22 ก.ค. 2021 เวลา 13:49 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
28 ข้าวผัดที่แพงที่สุดในโลก
โชคชะตาพาผมเคลื่อนตัวมาที่ห้าง Century21 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากBrooklyn Bridge เท่าไหร่ โชคดีที่อุบัติเหตุจักรยานชนไม่ส่งผลกระทบกับร่างกายของผมมากนัก แม้จะเจ็บอยู่นิดหน่อย แต่ก็ยังพอเดินไหว
ห้าง Century21 ถือเป็นสถานที่อันโปรดปรานของเหล่าบรรดาสุภาพสตรีทั้งหลาย รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของห้างนี้เป็นสไตล์ตะวันตกยอดนิยม อันประกอบด้วยประชาชนชาวฝรั่งจำนวนมากและของเซลล์ที่มีจำนวนมากไม่แพ้กัน
หลากหลายเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ที่รวมหัวกันลดราคากระหน่ำ
ดูรวมๆ แล้วอารมณ์น่าจะคล้ายๆ ห้างแพลทตินั่มที่บ้านเรา ต่างเพียงเสื้อผ้าที่มากองลดราคาอยู่ที่นี่เป็นของแท้ทั้งสิ้น ไม่มีของก็อปปี้ให้เห็นเลย
“ช็อปกันตามอัธยาศัยนะคะ ถ้าหลงยังไงก็โทรหากันนะ” เปิ้ลบอกกันทุกคน แล้วหันไปบอกเอ๋ “อีเอ๋ แกมากับชั้นหน่อยชั้นเล็งกระเป๋าไว้ มาเร็ว...” เปิ้ลลากเอ๋หายเข้าไปในฝูงชน
“พี่อาร์มกับวิวอยู่ด้วยกันไปนะ เดี๋ยวผมจะไปซื้อขนมกิน” โจ้เดินหายไปอีกคน ในที่สุดตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับวิว
“ซื้ออะไรดีล่ะ” ผมหันไปถามเธอ
“อยากซื้ออะไรก็ซื้อสิ” วิวตอบกลับมาน้ำเสียงเรียบเฉย
ผมเดินเลือกของไปเรื่อย โดยที่มีวิวเดินตามอยู่ห่างๆ บางครั้งผมก็พยายามหันไปขอความเห็นเกี่ยวกับของที่จะซื้อ แต่ก็ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือซักเท่าไหร่
“เจ็บขาจังเลย” ผมแสร้งทำเป็นเจ็บเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ
“...อืม”
เดี๋ยวนะ อืม...อืมคืออะไร ที่บอกนี้เพราะเราต้องการความห่วงใย ไม่ใช่เป็นการเรียนเพื่อทราบนะครับ อีกแล้วกับอารมณ์แบบนี้ “เธอเป็นอะไรรึเปล่า” ผมถาม... มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“เปล่า ไม่มีอะไรซักหน่อย”
“มีอะไรก็บอกเราได้นะ เห็นเธอเป็นอย่างนี้เราไม่สบายใจ”
“เออน่า อย่าเซ้าซี้ได้มั้ย จะซื้ออะไรก็รีบๆ ซื้อเหอะ” เธอกระแทกเสียงกลับมา
“เธอยังไม่หายโกรธเราเหรอ ใช่เรื่องที่เราไปเที่ยวมารึเปล่า”
เอาจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะรื้อฟื้นหรอกครับ แต่นี่คือเรื่องที่ยังคาใจ และมันทำให้ผมต้องอึดอัดและการกระทำของผมก็ยิ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เธอยิ่งโกรธ
“เอ๊ะ! บอกไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ” วิวหันมาตะคอกใส่ผมอีกครั้ง
“...หรือเพราะเรื่องที่เมื่อคืนเราพยายามจะมีอะไรกับเธอ” คงเป็นเพราะความอึดอัดที่มาถึงขีดสุดทำให้ผมพูดคำนี้ออกไป สีหน้าของวิวเปลี่ยนสีทันตาเห็น เธอมองหน้าผม ผมเคยเห็นสายตาแบบนี้จากเธอมาก่อน และมันทำให้ผมรู้สึกกลัว
“อาร์ม เธอไปซื้อของของเธอละกัน เสร็จแล้วก็โทรมาบอกละกัน” แล้วเธอก็เดินหายเข้าไปในฝูงชนอีกคน ผมได้แต่อึ้ง และทำอะไรไม่ถูก...
ใช่ ทำอะไรไม่ถูก เพราะทุกอย่างที่ทำตอนนี้เหมือนมันจะไปหมดซะทุกอย่าง
หลังจากที่มีเหล่าโชคชะตาคอยนำทางมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้โชคชะตาค่อยๆ หายไปทีละคน และคนสุดท้ายที่สำคัญสำหรับผมมากที่สุดก็ยังมาหายไปอีก ตอนนี้ผมเลยมีผู้นำทางคนใหม่ที่ชื่อ ยถากรรม เข้ามาแทน
ผมเดินเลือกของฝากอยู่คนเดียว พยายามมองหาของที่ดูมีคุณค่าและราคาไม่สูงมากนัก อย่างที่บอก ตอนนี้ทรัพย์ที่มีก็เหลือไม่มากแล้ว... เข็มขัดหนังเส้นนี้น่าจะเหมาะกับป๊านะ กระเป๋าใบนี้แม่ก็น่าจะชอบ แล้วเสื้อตัวนี้น้องสาวของผม มันจะชอบมั้ยเนี่ย
'เฮ้ย เสื้อตัวนี้โอมั้ย'... ผมถ่ายรูปแล้วส่งไลน์ไปให้มันดู
'ไม่เอาอะ บ้าเหรอให้ใส่สีนี้นี่นะ สีนี้มันเอ้าท์แล้ว'... ของฟรีแล้วยังเรื่องมากอีก ผมคิดในใจ
'แล้วจะเอาสีอะไร มันมีหลายสี'... บอกตามตรง ผมไม่รู้หรอกว่าสีไหนที่มันอิน สีไหนที่มันเอ้าท์
'ให้พี่วิวเลือกให้สิ'... น้องสาวพิมพ์ตอบกลับมา มันเคยชมรสนิยมในการแต่งตัวของวิวให้ผมฟังบ่อยๆ
'อย่าเรื่องมากได้มั้ย เลือกๆ ไปเหอะ ตอนนี้วิวไม่อยู่'... ผมเริ่มชักรำคาญ
'อ้าว แล้วพี่วิวไปไหนล่ะ'...
นั่นสิ แล้วตอนนี้วิวอยู่ที่ไหน
...
“Sorry the number you dial can’t reach at the moment , Pls leave the message after the beep”... ฝรั่งเสียงหวานๆ ก็ตอบกลับมาอย่างใจร้าย
หลังจากที่พยายามส่งรูปสีเสื้อผ่านไลน์ให้น้องสาวผมดูจนมันได้สีที่ถูกใจ ผมก็โทรไปหาวิว และเสียงที่ตอบกลับมาก็เป็นเช่นข้อความข้างบนนั้น อย่าบอกนะว่าวิวปิดโทรศัพท์
หรือว่าเธอจะโกรธผมมากจนทิ้งผมกลับบ้านไปแล้ว แล้วอย่างนี้ผมจะกลับยังไง ผมพยายามโทรเธออีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ทุกครั้งก็เหมือนเดิม ผมยังได้ยินเสียงหวานๆ จากฝรั่งคนเดิมคอยตอบกลับมาอย่างสม่ำเสมอ
ครั้นจะโทรหาคนอื่น ผมก็ดันไม่มีเบอร์ใครเลย ความวิตกกังวลเริ่มบังเกิด ท่าทางคราวนี้ผมคงได้หลงในนิวยอร์กแน่ๆ...
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ
ถึงเวลาที่ต้องพึ่งตัวเอง ผมค่อยๆ ไล่เรียงความคิดย้อนกลับ ตอนขามาเรามาที่สถานี...
สถานีอะไรวะ จำไม่ได้ ไม่เป็นไร พอจำทางเดินกลับไปได้ แล้วให้นั่งรถไฟสายสีเขียว ไปต่อที่สถานี Union Square แล้วค่อยต่อรถไฟอีกสาย...
ตรงนั้นแหละที่ยาก เพราะมันมีสายเชื่อมมากมายที่สถานีนั้น...จำได้ใช่มั้ยครับ ที่โจ้เคยบอกว่าคนที่มานิวยอร์กใหม่ๆ มักจะหลงอยู่ในสถานี เพราะต่อสายรถไฟไม่ถูก
ซึ่งผมก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าไปถึงสถานี Union Square ได้ แล้วจะต้องไปต่อรถไฟสายอะไร ชานชลาไหน อย่าเสี่ยงกับสิ่งที่ยากเกินความสามารถของเราเลย ผมตัดสินใจทำสิ่งที่พอทำได้ นั่นก็คือออกเดินหาพรรคพวกที่เหลือ แต่คนมันเยอะมาก ยากที่จะหาเจอ และพอโทรไปหาวิวอีกที ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม จนผมเริ่มท้อ และหมดแรง
“พี่อาร์ม” ผมหันกลับไปตามที่มาของเสียง มันเป็นเสียงของโจ้
สาบานเลยครับ ตั้งแต่มานิวยอร์กจนถึงวันนี้ นี่คือครั้งแรกที่ผมโคตรดีใจเลย ที่ได้เห็นหน้าของโจ้...สาบานจริงๆ
...
“ไม่แน่ไม่กลับนะ นอนไปเลยไม่ต้องรอ เราเอากุญแจไปด้วย”
คำพูดของวิวก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากออกจากห้าง Century21 เหล่าโชคชะตาก็พาผมกลับมาที่พัก ระหว่างทางแทบไม่มีบทสนทนาใดๆ ที่ออกจากปากของผมเลย ในหัวของผมมันมีอะไรวิ่งวนไปมาเต็มหมด ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าความคิดนั้นมันคืออะไร
มาถึงที่สถานี Grand Av. Newton ทุกคนก็แยกย้าย ผมเดินกลับกับวิว แต่เราก็แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย ระหว่างทางผมแวะซื้อข้าวผัดจากร้านอาหารไทยสองกล่อง คิดว่าจะเอามากินที่ห้อง เผื่อวิวด้วย และเมื่อกลับมาถึงที่ห้อง วิวก็ทำท่าว่าจะออกไปข้างนอกอีก
“นั่นเธอจะออกไปไหนเหรอ” ผมถาม
“เดี๋ยวเราจะไปดูละครที่ห้องเอ๋นะ” เธอคงหมายถึงละครไทยนั่นแหละ
“ดูละคร ทำไมไม่ดูที่ห้องล่ะ ดูในยูทูปก็ได้” ผมพยายามรั้งเธอไว้
“ไปดูกันหลายคนสนุกกว่า” เธอตอบ แต่ไม่มองหน้าผม
“แต่เราซื้อข้าวผัดมาให้เธอ” ผมชูข้าวผัดในมือให้เธอดู แต่เธอก็ไม่สนใจ
“กินไปเลย เราไม่กิน” วิวนั่งลงใส่รองเท้า
“งั้นเราไปด้วยได้มั้ย” ผมถาม แล้วเธอก็หันมามอง
“...ไม่แน่ไม่กลับนะ นอนไปเลยไม่ต้องรอ เราเอากุญแจไปด้วย” วิวเดินออกไป แล้วปิดประตูห้อง ผมว่านั่นน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
ผมนั่งกินข้าวผัดที่ซื้อมา แล้วก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ นี่ผมมันบ้ารึเปล่า ผมมาที่นิวยอร์กนี่ทำไม เอาจริงๆ ผมไม่ได้อยากมาเที่ยว ไม่ได้อยากมาดูตึก ไม่ได้อยากมาเดินสวน ไม่ได้อยากดูสะพาน ไม่ได้อยากซื้อของในห้างอะไรทั้งหลายแหล่เลยแม้แต่น้อย ที่ผมมาเพราะผมอยากใช้เวลาร่วมกับเธอ แต่สุดท้ายกลับต้องมาเป็นอย่างนี้ ยอมเสียเงิน เสียเวลาเดินทางมาครึ่งโลกเพื่อมานั่งกินข้าวผัดคนเดียวอย่างนี้นี่นะ
...
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมยังรอด้วยความหวัง ด้วยคำพูดที่วิวพูดไว้ก่อนออกไปว่าไม่แน่ไม่กลับ นั่นจึงหมายความว่าเธออาจจะกลับมา ผมยังแอบมีหวังที่จะได้พูดคุยกับเธอ แต่ไม่ได้ต้องการปรับความเข้าใจอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่เธออยู่ห้องนี้ ให้เราได้ใช้เวลาด้วยกันบ้าง
...
เที่ยงคืนแล้วเธอยังไม่กลับ ผมออกมายืนสูบบุหรี่ด้านนอก อากาศหนาวเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา เธอดูละครไปถึงตอนไหนแล้ว จวนจะจบรึยัง และดูเรื่องอะไร มันสนุกขนาดที่ไม่ยอมกลับมานอนเลยเหรอเนี่ย ตอนนี้ผมเริ่มหิวอีกแล้ว ยังมีข้าวผัดที่เหลืออีกกล่อง แต่ผมก็ไม่กล้ากิน เพราะบางทีตอนที่วิวกลับมาเธออาจจะหิว
...
ผมนอนอยู่บนเตียง จ้องมองนาฬิกาเหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง ตอนนี้เวลาล่วงเลยมาถึงตีสอง เข็มวินาทีเคลื่อนไปช้าๆ ในช่วงจังหวะแห่งการรอคอย ความคิดที่มีในหัวมันยังวิ่งวน คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา คิดถึงเหตุการณ์ที่ห้าง Century21 และคิดเลยไปถึงครั้งนั้นที่เราเคยไปเที่ยวงานลอยกระทงภูเขาทองด้วยกัน วันนั้นที่เธอพาผมฝ่าฝูงชน วันนั้นเธอจับมือของผมไว้ไม่ยอมปล่อย แต่วันนี้เธอกลับทิ้งให้ผมต้องอยู่คนเดียว
...
ทุกอย่างสิ้นสุดลงเมื่อนาฬิกาบอกเวลาตีห้าสี่สิบห้า วิวคงไม่กลับมาแล้วล่ะ พอกันที ทุกอย่าง มันเกินขีดจำกัดของผมมาตั้งนานแล้ว ผมจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว
ผมตัดสินใจ ลุกขึ้นจากเตียง หยิบข้าวผัดอีกกล่องที่เหลือมาอุ่นกิน
...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา