23 ก.ค. 2021 เวลา 02:23 • ประวัติศาสตร์
• เรื่องผีที่พระบรมมหาราชวัง
เล่าเรื่องผีของฝรั่งมังค่ามาก็มากแล้ว อยากเปลี่ยนมาเล่าเรื่องผีที่บ้านเรากันบ้าง มิใช่ว่าฝักใฝ่ฝรั่งมังค่าหรือนิยมแต่ต่างชาติแต่อย่างใด แต่ที่ไม่ค่อยได้เล่าเกี่ยวกับเรื่องบ้านเราเพราะมีหนังสือหนังหาที่มีผู้รู้ลงมือจรดปากกาเขียนไว้มากมาย สามารถหาอ่านกันได้
ในคราวนี้เห็นว่าบางเรื่องถึงจะมีหนังสือหนังหาเขียนเล่าไว้แต่ไม่ใช่เรื่องที่รับรู้กันแพร่หลายนัก โดยเฉพาะเรื่องผี ประจวบกับอยากเปลี่ยนบรรยากาศด้วย จึงจะมาเล่าเรื่องผีจากที่เคยอ่านมามาเล่าสู่กันอ่านต่อ ซึ่งเรื่องผีในประเทศนี้ก็มีมากกันเหลือเกิน จึงคัดมาเล่าเฉพาะบางสถานที่ไป ครั้งนี้จะมาเล่าเรื่องผีที่พระบรมมหาราชวังกันเสียก่อน
1
ภาพพระบรมมหาราชวังช่วงรัชกาลที่ 5 (Wikipedia)
• พระวิญญาณบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2425 เป็นอาคารขนาด 3 ชั้น สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นท้องพระโรงออกว่าราชการ รับแขกบ้านแขกเมือง และเป็นที่ประทับส่วนพระองค์
3
โดยพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเป็นหมู่พระที่นั่งที่มีอยู่ 11 องค์ รัชกาลที่ 5 ทรงใช้ด้านหลังของพระที่นั่งนี้เป็นที่ประทับพร้อมกับฝ่ายใน ซึ่งปัจจุบันเหลือแค่พระที่นั่งด้านหน้า เพราะพระที่นั่งด้านหลังอื่น ๆ ทรุดโทรมจนต้องรื้อถอนออกไป
ณ ชั้นบนสุดเรียกว่า “พระวิมาน” ถูกใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิกษัตริย์ในราชวงศ์จักรี พระมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง
1
ด้วยความที่เป็นพระที่นั่งสำคัญจึงมีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด และผู้ที่อยู่เวรในยามดึกหลายคนต่างเจอประสบการณ์เดียวกัน นั่นคือการได้เห็นพระวิญญาณของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 กันหลายครั้ง
1
เหตุที่ผู้อยู่เวรเห็นตรงกันว่าเป็นพระวิญญาณของรัชกาลที่ 3 เพราะรูปเขียนสีน้ำมันของกษัตริย์ราชวงศ์จักรีตั้งแต่รัชกาลที่ 1-7 ประดับไว้บนผนังที่ห้องรับรองบนชั้นกลางตอนในของพระที่นั่ง
พระวิญญาณของรัชกาลที่ 3 จะมาปรากฏพระองค์ให้เห็นในลักษณะทรงพระภูษาแดงลอยชาย คือนุ่งผ้าสีแดงแต่ไม่รวบชายขึ้นเหน็บโจงกระเบนแต่ปล่อยลงให้หลวมเพื่อให้สบาย ไม่สวมเสื้อหรือฉลองพระองค์ บางครั้งมีผู้เห็นเพียงด้านหลังก็รู้ทันทีว่าเจอกับพระวิญญาณของรัชกาลที่ 3 เข้าให้แล้ว เพราะพระวิญญาณของพระองค์สูงใหญ่แบบชายไทยโบราณและทรงมีพระวรกายใหญ่โตมากกว่ากษัตริย์องค์อื่น ๆ
เวลาใครเห็นพระวิญญาณของรัชกาลที่ 3 จะไม่กล้าร้องโวยวายเพราะเกรงราชโทษ ทำได้แต่กราบพระวิญญาณด้วยความกลัวจนตัวสั่นงันงก
ผังของพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (Sanook)
• ประสบการณ์ของทูลกระหม่อมเล็ก
ไม่เพียงแต่ผู้เฝ้าเวรดึก พระบรมวงศานุวงศ์ก็เคยเจอกับพระวิญญาณของรัชกาลที่ 3 เช่นเดียวกัน ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นกับ “ทูลกระหม่อมเล็ก” หรือเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถตอนที่มีพระชนม์ราว 5-6 พรรษา ซึ่งเป็นพระโอรสของรัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
3
มีเรื่องเล่ากันว่าในตอน 5 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ทูลกระหม่อมเล็กทรงเล่นอยู่กับเจ้าพี่เจ้าน้องหลายพระองค์ตรงพระที่นั่งด้านหลังของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เล่นไปเล่นมาก็ทรงร้องขึ้นมาว่า
“ใครน่ะ ใครอยู่ตรงนั้น เข้ามานี่หน่อยซิ”
พอเมื่อไม่มีใครมาจึงให้มหาดเล็กไปตามตัวคนนั้นมาเฝ้า พอมหาดเล็กกราบทูลถามถึงรูปร่างหน้าตาทูลกระหม่อมเล็กก็ทรงบอกว่า
“อ้วน ๆ ตัวใหญ่ นุ่งผ้าแดง เดินหายไปทางนี้”
พอมหาดเล็กไปตามหาก็ไม่เจอใคร ภายหลังเมื่อทูลกระหม่อมเล็กเห็นรูปเขียนสีน้ำมันของรัชกาลที่ 3 ก็ทรงชี้ทันทีแล้วบอกว่า
1
“นี่ไง คนนี้ไง”
พอพระพี่เลี้ยงได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนหน้าซีดรีบอุ้มทูลกระหม่อมเล็กออกไปจากตรงนั้นทันที ทูลกระหม่อมเล็กรับสั่งว่าชายคนนี้มาดุเด็ก ๆ เพราะเล่นกันเสียงดัง
2
พอความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์จึงสั่งให้ทูลกระหม่อมเล็กทรงน้ำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบหน้าพระรูปเพื่อขอพระราชทานอภัย พร้อมกับทรงกำชับมิให้ข้าหลวงและมหาดเล็กนำเรื่องนี้ไปเล่าต่อจนแพร่หลายไป แต่ก็อย่างว่า คนไทยชอบเรื่องผี และไม่มีทางที่จะไม่เผยแพร่ความกลัวนี้ต่อ ๆ ไป เราในยุคปัจจุบันจึงได้รับรู้เรื่องเช่นนี้ต่อด้วย
พระบรมรูปของรัชกาลที่ 3 (Pantip)
• พระวิญญาณที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน
1
แต่อีกเวอร์ชั่นเล่าว่าทูลกระหม่อมเล็กเจอพระวิญญาณที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ซึ่งเป็นที่ประทับตลอดพระชนม์ชีพของรัชกาลที่ 3 และพระองค์เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้ด้วย
เวอร์ชั่นนี้เล่าว่าฝ่ายในได้นำทูลกระหม่อมเล็กขึ้นไปเล่นบนพระที่นั่ง พระองค์เล่นซุกซนจนหายไปพระพี่เลี้ยงตามหาก็ไม่เจอ แต่ซักพักทรงกลับมาเองแล้วทรงเล่าให้พี่เลี้ยงฟังว่าเจอผู้ชายอ้วนใหญ่นั่งอยู่ในห้อง แล้วก็เดินหายไปทางที่ประดิษฐานรูปเขียนสีน้ำมันของรัชกาลก่อน ๆ พอทรงเรียกก็ไม่เห็นมีใครออกมา
1
วันต่อมาทูลกระหม่อมเล็กทรงขึ้นไปเฝ้ารัชกาลที่ 5 ระหว่างทางทรงผ่านรูปเขียนสีน้ำมันของรัชกาลที่ 3 จึงชี้แล้วบอกว่า “คนนี้” พอความทราบถึงสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ จึงให้นางกำนัลจัดดอกไม้ธูปเทียนไปถวายทูลกระหม่อมเล็กเพื่อให้ไปขอพระราชทานอภัย
1
สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ ทรงมีดำริว่าเด็ก ๆ อาจขึ้นไปเล่นเสียงดังรบกวน หรือไม่ก็ทรงพระเอ็ดดูพระนัดดาจึงออกมาทอดพระเนตร แล้วที่ทูลกระหม่อมเล็กเห็นเพราะเด็กมักจะมีสัมผัสต่อสิ่งลึกลับได้มากกว่าผู้ใหญ่
1
พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน (Wikipedia)
• สระน้ำในวังหลวง
สระน้ำในวังหลวงต่อท่อมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีข้อห้ามว่าไม่ให้ชาววังทั้งหลายลงไปอาบน้ำในนั้นหรือทำสิ่งสกปรกในสระน้ำแห่งนี้ แต่มีเหตุการณ์ที่พระเจ้าน้องนางเธอในรัชกาลที่ 5 คือพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญา ซึ่งเป็นพระราชธิดาในรัชกาลที่ 4 ฆ่าตัวตายจนสิ้นพระชนม์ ณ สระน้ำ นี้เพราะทรงประชวรด้วยพระโรคประสาท
1
ต่อมาจึงเกิดเรื่องเล่าลือในหมู่ชาววังว่าในยามวิกาลมีคนได้ยินเสียงเปรตร้องโหยหวน เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเสด็จพระองค์หญิงทรงได้รับความทุกข์ทรมาน (อาจเป็นเพราะมีความเชื่อกันว่าคนที่ฆ่าตัวตายจะกลายเป็นผีเปรตก็เป็นได้) เสียงลือเสียงเล่าอ้างเรื่องนี้ทำให้ชาววังหวาดกลัวกันมากจนไม่กล้าออกไปไหนกันตอนกลางคืน แม้จะปวดหนักปวดเบาก็ยังไม่ยอมไปเพราะหากต้องไปอุโมงค์ (ชื่อเรียกส้วม) ต้องเดินผ่านสระนี้
พอความเรื่องนี้ทราบถึงรัชกาลที่ 5 จึงทรงดำริให้ทำพิธีแก้ด้วยการขุดสระน้ำใหม่และทำพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปโปรดให้พระเจ้าน้องนางเธอทรงพ้นทุกข์ สระน้ำที่ขุดใหม่มีชื่อว่า “สระพระองค์อรไทย” แล้วหลังจากนั้นเรื่องเล่าลือเรื่องเสียงของวิญญาณผีเปรตก็เงียบหายไป แสดงว่าพิธีแก้อาจจะได้ผล
ส่วนสระน้ำใหม่นี้มีคำจารึกข้างสระด้วย เป็นแท่นจารึกคำอุทิศ ความประมาณว่าพระองค์เจ้าอรไทยเทพกัญญาจัดสร้างสระนี้ขึ้นเพื่อบำเพ็ญกุศล
สระพระองค์อรไทย (มติชนรายวัน)
• ผีที่ตำหนักเจ้าจอมก๊กออ
เจ้าจอมก๊กออ เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระสนมเอก 5 คนในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ทั้งหมดมีชื่อขึ้นต้นด้วย อ อ่าง จึงถูกเรียกว่าเจ้าจอมก๊กออ ทั้งหมดเป็นบุตรสาวของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) ชื่อว่าเจ้าจอมมารดาอ่อน เจ้าจอมเอี่ยม เจ้าจอมเอิบ เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน
2
มีเรื่องเล่าว่าตำหนักของเจ้าจอมก๊กออนี้ผีเฮี้ยนนัก ครั้งหนึ่งมีพนักงานมานั่งเล่นอยู่ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตำหนัก พอเล่นกันหัวเราะกันเสียงดัง แล้วจู่ ๆ ก็มีน้ำสาดโครมลงมาใส่จนพากันเปียกปอนไปหมด
1
แต่… บนตำหนักนั้นไม่มีคน เหลียวหาที่มาของน้ำก็ไม่เจอคน
แต่เรื่องเล่าของผีที่ตำหนักเจ้าจอมก๊กออไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เหล่าพนักงานพระภูษาที่ทำงานอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในยังพากันเจอเป็นประจำ
คุณพร้อม เจ้าพนักงานพระภูษาเคยถ่ายทอดประสบการณ์ว่าครั้งหนึ่งเคยเดินออกมาจากตึกตอนยามเย็นเวลาโพล้เพล้แล้วผ่านตำหนักเจ้าจอมก๊กออ แต่สายตาเจ้ากรรมกลับเหลือบขึ้นไปดูบนตำหนัก และเห็นพระพักตร์ของเจ้านายบางองค์ชะโงกลงมาจากหน้าต่างบนตึกนี้ ที่น่ากลัวก็เพราะว่าตำหนักนี้ปิดร้างอยู่ไม่มีใครอาศัยอยู่เลย
1
ตามบริเวณตำหนักเก่าซึ่งเคยเป็นที่พำนักของบรรดาเจ้าจอมมารดาและเจ้าจอมในอดีตก็มีผู้พบเจอประสบการณ์ผี ๆ กันมากมาย ซึ่งเป็นข้าราชการสำนักพระราชวังฝ่ายในที่ต้องอาศัยอยู่ในวัง ซึ่งที่อยู่ของคนเหล่านี้จะอยู่ตามตำหนักเก่าของพวกเจ้าจอมนี้
มีเรื่องเล่ามากมายเกิดขึ้น เช่นคนที่เข้าไปนอนข้างบนในห้องที่เคยเป็นที่ประทับของเจ้านายหรือเจ้าจอมก็มักจะเห็นคนเดินผ่านแวบ ๆ ทางหางตา พอล้มตัวลงนอนก็จะมีมือที่มองไม่เห็นมาดึงหรือผลักจนตกเตียงดังตู้ม ซึ่งต้องขอขมาลาโทษแล้วพากันย้ายลงมานอนรวมกันข้างล่างที่ไม่ใช่ห้องนอนในอดีต
เวลากลางคืน จะไม่มีใครยอมอยู่ดึกเจ้าหน้าที่จะรีบเลิกรีบกลับหากไม่มีงานพระราชพิธีใด ๆ เพราะยามนั้นมักจะได้ยินเสียงคนเดินหรือไม่ก็ได้กลิ่นแปลก ๆ บางคนเจอวิญญาณเด็ก หรือเดิน ๆ อยู่ก็รู้สึกเหมือนมีคนมาอยู่รายรอบล้อมตัวไว้ หากไปไหนยามค่ำคืนพนักงานก็จะพากันไปเป็นหมู่คณะ
ตำหนักเจ้าจอมก๊กออ (Wikipedia)
• เมื่อรัชกาลที่ 8 สิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ 8 ช่วงทรงพระเยาว์พระองค์ประทับที่วังสระปทุม ต่อมาเสด็จไปประทับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเสด็จกลับไทยก็ประทับอยู่ ณ พระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง และสวรรคตอย่างลึกลับตามที่เราทราบกันที่พระที่นั่งองค์นี้
1
พระองค์สวรรคตก่อนที่จะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และก่อนจะเกิดเหตุสวรรคตมีปรากฏการณ์ดาวหางสีแดงดวงใหญ่ที่หางยาวมากพาดผ่านท้องฟ้าของประเทศไทยด้วย ซึ่งคนสมัยก่อนเชื่อว่าเป็นลางร้ายจะเกิดเหตุอาเพศ
3
เมื่อสวรรคต พระบรมศพของรัชกาลที่ 8 นำไปตั้งและประกอบพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ถูกเกณฑ์ให้มายืนอยู่ยามเข้าเวรเฝ้าพระบรมศพ และก็พากันเจอเรื่องแปลกกันถ้วนหน้า
1
เรื่องที่ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์เจอก็เช่นตอนดึก ๆ เกิดเผลอหลับไปก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะแชนเดอเลียร์ที่แขวนบนเพดานสั่นได้เองส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง ๆ ทั้ง ๆ ที่หน้าต่างประตูปิดหมดลมเข้าไม่ได้ และบรรยากาศในตอนนั้นเงียบสงัดไร้ซึ่งสรรพเสียงอื่นใด
2
บางคนเข้าเวรยามดึกแล้วเดินผ่านมาไม่ทำความเคารพ เพราะเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้วไม่ต้องทำก็ได้ แต่ก็มีมือลึกลับมาตบเปรี้ยงให้ที่ตรงต้นคอ และทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ที่เข้าไปยืนยามเฝ้าพระบรมศพด้านในแล้วแอบงีบหลับไปก็จะมีมือลึกลับมาเขย่าให้ตื่นได้ทุกครั้งก่อนที่หัวหน้าจะมาตรวจตรา
2
ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ก่อนที่รัชกาลที่ 8 จะเสด็จสวรรคตได้เพียงวันเดียว พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลหอพระธาตุมณเฑียรและพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทเข้าไปทำงานตามปกติ
พอตอนพลบค่ำยามเย็นพนักงานคนนั้นอยู่ในหอพระธาตุมณเฑียรและพระวิมาน พอเดินเข้าไปใกล้บริเวณที่ไว้พระอัฐิก็หยุดชะงักกึกพร้อมกับขนลุกซู่ เพราะเขาได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาชุมนุมกัน ณ ที่นั้นและมีพึมพำดังเซ็งแซ่ ทั้ง ๆ ที่ห้องนั้นไม่มีใครอยู่เลยนอกจากพระอัฐิ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นลางบอกเหตุอาเพศที่พระอัฐิมาคุยกันเรื่องที่จะมีกษัตริย์ในราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่จะถูกลอบปลงพระชนม์
พระที่นั่งบรมพิมาน (Wikipedia)
อ้างอิง:
ข้อมูลหลัก ๆ มาจากหนังสือ 2 เล่ม คือ
1. จินต์ชญา, ชาววังช่างเล่าเรื่อง (ผี). กรุงเทพฯ : แพรวสำนักพิมพ์, 2559.
2. หลวงนายฤทธิ์, เรื่องเก่า ๆ ของเจ้านาย. กรุงเทพฯ : โพสต์ พับลิชชิง, 2557.
ส่วนข้อมูลเสริมอื่น ๆ ที่นำมาประกอบเพิ่มเติมค้นมาจากวิกิพีเดีย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา