Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ท่านโอ๊ตฮิ
•
ติดตาม
20 ก.ค. 2021 เวลา 04:47 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
23 คุณเก็บความลับได้มั้ย
ในอุณหภูมิอันหนาวเหน็บยามบ่าย...(แปลกมั้ย ตามความรู้สึก บ่ายมันต้องร้อนสินะ แต่อย่าลืมว่าตอนนี้เราอยู่ที่นิวยอร์ก ในช่วงฤดูหนาว)
ผมต้องมายืนรอใครบางคนที่สถานีรถไฟใต้ดิน Grand Av. Newton
...
เรื่องราวก่อนที่จะนำมาสู่จุดนี้ มันก็ไม่มีอะไรมาก เพื่อประหยัดเวลา ผมจึงจะขอเล่าแบบรวบรัดตัดความเลยละกันนะครับ
หลังจากที่เมื่อวานนี้วิวไปดูห้องเช่าใหม่กลับมา...ใช่ครับ ห้องเช่าใหม่ที่เธอส่งรูปให้ผมดูนั่นแหละ
เธอก็กลับมาที่ห้องเก่าที่มีผมรออยู่ พร้อมกับเปิ้ลและเอ๋ที่ตามมาด้วย ทั้งหมดมารวมหัวกันนั่งคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ถึงข้อดี และข้อเสียของที่พักใหม่ที่เพิ่งไปดูมา
หลังจากที่ไตร่ตรองกันอยู่นาน ทั้งหมดก็มีความเห็นตรงกันว่าวิวควรจะย้ายไปพักที่ห้องใหม่ ซึ่งแม้ราคาจะสูงกว่า แต่มีความสะดวกสบายมากกว่า แต่เรื่องราวทั้งหมดมันคงไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะการย้ายห้องครั้งนี้ก็มีภาระอีกมากมายที่ตามมา มีข้าวของเครื่องใช้หลายอย่างที่ต้องซื้อใหม่ เพราะบางอย่างที่มีใช้อยู่ตอนนี้ก็เป็นของเจ้าของห้องเช่านี้ ซึ่งวิวเอาไปไม่ได้
ที่นอน...เธอจึงจำเป็นต้องซื้อที่นอนใหม่
เปิ้ลเสนอว่าตอนนี้ที่ร้านเจ๊กำลังลดราคาที่นอนอยู่พอดี ซึ่งพรุ่งนี้จะลดเป็นวันสุดท้าย
แต่วันพรุ่งนี้ วิวต้องไปทำงาน เปิ้ล กับเอ๋ก็ไม่มีใครว่าง ไม่มีใครไปซื้อได้
“เราไปให้มั้ย” ผมเสนอตัว เพราะในห้องตอนนี้คงมีผมคงเดียวเท่านั้นที่ว่างที่สุด และอย่างน้อยการทำอย่างนี้ อาจจะเป็นการช่วยทำให้ความรู้สึกดีๆ ของวิว กลับมาอีกครั้ง
“เธอไปเป็นเหรอ” วิวหันมาถาม
“ไม่เป็น แต่ไม่เป็นไร เธอบอกทางเราสิ เราไปให้ได้” ผมพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่มี
“แล้วเธอจะคุยกับเขารู้เรื่องเหรอ” นี่สิ คือจุดอ่อนที่แท้จริง ด้วยความเขลาด้านภาษาของผม อันนี้แม้จะพยายามยังไง ก็ยังดูเป็นเรื่องยาก ถึงตรงนี้ผมนึกขอโทษคุณครูวิไลพรที่ตอนเด็กไม่ใส่ใจเรียนวิชาอังกฤษเท่าที่ควร ถ้าครูต้องมารู้ว่าลูกศิษย์คนนี้ต้องมาประสบเคราะห์กรรม ยากลำบากที่ต่างแดนด้วยความด้อยภูมิด้านภาษาอังกฤษที่ครูสอนผม เชื่อว่าคุณครูจะต้องเสียใจไม่น้อย
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ก็ให้พี่อาร์มเขาไปซื้อให้น่ะแหละ วันสุดท้ายแล้วด้วย” เปิ้ลเสนอทางออก “แต่เดี๋ยวเราหาใครซักคนที่ว่างๆ ให้ไปเป็นเพื่อนพี่อาร์มเขาละกัน”
“...”
...
นั่นแหละครับ เป็นที่มาที่ผมต้องมายืนหนาวรอใครบางคนที่นี่ ผมเปิดดูข้อความที่วิวเพิ่งส่งมาอีกครั้ง
'รอที่สถานี Grand Av. Newton ตรงทางออก ถนนบรอดเวย์เดี๋ยวจะมีคนไปรับ'
...
ผมสังหรณ์ใจว่าคนๆ นั้น คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก โจ้ ผู้ซึ่งไม่เคยทอดทิ้งกัน
“พี่อาร์ม” เสียงผู้หญิงเรียกผม ในนิวยอร์กนอกจากวิวก็ไม่มีใครที่ผมรู้จัก ผมหันกลับไป เห็นสาวผมยาวหน้าตาน่ารักส่งยิ้มให้ ทำเอาชะงักไปชั่วครู่ ใครวะ ผมค่อยๆ นึก...
“อ้าวเหมียว จำแทบไม่ได้” เธอคือเหมียวที่ผมเจอเมื่อวันก่อน ตอนไปเที่ยวที่ Manhattan อาจเป็นเพราะวันนั้นเหมียวใส่แว่น แล้วก็มัดผม วันนี้พอทำในสิ่งตรงข้าม มันก็เลยดูแปลกตา “เหมียวมาทำอะไรแถวนี้เหรอ”
“ก็มารับพี่ไปซื้อฟูกไง” เหมียวตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อ้าว เป็นเหมียวเหรอ”
“ทำไม ผิดหวังเหรอไงที่เจอเหมียว”
“ตอนแรกพี่นึกว่าจะเป็นโจ้”
“หรือพี่อยากให้โจ้มามากกว่า...อุ๊ย อย่าบอกนะว่า พี่กับโจ้” เหมียวยิ้มแบบมีเลศนัย แล้วเธอก็หัวเราะชอบใจ
สรุป เหมียวคือคนที่จะพาผมไปซื้อฟูก ร้านที่จะไปซื้อฟูกนั้นอยู่ห่างจากที่พักไปพอสมควร หากมาคนเดียวนี่ผมหลงแน่ๆ
เหมียวเล่าว่าพวกเพื่อนๆ ของเธอส่วนใหญ่ก็มาซื้อเฟอร์นิเจอร์กันที่ร้านเจ๊กันทั้งนั้นแหละ ที่เรียกว่าร้านเจ๊เพราะคนขายแกเป็นคนจีน ก็อารมณ์ก็ประมาณเจ๊ๆ บ้านเรานี่แหละ อัธยาศัยดี แล้วก็ราคาก็ไม่แพงมาก
เรามาถึงร้านเจ๊ ซึ่งการเข้าถึงอาจจะลึกลับซักหน่อย เพราะจะต้องเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินไปก่อนถึงจะเจอ สงสัยเจ๊แกคงกลัวว่าลูกค้าจะรู้ว่าร้านแกอยู่ตรงนี้(อันนี้ผมประชดนะ)
ภายในร้านบรรยากาศก็เป็นเหมือนร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปตามบ้านเรา มีเฟอร์นิเจอร์คุณภาพปานกลางราคาประหยัดวางอยู่กระจัดกระจาย และก็มีกองฟูกวางเรียงซ้อนๆ กันอยู่
เจ๊เจ้าของร้านให้ลูกจ้างเอาฟูกออกมาวางให้ผมดู เหมียวคุยกับเจ๊ แล้วหันมาบอกกับผม
“นี่ฟูกยางพาราเลยนะพี่” ว่าแล้วเธอก็กระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง “โอย...สบายจัง”
เหมียวนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างสบายอารมณ์ ผมลองคิดภาพตอนที่วิวได้นอนบนฟูกนี้เธอก็น่าจะสบาย และผ่อนคลายไม่แพ้กัน
“พี่อาร์ม” เหมียวเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม “มานอนด้วยกันสิ”
“บ้า พูดอะไรน่าเกลียด...” ผมตกใจ และเหมือนเธอเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา เหมียวหน้าแดง แล้วก็หัวเราะชอบใจ
“ไม่ใช่! บ้าจริง... เหมียวหมายความว่า พี่ลองมานอนดู ดูซิว่าเวลานอนมันสบายรึเปล่า”
“อ๋อ” แล้วผมก็ค่อยๆ ขึ้นไปนอนบนเตียง “อืม สบายจริงด้วย” ผมหันไปบอกเหมียว
“ตกลงเอาขนาด Queen Size เลยหรือพี่” เหมียวหันมาถาม “วิวนอนคนเดียวไม่ใช่เหรอ ซื้อเล็กกว่านี้มั้ยประหยัดกว่านะ”
จริงๆ ที่วิวสั่งมา เธอก็ขอให้ซื้อแค่ขนาดที่นอนคนเดียวได้ก็พอ แต่ผมคิดว่าเพิ่มเงินอีกซักนิดเพื่อให้ได้ฟูกขนาดที่ใหญ่กว่าก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร เธอจะได้นอนสบายขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่า ผมจะซื้อฟูกเป็นของขวัญปีใหม่ให้เธอ
“อืม เอาขนาดนี้แหละ จะได้นอนสบายๆ” ผมบอกเหมียว
“สงสัยวิวคงนอนดิ้นมากเลยใช่มั้ย” เหมียวพูดแล้วหัวเราะ “น่าอิจฉาวิวเนอะ”
“อิจฉาที่นอนดิ้นเหรอ” ผมถาม
“อิจฉาที่มีแฟนแบบพี่อะ” เหมียวหันมามองหน้าผม พร้อมกับส่งสายตาชื่นชมมาให้
“แหม ชมกันอย่างนี้ พี่เขินแย่” สงสัยผมจะหน้าแดง เหมียวเลยหัวเราะชอบใจ
ผมกับเหมียวนอนคุยกันเพลินบนฟูกนั้น จนเจ๊เจ้าของร้านกลับเข้ามา แล้วเหมียวลุกขึ้นไปเจรจาต่อรองราคา ได้ส่วนลดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ผมจ่ายเงินค่าฟูกนี้ไป แล้วรอใบเสร็จเพื่อเก็บเป็นหลักฐานในการรับของ เหมียวบอกกับเจ๊ว่าอาทิตย์หน้าให้เอาฟูกไปส่งให้ตามที่อยู่ในกระดาษ ซึ่งที่นั่นคือห้องเช่าใหม่ของวิว
...
“วิวเค้าจะย้ายเมื่อไหร่เหรอคะ”
“เห็นเค้าว่าหลังปีใหม่นี่แหละ”
“จริงๆ ถ้าวิวไม่รีบย้าย รออีกนิดเอาฟูกที่ห้องเหมียวไปใช้ก็ได้ เดือนหน้าเหมียวก็จะกลับแล้ว”
เหมียวเล่าให้ฟังว่าเวลาที่นักเรียนไทยจะกลับบ้าน เค้าจะมีประเพณีเปิดห้องขายของกัน พวกข้าวของเครื่องใช้ที่ขี้เกียจเอากลับบ้านก็จะถูกนำออกมาแจก หรือไม่ก็ขายในราคาพิเศษสุดๆ
“เหรอ เหมียวมาอยู่ที่นิวยอร์กนี่กี่ปีแล้วล่ะ”
“อืม เกือบสามปีแล้วค่ะ”
เหมียวมาเรียนด้านแฟชั่นดีไซน์ที่ Platt Institute เธอเป็นเพื่อนกับเปิ้ลสมัยเรียนมัธยม และเพราะเปิ้ลก็เลยทำให้เหมียวได้รู้จักกับวิว ความสัมพันธ์ของคนไทยที่นี่ก็เป็นอย่างนี้แหละ มันมีความต่อเนื่องเกี่ยวโยงกันไปจนแผ่ขยายเป็นสังคมวงใหญ่ และนั่นอาจจะเป็นโอกาสให้ผมได้ทำการหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเหมียว ผมอยากรู้ว่าที่ผ่านมามีผู้ชายคนไหนที่เข้ามาวุ่นวายกับแฟนของผมรึเปล่า เพราะผมยังคาใจเรื่องไอ้ไนท์อยู่ วิวกับมันมีความสัมพันธ์แบบไหน
“พี่ไนท์มีคนมาชอบเยอะ แต่พี่เค้ามีคนที่เค้าชอบอยู่แล้ว”
“แต่มีแล้ว ก็ใช่ว่าจะมีอีกไม่ได้นะ” ผมซักต่อ
“ทำไมพี่อยากรู้เรื่องพี่ไนท์จัง” เหมียวทำสีหน้าสงสัย “อย่าบอกนะว่านอกจากโจ้แล้ว พี่ก็รู้สึกกับพี่ไนท์อีกด้วย” เหมียวยิ้มแบบมีเลศนัย แล้วเธอก็หัวเราะชอบใจอีกครั้ง
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือ...”
ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้เหมียวฟัง ถึงความแคลงใจที่ผมมีต่อไอ้ไนท์
ผมสงสัยว่ามันกำลังแอบคั่วกับวิวอยู่...
“นั่นแหละ เหมียวอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ เดี๋ยวไปถึงหูวิว เค้าจะโกรธพี่”
“สำหรับเรื่องพี่ไนท์กับวิว มันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ” เหมียวมองหน้าผมด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วเธอก็เล่าให้ผมฟังว่า คนที่ไนท์กำลังชอบอยู่ตอนนี้ก็คือเปิ้ล ทั้งคู่แอบคบกัน อันนี้ยังไม่มีใครรู้ แต่เปิ้ลเล่าให้เหมียวฟัง...
“นั่นแหละ พี่ก็ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครด้วย เดี๋ยวไปถึงหูเปิ้ล เค้าจะโกรธเหมียว”
1
เฮ้ย จริงเหรอนี่ ไม่น่าเชื่อ
จากพฤติกรรมของทั้งคู่ในคืนนั้น ผมดูไม่ออกเลยจริงๆ
“สัญญานะพี่ ว่าห้ามบอกใคร” เหมียวย้ำกับผมให้แน่ใจ
“อืม ได้พี่สัญญา” ผมกับเหมียวแลกเปลี่ยนความลับซึ่งกันและกัน นั่นเป็นการประกันว่าความลับระหว่างเราจะไม่มีการหลุดแพร่งพรายออกไปแน่นอน ซึ่งสำหรับความลับที่ผมได้รู้จากเหมียวทำให้บรรยากาศรอบตัวของผมสดใสขึ้นทันตาเห็น เพราะคนที่น่าสงสัยที่สุดตอนนี้ได้หลุดวงโคจรออกไปแล้ว
...
ไนท์ ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้ยืมรถไปรับผมที่สนามบิน
ในที่สุดผมสามารถพูดประโยคนี้ได้อย่างจริงใจซักที
...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
นิวยอร์ก ห อกหัก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย