22 ส.ค. 2021 เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
《เรื่องผีๆ ในเดือนสารทจีน|中元节》
“เทศกาลสารทจีน” หรือ “จงหยวนเจี๋ย(中元节)” เป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของจีน ซึ่งเทศกาลนี้หากจะกล่าวได้ว่าเหมือนเทศกาลฮาโลวีนก็ไม่มีผิด หากแต่ต่างกันตรงที่ไม่มีการคอสเพลย์เป็นผีไปขอลูกอม อีกอย่างเทศกาลนี้ในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า “Hungry Ghost Festival” ซึ่งตรงตามคอนเซปที่ว่าเทศกาลนี้เหล่าดวงวิญญาณหิวบุญและของเซ่นไหว้นั่นเอง
.
โดยเทศกาลนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月)ระหว่างเวลานี้ประตูนรกจะเปิดให้เหล่าวิญญาณบรรพบุรุษหรือภูตผีต่างๆ ออกไปเที่ยวท่องในโลกมนุษย์ได้อย่างเสรี อีกทั้งยังมีเวลาตั้งเดือนก่อนกลับไปยังนรก
.
จุดสำคัญของงานคือ “การเลี้ยงอาหารที่ฟุ่มเฟือย 12 อย่าง” คนกับวิญญาณร่วมกันกินอย่างสำราญ และเพื่อไม่ให้ลืมกัน โดยเฉพาะความคิดที่ว่า “หลังพวกเขาหล่านั้นกลับสู่นรก เมื่อปีใหม่มาถึงวิญญาณเหล่านี้จะกลับมาอีกครั้งในฐานะของวิญญาณพเนจร”
ไทม์ไลน์เทศกาลสารทจีน|鬼月祭祀活动表
ไทม์ไลน์ในเดือนสารทจีน|鬼月祭祀活动表
ประตูบนโลกและประตูผีเปิด|开地鬼门
วันที่ 1 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月初一)เป็นวันเริ่มต้นของเทศกาลสารทจีน โดยประตูบนโลกมนุษย์จะเปิดต้อนรับและในขณะเดียวกันประตูผีก็เปิดออกเพื่อให้เหล่าวิญญาณได้ท่องเที่ยวในโลกมนุษย์ หรือจะพูดง่ายๆ ก็เหมือนวันหยุดพักร้อนนั่นเอง ซึ่งแต่ละบ้านจะจัดเครื่องเซ่นไหว้ขนาดเล็กให้เพื่อเป็นการต้อนรับ
.
ประตูบนสวรรค์เปิด|开天门
วันที่ 2 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月初二)เป็นวันที่สองของเทศกาลและเป็นวันที่ประตูสวรรค์ก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการเพื่อให้เหล่าวิญญาณได้มาเยี่ยมญาติและเหล่าเทพลงมาคุ้มครองมนุษย์ โดยแต่ละบ้านจะจุดเครื่องหอมหน้ารูปเคารพและป้ายวิญญาณเพื่อให้เป็นสิริมงคล
.
เทศกาลจงหยวน|中元普度
วันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月十五)เป็นเทศกาลพ้อต่อหรือเทศกาลจงหยวนอย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถเรียกวันนี้ว่า “ครึ่งเดือนเจ็ด(七月半)” โดยในวันนี้ค่อยข้างมีกิจกรรมเยอะแยะเช่น ชาวบ้านจะทำการจัดโต๊ะไหว้เจ้าที่ บรรพบุรุษและพี่น้องที่ดีด้วยเครื่องเซ่นเซ็ตจุใจ; นักพรตในศาสนาเต๋าก็จะทำพิธีต้อนรับและบูชาเทพแห่งโลก หรือ ตี้กวน(地官)และพระสงฆ์ในศาสนาพุทธนิกายมหายานก็จัดพิธีโยคะตันตระเปรตพลี(瑜伽焰口 yújiāyànkǒu)หรือพิธีเทกระจาด(施孤 shīgū)เพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณผู้หิวโหย เป็นต้น
.
ประตูผีปิด|关鬼门
วันที่ 30 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月三十)เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลสารทจีนและเป็นวันที่ประตูผีปิดลง เหล่าดวงวิญญาณหวนสู่ปกโลกเพื่อไปชดใช้กรรมอีกครั้งหลังจากพักร้อนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม
เทศกาลสามความชื่อ|中元节三大信仰
เทศกาลสามความเชื่อ|中元节三大信仰
·ความเชื่อชาวบ้าน(民间信仰):จีนในสมัยโบราณ ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเชื่อเรื่องภูตผีและเทพเจ้า โดยเชื่อกันว่าผู้ตายทุกคนสามารถกลับมาเกิดใหม่ได้ หากคนนั้นทำผิดร้ายแรงเมื่อตายไปก็จะเป็นวิญญาณเร่ร่อนและโดดเดี่ยว ซึ่งดวงวิญญาณเหล่านี้รอการรับบุญจะใครก็ได้ที่อุทิศมาให้ แต่บางดวงตายไปก็ไม่เจียมตัวก็ยังรังความสิ่งมีชีวิตบนโลกอยู่ ซึ่งทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องต้องรับเคราะห์ทั้งเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ชาวบ้านจึงจัดพิธีเซ่นไหว้แก่ดวงวิญญาณ โดยจัดขึ้นตลอดเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน(农历七月初一至三十)และยังเรียกเดือนนี้ว่า “เดือนผี(鬼月)”
·ความเชื่อศาสนาเต๋า(道教信仰):โลกเกิดขึ้นจากธาตุทั้งสามได้แก่ ท้องฟ้า(天;สวรรค์)ดิน(地;โลก)และน้ำ(水;บาดาล)ซึ่งแต่ละธาตุมีเทพประจำธาตุอีกด้วย โดยเทพทั้งสามนั้นเรียกรวมกันว่า “ซานกวนต้าตี้(三官大帝;ผู้เป็นใหญ่แห่งสามโลก)”
.
1. เทพเทียนกวน(天官;เทพแห่งสวรรค์)เกิดในวันที่ 15 เดือน 1(农历正月初一)จึงเป็นที่มาของเทศกาลโคมไฟ หรือ ส้างหยวนเจี๋ย(上元节)
.
2. เทพตี้กวน(地官;เทพแห่งโลก)เกิดในวันที่ 15 เดือน 7(农历七月十五)จึงเป็นที่มาของเทศกาลสารทจีน หรือ จงหยวนเจี๋ย(中元节)
.
3. เทพสุ่ยกวน(水官;เทพแห่งบาดาล)เกิดในวันที่ 15 เดือน 10(农历十月十五)จึงเป็นที่มาของเทศกาลลอยกระทงจีน หรือ เซี่ยหยวนเจี๋ย(下元节)
.
เมื่อถึงวันที่ 15 เดือน 7 เทพตี้กวนจะลงมาสู่โลกเพื่อสอดส่องคนทำดีและบาป และเพื่อขจัดทุกข์แก่ดวงวิญญาณเร่ร่อนให้ไปเกิดใหม่ ดังนั้นในทางศาสนาเต๋าจะเรียกเทศกาลสารทจีนว่า “จงหยวนเจี๋ย(中元节;เทศกาลกลางปี)” หรือ “จงหยวนผู่ตู้(中元普度)”
·ความศาสนาพุทธ(佛教信仰):ในอุลลัมพนสูตร《佛说盂兰盆经》ได้กล่าวไว้ว่า: พระมหาโมคคัลลานะ(目莲)ต้องการไปช่วยมารดาในนรก พระพุทธองค์จึงตรัสว่าในวันที่ 15 เดือน 7 ให้พระมหาโมคคัลลานะจัดเตรียมภัตตาหารเพื่อเป็นสังฆทานแก่พระสงฆ์ทั่วทุกทิศ ด้วยอานิสงเหล่านี้จึงสามารถปลดปล่อยมารดาของตนออกจากห้วงนรกได้
.
ภายหลังจึงมีการจัดเทศกาลอุลลัมพนะหรืออุลลัมพน(盂兰盆节)ขึ้นเพื่อระลึกถึงความกตัญญูของพระโมคคัลลาน์และการอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษไปในตัว
หมายเหตุ 1
อุลลัมพนะ/อุลลัมพน (อุน-ลัม-พะ-นะ/อุน-ลัม-พน) เป็นคำภาษาสันสกฤต ซึ่งภาษาจีนทับศัพท์เป็น “อวี๋หลันเผิน(盂兰盆yúlánpén)” มีความหมายว่า หัวห้อยลง ซึ่งอุปมาได้ว่าแม้ได้รับทุกข์ก็สามารถกลับเป็นสุขได้ด้วยผลของกุศลอุทิศ
.
หมายเหตุ 2
คนส่วนใหญ่จะรู้จักเทศกาลสารทจีนในชื่อ “ตงหงวนพ้อต่อ(中元普度 zhōngyuánpǔdù)” หรือ "เทศกาลพ้อต่อ" ที่คนไทยจะได้ยินกันบ่อย
พระโมคคัลลาน์ยอดกตัญญู|目连救母故事
เทศกาลความกตัญญูจากพระโมคคัลลาน์|佛教目连救母故事
เรื่องเล่ามีอยู่ว่า: ในสมัยโบราณมีบุตรชายคนหนึ่งนามว่า “มหาโมคคัลลานะ(目莲 mùlián)” เขาเป็นคนที่มีความกตัญญูและจิตใจดีต่อมารดาเป็นอย่างมาก แต่มารดาของเขากลับเป็นคนที่ค่อนข้างดุร้ายและไม่ค่อยทำบุญมากนะ
.
มีครั้งหนึ่ง มารดาของพระโมคคัลลาน์เกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้นคือ นางได้สั่งซื้อหมั่นโถวใส่สุนัข 360 ลูกเพื่อนำไปตักบาตรที่วัดใกล้บ้าน โดยนางอ้างว่านี่คือหมั่นโถวเจ เมื่อโมคคัลลานะรู้เรื่องเข้า เขาจึงรีบเกลี้ยกล่อมมารดาและให้ไปตามใครสักคนไปบอกกับเจ้าอาวาส ฝ่ายเจ้าอาวาสก็นำหมั่นโถวเหล่านี้แจกจ่ายให้กับพระในวัด นางฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมานับไม่ถ้วนและทำเช่นนี้อยู่เรื่อยๆ โดยที่พระโมคคัลลาน์ไม่รู้เลย
.
เมื่อมารดาของพระโมคคัลลาน์ได้ตายไป ดวงวิญญาณกลับไปจุติเป็นเปรตและสัตว์เดรัจฉานยังนรกภูมิ พระโมคคัลลาน์ทราบความก็รู้สึกเสียใจมากและช่วยอะไรไม่ได้ พระศากยมุนีพุทธเจ้า(释迦摩尼佛 shìjiāmónífó)ได้เรียกพระโมคคัลลาน์เข้าพบและตรัสว่า ในวันที่ 15 เดือน 7 ให้จัดเตรียมภัตตาหารเพื่อเป็นสังฆทานแก่พระสงฆ์และดวงวิญญาณในทุกสารทิศ
.
ระหว่างนั้น พระโมคคัลลาน์ก็สวดมนต์เช้าเย็นติดต่อกันจนถึงวันตามคำบอกของพระพุทธองค์ พระโมคคัลลาน์จึงจัดเตรียมไว้เรียบร้อย ซึ่งพิธีในวันนี้มีชื่อว่า “อุลลัมพนะสันนิบาต(盂兰盆会)” หรือ “โยคะตันตระเปรตพลี(瑜伽焰口 yújiāyànkǒu)” ที่มีนัยยะว่า สัตว์โลกที่ยังอยู่ในทะเลทุกข์จะกลับเป็นสุขด้วยผลแห่งกุศลธรรมนี้
.
ด้วยบุญบารมีที่เพียงพอ พระโมคคัลลาน์ก็วาปไปโปรดมารดาในนรกภูมิ ในที่สุดสัตว์เดนัจฉานตัวนั้นก็เปลี่ยนกลับมาเป็นมารดาคนเดิม เมื่อรับฟังคำสั่งสอนจะพระโมคคัลลาน์แล้ว ดวงจิตของมารดาจึงไปจุติ ณ สุขาวดีพุทธเกษตรในบัดดล
.
ภายหลังศาสนาพุทธ (นิกายมหายาน) เป็นที่แพร่หลายในจีน จึงทำให้วันที่ 15 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีนถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาในการอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษตลอดจนวิญญาณพเนจรและจัดเทศกาลแห่งความกตัญญูเพื่อรำลึกถึงพระโมคคัลลานะอีกด้วย
กวนอิมไต้ซือ|观音大士故事
อวตารแห่งกวนอิมโพธิสัตว์|观音大士故事
“กวนอิมต้าสื้อ(观音大士 guānyīndàshì)” หรือ “ต้าสื้อเย่(大士爷 dàshìyé)” หรือ “ผู่ตู่กง(普度公pǔdùgōng)” คือผู้คุมวิญญาณหรือประธานองค์สำคัญในเดือนเจ็ด ซึ่งมีปรากฏในพระสูตรมหายาน “โยคะตันตระอัคนีชวาลมุขเปรตพลีโยคกรรม《救拔焰口陀罗尼经》” กล่าวว่า: ต้าสื้อเย่คือเปรตที่พระโพธิสัตว์กวนอิมนิรมิตรกายให้ปรากฏในฌานสมาธิของพระอานนท์และลงมายังขุมนรกเพื่อปลดปล่อยสัตว์นรกให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเปรตตนนี้รู้จักกันในชื่อ “เมี่ยนหรันต้าสื้อ(面燃大士 miànrándàshì)”
.
สำหรับพิธีเทกระจาดและมาสคอตของเทศกาลสารทจีน ชาวจีนจึงนำต้าสื้อเย่หรือผูตู่กงมาตั้งไหว้เพื่อให้เป็นตัวแทนของพญายมและเพื่อป้องกันเหล่าภูตผีวิญญาณมาก่อนกวนมนุษย์ในปรัมพิธี
.
โดยต้าสื้อเย่นั้นทำจากโครงไม้ไผ่ แล้วใช้กระดาษหลากสีตกแต่งอย่างมีสีสัน ผิวกายเป็นสีน้ำเงิน สวมชุดเกราะนักรบจีนแบบจัดเต็ม บนยอดศีรษะมีพระโพธิสัตว์กวนอิม (บางที่ก็ไม่มี) มือซ้ายถือธง(宝幡)ที่เขียนว่า “นำมอออมี่ตอฮุด(南无阿弥陀佛 nāmó ēmítuófó)” ส่วนนิ้วซ้ายจะชี้ลงพื้น
ทริปไป-กลับปรโลก|七周地狱往返之旅
ทริปเจ็ดสัปดาห์กับบริษัทปรโลกกรุ๊ปทัวร์จำกัด|七周地狱往返之旅
สวัสดีท่านผู้โดยสารทุกท่านนะครับ! ขอต้อนรับเข้าสู่บริษัทปรโลกกรุ๊ปทัวร์จำกัด บริษัทเรามีสโลแกนว่า “ไม่ต้องรวยล้นฟ้าก็เที่ยวปรโลกอย่างจุใจได้” ฉะนั้นท่านไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเลย ฟรีทุกอย่างครับ
ตามความเชื่อของศาสนาเต๋าได้กล่าวว่า เมื่อคนเราตายไปจะไปทัวร์นรกเป็นที่แรก แล้วกลับมาเกิดใหม่ภายในเจ็ดสัปดาห์ แล้วท่านผู้โดยสารอยากไปกันแล้วใช่ไหมครับ งั้นเรามาเริ่มเดินทางไปด้วยกันเลย
.
กฎและข้อปฏิบัติก่อนเดินทาง
1. ห้ามนำสัมภาระจากโลกมนุษย์ไปแม้แต่สักชิ้นเดียว หากยังห่วงหาอาลัยจะเอาด้วยเพื่อความอุ่นใจก็ไม่ว่า แต่ “เตือนแล้วนะจ๊ะ”
2. ห้ามโหวกเหวกโวกวายหรือทะเลาะวิวาทบนรถทัวร์
3. กรุณาวัดอุณภูมิ ใส่แมสและสแกนคิวอาร์โค้ดก่อนขึ้นรถทัวร์
4. กรุณาอ่านกฎและปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
.
สัปดาห์ที่ 1
นักเดินทางจะมาถึงด่านประตูผีหรือด่านตรวจ ถ้านำสิ่งของจากโลกมาด้วยให้ตั้งเอาไว้หน้าด่าน หากไม่ฟังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะถูกเจ้าหน้าที่ 10 คนรุมทึ้ง
สัปดาห์ที่ 2
เมื่อผ่านด่านตรวจเข้ามาจะต้องทำการชั่งน้ำหนักก่อน ถ้าปริมาณบาปเยอะจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการพัดเพื่อให้นักเดินทางรีสปาวน์อีกครั้ง
สัปดาห์ที่ 3
หลังผ่านจุดชั่งน้ำหนักแล้ว จะมีเวลาให้พัก 10 นาทีแล้วมุ่งหน้าไปเที่ยวชมหมู่บ้านหมาน้อย หากเข้าหมู่บ้านแล้วน้องมาดมก็ไม่ต้องกลัวครับถ้าท่านมีบาปไม่เยอะ หากบาปหนาก็โดนรุมทึ้งนะฮะ
สัปดาห์ที่ 4
ในตัวหมู่บ้านจะมีซุ่มกระจกเงาอยู่ ซึ่งทุกคนต้องผ่านตรงนั้น โดยแต่ละคนจะเข้าไปรายงานตัวกลับเจ้าหน้าที่เพื่อส่อง “กระจกสะท้อนกรรม” ซึ่งสามารถบอกเรื่องราวที่เคยทำตอนเป็นมนุษย์และอุปสรรคในด่านต่อไปได้
1
สัปดาห์ที่ 5
จะมีอีกซุ่มหนึ่งเป็นห้องกระจกและเก้าอี้ซาดิสต์ตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งทุกคนต้องเข้าไปทุกคน แต่ไปครั้งละคนเท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถูกเจ้าหน้าที่เอากระบอกฟาดและจะอาจไม่มีสิทธิ์ไปด่านต่อไป กระจกนี้มีความพิเศษกว่าอีกซุ้มคือ มันจะบังคับให้มองเห็นคนที่ท่านรักที่อยู่บนโลก
สัปดาห์ที่ 6
หลังเจ็บปวดรวดร้าวมาแล้ว ก็มาแอดเวนเจอร์กันหน่อยดีกว่า ตรงหน้าที่เห็นคือ “สะพานสะอื้น” ซึ่งเป็นสะพานไม้กระดานแคบและทุกคนต้องเดินผ่านไปให้ได้ โดยห้ามมองลงไปข้างล่าง ไม่เช่นนั้นฝูงงูที่ด้านล่างจะรุมกระโจมใส่ท่านทันที
สัปดาห์ที่ 7
หลังผ่านด่านทรหดมานับไม่ถ้วน นักเดินทางทั้งหมดจะถูกพาไปยังจุดพักผ่อนเพื่อรอเข้าพบผู้จัดการแห่งวัฎจักรนี้ โดยระหว่างทางทางจะมีบ้านของคุณยายเมิ่ง(孟婆)ที่คอยแจกน้ำชาหนึ่งถ้วยเพื่อดับกระหายและลบความทรงจำในอดีตชาติทั้งหมด (อยากดีลีตเธอจากใจก็ดื่มซะนะ) หลังจากนั้นก็เข้าพบผู้จัดการได้ ซึ่งแต่ละคนจะได้รับแผ่นวงล้อการเกิดใหม่ เล่นง่ายไม่ยากเลย ถ้าหมุนแล้วเข็มไปหยุดตรงไหนก็ไปเกิดเป็นสิ่งนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกรรมดี-กรรมชั่วมีสั่งสมในตอนมีชีวิตด้วย
เมื่อเล่นจบแล้ว แต่ละคนก็จะไปยังแท่นวาปแบบสุ่มสถานที่เกิด หลังจากนั้นก็ตั้งจิตให้ดีแล้วจะวาปทันที
แต่เดี๋ยวก่อน!!! ก่อนไปเกิดใหม่หรือไปเที่ยวบนโลกมนุษย์ กรุณาวัดอุณภูมิ ใส่แมสและสแกนคิวอาร์โค้ดก่อนนะครับ จึงถือเป็นอันสิ้นสุดของทริปนรก 7 สัปดาห์
.
ก่อนจบทริปแบบสมบูรณ์ก็มีนักเดินทางคนหนึ่งถามว่า:
Q: แล้วคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายหรือเป็นจะมีสิทธิ์มาทัวร์นรกไหมครับ
A: ไม่มีสิทธิ์ครับ คนที่ไปได้ต้องเป็นคนที่รู้ตัวเองว่าเป็นหรือตาย ซึ่งแยกแยะแบบเด็ดขาดแล้ว ส่วนคนที่ไม่รู้จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนหรือวิญาณพเนจรแทน เหมือนคำกล่าวที่ว่า: “คนเป็นไม่รู้วิญญาณตน คนตายไม่รู้เรือนร่างตน【谚语—故生不知死,死不知生。】”
ชุดเซ่นไหว้|中元节供品
แฮปปี้จุใจกับชุดเซ่นไหว้|中元节供品
แฮปปี้จุใจเซ็ตไหว้เจ้าที่(拜地官供品):
เซ็ตนี้จะใช้ไหว้ในตอนเช้า มีทั้งอาหารคาวหวาน ส่วนขนมที่เป็นไฮท์ไลท์ของเทศกาลสารทจีนที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ขนมเข่ง” ซึ่งต้องแต้มจุดแดงไว้ตรงกลาง นอกจากนั้นก็เป็นชุดน้ำชาหรือเหล้าขาว (ยิ่งเป็นยี่ห้อเหมาไถ เจ้าที่อาจจะติดใจก็ได้นะ) ผลไม้และกระเงินกระดาษทอง
.
แฮปปี้จุใจเซ็ตไหว้บรรพบุรุษ(拜祖先供品):
คล้ายกับเซ็ตไหว้เจ้าที่ แต่เพิ่มอาหารที่บรรพบุรุษชื่นชอบมาด้วย ตามธรรมเนียมแล้วต้องมีน้ำแกงหรือขนมทังหยวน(汤圆)วางข้างชามข้าวและจัดชุดน้ำชาตามจำนวนบรรพบุรุษ
.
แฮปปี้จุใจเซ็ตไหว้เพื่อนผู้พเนจร(拜好兄弟供品):
การไหว้เหล่าวิญญาณเร่ร่อนถือเป็นการให้เกียรติและสุขภาพต่อผู้ล่วงลับ ซึ่งชาวจีนจะเรียกอย่างให้เกียรติว่า “พี่น้องที่ดี(好兄弟)” โดยจะจัดโต๊ะเล็กๆ ไว้ไหว้นอกบ้าน มีทั้งอาหารคาวหวาน ผลไม้ เส้นหมี่ห่อใหญ่ ฯลฯ
ข้อห้าม|禁忌
เดือนผีระวังผีหลอก|鬼月禁忌
1. ไม่ควรเรียกชื่อตรงๆ เพราะหากเหล่าพี่น้องดีที่ได้ยิน พวกเขาอาจพาเราหรือคนรอบตัวไปอยู่ด้วย หากได้ยินใครเรียกชื่อตัวเราห้ามหันหลังไปมองหรือตอบรับ
2. อย่าตบหัวหรือไหล่ เพราะชาวจีนเชื่อว่าหัวหรือไหล่คือดวงไฟของชีวิต ถ้าตบก็หมายความว่าดวงไฟชีวิตดับลงและอาจจะถูกวิญญาณเล่นงานได้
3. ห้ามส่งเสียงโหวกเหวก เมื่อเดินผ่านสุสานควรเงียบๆ เพราะถ้าส่งเสียงรบกวนจะถือว่าไม่ให้เกียรติผู้ตายและอาจเจอดีได้
4. ห้ามเล่นน้ำ เพราะพรายน้ำหรือคนที่เสียชีวิตในน้ำกำลังมองหาตัวแทนตัวตาย
5. ห้ามขโมยของเซ่นไหว้
6. ยามพรบค่ำหรือยามดึกไม่ควรออกจากบ้าน
7. ผ่านงานศพควรสำรวมกาลเทศะ
8. หลังกลับจากข้างนอกควรถอดเสื้อทันที เพื่อป้องกันผู้ล่วงลับตามายืมเสื้อผ้าหรือเข้ามาก่อกวนในบ้าน
9. อย่าถ่ายรูปมั่วๆ ทางที่ดีคือไม่ควรถ่ายรูปในเวลากลางคืน เพราะในภาพอาจจะไม่ได้มีเราคนเดียวก็ได้ และไม่ควรถ่ายภาพต้นไม้ด้วยแฟลช เพราะอาจทำให้พี่น้องที่ดีที่อยู่บนนั้นตื่นตระหนกได้
10. อย่าเรียกพี่น้องที่ดีเข้าบ้าน ไม่ควรปากพล่อยหรือพูดลอยๆ ออกมา เพราะเจ้าของบ้านอาจจะไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
การลอยโคมและประทีป|放天灯、放河灯
ลอยประทีปและโคมสวรรค์|放天灯、放河灯
ลอยประทีป(放河灯):
“ประทีป(河灯)” หรือ “ประทีปดอกบัว(荷花灯)” โดยทั่วไปจะนิยมใช้ลอยตามแม่น้ำหรือทะเล การลอยประทีปในเทศกาลสารทจีนก็เพื่อชำระให้เหล่าดวงวิญญาณนั้นบริสุทธิ์ ในทางศาสนาพุทธจะมองว่านี่เป็นกิจกรรมที่เล็กน้อย แต่สำหรับชาวบ้านกลับมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
.
ลอยโคมสวรรค์(放天灯):
“โคมสวรรค์(天灯)” หรือในชื่อ “โคมขงเบ้ง(孔明灯)” ซึ่งคนไทยจะรู้จักในชื่อ “ยี่เป็ง” กล่าวกันว่าเป็นโคมที่คิดค้นในยุคสามก๊กโดยขงเบ้ง(三国诸葛亮)การจะลอยโคมชนิดนี้ในเทศกาลสารทจีนมีด้วยกัน 2 วิธีคือ;
.
1. ลอยเพื่อกำจัดสิ่งโชคร้าย ชาวบ้านมีความเชื่อว่ายิ่งลอยโคมไปไกลมากเท่าไหร่ ความโชคร้ายก็ยิ่งไปไกลมากเท่านั้น ถ้าโคมตกลงมาก็ต้องจุดและลอยใหม่อีกครั้ง
.
2. ลอยเพื่อเหล่าวิญญาณและบรรพบุรุษ ชาวบ้านเชื่อว่าการลอยโคมเปรียบเสมือนแสงไฟที่นำทางเหล่าผู้ล่วงลับไปยังดินแดนอันสุขสงบหรือสรวงสรรค์ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับไฟข้างถนนที่พาเรากลับมาบ้านได้อย่างปลอดภัย
โฆษณา