21 ก.ค. 2021 เวลา 03:32 • หนังสือ
#39 บทที่ 7 หน้า 182 ~ 187
...
N : ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมศาสนจักรถึงประกาศว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่เป็นความจริง
...
...
...
G : ใช่ ตอนที่ฉันสร้างพวกเธอขึ้น ฉันไม่ได้สร้างพวกเธอให้มีชีวิตเพียงแค่ชีวิตเดียวหรือชาติเดียว (นั่นมันสั้นเหมือนผงธุลีเมื่อเทียบกับอายุขัยของจักรวาล) ให้ทำเรื่องผิดพลาดที่อย่างไรก็เลี่ยงไม่พ้น แล้วก็หวังให้ทุกอย่างออกมาดีในท้ายที่สุด ฉันเคยลองพยายามวางแผนว่าจะสร้างพวกเธอขึ้นมาแบบนั้น แต่จนแล้วจนรอดก็หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้จริงๆว่าจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร
พวกเธอก็หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกันนั่นล่ะ (ว่าจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร) พวกเธอถึงได้ชอบพูดกันนักว่า "พระเจ้าทรงมีวิธีจัดการเรื่องราวต่างๆในแบบที่ลึกลับเกินกว่าเราจะเข้าใจ" แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรที่ลึกลับซับซ้อนเลย ทุกสิ่งที่ฉันทำล้วนมีเหตุผล และเหตุผลนั้นก็ชัดเจนมากๆด้วย
ในไตรภาคนี้ฉันได้อธิบายไปแล้วหลายรอบว่า ✨ทำไมฉันถึงสร้างพวกเธอขึ้นมา✨ และ ✨จุดมุ่งหมายของชีวิตพวกเธอคืออะไร✨
การเวียนว่ายตายเกิดจะตอบจุดมุ่งหมายนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งก็คือ : ✴️ให้ฉันได้สร้างและมีประสบการณ์ถึงตัวฉันผ่านทางตัวเธอ ชีวิตแล้วชีวิตเล่า ชาติภพแล้วชาติภพเล่า — และผ่านทางสิ่งมีชีวิตที่มีจิตรับรู้อื่นอีกเป็นล้านๆที่ฉันได้สร้างไว้ในจักรวาลนี้✴️
N : ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่บน...
G : แน่นอนว่ามี เธอเชื่อจริงๆหรือว่าในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้มีเพียงมนุษย์เท่านั้น❓ แต่เรื่องนี้เป็นอีกประเด็น ไว้เดี๋ยวค่อยคุยกัน...
N : ...สัญญานะครับ
G : สัญญา
ฉะนั้น 🔹จุดมุ่งหมายของเธอในฐานะวิญญาณ🔹 ก็คือ : ✴️เพื่อจะมีประสบการณ์ถึงตัวเองว่าเป็นทั้งหมดทุกสิ่ง เธอและฉันกำลังวิวัฒน์อยู่ตลอด พวกเรากำลัง...กลายเป็นบางสิ่ง✴️
แต่กลายเป็นอะไรน่ะหรือ❓
เธอและฉันก็ไม่รู้หรอก❗
ไม่มีทางรู้จนกว่าพวกเราจะเป็นอย่างนั้นแล้วนั่นล่ะ❗
📌 แต่สำหรับเธอและฉันแล้ว การเดินทางนั้นคือความเบิกบาน และทันทีที่พวกเราไปถึง "ตรงนั้น" แล้ว...เธอและฉันก็จะสร้างมโนคติขั้นสูงสุดขั้นต่อไปในทันทีว่าพวกเราคือใคร เธอและฉันจะสร้างแนวคิดที่สูงล้ำกว่าเดิมขึ้นมาอีก จะสร้างมโนคติที่สูงส่งกว่าเดิมขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ✨และจะเบิกบานกับการเดินทางนั้นไปตลอดกาล✨
ตามทันไหม❓
N : ทันครับ แทบจะท่องได้ทุกคำอยู่แล้วตอนนี้
G : ดี
เพราะฉะนั้น...🔹จุดประสงค์และจุดมุ่งหมายของชีวิตเธอ🔹ก็คือ : ✴️เพื่อตัดสินใจว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใครและก็เป็นตัวตนนั้น✴️
📌 เธอกำลังทำเรื่องนี้อยู่ทุกวัน ✨ด้วยทุกการกระทำ ทุกความคิด และทุกถ้อยคำ✨
นั่นล่ะคือ ✨เรื่องที่เธอกำลังทำอยู่✨
📌 ทีนี้ก็ขึ้นกับว่าเธอพอใจกับตัวตนนั้นแค่ไหน พอใจกับประสบการณ์ที่ได้เป็นตัวตนนั้นมากน้อยเพียงใด หากเธอพอใจมาก เธอจะยึดถือตัวตนที่เธอสร้างขึ้นไว้และจะปรับเปลี่ยนแก้ไขเพียงเล็กน้อยตรงนั้นทีตรงนี้ที เพื่อให้เข้าใกล้ความสมบูรณ์มากขึ้นไปเรื่อยๆ
ปรมหังสา โยคานันทะ (Paramahansa Yogananda) คือตัวอย่างของผู้ที่ใกล้จะเข้าสู่ 🔸ภาวะแห่งความสมบูรณ์แบบ🔸 (ใกล้มากๆ) ในแง่ที่ ✨ตัวตนของเขาคือภาพฉายทางกายภาพของความคิดที่เขามีต่อตัวเอง✨
✴️คนๆนี้มีแนวคิดที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับตัวเอง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อฉัน และชีวิตเขาก็แสดงภาพนั้นออกมา เขาต้องการให้แนวคิดที่มีต่อตัวเองปรากฏเป็นจริงในชีวิต ต้องการรู้จักตัวเองว่าเป็นแบบนั้น...ในเชิงประสบการณ์✴️
เบบ รูธ★ ก็ทำแบบเดียวกัน เขามีความคิดที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับตัวเอง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อฉัน และชีวิตเขาก็แสดงภาพนั้นออกมา ได้รู้จักตัวเองผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
★Babe Ruth : หนึ่งในนักเบสบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวอเมริกัน ขณะเดียวกันก็มีวิถีชีวิตที่เสเพลออกนอกลู่นอกทางตลอดเวลา ~ ผู้แปล
มีคนไม่มากที่ใช้ชีวิตในระดับนั้น ก็เป็นอย่างที่เห็น "คุรุ" และ "เบบ รูธ" 🔹มีความคิดเกี่ยวกับตัวเองต่างกันแบบสุดขั้ว🔹 แต่ก็แสดงออกมาได้สุดยอดด้วยกันทั้งคู่
✴️ และแน่นอนว่าสองคนนี้มีแนวคิดเกี่ยวกับฉันต่างกัน ทั้งยังมีระดับการรับรู้เกี่ยวกับตัวฉันและการรับรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงที่พวกเขามีต่อฉันต่างกัน ซึ่งระดับของการรับรู้นั้นก็สะท้อนออกมาผ่านทางความคิด คำพูด และการกระทำของพวกเขา ✴️
⏺️ คนหนึ่งอยู่ในภาวะสันติและสงบเย็นเกือบตลอดทั้งชีวิต ทั้งยังนำความสงบเย็นอันลึกซึ้งและสันติสุขสู่ผู้อื่น
⏹️ ส่วนอีกคนอยู่ในภาวะหวาดวิตก ปั่นป่วน และเกี้ยวกราดอยู่ตลอดเวลา (โดยเฉพาะตอนที่ไม่ได้ดั่งใจ) และสร้างความยุ่งยากลำบากใจให้คนที่อยู่รอบๆตัว
ทั้งคู่มีจิตใจดี (ไม่มีใครจะมีสัมผัสอ่อนโยนได้เท่าเบบ) ทว่าความต่างระหว่างทั้งสองคนอยู่ตรงที่ : คนหนึ่งแทบไม่มีสมบัติวัตถุในครอบครอง และไม่เคยต้องการมากไปกว่าที่มีอยู่ — ขณะที่อีกคน "มีทุกอย่าง" แต่ก็ไม่เคยได้รับในสิ่งที่ต้องการจริงๆ
ถ้านั่นคือจุดสิ้นสุดสำหรับจอร์จ เฮอร์แมน★ ฉันว่าเราทุกคนก็คงเศร้าใจอยู่เหมือนกัน 🔹แต่ดวงวิญญาณที่มาเป็นเบบ รูธ ยังห่างไกลนักจากการเสร็จสิ้นของกระบวนการที่เรียกว่าการวิวัฒนาการ — วิญญาณมีโอกาสทบทวนประสบการณ์ที่ได้สร้างให้ตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ที่ได้ก่อไว้กับชีวิตของคนอื่น🔹
★ชื่อจริงของ เบบ รูธ ~ ผู้แปล
✴️และตอนนี้วิญญาณก็ได้ตัดสินใจใหม่ไปแล้วว่าอยากจะได้รับประสบการณ์อะไรต่อไปขณะพยายามจะสร้างตัวเองขึ้นใหม่ และจะสร้างขึ้นใหม่ให้ยิ่งใหญ่และยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อยๆ✴️
📌 เราจะจบเรื่องของวิญญาณของทั้งสองไว้แค่นี้ เพราะทั้งคู่ได้เลือกแล้วว่าอยากมีประสบการณ์อะไรต่อไป...ซึ่งจริงๆทั้งสองคนก็กำลังได้รับประสบการณ์นั้นอยู่ในตอนนี้
N : หมายความว่าตอนนี้ทั้งคู่กลับมาเกิดใหม่แล้วในร่างอื่น❓
G : ถือเป็นเรื่องผิดพลาดถ้าจะคิดว่า พวกเขามีทางเลือกแค่การกลับมาเกิดใหม่ (กลับมาใหม่ในอีกร่างหนึ่ง) เท่านั้น
N : ทางเลือกอื่นมีอะไรบ้างครับ❓
G : ในความเป็นจริงก็คือ : ✨อะไรก็ได้ที่พวกเขาอยากเป็น✨
ฉันได้อธิบายไปแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างหลังจากภาวะที่เธอเรียกว่าความตาย
▶️ วิญญาณบางดวงรู้สึกว่า ยังมีอีกหลายอย่างเหลือเกินที่ตัวเองอยากรู้ แล้วพวกเขาก็จะพบว่าตัวเองไปอยู่ใน "โรงเรียน" ที่มีวิญญาณดวงอื่นๆ (ที่พวกเธอเรียกว่า "วิญญาณอาวุโส") กำลังสอนพวกเขาอยู่
พวกเขาสอนเรื่องอะไรกัน❓
ก็สอนว่า : ไม่มีอะไรให้ต้องเรียนรู้
สอนว่า : ไม่เคยมีสิ่งใดเลยที่ต้องเรียนรู้
ทั้งหมดที่ต้องทำก็คือ ✨จำให้ได้✨
✴️ จำให้ได้ว่าจริงๆแล้วตัวเองคือใครและเป็นอะไร ✴️
พวกเขาจะ "ได้รับการสอนสั่ง" ว่า :
🌟ประสบการณ์ว่าตัวเองเป็นใครนั้นจะเกิดขึ้นจากการแสดงตัวตนเช่นนั้นออกมา...จากการ 🔸เป็น🔸 ตัวตนแบบนั้น🌟
✴️ หลังจากได้รับการสอนสั่งพวกเขาจะจดจำเรื่องนี้ได้ทีละนิดๆ ✴️
วิญญาณบางดวงจำเรื่องนี้ได้ก่อนมาถึง (หรือไม่ก็จำได้ทันทีหลังมาถึง) "อีกฟากหนึ่ง" (ฉันใช้ภาษาในแบบที่เธอคุ้นเคย ใช้คำที่พวกเธอพูดกันอยู่เป็นปรกติ โดยพยายามเลือกใช้คำที่ใกล้เคียงกับความจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)
📌 วิญญาณเหล่านี้อาจเสาะหาความเบิกบานในทันที ด้วยการมีประสบการณ์ถึงตัวเองว่าเป็นอะไรก็ได้ที่อยาก "เป็น" ซึ่งก็มีด้านต่างๆของตัวฉันให้เลือกเป็นล้านๆรูปแบบ (เป็นอนันต์รูปแบบ) แล้วก็เลือกมีประสบการณ์ถึงมันเดี๋ยวนั้นเลย แต่วิญญาณบางดวงอาจเลือกมีประสบการณ์ของการกลับสู่รูปกายอีก
N : รูปกายแบบไหนก็ได้❓
G : ได้หมด
N : ถ้าอย่างนั้นก็เป็น "เรื่องจริง" ใช่มั้ยครับที่วิญญาณกลับมาเกิดเป็นสัตว์ต่างๆได้ ว่าพระเจ้าสามารถเป็นวัวได้❓ และวัวนี่มันศักดิ์สิทธิ์จริงๆใช่มั้ย❓★ วัวศักดิ์สิทธิ์❗★★ (Holy cow!)
★ชาวอินเดียส่วนใหญ่ (ชาวฮินดู) มีความเชื่อว่าวัวนั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ~ แอดมิน
★★Holy cow เป็นคำสบถ ความหมายประมาณว่า "แม่งเอ๊ย" ความหมายจะคล้ายๆ holy shit (ซึ่งหยาบคายมากสำหรับฝรั่ง) แต่ให้อารมณ์ที่สุภาพกว่านิดนึง ~ ผู้แปล
G : (อะแฮ่ม)
N : ขอโทษครับ
G : เธอมีเวลาอีกทั้งชีวิตให้เล่นตลก แต่จะว่าไปพอลองดูชีวิตของเธอแล้ว เธอก็ตลกน่าดูน่าชมเหมือนกัน
N : ตึ่งโป๊ะ...นี่ถ้ามีฉาบจะจัดให้อีกสักดอก
G : ขอบคุณ ขอบคุณ
แต่ตอนนี้...จริงจังก่อนนะสหาย
▶️ ประเด็นที่เธอถามถึงก็คือ วิญญาณกลับมาเกิดเป็นสัตว์ได้ไหม❓
คำตอบคือ 🔹ได้แน่นอน🔹
📌 แต่ประเด็นที่แท้จริงที่ควรถามก็คือ วิญญาณจะทำอย่างนั้นไหม❓
คำตอบคือ ✴️น่าจะไม่✴️
N : สัตว์มีวิญญาณมั้ยครับ❓
G : ใครก็ตามที่เคยจ้องเข้าไปในดวงตาของสัตว์จะรู้คำตอบแล้ว
N : แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าแมวตัวนั้นไม่ใช่ยายของผมกลับชาติมาเกิด❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา