30 ส.ค. 2021 เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เหรียญเล็ก/หุ้นเล็ก ราคาถูก ไม่ได้แปลว่าจะได้กำไรเสมอไป! อ่านก่อนจะขาดทุน
นักลงทุนมือใหม่อาจเข้าใจผิดว่า การเก็บหุ้นเล็กๆ หรือเหรียญคริปโตฯเล็กๆ ที่ราคาไม่ถึงบาทนั้น เมื่อซื้อแล้วปิดแอพ ปิดหน้าจอ แล้วค่อยเปิดมาดูอีกทีในอีกหนึ่งปี แล้วจะได้กำไรเติมโตเป็น 100 - 1000%
ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด! ไม่ใช่ว่าเหรียญเล็ก/หุ้นเล็กทุกตัวจะเติบโตขึ้น จากราคาที่ไม่ถึงบาท เผลอๆอาจจะถูกถอดจากตลาดไปเลย หรือลงไปต่ำกว่าเดิมได้ และมันสามารถลงไปได้ถึง -90% แม้มันไม่ถึงบาทนะ รู้มั้ย! รู้จักมั้ยคำว่า “ถูกในถูกในถูกในถูก…..” 😰
🎯 เหรียญหรือหุ้นต่ำกว่าบาท คืออะไร?
หุ้นต่ำบาท (Penny Stock) หรือ เหรียญคริปโตฯใดๆที่ต่ำบาท คือหุ้นหรือคริปโตฯที่มีราคาต่อหน่วยต่ำกว่าหนึ่งบาท
ในฝั่งหุ้น หุ้นต่ำบาทอาจเกิดจากบริษัทที่มีขนาดทุนจดทะเบียนมีมูลค่าน้อย หรือ บริษัทมีการขาดทุนบ่อยครั้ง เลยทำให้มีราคาที่ต่ำ
ในฝั่งคริปโตฯ เหรียญที่ต่ำบาท อาจเกิดจากอุปสงค์และอุปทาน, การกำหนดโดยผู้สร้างเหรียญเอง ซึ่งคิดจากปัจจัยต่างๆในตลาดและโครงการของเหรียญนั้นๆ
🎯 ไม่ถึงบาทก็ขาดทุนได้นะ!
นักลงทุนมือใหม่บางอาจคิดว่าการซื้อหุ้นหรือเหรียญที่ราคาถูกๆ โดยเฉพาะราคาไม่ถึงบาทนั้น จะทำให้ได้หุ้นหรือเหรียญที่เยอะ ราคาแค่นี้เองเดี๋ยวยังไงมันก็ขึ้น ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
เรามาลองดูตัวอย่าง หุ้นหรือเหรียญ ABC ที่มีราคาต่ำบาท โดยราคาอยู่ที่ 1 บาท และถ้าเราดูกราฟตัวอย่างดีๆ จะเห็นว่าราคาในอดีตมันก็ยังคงต่ำบาทและดูถูกมากๆ ลงซูมเข้ามาดูวักช่วงหนึ่ง จะเห็นว่า ราคาอยู่ที่ 0.02 บาท แล้วมีการร่วงลงไปถึง 0.005 บาท ซึ่งลงไปกว่า -75% เลยทีเดียว
และแม้ว่าอนาคตมันอาจจะมีการพุ่งขึ้นมาหลายเท่าก็ตาม แต่เราจะรู้ได้อย่างไร? นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักลงทุนต้องบริหารความเสี่ยง กรณีทรัพย์สินนั้นๆไม่มีอนาคตอีกต่อไป จะทำอย่างไร
🎯 ความเสี่ยงของหุ้น/เหรียญต่ำบาท
1. ความผันผวนสูง อาจจะทำให้นักลงทุนได้กำไรหรือขาดทุนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยความผันผวนอาจเกิดจากปริมาณซื้อขายที่น้อย ทำให้สภาพคล่องนั้นต่ำ
2. โอกาสขาดทุนมากว่ากำไร หากนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น/เหรียญต่ำบาทโดยไม่กระจายการลงทุน อาจทำให้เกิดการขาดทุนมากกว่ากำไร ซึ่งนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของหุ้น/เหรียญนั้นๆให้เข้าใจก่อน ไม่ใช่แค่ว่าเห็นราคาถูกแล้วซื้อเลย
3. ต้องใช้ความอดทน จากสองข้อที่กล่าวมา การที่ระหว่างเราเข้าซื้อแล้วเกิดความผันผวนของราคา หรือเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้เราขาดทุน ราคาอาจจะฟื้นขึ้นได้จนเท่าทุนหรือกำไร ด้วยค่าเงินที่เพิ่มขึ้นในอนาคต อัตราเงินเฟ้อ และปัจจัยต่างๆ ซึ่งไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ อาจจะต้องรอ 4-5ปี เลยทีเดียว หากเป็นเงินลงทุนที่ไม่จำเป็นต้องใช้ก็แล้วไป
ไม่ใช่ว่าหุ้น/เหรียญต่ำบาท จะไม่ดีเสมอไป หากบริษัทหรือโครงการนั้นๆมีแผนการที่ดี น่าเชื่อถือ และปัจจัยต่างๆที่เอื้ออำนวยให้ราคาของหุ้น/เหรียญนั้นสูงขึ้นได้ ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเราที่สะสมตั้งแต่แรกๆ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลของทรัพย์สินนั้นๆก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา