23 ก.ค. 2021 เวลา 08:53 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
29 สวัสดีชาวโลก
วันที่ 29 ธันวาคม อีกแค่สามวันผมก็ต้องกลับประเทศไทยแล้ว
จริงๆ ความคิดของผมมันควรจะต้องคิดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ
แต่ตอนนี้ ทำไมผมกลับรู้สึกว่ามันเหลืออีกตั้งสามวัน
ในขณะที่ใครหลายคนกำลังตื่นเต้น กับการเฉลิมฉลองที่ใกล้เข้ามา
แต่สำหรับผม วันที่ 29 ธันวาคม แม่งโคตรธรรมดา
วันนี้ไม่มีอะไรพิเศษ เรียกว่าไม่มีอะไรน่าจดจำ
ไม่ใช่ว่าผมขี้เกียจนะ แต่ผมจำอะไรไม่ได้จริง
ขอผ่านวันที่ 29 ธันวาคมไปเลยละกัน
วันที่ 30 ธันวาคม
บทสนทนาภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงกดแป้นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ของเธอ และเสียงพลิกหน้ากระดาษหนังสือของผม คลอเบาๆ ในบรรยากาศระหว่างเรา
มีคนเคยบอกว่า ความสุขของคู่รักบางคู่คืออยู่ด้วยกันทั้งวัน แม้จะไม่ได้พูดจากันสักคำขอแค่มีกันและกัน ได้อยู่ใกล้ๆ แค่นั้นก็พอแล้ว...แต่นั่นจะเป็นเพียงนิยามที่สร้างมา เพื่อหลีกหนีความจริงบางอย่าง
ความจริงที่ว่า…เราทั้งคู่ต่างก็ไม่อยากเอ่ยปากพูดคุยกัน
ผมไม่คิดชวนเธอคุย ซึ่งดูเธอเองก็ไม่ได้อยากจะคุยกับผมซักเท่าไหร่
หรือเพราะคำกล่าวนั้นอาจใช้ไม่ได้สำหรับคู่รักคู่นี้ ซึ่งถึงตรงนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะยังสามารถเรียกสถานะของเราว่าเป็นคู่รักได้อยู่รึเปล่า
ความอึดอัดมันคืบคลานเกาะกินจนเกินขีดจำกัด ผมกับวิวนั่งหันหลังให้กัน แต่สัมผัสได้ถึงความกดดันที่ล้อมรอบเราอยู่ และเราทั้งคู่ต้องทนกับมันขึ้นอยู่กับว่าใครจะยอมแพ้ก่อนกันเท่านั้น
“เดี๋ยวเราไปห้องเอ๋นะ ค่ำๆ กลับ”
“อืม” ผมพยักหน้ารับ แต่สายตายังคงจับจ้องหนังสือที่อยู่ในมือ
วิวออกไปแล้ว...ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้
 
ในห้องที่ว่างเปล่า จากที่เงียบอยู่แล้ว ตอนนี้มันยิ่งเงียบกว่าเดิม อาจเพราะมันมีความเหงาเข้ามาเติมเต็ม...
แล้วผมจะทนอยู่กับมันทำไม
บนขบวนรถไฟจากสถานี Grand Av. Newton ผมกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เกาะแมนฮัตตั้น นี่คือครั้งแรกสำหรับการเดินทางโดยลำพังในนิวยอร์ก แม้จะตะกุกตะกักซักหน่อยแต่ก็คงไม่เกินความสามารถของสติปัญญาที่ผมมี
หลายวันที่ผ่านมาประสบการณ์การใช้บริการรถไฟ สอนให้ผมได้รู้จักวิธีการซื้อตั๋วโดยสาร สอนให้รู้จักการดูเส้นทางเดินรถ ประกอบกับแผนที่ซับเวย์ที่ผมได้มาตั้งแต่วันแรกๆ ในที่สุดผมก็พาตัวเองมายืนอยู่บนใจกลางเกาะแมนฮัตตั้น ที่ถนน Fifth Ave แห่งนี้ได้สำเร็จ
โจ้เคยเล่าให้ผมฟังว่าถนน Fifth Ave นี้ คือย่านช็อปปิ้งชื่อดังของโลกประกอบไปด้วยร้านค้าชื่อดังมากมายที่เรียงรายตลอดเส้น
เราจะเจอกับร้านขายของเบรนด์เนม ทั้งความหรูหราของ Prada และ Gucci ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่คิดจะย่างกรายเข้าไปแม้แต่น้อย
ผมเดินผ่านความอลังการของ The Peninsula Hotel แล้วก็ผ่านเลยไปจนมาเจอร้าน Apple Store ที่เลื่องลือ แวะเข้าไปดมกลิ่น สตีฟ จ็อบนิดหน่อย เผื่อยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง
เรื่องจะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับไปแทบไม่ต้องคิด ตอนนี้ยังพอมีเงินเหลือกินอยู่บ้างนิดหน่อย ในส่วนของเงินเหลือใช้แทบไม่มี เรียกได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งความมัธยัสถ์อย่างที่สุด
ผมเดินชื่นชมความมีระดับของถนนเส้นนี้ จนมาถึงจุดหมายปลายทางที่ผมตั้งใจจะมา เป็นที่ที่ได้ฉายาว่าเป็น โอเอซิสสำหรับชาวเมืองแมนฮัตตั้น ที่แห่งนี้…Central Park
อาจะพูดได้ไม่เต็มปากว่า ตอนนี้ผมสามารถใช้ชีวิตในนิวยอร์กได้สบายๆ ตอนแรกผมยอมรับว่าค่อนข้างวิตกกับการเดินทางคนเดียวในมหานครอันใหญ่ยักษ์แห่งนี้ แต่ภาพเบื้องหน้าของผมในตอนนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจ ว่าผมสามารถทำได้
มันคือสวนสาธารณะที่กว้างไกลไปสุดลูกหูลูกตา ว่ากันว่าความกว้างใหญ่ของ Central Park แห่งนี้พอๆ กับการเอาสนามฟุตบอล 460 สนาม มาวางต่อกันเลยทีเดียว
และนี่คือจุดหมายที่ผมตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะต้องมาเยือนซักครั้ง
แต่ในความตั้งใจนั้น มันควรจะต้องมีใครอีกคนที่มาด้วยกัน ไม่ใช่มาเพียงลำพังอย่างนี้
แม้ในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศใน Central Park จะไม่ชอุ่มชุ่มไปด้วยสีเขียวของใบไม้ แต่ที่นี่ก็ยังอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก คู่รักมากมายจูงมือเดินผ่านหน้าไปมาเหมือนจงใจกลั่นแกล้ง แต่ผมพยายามจะไม่ใส่ใจ
ตรงนั้นคู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปสำหรับงานแต่งงานของทั้งคู่ ผมพยายามจะไม่แยแส
ถัดไปพ่อแม่และลูกเล็กๆ ครอบครัวของเขากำลังหยอกล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน
และไม่ไกลนั่นมีกลุ่มเพื่อนที่กำลังหัวเราะเฮฮา
ถึงจะพยายามหลีกหนีความรู้สึกตัวเอง แต่ก็คงไปไหนไม่พ้น เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างมันเอื้อกันขนาดนี้ มันก็คงไม่ผิดที่ผมจะรู้สึกเหงา
...
'นี่คือลานไอซ์สเก็ตทีใหญ่ที่สุดในโลกนะฮะพี่'
เบื้องหน้าของผมตอนนี้คือลานสเก็ตน้ำแข็งใจกลาง Central Park ที่มีชื่อว่าWollman Rink
'ลานไอซ์สเก็ตนี้จะเปิดตั้งแต่ปลายเดือนตุลา ถึงต้นเดือนเมษาเท่านั้นนะพี่ หลังจากนั้นเค้าก็จะจัดให้เป็นสวนวิคตอเรีย'
ผมลองจินตนาการเล่นๆ คิดว่าหากวันนี้มีโจ้มาด้วย มันก็คงน่าจะพูดประมาณนี้แหละ
'พี่ลองทายดูว่าอายุของลานไอซสเก็ตที่นี่ มีอายุเท่าไหร่'
'ไม่ทายได้มั้ย'... ผมตอบโจ้ในความคิด
'อะไรนะ พี่ตอบว่า 148 ปีถูกต้องนะคร๊าบบบ!!'
“…”
ถ้าโจ้มาด้วยสถานการณ์ตรงหน้าคงเป็นแบบนี้ อย่างที่บอกบางทีชีวิตคนเรา อาจจะไม่จำเป็นต้องมีสาระไปหมดทุกเรื่องก็ได้
ELLEN & LARRY MARRIED JUNE 11,1955 FOR YOU 50 YEARS TOGETHER
เรื่องราวของความรักที่สวยงามถูกบันทึกเป็นแผ่นป้ายเหล็ก ติดอยู่บนเก้าอี้สีเขียวที่ผมนั่งอยู่ ราวกับว่ามันจะพยายามให้กำลังใจผมให้ลุกขึ้นสู้ บางทีความรักของผมอาจจะเหมือนกับคู่รักคู่นี้
แต่ถ้าคุณ ELLEN & LARRY ยังไม่ตาย ผมก็อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า
ความรักมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดไปซะทุกอย่าง ที่ต้องเลิกรา ไม่สมหวังมันก็มีอยู่เยอะ
ถึงจุดนี้ผมเรียนรู้และเข้าใจโลกมากขึ้น ผมรู้โลกที่สวยงามมันมีอยู่จริง แต่โลกแห่งความเป็นจริงมันกว้างกว่า และโลกสวยๆ ใบนั้นมันไม่มีที่พอให้มนุษย์เข้าไปอยู่กันได้คนทุกคนหรอก
...
หิมะหยุดตกไปนานแล้วเหลือทิ้งไว้แต่อากาศหนาวที่คอยโอบอุ้มบรรยากาศของที่นี่ไว้ ผมมาหยุดที่ Bethesda Terrace มีรูปปั้นน้ำพุนางฟ้าที่อยู่กลางบ่อน้ำถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญใน Central Park
หลากภาพจำจากภาพยนตร์หลายเรื่องที่เคยดู และที่คุ้นตาที่สุดก็จากฉากสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง กุมภาพันธ์ ฉากที่นางเอกมาตามหาพระเอกที่นี่ แล้วพระเอกที่อยู่ในสภาพของโฮมเลสก็โผล่ออกมา ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน...
ผมลองพยายามหันมองซ้ายขวา ไม่เจอนางเอกของผมโผล่มาซักที
แม้ความทรงจำที่นิวยอร์กของผมอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมจะขอบันทึกภาพของตัวเองเอาไว้ นี่อาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิต ที่ผมได้มายืน ณ จุดนี้
ขอบคุณนางฟ้ามีปีก ที่ยอมมาถ่ายรูปคู่กับผม ณ สถานที่ ที่จริงที่สุดในโลก
ผมได้เอารูปถ่ายคู่ระหว่างผมกับนางฟ้ามีปีกไปแปะไว้ที่หน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง แน่นอนไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้ชาวโลกรู้ว่า ตอนนี้กูมาอยู่ที่นี่แล้วนะ
ซึ่งเธอคนนั้นก็คือชาวโลกคนหนึ่งเช่นกัน
...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา