2 ก.ย. 2021 เวลา 15:15 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ผลการทดสอบวัคซีนเอดส์ในมนุษย์ครั้งแรกของ Johnson and Johnson ออกมาแล้ว . . .
1
และผลที่ได้คือ "คว้าน้ำเหลวอีกครั้ง" เมื่อวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการป้องกันไวรัสเอดส์ได้อย่างที่หวัง
2
วัคซีนเอดส์ ความหวังที่ยังคงต้องรอกันต่อไป
กว่า 40 ปีที่มนุษย์เราได้รู้จักกับไวรัส HIV และโรคเอดส์ แต่จนวันนี้เราก็ยังหาทางเอาชนะไวรัส HIV ต้นเหตุของโรคเอดส์ไม่ได้เสียที
และล่าสุดความหวังในการพัฒนาวัคซีนเอดส์ที่ให้ผลทดสอบประสิทธภาพที่ดีในสัตว์ทดลอง แต่เมื่อนำมาทดลองใช้ในมนุษย์กลับให้ผลที่น่าผิดหวัง
โดยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา Johnson and Johnson หนึ่งในผู้พัฒนาวัคซีนเอดส์ได้ประกาศยุติการทดสอบวัคซีนเอดส์ในเฟส 2 ของตนในภูมิภาคแอฟริกาไปเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งผลจากการทดสอบที่ใช้อาสาสมัครกลุ่มตัวอย่างสตรีใน 5 ประเทศทวีปแอฟริกาจำนวน 2,600 คน ที่ได้เริ่มเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2017ผลที่ออกมานั้นปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับวัคซีนกับไม่ได้รับวัคซีนมีอัตราการติดเชื้อเอดส์ที่แทบไม่ต่างกัน
เมื่อคิดประสิทธิภาพการป้องกันของวัคซีนแล้วจะอยู่ที่เพียง 25% เท่านั้น (ถ้าจะถือว่าวัคซีนมีผลในการป้องกันได้ต้องอย่างน้อย 50%)
Johnson and Johnson คงต้องกลับไปพัฒนากันใหม่สำหรับวัคซีนเอดส์
แม้ว่าจะน่าผิดหวังแต่ทีมพัฒนาก็คาดการณ์ไว้อยู่แล้วเพราะการพัฒนาวัคซีนเอดส์ที่ผ่านมาพบว่าประสิทธิภาพจะลดลงจากเมื่อตอนทดสอบในสัตว์ทดลองกว่า 90%
สำหรับวัคซีนเอดส์ตัวนี้ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีเวกเตอร์ไวรัส (Viral Vector) เหมือนกันกับวัคซีนโควิด-19 ของ J&J ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวัคซีนเอดส์นี้กลับไม่สามารถให้ผลในการป้องกันได้เหมือนกับวัคซีนโควิค-19
ไวรัสเอดส์นั้นถือเป็นหนึ่งในไวรัสที่รับมือได้ยากที่สุดเท่าที่มนุษย์เรารู้จัก เพราะมันสามารถสร้างโปรตีนหุ้มตัวเพื่อปลอมตัวให้เหมือนกับเซลล์ในร่างการเพื่อหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกัน และสามารถสร้างโปรตีนปลอมตัวได้หลากหลายชนิดทำให้ยากต่อการตรวจจับ
3
โดยวัคซีนเอดส์ของ J&J นี้จะนำข้อมูล surface protein กว่า 4 ชนิดของไวรัสเอดส์เข้าไปในร่างกายผ่าน adenovirus 26 ไวรัสนำสารตัวเดียวกับที่ใช้ในวัคซีนโควิด-19 แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันไวรัสเอดส์ได้
ไวรัสเอดส์ สักวันเราคงจะจัดการมันได้
** แต่นี่ยังไม่ใช่จุดจบของการพัฒนา **
ทั้งนี้ Johnson and Johnson ยังคงทดสอบวัคซีนเอดส์ของตนในกลุ่มตัวอย่างที่ยุโรปและอเมริกาที่เพิ่งเริ่มในปี 2019 ต่อ
ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีการเพิ่มสูตรโดส 3 และโดส 4 ที่มีส่วนผสม soluble protein component เข้าไปด้วย(น่าจะเป็นการบูสด้วยวัคซีนประเภท Protein Subunit เข้าไปอีก) ด้วยความหวังว่าจะได้ทดสอบที่สร้างความหวังในการพัฒนาวัคซีนเอดส์ของตนต่อไป
สำหรับความหวังในการพัฒนาวัคซีนเอดส์ยังคงไม่หมดไปง่าย ๆ เพราะนอกจาก J&J แล้ว ทั้ง Moderna และ Pfizer ต่างก็กำลังพัฒนาวัคซีนเอดส์ด้วยโดยใช้เทคโนโลยี mRNA แบบเดียวกับที่ใช้ในวัคซีนโควิด-19 ของตน โดย Moderna นั้นมีแผนเริ่มทดสอบในมนุษย์เร็ว ๆ นี้แล้วด้วย
จนถึงปัจจุบันนี้ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก โรคเอดส์นั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 36 ล้านคนและความหวังในการพัฒนาวัคซีนเอดส์ก็ยังคงมืดมัวเหมือนอยู่ในสายหมอก . . ..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา