4 ก.ย. 2021 เวลา 12:17 • อาหาร
Comment Corner รีวิววันนี้
Matcha Green Tea formula2
ชาเขียวมัทฉะสูตรสองจากชาตรามือ ราคาจับต้องได้ หาซื้อง่าย
Matcha Green Tea formula 2 จากชาตรามือ ในราคาเพียง 1.33 บาทต่อกรัม หากซื้อที่ร้านเบเกอรี่หรือร้านค้าทั่วไปก็จะไม่ต้องเสียค่าส่ง ราคาน่าคบหา ค่าจัดส่งไม่แพง อย่างไรก็ตามรสชาตินั้นยังไม่มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัด แต่นั่นเองก็เป็นข้อดีเช่นกัน ภาพรวมได้ 4 เต็ม 7 คะแนน
ทานคู่กับสตอเบอรี่ Basque burnt Cheesecake ต้องยอมรับว่าตอนชงน่าเป็นห่วงว่าจะไม่เข้ากัน้ท่าไร อย่างไรก็ดี the show must go on. โดยส่วนตัวนั้นถึงรสชาติจะไม่ได้โดดเด่นและเหมาะสำหรับการชงทั้ง Usucha หรือ Koicha เท่าไร แต่เมื่อลองเอามาราดเป็นซอส ถึงจะมีรสขมโดด และกลิ่นชา ที่ออกไปทางสาหร่ายชัด กลับทานได้ค่อนข้างง่าย ถ้าหากนำมาทำเป็นขนมน่าจะเหมาะกว่าชงเป็น Usucha หรือ Koicha
ที่จริงแล้ว ชาชนิดนี้ก็แนะนำชัดเจนข้างถุงว่าให้มาทำขนม แต่ทางผู้เขียนอยากทดลองนำมาชง เรียกว่าตั้งใจใช้ผิดวัตุประสงค์ก็ว่าได้
นำมาทำเป็นซอส ทั้งที่ชงโดยใช้แค่ชาและน้ำ ก็ยังได้เป็นซอสเนื้อข้น เหนียวเนียน รสชาติที่ไม่ได้เป็นเอกลักษณ์จนเกินไป เข้าใจง่ายเมื่อทานว่ามันคือมัทฉะ
อย่างไรก็ดี ถ้าหากใครมองหาชาราคาไม่แพง ทานง่าย ๆ ชงกับนมเป็นลาเต้ ชาตรามือก็นับเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยราคาที่ไม่แพงมากชงออกมาสีก็พอแก้ขัดได้ เติมน้ำตาลเล็กน้อยก็ทำให้ได้ชาเขียวที่อร่อยฟีลคาเฟ่ได้เช่นกันค่ะ
เข้าสู่ช่วงการเปรียบเทียบในการชงแบบ Koicha และ Usucha
Usucha การชงชาบาง
การเตรียมใช้ชา 3 กรัม ต่อน้ำ 60 มิลลิลิตร คนก้วย chasen 96 เส้น เช่นเคยจนได้ฟองนุ่มด้านบน การตีฟองไม่ยากอย่างที่คิด ถึงฟองที่ได้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่และวางทิ้งไว้จะหายไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีฟองหลงเหลืออยู่บ้างจนยกดื่ม
รสเค็มอูมามิของตัวนี้ค่อนข้างอ่อน สัมผัสสได้ยากจนแทบไม่ได้รส พอ ๆ กับรสหวาน แต่ถ้าใครชอบชาขมเข้ม แบบจิบแก้ง่วง แค่ชงแบบUsucha ก็ตื่นได้ไว้ทานช่วงบ่าย ๆ ก็น่าจะชอบตัวนี้ ในส่วนของ After taste นั้นรู้สึกขมติดลิ้นและหวานเพียงนิดเดียว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตอนจิบนั้นขมเข้มจนน้ำลายยังหวานหรือเปล่า
อย่างไรก็ดี ชาตัวนี้ก็ไม่ได้ "ขม" มากขนาดว่าทานไม่ได้ หากใครที่ทานกาแฟดำได้ ชาตัวนี้รสอ่อนกว่ากาแฟครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ
ในส่วนของกลิ่นนั้นได้กลิ่นชาที่ออกไปทางสาหร่ายและกลิ่นหญ้า แต่เป็นปกติของชาที่จะมีกลิ่นรสต่างกันไป หากใครที่มองอยากลองว่าชาที่บอกว่ากลิ่นคล้ายสาหร่ายเป็นอย่างไร ตัวนี้ก็น่าลองนะคะ เป็นกลิ่นสาหร่ายที่อยู่ในเกณฑ์ที่ทานได้
สีไม่ได้สดเท่าไร ออกเเนวเขียวหม่น ๆ เนื้อไม่ได้แน่น full body อยู่ในรสสัมผัสเบา ๆ
Koicha การชงชาเข้มข้น
การเตรียมชาใช้ชา 6 กรัมต่อน้ำ 30 มิลลิลิตร ค่อนข้างละลายยากหากไม่ได้ร่อนก่อน คนด้วย Chasen 48 roots แต่เมื่อละลายแล้วก็เป็นเนื้อเนียน ชาถูกบดมาอย่างละเอียดดี
รสเค็มอูมามิยังกลาง ๆ แม้ชงอย่างเข้ม ส่วนรสหวานนั้นหายไปเลย ที่เด่นชัดขึ้นมาที่สุดคงเป็นรสขมที่ติดลิ้นจนเป็น after taste ต่อได้อีกพักหนึ่งเลย คราวนี้เข้มกว่ากาแฟดำแล้วค่ะ อีก after taste ที่ได้ระบคือความรู้สึกเหมือนทานซุปสาหร่ายญี่ปุ่น แปลกลิ้นดีเหมือนกันค่ะ หากใครอยากลองก็ลองดูได้นะคะ ยังแปลกแบบเป็นสีสันให้ชีวิตได้ ไม่ได้ถึงกับไม่น่าลอง
ในส่วนกลิ่นนั้นก็ยิ่งชัดเลยค่ะ ยังได้กลลิ่นหอมชาอยู่นะคะ แต่กลิ่นรองเหมือนสาหร่ายมากกว่าหญ้า ตอนทานเป็น Usucha ยังสับสนว่าสาหร่ายหรือหญ้า แต่เป็น Koicha ชัดเลยว่าสาหร่าย หากใครนึกไม่ออกกลิ่นประมารสาหร่ายผง ๆ ที่โรยบนทาโกะบากิหรือโอโคโนมิยากิ
สีเองก็เขียวหม่นแต่เข้มกว่าเดิม เหมือนรูปด้านบนเลยค่ะ ตัวเนื้อหนักขึ้น แต่แปลกนะคะ ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวหรือเปล่า ทั้งที่ตอนตักราดก็ดูข้น แต่ตอนดื่มให้ความรู้สึกหนักกลาง ๆ ถ้าเทียบกับบางตัวที่ไม่ได้ข้นขนาดเป็นซอสแต่ตอนดื่มนั้นสัมผัสได้ถึงบอดี้เต็ม ๆ
ถ้าถามว่าจะทานแบบ Koicha อีกไหม คงไม่กล้าแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะคะ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี แต่คิดว่าชาแต่ละชนิดมีการชงที่เหมาะกับตัวเอง และตัวนี้ไม่เหมาะทำ Koicha เท่าไรน่ะค่ะ แต่ถ้านำไปทำเป็นซอสเติมน้ำตาลอาจจะอร่อยขึ้นได้นะคะ
Latte การชงผสมนม
การเตรียมชาใช้ 3 กรัมชา กับ 30 มิลลิตรน้ำ คนด้วยแปรง 96 เส้น ​ผสมกับนมพิสตาชิโอรสจืด 70 มิลลิลิตร ทางผู้ชงไม่ได้เติมน้ำตาลลงไปเพิ่มเพื่อชิมรสที่เกิดขึ้นจากชาให้ได้อย่างชัดเจน
โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นการชงที่เหมาะที่สุดกับชาตัวนี้เลยค่ะ
รสของชาที่เคยเข้มขม เมื่อผสมนมพิสตาชิโอกลับกลายเป็นความนุ่ม รสขมที่แทบหายไป รสเค็มและหวานปลาย ๆ after taste ที่ได้ใน Usucha กับ Koicha แทบไม่เจอ ทุกอย่างกลายเป็นความนุ่ม อ่อน ละมุน แทน อาจจะไม่ประทับใจสาบมัทฉะเข้มข้นเท่าไร แต่รสแบบนี้ทานเล่นได้เรื่อย ๆ ต้องขอบคุณความเป็นมัทฉะมาตรฐานที่พอชงแล้วได้รสชาติทั่วไปแบบที่เคยทานตามร้านคาเฟ่
กลิ่นสาหร่าย กลิ่นหญ้า หายไปจนหมด เหลือเพียงกลิ่นชาเขียว ถึงสีจะไม่ได้สดเท่าไรแต่ก็เป็นเขียวอ่อนพาสเทลที่ดี ตัวบอดี้หนักขึ้นตามนมที่ช่วยเสริม
พอชงอีกแก้วแล้วลองใส่น้ำตาล สำหรับผู้เขียนพบว่าไม่ต่างกันเท่าไร แค่มีรสหวานขึ้น แต่ก็หวานน้ำตาลชัดเลยค่ะ เนียนไม่ได้ว่าหวานจากชา เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ชอบทานหวาน ไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้ แต่ถ้าชอบก็ใส่ได้ ตามแต่ใจคนกินเลยค่ะ
สรุปแล้ว ชาเขียวสูตรสองของชาตรามือ เป็นชาที่ชงแบบ Latte แล้วกินง่าย สบาย ๆ เหมาะกับวันที่ต้องการโฟกัสกับสิ่งอื่น แต่ยังอยากดื่มชาอยู่ ใช้เวลาทำไม่มาก ทำงานไปจิบไปเพลิน ๆ ก็ดีนะคะ
สุดท้ายนี้ ชาตัวนี้เป็น customer review ทางผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดร่วมกับทางร้าน รสที่บรรยายเป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนรู้สึกและรับรู้ได้ อาจไม่เหมือนกับนักวิจารณ์ท่านอื่น หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา