานี้มีสีใส แต่กลับส่งกลิ่นหอมหวนของดอกไม้ ให้ชวนได้ดื่มและลิ้มลอง
ทั้งหอมหวาน และอันตรายยิ่ง
ค่อยๆ ตักยานั้นแบ่งใส่ขวด ขวดแก้วสีใสถูกบรรจุน้ำเสียเต็ม
“ วิธีการใช้ ก็เพียงนึกใบหน้าคนผู้นั้น และให้เขาดื่มน้ำนี้ เพียงหยดเดียว อีกฝ่ายจะตกอยู่ในเสน่หาอย่างแน่นอน “
เสียงทุ้มเอ่ยออกมา
น้ำเสียงนั้นเจือหัวเราะอย่างแผ่วเบา
โอ้, ความเอ๋ย ความรัก
ขอเพียงเจ้านั้นได้มารักข้า
...จะอย่างไร ก็ย่อมทำได้ทั้งนั้น
แล้วเจอกัน,
ขอให้เจ้าโชคดี
ดวงใจข้า
อธิบาย :
รู้จัก Triangle of love ไหมครับ? นี่เป็นทฤษฎีที่ว่า รัก มีองค์ประกอบ 3 ประการ
Credit : ไม่ทราบที่มา
- Intimacy หรือ ความใกล้ชิด ในที่นี้ ผมใช้แทนเป็น สัมภัต [มิตร] คือการอยู่ร่วมกัน ความใกล้ชิดสนิทใจ การมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ซึ่งแน่นอนว่าจุดนี้จะเรียกได้ว่าต้องใช้เวลา แต่เนื่องจากนี่เป็นบรรยายปรุงยาเสน่ห์ มันเป็นสูตรโกงตั้งแต่แรก ผมจึงให้เป็นคล้ายการกรีดเลือดสาบานว่าจะเป็นมิตรต่อกันแทนครับ
- Passion หรือ ความหลงไหล ผมใช้แทนเป็น วิมลัก [รักยิ่ง] นั่นคือการหลงรัก คล้ายๆ คำว่า ‘รัก’ หรือ ‘หลง’ หลงไหลในเชิงชู้สาว
- Commitment หรือ การกระทำร่วมกัน นี่หมายถึงการตัดสินใจทำอะไรร่วมกันคล้ายข้อผูกมัด เช่น การแต่งงาน การหมั้น การทำธุรกิจร่วม ในที่นี้ ผมใช้แทนเป็น ราหุล[บ่วง]
2
ความรักสามารถก่อกำเนิดในรูปแบบใด กับใคร หรืออะไรก็ได้ แต่เพียงการรวมกันทั้งสามอย่างที่พอดีและลงตัว เขาว่าจะเกิด Consummate love (รักที่สมบูรณ์แบบ) แต่แน่นอนว่าเกิดได้น้อย และแทบจะเป็นอุดมคติ
กลีบทั้ง 9 เอามาให้เป็นเลขมงคลว่าเราสองจะก้าวเดินไปข้างหน้า ธาตุทั้ง 5 ที่ผสมคือธรรมชาติและสิ่งก่อกำเนิดตัวตน—ก่อกำเนิดความรักออกมา การจะรักใครได้ เราก็ต้องมีตัวตนของเราเสียก่อน
2
นั่นคือที่มาของการบรรยายสร้างยาเสน่ห์ขึ้นมาครับ
เพิ่มเติมเรื่อง triangle of love : https://www.gotoknow.org/posts/618576

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา