24 ก.ค. 2021 เวลา 06:57 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
31 ธันวาคม
และแล้ววันสุดท้ายของปีก็มาถึง ผมลืมตาตื่นขึ้นมานานแล้ว แต่ว่ายังแสร้งทำเป็นหลับอยู่อย่างนั้น เบื้องหน้าของผมคือกำแพงห้อง ส่วนด้านหลังคือวิว
ผมได้ยินเพียงเสียงวิวหัวเราะคิกคักเบาๆ แต่ก็ไม่เห็นว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และก็ไม่กล้าหันกลับไปดู เพราะกลัวว่าถ้าเธอรู้ว่าผมตื่นแล้ว เธอจะไม่ยอมส่งเสียงหัวเราะอีก
จริงๆ แล้ว เมื่อก่อนนี้เสียงหัวเราะของเธอมันเป็นเสียงที่ผมได้ยินบ่อยมาก แต่มาช่วงหลังเสียงหัวเราะของเธอดูเหมือนว่าจะขาดตลาด เพราะมันหาฟังยากเหลือเกิน โดยเฉพาะช่วงเวลาตั้งแต่ที่ผมมาถึงที่นี่
และเพื่อแลกกับการได้ฟังเสียงเธอหัวเราะ ผมคิดว่าคงต้องยอมทนหันหน้ามองกำแพงอย่างนี้ต่อไปดีกว่า
แต่สุดท้าย...ผมก็ทนไม่ไหว เพราะอาการปวดฉี่ที่อั้นมาตั้งแต่ตื่น ตอนนี้มันโหมกระหน่ำเข้ามาแบบเต็มเหนี่ยวแล้ว ผมรอจนกระทั่งจังหวะหัวเราะของเธอเงียบลงแล้วค่อยๆ ขยับลุกจากเตียง แกล้งทำเป็นงัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน...
นั่นไง ตามคาด พอเธอเห็นผมลุกขึ้นมา อาการของเธอก็เปลี่ยนไปอย่าเห็นได้ชัด ผมหันไปส่งยิ้มให้นิดหน่อย แล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที
...
“วันนี้ไปไทม์สแควร์กันมั้ย” ผมเอ่ยปากชวนวิว
นี่คือกำหนดการชีวิตที่ถูกขีดเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทางมาที่นี่ ไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้ที่ผมวาดฝันไว้ คือการได้ไปเคาท์ดาวน์กับวิวที่ไทม์สแควร์ และในช่วงเวลาที่ตัวเลขนับถอยหลังจนถึงวินาทีที่ศูนย์ เสียงไชโยโห่ร้อง เฉลิมฉลอง ดังขึ้นพร้อมบทเพลง “NEW YORK NEW YORK” ของ Frank Sinatra
เมื่อนั้น ผมกับวิวเราจะหันมายิ้มให้กัน แล้วตามธรรมเนียมปฏิบัติของคนท้องถิ่นที่นี่ เมื่อก้าวข้ามสู่ปีใหม่ เขาก็จะจูบกัน ซึ่งผมถือคติว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตามด้วยความเต็มใจ ผมจะค่อยๆ บรรจงจูบไปที่สุดที่รักของผมอย่างแผ่วเบา
มันจะต้องเป็นจูบที่อ่อนโยน และประทับใจ สมกับการเป็นจูบแรกของปีใหม่ ไม่กระโชกโฮกฮาก ไม่แลกน้ำลายจนเกินงาม ไม่มีการกระซวกลิ้น ไม่ลากไส้ออกมากินจนน่าเกลียด ให้เธอลิ้มรสสัมผัสความอบอุ่นจากริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม เราจะมองหน้ากัน บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรัก ย้ำอีกครั้งว่าทั้งหมดคือภาพฝันที่ผมวาดไว้กันก่อนที่จะมาที่นี่...
“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ คนเยอะ” นั่นไง ว่าแล้ว... “วันนี้เราต้องไปทำงานด้วย”
ทำงานเหรอวันสิ้นปีอย่างนี้ ยังมีใครที่ไหนเค้าทำงานกันอีกเหรอ
“ก็เพราะไม่มีใครทำไง เราเลยต้องทำ เพราะมันได้เงินพิเศษ”
เอาเถอะครับ ผมขี้เกียจคะยั้นคะยอ เพราะตั้งแต่แรกที่เอ่ยปากชวนเธอ ก็คิดอยู่แล้วว่าเธอคงไม่ไปด้วย และถึงอย่างนั้นผมก็คงไม่ดิ้นรนไปคนเดียวหรอก จะมีประโยชน์อะไรกับการที่จะแบกความทุกข์ไปอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังมีความสุข
เวลาตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว และที่ประเทศไทยก็คงใกล้ถึงเวลาข้ามปีใหม่ ที่เซ็นทรัลเวิล์ดคงมีคนยืนแน่นกันเต็มลาน สีลม ข้าวสาร อาร์ซีเอ ผู้คนคงแออัดกันเต็มที่ หากตอนนี้ผมอยู่กรุงเทพฯ ก็คงไปที่ไหนซักที่กับเพื่อนๆ คงเมามันกันหัวราน้ำ แต่ตอนนี้ ที่นี่ผมก็คงเป็นได้แค่คนหัวเดียวกระเทียมลีบเท่านั้น
...
ภาพการเฉลิมฉลองของหมู่มวลเพื่อนฝูงในหน้าเฟซบุ๊กเริ่มถูกอัพเดทขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ผมนอนอยู่บนเตียงแล้วร่วมฉลองกับคนเหล่านั้นผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์ พี่แอนไปฉลองที่หัวหิน ไอ้หนึ่งอยู่ที่ข้าวสาร ไอ้โอ๊ตอยู่ฉลองกับที่บ้าน และคนอื่นๆ ที่กระจัดกระจายกันไป...
ส่วนวิว ตอนนี้เธอน่ากำลังเดินทางไปถึงที่ร้านแล้ว เพราะเธอออกไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง
ข้อความอวยพรปีใหม่ถูกทยอยส่งเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งจากเพื่อนในชีวิตจริงและเพื่อนในโลกออนไลน์ หน้าที่ของผมตอนนี้ทำได้เพียงแค่กดไลค์กลับไปให้แทนคำของคุณ และสำหรับคนที่ใกล้ชิดกันหน่อยก็ตอบเป็นข้อความกลับไปบ้าง ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผมผ่านช่วงเวลาที่แสนน่าเบื่อนี้ไปได้เป็นอย่างดี
ผมไล่ดูทุกข้อความจนมาสะดุดกับข้อความจากคนแปลกหน้าที่ส่งเข้ามา เขาชื่อ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...เป็นไงบ้างพี่
Arm Strong...ใครครับ
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...ให้ทาย
Arm Strong...ยุนอาเหรอ
...
ยุนอา ที่ผมทายนี้หมายถึงยุนอาแห่งวง Girl Generation และที่ทายอย่างนั้นก็เพราะรูปโปรไฟล์ที่เขาใช้ มันคือรูปของ ยุนอา แต่ก็รู้ว่าทายไปก็ไม่ถูกหรอก เพราะยุนอาตัวจริงไม่น่าจะพิมพ์ภาษาไทยได้ ที่สำคัญยุนอาไม่น่าส่งข้อความมาหาผมอย่างนี้
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...โห เสียใจนะครับ ไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ จำกันไม่ได้แระ
...
มาอีกแล้วไอ้พวกหน้าไม่ตรงปก ใช้ภาพยุนอา แต่ดันพูดครับ แสดงว่ามันต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ แล้วมันเป็นใครวะ
ผมเริ่มหงุดหงิด อยากพิมพ์ตอบกลับไปเหลือเกินว่า กูคงจะจำมึงได้หรอกนะแล้วเสือกตั้งชื่อว่า คนที่คุณก็รู้ว่าใครอีก อยากถามมันมากว่า คนที่รู้ว่ามันเป็นใครน่ะ... ใครรู้...ใครรู้ช่วยบอกกูที... เพราะมึงเป็นใคร กูไม่รู้โว้ย
Arm Strong...ขอโทษครับ ผมจำไม่ได้จริงๆ
...
แต่เพราะยังไม่รู้ว่ามันเป็นใคร ทำให้ผมจำต้องรักษามารยาทเอาไว้ก่อน
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...ผมดุ่ยเองฮะพี่
...
“ดุ่ย” จำเด็กวัยรุ่นที่ผมเจอบนเครื่องบินตอนขามานิวยอร์กได้ใช่มั้ยครับ ที่นั่งคุยเป็นเพื่อนผมตลอดการเดินทาง นั่นแหละครับ ดุ่ย
Arm Strong...จำได้แล้ว เป็นไงบ้าง
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...happy new year ฮะพี่
Arm Strong...เพิ่งบ่ายเอง ยังไม่ถึงเวลาเลย
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...อ๋อ ผมนับตามเวลาไทยครับพี่
Arm Strong...เคร งั้นก็ปี้ด้วยละกัน
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...แหมพี่ เติมแฮปอีกคำก็ได้นะ ปี้มาอย่างนี้ผมเสียวแย่ 555
Arm Strong...วัยรุ่น ชีวิตต้องกระชับ 555
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...แล้วเดี๋ยวคืนนี้พี่ไปฉลองที่ไหนอ่ะ
Arm Strong...ไม่รู้อ่ะ คงไม่ไปมั้ง
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...อ้าว ไมอ่ะ แล้วแฟนพี่ละ
Arm Strong...เค้าต้องไปทำงานว่ะ
...
พูดไปมันก็เหมือนซ้ำเติมตัวเอง แฟนตัวเองแท้ๆ แต่วันสิ้นปีกลับไม่ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าในสถานการณ์ปกติผมอาจจะพอเข้าใจได้ เพราะเธอไปทำงาน แต่ว่านี่ผมอุตส่าห์ถ่อมาตั้งครึ่งโลก แล้วคืนนี้นอกจากจะเป็นคืนสุดท้ายของปีแล้วมันยังเป็นคืนสุดท้ายของผมที่จะอยู่ที่นี่อีกด้วย วันพรุ่งนี้ผมก็จะกลับประเทศไทยแล้วทำไมเธอถึงทำอย่างนี้
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร...งั้นพี่มาบ้านผมมั้ย วันนี้เรามีปาร์ตี้
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนั่งรออยู่อย่างนี้ ยิ่งอยู่คนเดียวความคิดมันก็ยิ่งวนเวียน ฟุ้งซ่าน น่าเบื่อ ในเมื่อเธอตัดสินใจว่าจะไปใช้ชีวิตของเธอ ผมก็ควรไปใช้ชีวิตของผมบ้าง
Arm​ strong...บ้านดุ่ยอยู่ที่ไหนล่ะ
...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา