14 ก.ย. 2021 เวลา 05:29 • การศึกษา
เรียน Online style เมืองนอก เด็กได้ความรู้ ครูได้การพัฒนาการสอน
หายไปหลายวันเพราะชีพจรลงเท้าค่ะ วันนี้แอดขอเล่าเรื่องที่ติดค้างไว้เมื่อครั้งที่แล้วนะคะ คือเรื่องการเรียน online ของนักเรียนในยุโรป
ปัจจุบันนี้โรงเรียนต่าง ๆ เริ่มมีการเรียนการสอนเป็นปกติแล้วค่ะ ยกเว้นในกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัยที่อาจจะมีกฏระเบียบในเพิ่มเติมในบางเรื่อง เนื่องจากว่าเด็กมหาวิทยาลัยในยุโรปหลาย ๆ class หนึ่งมักจะมีนักเรียนค่อนข้างเยอะและส่วนใหญ่มักจะมีนักเรียนจากชาติอื่น ๆ มาเรียนด้วย
วันนี้ขอพูดถึงเด็กประถมนะคะเพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีการเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนมาตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ จนกระทั่งมาถึงปัจจุบันก็กลับมาเรียนกันตามปกติโดยที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเชื้อโควิด-19 ระบาดให้วุ่นวายนะคะ
เรื่องการเรียน online ขอเล่าจากประสบการณ์ครั้งที่โรงเรียนในประเทศ Netherlands ยังให้เด็ก ๆ เรียนที่บ้านอยู่นะคะ ว่าทางโรงเรียนที่นี่จะมีวิธีการจัดการการเรื่องนี้อย่างไร
- เริ่มแรกเลยทุกอย่างยังชุลมุน ครูทุกคน ทุกวิชาก็พยายามปรับวิธีการเรียนการสอนให้เด็ก ๆ ได้เรียนกันเกือบทุกวิชา แม้กระทั่งวิชาพละศึกษาก็ส่ง VDO มาให้เด็ก ๆ ได้ทำการออกกำลังกายกันค่ะ
แต่เอาเข้าจริง ๆ No work ค่ะ พูดง่าย ๆ ว่าไม่สำเร็จเพราะเด็ก ๆ ต้องนั่งทำแบบฝึกหัดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เกือบตลอดทั้งวัน แม้ว่าทางโรงเรียนจะแนะนำว่าอย่าลืมพักสายตาทุก ๆ 45 นาที ก็ตามเถอะค่ะ เพราะเด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักจะอยากทำให้เสร็จ ๆ จะได้มีเวลาออกไปเล่นกันค่ะ
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง ทางโรงเรียนต้องมาคุยเพื่อปรับการสอนกันใหม่ แอดจะยกตัวอย่างโรงเรียนที่ลูกแอดเรียนนะคะ ยกตัวอย่างเช่น
1. สอนแต่วิชาที่จำเป็นเช่น คณิต ภาษาดัตช์ ประวัติศาสตร์ ส่วนเด็กโตจะมีภาษาอังกฤษเสริมนิดหน่อยค่ะ
2. ตัดวิชาที่ไม่จำเป็นมากนักออกไปเช่นวิชาพละ แต่จะเอาไปแทรกเล็กน้อยกับวิชาอื่นค่ะ
3. วิชาอื่น ๆ ที่สำคัญรอง ๆ ให้ไปเสริมแทรกใน 3 วิชาแรกตามข้อหนึ่งค่ะ
- ก่อนจะมีการเรียนการสอนทางโรงเรียนจะต้องมีโปรแกรมหรือระบบการเรียนการสอน online ที่ดีก่อนนะคะ
โปรแกรมที่จะให้เด็กนักเรียนใช้นั้นจะต้องทำได้ทุกอย่าง เช่นใช้ทำแบบฝึกหัดได้ทุกวิชา ดูง่าย สะอาดตา มีสีสันการ์ตูนให้เด็กรู้สึกสดใสได้บ้าง สามารถใช้ระบายสี สามารถพูดคุยกับคุณครูได้ตอนที่มีปัญหา มีกระดานข่าว มีการ chat กันได้ มี meeting สำหรับเล่นเกมส์กันได้ทั้งชั้นพร้อม ๆ กัน
ฟังเหมือนจะเยอะแต่จริง ๆ โปรแกรมพวกนี้มีอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ ที่นี่ทางคุณครูจะทำการเสนอ ผ.อ. แล้วก็จะทำการคัดเลือกโปรแกรมที่ดีที่สุด แต่บางพื้นที่ก็สามารถสอบถามหน่วยงานการศึกษาแล้วทางนั้นจะแนะนำโปรแกรมมาให้ค่ะ
1
(ซึ่งหากที่ทางประเทศไทยมีหน่วยงานที่ให้โปรแกรมการเรียนการสอนแบบเสถียรแล้วให้ใช้ในรูปแบบที่เหมือน ๆ กันก็น่าจะง่ายสำหรับครูในพื้นที่ห่างไกลนะคะ หากครูไม่เข้าใจก็โทรไปปรึกษาหน่วยงานด้าน IT การศึกษาโดยเฉพาะก็น่าจะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพได้เท่าเทียมกันในทุกพื้นที่นะคะ)
ยกตัวอย่างการสอนนะคะ
1. วิชาคณิตศาตร์ ที่นี่จะเน้นโดยมีคณิตพื้นฐาน + คณิตพิเศษที่จะใช้ความสร้างสรรค์ในการหาคำตอบ แต่เวลาสอบจริง ๆ จะเน้นคณิตพื้นฐานเป็นหลักค่ะ
2. วิชาด้ตช์ (เปรียบได้กับวิชาภาษาไทย) จะเน้นทั้งการพูด ฟัง (จับใจความ) อ่านและเขียนค่ะ และมีการเรียนภาษาประเทศอื่น ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้เด็ก ๆ ได้ความรู้และหัดพูดกันด้วยค่ะ
3. วิชาประว้ติศาสตร์ ที่นี่เรียนประว้ติศาสตร์ ชีวศาสตร์ ภูมิศาตร์ ชีวบุคคล ผลงานสร้างชื่อและอื่น ๆ ของประเทศตัวเอง รวมถึงในแต่ละเทอมก็จะมีการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ภาษาและวัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ ด้วยค่ะ โดยจะมีธีมในแต่เทอมเช่น อเมริกา แอฟริกา โรมัน ฝรั่งเศส สเปน เป็นต้นค่ะ
4. เด็กประถมไม่มีวิชาวิทยาศาสตร์แบบแยกวิชานะคะ แต่จะมีการทดลองต่าง ๆ รวมอยู่ในวิชาคณิตศาสตร์ เช่นเรื่องแรงโน้มถ่วงหรือเรื่องก๊าช ซึ่งทางครูจะส่งตัวอย่าง VDO การทดลองมาให้ดูแล้วให้เด็กทำตามแล้วอัดคลิป VDO แบบง่าย ๆ ไปส่งครูค่ะ ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองก็หาซื้อได้ง่ายค่ะตามในครัวหรือ supermarket ทั่วไปค่ะ
5. วิชาศิลปะไม่มีเป็นแบบแยกวิชาแต่จะไปรวมกับวิชาต่าง ๆ เช่นวิชาคณิต วาดรูประบายสีวิชาประว้ติศาสตร์หรือฟังเรื่องที่ครูส่งมาให้ฟังแล้วนักเรียนเขียนจับใจความแล้ววาดรูปสรุปตามความเข้าใจส่งให้ครูค่ะ (วาดในโปรแกรมที่เรียนนั่นแหละค่ะหรือไม่ก็ให้วาดในกระดาษแล้วถ่ายรูปหรือคลิปส่งไปให้ดูค่ะ)
6. วิชาดนตรี บางทีคุณครูจะมีเกมส์แบบตัวโน๊ตเสียงมาให้นักเรียนครีเอทในการทำเมโลดี้เพลงเล่นแล้วส่งไปให้ครูฟังค่ะ
7. วิชาคอมพิวเตอร์โดยปกติจะมีการเรียนสอนโปรแกรมกันบ้างเกือบทุกสัปดาห์แต่ว่าช่วงเรียน online เนี่ย คงต้องบอกว่าเด็ก ๆ ใช้คอมในโปรแกรมต่าง ๆ ในห้องเรียน online กันได้อย่างคล่องแคล่วเชียวค่ะ หากครูอยากจะเสริมอะไรที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนก็มักจะผ่านการเล่นเกมส์เพื่อเป็นการฝึกทักษะต่าง ๆ ให้นักเรียนได้เรียนกันอย่างสนุกสนานและไม่เบื่อค่ะ
8. วิชาพละศึกษา ที่นี่โดยปกติจะไม่มีการสอนกีฬาใดกีฬาหนึ่งโดยเฉพาะนะคะ โดยส่วนใหญ่แล้วในแต่ละสัปดาห์มักจะแตกต่างกันไปอยู่แล้วค่ะ เรื่องวิชาพละเดี๋ยวแอดมาเล่าให้ฟังตอนหลังนะคะ แต่สำหรับ online จะเอาไปรวมกับวิชาเลขหรือประวัติศาสตร์ค่ะ
อย่างเช่นให้นักเรียนนักเรียนถ่ายรูปประวัติศาสตร์แถวบ้านมาส่งครู ซึ่งก็แน่นอนค่ะ เด็ก ๆ จะต้องออกไปนอกบ้านเพื่อออกไปถ่ายรูปมาส่ง ช่วงนั้นเด็ก ๆ จะได้เดินออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ ห่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปได้สักพักใหญ่ ๆ เลยล่ะค่ะ
อันนี้เป็นตัวอย่างคร่าว ๆ นะคะ เพราะจริง ๆ แล้วแนวการเรียนการสอน online ที่นี่จะมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อยู่เสมอ ทางโรงเรียนและครูเองก็ต้องทำการบ้านในเรื่องการสอนอย่างไรจะให้เด็ก ๆ ได้ความรู้ไม่ต่างกับการเรียนที่โรงเรียนโดยที่ไม่ทำให้เด็ก ๆ การเรียนตกและรู้สึกไม่มีความสุขกับการเรียน
ส่วนตัวผู้ปกครองเองก็ต้องคอยดูแล เป็นกำลังใจให้ลูก ๆ ได้เรียนหนังสืออย่างมีความสุขและได้ความรู้เท่าที่จะทำได้ค่ะ
ของแอดนี่เห็นลูกหน้ามุ่ยหน้าจอก็เดินเงียบ ๆ เอาขนมบ้าง ผลไม้บ้างหรือน้ำเย็น ๆ บ้างไปให้ค่ะ เขาก็จะอารมณ์ดีและสงบขึ้นค่ะ หรือไม่ก็เอาไปวางที่โต๊ะรับแขกเขาจะได้เดินออกมาพ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะได้นั่งพักสมองไปสักพักค่ะ
สรุปผลของการเรียน online ที่นี่นะคะ
- การเรียนเด็ก ๆ ยังคงที่ ไม่แย่กว่าเดิมนะคะ แต่ถ้าเรียนที่โรงเรียนเด็ก ๆ จะได้แสดงออกทางด้านความคิดสร้างสรรค์มากกว่านี้ค่ะ
- ความสุขในการเรียน คงต้องบอกตรง ๆ ว่าเด็ก ๆ จะสุขก็แค่ตอนได้นอนตื่นสายหน่อย ได้อยู่บ้านในตอนแรก ๆ เท่านั้นค่ะ โดยส่วนใหญ่เด็ก ๆ ที่นี่ร้องจะไปโรงเรียนกันค่ะเพราะเด็ก ๆ บอกว่าเรียนที่โรงเรียนสนุกกว่า เข้าใจง่ายกว่า ช่วงเบรคก็ได้เล่นได้คุยกับเพื่อน แล้วเรียนเสร็จก็เสร็จเลยหลังเลิกเรียนก็ไปเล่นอะไรต่อมิอะไรได้ตามปกติ
- สำหรับคุณครูข้อดีคือได้มีการปรับตัว ครีเอทการเรียนการสอนให้ก้าวหน้าและทันสมัยอยู่เสมอ รวมถึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเดิมว่าทำยังไงเด็กถึงเข้าใจในสิ่งที่สอนและทำตามได้ง่าย แต่นั่นแหละงานนี้ก็ต้องเหนื่อยเอาการเลยค่ะ
- สำหรับผู้ปกครอง ต้องคอยดูว่าลูกเป็นยังไง ทำงานรึเปล่า นั่ง ๆ อยู่แล้วร้องให้ก็หลายรายค่ะ เพราะเด็ก ๆ เหนื่อย ทำเท่าไรก็ดูเหมือนจะไม่เสร็จสักที ใครลูกหนึ่งก็อาจจะรอดตัวหน่อยแต่ใครลูกเยอะต้องเรียน online พร้อม ๆ กันหลาย ๆ คนนี่ แอดยอมใจค่ะ เพราะไหนจะ work at home ไหนจะต้องช่วยลูก ที่สำคัญจะมาอารมณ์เสีย อารมณ์ร้อนไม่ได้นะคะ ไม่งั้นบ้านที่เคยร่มเย็นจะร้อนเป็นไฟค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องท่อง พุทโธ พุทโธ พุทโธ ไว้ค่ะ
สรุปในสรุปอีกครั้งนะคะ
- ผู้ปกครองบางส่วนร้องไปทางรัฐบาลให้ช่วยจ้ดการเรื่องนี้เพราะบางวันหนักจนเกินจะแบก จนส่งผลให้มีการเปิดเรียนโดยการทดลองอย่างเป็นระบบค่ะ สุดท้ายด้วยความร่วมมือของทางโรงเรียนและผู้ปกครองที่ทำตามกฏระเบียบที่แนะนำก็ทำให้โรงเรียนประถมเปิดได้ตามปกติมาตั้งแต่ต้นปี
ตอนนี้เด็ก ๆ ก็เลยกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ถึงเวลาเรียน ๆ ถึงเวลาเล่น ๆ มีความสุขกันไปตามประสา ส่วนผู้ใหญ่อย่างเราก็พลอยมีความสุขไปด้วย ทำงานกันได้อย่างเต็มที่ค่ะ
เรื่องอะไรจะยอมแพ้โควิด หากปรับความคิด ชีวิตก็เดินหน้าต่อไปได้ค่ะ
โฆษณา