14 ก.ย. 2021 เวลา 02:35 • หนังสือ
#77 เล่ม 3 บทที่ 18 หน้า 395 ~ 401
...
ฉะนั้นจงให้หนังสือเล่มนี้แก่ทุกคนที่เธอรู้จัก ไม่ใช่เพื่อให้พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้เท่านั้น แต่ยังเพื่อให้เข้าใจเรื่องอื่นๆที่เหลือทั้งหมดที่หนังสือเล่มนี้จะบอก และก็ยังมีอีกหลายๆเรื่อง
แค่เปิดหน้าต่อไป...
...
...
...
N : ครับ แต่ผมกำลังเริ่มรู้สึกหดหู่ เหมือนกับที่หลายคนรู้สึกหลังจากอ่านเล่ม 2 ที่เราจะคุยกันนี่จะมีแต่เรื่องว่าพวกเรากำลังทำลายทุกอย่างให้พินาศได้ยังไงหรือเปล่าครับ❓ เพราะผมไม่แน่ใจว่าผมพร้อมสำหรับเรื่องพวกนี้มั้ย...
G : เธอพร้อมที่จะได้รับแรงบันดาลใจไหม❓ พร้อมที่จะตื่นเต้นหรือเปล่า❓ เพราะการได้เรียนรู้และสำรวจสิ่งที่อารยธรรมอื่นๆ (อารยธรรมขั้นสูง) กำลังทำกันอยู่ควรทำให้เธอตื่นเต้นและเกิดแรงบันดาลใจนะ❗
จงคิดถึงความเป็นไปได้❗
จงคิดถึงโอกาส❗
จงคิดถึงอนาคตอันเรืองรองที่กำลังใกล้เข้ามาสิ❗
N : ถ้าพวกเราตื่นขึ้นมาอะนะ
G : พวกเธอจะตื่นขึ้นแน่นอน❗
พวกเธอกำลังตื่นขึ้นแล้ว❗
กระบวนทัศน์กำลังยกระดับขึ้น❗
โลกกำลังเปลี่ยนไป❗
มันกำลังเกิดขึ้นตรงหน้าเธอตอนนี้แล้ว❗
หนังสือเล่มนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ (ยกระดับขึ้น)🔸เธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ🔸
🌟 จงจำไว้ว่าเธออยู่ในห้องใดก็เพื่อเยียวยาห้องนั้น เธออยู่ในพื้นที่ใดก็เพื่อเยียวยาพื้นที่นั้น
🛑 ไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกที่เธอมาอยู่ที่นี่ตรงนี้
อย่ายอมแพ้นะ❗
จงอย่ายอมแพ้❗
การผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น❗
N : ตกลงครับ ผมเลือกที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอย่างและภูมิปัญญาของสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูง จะไม่หดหู่และท้อใจกับเรื่องนี้
G : ดี เป็นการเลือกที่ฉลาดเมื่อดูจากที่เธอบอกว่าเธออยากไปสู่จุดไหนในฐานะมนุษยชาติ จงจดจำสิ่งที่ได้จากการสังเกตสิ่งมีชีวิตขั้นสูงทั้งหลายเหล่านี้ไว้ให้ดี จดจำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“สวส.” ใช้ชีวิตอย่างเป็นเอกภาพด้วยความรู้สึกเชื่อมโยงกันอย่างลึกล้ำ พฤติกรรมของพวกเขาเกิดจากความคิดที่เป็นรากฐานแห่งความเป็นตัวตน★ของพวกเขา ที่เธออาจเรียกมันว่าหลักการขั้นพื้นฐานทางสังคม (หลักการประพฤติปฏิบัติที่มีต่อกันและกัน) พฤติกรรมของเธอเองก็เกิดจากความคิดที่เป็นรากฐานแห่งความเป็นตัวตนของเธอหรือหลักการขั้นพื้นฐานทางสังคมนี้เหมือนกัน
[★ความคิดที่เป็นรากฐานของความเป็นตัวเรานี้เรียกได้อีกอย่างว่า “ความคิดสนับสนุน” มันเป็นความคิดที่อยู่เบื้องหลังความคิดอีกที อ่านทบทวนเรื่องความคิดสนับสนุนได้ตามลิงค์ครับ - แอดมิน
N : อะไรคือหลักการขั้นพื้นฐานทางสังคมของ “สวส.” ครับ❓
G : หลักการข้อแรกก็คือ : 1️⃣ เราทั้งหมดล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ทุกการตัดสินใจ ทุกการเลือก รวมถึงสิ่งที่เธอเรียกว่า “ศีลธรรม” และ “จริยธรรม” จะตั้งอยู่บนหลักการนี้
หลักการข้อที่สองคือ : 2️⃣ ทุกๆสิ่งในความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้ต่างเชื่อมโยงหรือมีความสัมพันธ์ต่อกันและกัน
ภายใต้หลักการนี้ จะไม่มีสมาชิกของเผ่าพันธุ์คนไหนที่ยึดเอาบางสิ่งไว้เป็นของตนเพียงเพราะว่า “เขาได้รับมันก่อน” หรือเพราะ “มันเป็นสมบัติของเขา” หรือเพราะ “มันมีจำกัด” การพึ่งพาซึ่งกันและกันของทุกสรรพชีวิตในระบบค้ำจุนสายพันธุ์เป็นเรื่องที่ทุกคนตระหนักและให้ค่า ความจำเป็นที่เหมาะสมต่อทุกสายพันธุ์ที่มีชีวิตอยู่ในระบบจะได้รับการจัดการให้มีความสมดุลอยู่เสมอ เพราะนี่คือหลักการประจำใจของพวกเขา (พวกเขาตระหนักถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา)
N : หลักการข้อที่สองหมายความว่าจะไม่มีกรรมสิทธิ์ส่วนตัวเลยอย่างนั้นหรือครับ❓
G : มี แต่ไม่ใช่ในแบบที่เธอเข้าใจ
สวส.จะมีประสบการณ์ถึง “กรรมสิทธิ์ส่วนตัว” ในแง่ของความรู้สึกว่า 🔸ต้องมีความรับผิดชอบส่วนตัวต่อทุกสิ่งที่อยู่ในการดูแลของตน🔸
คำที่ใกล้เคียงที่สุดในภาษาของเธอที่สามารถอธิบายถึงความรู้สึกของสวส.ที่มีต่อสิ่งที่เธอเรียกว่า “สมบัติมีค่า” ก็คือ “ผู้พิทักษ์” (หรือผู้บริหารจัดการทรัพย์สินของผู้อื่น) สวส. คือผู้พิทักษ์ ไม่ใช่ผู้เป็นเจ้าของ
คำว่า “เป็นเจ้าของ” และแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังนั้น ไม่มีอยู่ในวัฒนธรรมของสวส. ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ทรัพย์สมบัติ” ในแง่ที่เป็น “สมบัติส่วนตัว” ทั้งนี้สวส.จะไม่ครอบครอง แต่จะใส่ใจดูแล นั่นคือ ป้องกัน รวบรวม รักและเอาใจใส่ในสิ่งต่างๆเหล่านั้น 🔹แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของมัน🔹
💢 มนุษย์จะครอบครอง
⏺️ แต่สวส.จะใส่ใจดูแล
นี่คือความต่างเท่าที่พอจะอธิบายในภาษาของเธอได้
ในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ของพวกเธอ มนุษย์รู้สึกว่าตนมีสิทธิครอบครองทุกสิ่งที่ตนเข้าถึง นี่รวมถึงภรรยาและลูกๆ ที่ดิน ความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน “วัตถุดิบและทรัพยากร” ต่างๆ (รวมถึง “วัตถุดิบและทรัพยากรอื่นๆ” ที่ “วัตถุดิบและทรัพยากรของตน” ไปจัดการหามาได้) ก็เป็นของพวกเขาด้วย ในทุกวันนี้สังคมของมนุษย์ส่วนใหญ่ก็ยังเชื่ออะไรแบบนี้อยู่
มนุษย์หมกมุ่นอยู่กับแนวคิดเรื่อง “ความเป็นเจ้าของ” โดยสวส.ที่เฝ้ามองเรื่องนี้จากระยะไกลเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น 💢“ความหมกมุ่นในการครอบครอง”
ณ ขณะนี้ที่เธอกำลังเติบโตขึ้น เธอเข้าใจมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆว่าตนไม่อาจครอบครองสิ่งใดได้อย่างแท้จริง ไม่เว้นแม้แต่คนรักและลูกๆของเธอ แต่ทว่ายังมีพวกเธอจำนวนมากที่ยังคงยึดติดอยู่กับแนวคิดที่ว่าตนสามารถครอบครองผืนดินและทุกสิ่งที่อยู่บนนั้น ใต้นั้น และเหนือนั้น (ใช่แล้ว พวกเธอถึงขั้นพูดเรื่อง “สิทธิในอากาศ”❗)
ในทางตรงกันข้าม สวส.ของจักรวาลจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าดาวเคราะห์ทางกายภาพที่พวกตนเหยียบย่างอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามในหมู่ของพวกเขาก็ไม่อาจครอบครอง
แม้ว่าสวส.บางคนอาจจะได้รับมอบสิทธิผ่านกลไกทางสังคมให้ดูแลผืนดินบางส่วน ซึ่งหากเขาหรือเธอพิทักษ์ผืนดินไว้ได้ดี เขาหรือเธออาจได้รับอนุญาต (ร้องขอ) ให้ส่งต่อการเป็นผู้พิทักษ์ไปยังลูกหลานและคนของพวกเขา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ประจักษ์ชัดว่าเขาหรือลูกหลานหรือคนของเขาพิทักษ์ผืนดินได้ไม่ดี พวกเขาก็จะถูกเพิกถอนสิทธิในการพิทักษ์ดูแลนั้นไป
N : โว้ว❗ ถ้านั่นเป็นหลักการของที่นี่ อุตสาหกรรมประมาณครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องถูกเพิกถอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินแน่❗
G : และระบบนิเวศของโลกจะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาในชั่วข้ามคืน
เธอเห็นไหมว่า ในวัฒนธรรมที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงนั้น “บริษัทหรือสถานประกอบการ” (อย่างที่เธอเรียก) จะไม่มีวันได้รับอนุญาตให้กระทำชำเราผืนดินเพื่อสร้างผลกำไร เพราะมันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนที่เป็นเจ้าของหรือผู้คนที่ทำงานให้แก่บริษัทเหล่านั้นจะถูกบั่นทอนอย่างไม่อาจหวนคืน
นี่หรือคือผลกำไร❓
ผลกำไรอะไรกันที่เป็นอย่างนั้น❓
N : แต่หลายปีผ่านไปเราก็อาจจะยังไม่รู้สึกว่าได้รับความเสียหาย ในขณะที่เราจะได้รับประโยชน์ในปัจจุบันทันทีนี้เลย คงเรียกได้ว่ากำไรระยะสั้นขาดทุนระยะยาว แต่ใครจะมานั่งสนใจความเสียหายในระยะยาวถ้าเราไม่ได้มีชีวิตยืนยาวถึงตอนที่ต้องรับผลของมันล่ะครับ❓
G : สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงสนใจ แล้วพวกเขาก็มีอายุยืนยาวกว่าพวกเธอมาก
N : มากกว่าแค่ไหนครับ❓
G : มากกว่าพวกเธอหลายเท่า ในสังคมของสวส.บางแห่ง พวกเขาจะมีชีวิตไปตลอด หรือนานตราบเท่าที่ตนเลือกจะอยู่กับกายเนื้อ
ฉะนั้นในสังคมของสวส. สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมักจะได้รับประสบการณ์ถึงผลในระยะยาวจากการกระทำของตัวเอง
N : พวกเขามีชีวิตยืนยาวขนาดนั้นได้ยังไงครับ❓
G : แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางที่จะ ‘ไม่มีชีวิต’ (ไม่ต่างอะไรจากเธอ) แต่ฉันเข้าใจความหมายของเธอ เธอหมายถึงว่า “มีชีวิตอยู่กับร่างกาย”
N : ใช่ครับ พวกเขาอยู่กับร่างกายนานขนาดนั้นได้ยังไง❓ เป็นไปได้ด้วยเหรอครับ❓
G : อย่างแรกเลยนะ เพราะพวกเขาไม่ก่อมลพิษในอากาศ ในน้ำและในผืนดิน ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาไม่ใส่สารเคมีลงไปในดิน ซึ่งจะถูกดูดซึมเข้าไปอยู่ในพืชและสัตว์ และจะเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคพืชและสัตว์เหล่านั้น
จริงๆแล้วสวส.จะไม่มีวันบริโภคเนื้อสัตว์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะใส่สารเคมีเข้าไปในดิน ซึ่งสารเคมีก็จะเข้าไปอยู่ในพืชที่สัตว์บริโภคและเข้าไปอยู่ในตัวสัตว์ แล้วจากนั้นก็บริโภคสัตว์เหล่านั้นเข้าไปหลังจากนั้นอีกที สวส.จะรู้แน่อยู่แก่ใจว่าการทำแบบนั้นคือการฆ่าตัวตาย
🛑 ดังนั้นสวส.จะไม่ก่อมลพิษกับสภาพแวดล้อม กับบรรยากาศ และกับร่างกายของตัวเองอย่างที่มนุษย์ทำ ร่างกายเธอคือสิ่งสร้างสรรค์สุดมหัศจรรย์ที่ได้รับการออกแบบให้ “คงอยู่” ได้ยาวนานอย่างไม่มีที่สิ้นสุดมากกว่าที่เธออนุญาตให้มันอยู่
🛑 สวส.ยังมีพฤติกรรมทางใจที่ทำให้อายุยืนยาวอีกด้วย
N : อย่างเช่น❓
G : สวส.จะไม่มีวันวิตกกังวล จริงๆแล้วก็คือพวกเขาไม่แม้แต่จะเข้าใจแนวคิดแบบมนุษย์เรื่อง “ความวิตกกังวล” หรือ “ความเครียด” ด้วยซ้ำ
สวส.ยังไม่รู้สึก “เกลียด” หรือรู้สึก “เกรี้ยวกราด” “โมโห” หรือ “ริษยา” หรือรู้สึก “ตื่นกลัว” หรือ “กดดัน”
🛑 ด้วยเหตุนั้น สวส.จึงไม่สร้างปฏิกิริยาทางชีวเคมีในร่างกายที่กัดกินและทำลายร่างกายตัวเอง ซึ่งสวส.จะเรียกมันว่า “การกินตัวเอง” และพวกเขาจะไม่บริโภคตัวเองแบบเดียวกับที่จะไม่บริโภคร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่น
N : สวส.ทำแบบนั้นได้ยังไงครับ❓ มนุษย์เราสามารถควบคุมอารมณ์เหล่านั้นได้ด้วยเหรอ❓
G : อย่างแรกคือ สวส.เข้าใจว่า :
🔘 ทุกสิ่งล้วนสมบูรณ์แบบ
🔘 ว่ามันคือ กระบวนการในจักรวาลที่กำลังคลี่คลายความเป็นตัวเองออกมา
และทั้งหมดที่ตนต้องทำก็คือ :
🔸อย่าเข้าไปแทรกแซงมัน🔸
🛑 ด้วยเหตุนั้น สวส.จึงไม่มีความวิตกกังวล เพราะพวกเขาเข้าใจกระบวนการ
และเพื่อตอบคำถามที่สอง : ใช่ มนุษย์สามารถควบคุมอารมณ์เหล่านั้นได้ แม้ว่าบางคนจะไม่เชื่อว่าตนสามารถทำอะไรอย่างนั้นได้ก็ตาม และอีกหลายคนก็แค่เลือกที่จะไม่ฝึกฝนมัน
💢 มีคนส่วนน้อยที่พยายามใช้ชีวิตให้ยืนยาวที่ต่างก็ทึกทักเอาเองว่าสารเคมีและสารพิษในอากาศฆ่าพวกเขาไม่ได้หรอก
💢 แล้วก็ทึกทักเอาเองอีกว่าตนไม่ได้ตั้งใจกรอกสารพิษใส่ตัวเองไม่ว่าจะทางใดอีกด้วย
N : เดี๋ยวนะครับ พวกเรา “ตั้งใจกรอกสารพิษใส่ตัวเอง”❓
G : ใช่ พวกเธอบางคนทำอย่างนั้น
N : ยังไงครับ❓
G : อย่างที่เคยบอกไป 💢พวกเธอบริโภคสารพิษ 💢พวกเธอบางคนก็ดื่มสารพิษ 💢พวกเธอบางคนก็ถึงขั้นสูบสารพิษ
สวส.ไม่อาจเข้าใจพฤติกรรมแบบนั้นได้ เพราะนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าทำไมพวกเธอถึงจงใจนำสารเคมีที่ตนรู้อยู่ว่าไม่เป็นผลดีเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง
N : คือ...พวกเรารู้สึกว่าการกิน ดื่ม หรือสูบของบางอย่างมันเพลินดี
G : สวส.รู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่กับร่างกาย ‘น่าเพลิดเพลิน’ อยู่แล้ว และไม่อาจจินตนาการถึงการทำอะไรที่ ‘รู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว’ ว่าจะทำให้ชีวิตสั้นลงหรือจบลง หรือทำให้มันเจ็บปวดได้
N : พวกเราบางคนไม่เชื่อว่าการกินสัตว์เนื้อแดง มากๆ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยา จะทำให้ชีวิตตัวเองสั้นลงหรือจบลง หรือทำให้มันเจ็บปวด
G : แสดงว่าทักษะในการสังเกตของพวกเธอนี่ทื่อมากๆ ต้องลับเสียหน่อยแล้ว สวส.จะเพียงแค่แนะนำให้พวกเธอมองไปรอบๆตัว
N : โอเคครับ...แล้วมีอะไรอย่างอื่นเกี่ยวกับรูปแบบชีวิตในสังคมที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงของจักรวาลอีกมั้ยครับ❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา