27 ธ.ค. 2021 เวลา 06:49 • ข่าวรอบโลก
The Brain Club : Vintage : เมื่อจานบินเคยเป็นร้านอาหารยอดนิยมในอังกฤษ
" ฉันโตมาแถวนั้น ยังจำร้านนี้ได้ดี แต่ก่อนที่มันจะเป็นแมคโดนัลด์ แรกเริ่มมันชื่อร้านเมกะทรอน "
หนึ่งในเรื่องลึกลับที่มนุษย์ทุกคนต้องการพิสูจน์คือ " จานบิน " ยานพาหนะลึกลับของผู้มาเยือนจากต่างดาวที่มีรายงานการพบเห็นไปทั่วโลก แต่ไม่เคยมีใครสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของพวกเขาได้
แต่หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าในยุค 90 มนุษย์ต่างดาวเคยเปิดกิจการร้านอาหารบนโลกมนุษย์มาแล้ว ในพิกัดอัลคอนบิวรี มณฑลเคมบริดจ์เชอร์ ประเทศอังกฤษ
ในบทความนี้คือเรื่องราวที่น่าสนใจของร้านอาหารสุดสุดล้ำสมัย ที่มาพร้อมเรื่องราวหลากหลายอารมณ์ ทั้งความทรงจำดีๆ ที่เติบโตมาพร้อมกับผู้คนในย่านนั้น รวมไปถึงตอนจบที่น่าเศร้าของร้านแห่งนี้
ร้านนี้ไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ต่างดาว แต่เป็นโมเดลธุรกิจของคุณ " แดนนี บลันเดล (Danny Blundell) " หนุ่มใหญ่ไฟแรงผู้มีความฝันอยากเปิดร้านอาหารรูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำทางใคร และที่สำคัญคือร้านของเขาต้องเข้าไปอยู่ในใจผู้คนให้ได้
เมื่อมีแนวคิดสุดบรรเจิดก็ต้องลงมือทำ ตัวร้านถูกสร้างจนแล้วเสร็จในปี 1990 โดยใช้ชื่อ " เมกะทรอน ( Megatron ) " เป็นร้านอาหารสไตล์อเมริกันในธีมจานบินรูปทรงล้ำยุค
มาพร้อมความไฮเทคที่รอให้ลูกค้าเข้าไปสัมผัส หากใครไม่รู้คงคิดว่ามันเป็นฉากสำหรับใช้ถ่ายทำหนังไซไฟสักเรื่อง
จากแนวคิดสุดแหวกแนวผนวกกับเรื่องลึกลับที่ผู้คนชื่นชอบ เมกะทรอนจึงได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้คนในท้องถิ่น โดยเฉพาะเหล่าเด็กตัวน้อยๆ ที่มีความฝันอยากนั่งกินข้าวบนจานบินที่ต้องอ้อนให้พ่อแม่พามาเที่ยว
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป เมกะทรอนก็ติดชาร์ตยอดฮิตอย่างรวดเร็ว ในฐานะแม่เหล็กขนาดยักษ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นให้แวะมาเยี่ยมชมร้าน โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คนจะแน่นมากเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าการหาที่นั้งกินข้าวนั้นยากพอๆ กับการหาเนื้อคู่แท้
จากตัวเลขที่ทะลุเป้าจึงต้องมองถึงอนาคตขั้นต่อไป คุณบลันเดลตั้งเป้าให้ร้านนี้เป็นจุดกำเนิดของแบรนด์เมกะทรอน สำหรับการขยายสาขายึดอาณานิคมต่อไปในอนาคต
เนื้อหาต่อจากนี้รวบรวมมาจากบทสัมภาษณ์ของคุณ " เดวิด เมอริดิท (David Meridith) " หนุ่มใหญ่วัย 41 ปี ผู้เคยเป็นอดีตพนักงานซ่อมบำรุงของเมกะทรอน
ที่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกที่คนรุ่นใหม่ไม่มีทางได้รับรู้
🔵⚫ ระบบการสั่งซื้อแห่งอนาคต
เมกะทรอนคือร้านอาหารผู้มาก่อนกาล ไม่ใช่แค่เพียงโครงสร้างภายนอกที่ดูล้ำสมัย เพราะภายในก็สุดยอดไม่แพ้กัน การจัดโซนภายในร้านให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่บนจานบินในหนัง เรียกได้ว่าหันหน้าไปทางไหนก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์รูปทรงลำยุคมากมาย
อีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดคือการนำคอมพิวเตอร์รุ่นบุกเบิกมาพัฒนาระบบการสั่งซื้อผ่านหน้าจอ ที่สามารถใช้งานได้จริง
" คุณสามารถสั่งอาหารจากจอคอมพิวเตอร์ตรงโต๊ะของคุณ จากนั้นก็แค่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟ " เดวิดกล่าว
ในยุคปัจจุบันมันคือเรื่องธรรมดามากๆ แต่อย่าลืมว่าร้านนี้อยู่ในยุค 90 ในตอนนั้นมันเป็นเรื่องสุดล้ำที่ปฏิวัติวงการเลยทีเดียว เหมาะสมกับธีมของร้านอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ระบบนี้ถูกถอดออกในปี 1997
" ตอนนั้นฉันน่าจะอยู่ 11 ขวบ ยังจำได้ว่าตอนเข้าไปข้างในครั้งแรก รู้สึกว่ามันดูล้ำยุคมากๆ คุณสามารถสั่งอาหารจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งในสมัยนั้นมันเจ๋งจริงๆ " อดีตลูกค้าที่เคยไปฝากท้องในวัยเด็กกล่าว
นอกจากนี้ตัวร้านยังมีบริการไดรฟ์ทรู (Drive-through ) เพื่อรองรับลูกค้าสายเร่งรีบให้สามารถซื้ออาหารโดยไม่ต้องก้าวเท้าลงจากรถ
แต่ปัญหาคือด้วยความที่ร้านได้รับความนิยมมากๆ แต่พื้นที่จอดรถมีขนาดเล็กเกินไปหน่อย ในบางวันลูกค้าต้องจอดรถต่อคิวกันยาวเหยียด
" บางทีผมก็ต้องดูแลการจราจร โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ผมยุ่งมากๆ จนต้องหันหลังให้กับลูกค้า " เดวิดกล่าว
🔵⚫บรรยากาศภายในร้าน
ด้วยความที่ตัวร้านค่อนข้างปิดมิดชิด ไม่มีหน้าต่างให้แสงอาทิตย์ภายนอกเล็ดลอดเข้ามาเลย หลอดไฟก็อยู่สูงจากพื้นค่อนข้างมาก บรรยากาศภายในร้านจึงค่อนข้างอึมครึมแต่ก็เหมาะสมกับธีมจานบิน
มีการประดับแสงเซอร์ตามจุดต่างๆ และพนักงานในร้านจะแต่งตัวเป็นหุ่นยนต์และมนุษย์ต่างดาวมาคอยให้บริการลูกค้า กลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่เด็กๆ หลงใหลอย่างมาก
เนื่องจากรูปแบบหลังคาทรงกลมที่สะท้อนเสียงง่ายเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหากวันไหนมีครอบครัวหอบลูกมาเลี้ยงฉลองวันเกิด เด็กน้อยจะส่งเสียงดังเป็นพิเศษ มันคงเป็นฝันร้ายสำหรับคนที่รักความเงียบสงบ
เพื่อตัดปัญหาลดเสียงรบกวนจากลูกค้า ภายในร้านจึงมีการติดตั้งระบบบัฟเฟอร์ซับเสียงเสริมลงไปด้วย
🔵⚫ ความนิยมจากชายในเครื่องแบบ
อ่านมาถึงตรงนี้ดูเหมือนกลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นครอบครัวที่พาลูกหลานมากินข้าว แต่แท้จริงแล้วมันยังได้รับความนิยมจากชายในเครื่องแบบอีกด้วย
นั่นเป็นเพราะบริเวณหัวมุมถนนคือที่ตั้งของ " กองทัพอากาศ (RAF Alconbury ) " ทำให้ทางร้านได้รับความนิยมจากบุคลากรทางทหารที่มักจะแวะมาฝากท้องกันเป็นประจำ ไล่ตั้งแต่มื้อเช้า กลางวัน ไปจนถึงเย็น
เมกะทรอนเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำของคนยุคใหม่ นั้นเป็นเพราะบทสรุปที่น่าเศร้าในแง่ธุรกิจ
จากความตั้งใจแรกที่จะขยายสาขาเป็นแฟรนไชส์เมกะทรอน แต่แผนงานดังกล่าวกลับไม่เคยประสบความสำเร็จเลย
แต่เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป ตัวเลขทางธุรกิจของเมกะทรอนกลับไม่สมดุล เพราะค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาใช้ต้นทุนมหาศาล
ในปี 1993 เมกะทรอนแบกเพดานค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้ไม่ไหวอีกต่อไป จำต้องปล่อยกิจการให้แมคโดนัลด์เข้ามาดูแลต่อ
ถึงจะมีการปรับเปลี่ยนโทนสีหลักให้กลายเป็นแมคโดนัลด์ แต่ไอเดียจานบินล้ำยุคยังคงเหมือนเดิม มันจึงกลายเป็นร้านแมคโดนัลด์ที่แปลกตาที่สุดในยุคสมัยนั้น
แต่เหมือนการทำธุรกิจบนโลกมนุษย์จะไม่ยั่งยืน เพราะสุดท้ายแล้วแมคโดนัลด์สาขาเอเลียนก็ต้องปิดตัวลงในปี 2000 จากปัญหาค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเหมือนที่เมกะทรอนเจอ
ก่อนที่จุดจบของจริงจะมาถึงในอีก 8 ปีต่อมา ร้านอาหารในความทรงจำแห่งนี้ก็ได้ถูกรื้อถอนโดยสมบูรณ์
ข่าวอัปเดตล่าสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้กำกับภาพยนตร์ที่เป็นแฟนตัวยงของร้านเมกะทรอน 2 คน กำลังออกตามหาอดีตพนักงาน และลูกค้าที่เคยใช้บริการในยุค 90 ให้มาร่วมแบ่งปันความทรงจำที่เคยมีต่อร้านเมกะทรอนในรูปแบบสารคดี
หนึ่งในผู้กำกับกล่าวว่า " สารคดีของเราจะเฉลิมฉลองให้กับวิสัยทัศน์ของคุณบลันเดล ทีมสถานปนิกท้องถิ่นที่มีส่วนร่วมในการออกแบบ พนักงานในร้านทุกคน และลูกค้าที่เคยใช้บริการ ในฐานะผู้ที่ร่วมกันทำให้เมกะทรอนกลายเป็นร้านอาหารที่มอบประสบการณ์น่าอัศจรรย์ให้ผู้คนมากมาย "
ผู้ที่สนใจสามารถส่งเรื่องราว รูปภาพ และวิดีโอเกี่ยวกับเมกะทรอนที่อีเมลของผู้กำกับได้เลยนะครับ tonyconn84@gmail.com
ถึงแม้ร้านเมกะทรอนจะตายไปนานแล้ว ถูกรื้อถอนจนไม่เหลือเศษซากเดิม แต่สิ่งที่น่าประทับใจของเรื่องนี้คือความจริงที่บอกเราว่าเมกะทรอนมันไมได้หายไปไหนเลย
เพราะความประทับใจวัยเด็กคือสิ่งที่ไม่สามารถซื้อได้ ชื่อเมกะทรอนจะยังคงติดอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากมายที่เติบโตมาพร้อมกับร้านตลอดไป
เนื้อหา
📌 เรียบเรียงโดย : สโมสรสมอง
** กรุณาแชร์ต่อ ห้ามคัดลอกบทความไปเผยแพร่ซ้ำ
📗อ่านบน Facebook : เพจสโมสรสมอง
โฆษณา