6 ต.ค. 2021 เวลา 02:18 • หนังสือ
#93 เล่ม 3 บทที่ 21 หน้า 484 — 490 (จบ)
...
G : วิธีที่เธอจะนำความเข้าใจใหม่นี้ไปใช้อย่างมีสติรู้สึกตัวได้อย่างมีนัยสำคัญก็คือ จงเป็นต้นเหตุของประสบการณ์ของตัวเอง ไม่ใช่เป็นผลของมัน และรับรู้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องสร้างด้านตรงข้ามของสิ่งที่เธอเป็นขึ้นมาในพื้นที่ชีวิตส่วนตัวหรือในประสบการณ์ส่วนตัว เพื่อจะรับรู้และมีประสบการณ์ถึงตัวตนที่แท้จริงและตัวตนที่เธอเลือกจะเป็น
ด้วยความเข้าใจนี้ เธอสามารถใช้มันเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง และสามารถใช้มันเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้
และนี่คือความจริงที่ฉันนำมาแบ่งปันแก่พวกเธอทุกคน
...
...
...
N : โว้ว❗ ว้าว❗ เข้าใจแล้ว ผมเข้าใจแล้ว❗
G : ดี เวลานี้จงรู้ว่ามีปัญญาพื้นฐานสามประการที่ปรากฎขึ้นตลอดการสนทนานี้ นั่นคือ :
1️⃣ “เราทั้งหมดคือหนึ่งเดียวกัน”
2️⃣ “มีพอ”
3️⃣ “ไม่มีอะไรที่เราต้องทำ”
🛑 ถ้าเธอตัดสินใจว่า “เราทั้งหมดคือหนึ่งเดียวกัน” เธอจะหยุดปฏิบัติต่อกันและกันในแบบที่เธอทำ
🛑 ถ้าเธอตัดสินใจว่า “มีพอ” เธอจะแบ่งปันทุกสิ่งกับทุกคน
🛑 ถ้าเธอตัดสินใจว่า “ไม่มีอะไรที่เราต้องทำ” เธอจะหยุดการพยายามใช้ “การกระทำ” แก้ไขปัญหา — แต่จะ ‘เคลื่อนสู่’ และ ‘มาจาก’ 🔸ภาวะแห่งการเป็น🔸 ที่เป็นเหตุให้ประสบการณ์ของ “ปัญหา” เหล่านั้นหายไป และสภาพการณ์ของปัญหาเหล่านั้นก็จะสลายไป
บางทีนี่อาจเป็นความจริงที่สำคัญที่สุดที่เธอต้องทำความเข้าใจในขั้นนี้ของการวิวัฒนาการของเธอ และนี่เป็นจุดที่เหมาะสมที่เราจะจบการสนทนานี้ จงจำสิ่งนี้ไว้เสมอและให้มันเป็น ✨มนตร์ประจำตัว✨ ของเธอ :
💥 ไม่มีอะไรที่ฉันต้องมี
💥 ไม่มีอะไรที่ฉันต้องทำ
💥 และก็ไม่มีอะไรที่ฉันต้องเป็น
💥 เว้นแต่ตัวตนที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้
นี่ไม่ได้หมายความว่าต้องขจัด “การมี - having” และ “การทำ - doing” ออกไปจากชีวิต แต่หมายความว่า สิ่งที่ตัวเธอมีประสบการณ์ว่า ‘กำลังมี’ หรือ ‘กำลังทำ’ อยู่นั้นจะ 🔸ผุดขึ้นมาจากสิ่งที่เธอ “เป็น - being” ไม่ใช่นำเธอไปสู่การเป็น🔸
🛑 เมื่อเธอ ‘มาจาก’ “ภาวะแห่งความสุข” เธอทำบางสิ่งเพราะเธอคือความสุข (be happy) ซึ่งตรงกันข้ามกับกระบวนทัศน์เก่าที่ซึ่งเธอทำสิ่งต่างๆด้วยหวังว่ามันจะทำให้เธอมีความสุข
🛑 เมื่อเธอ ‘มาจาก’ “ภาวะแห่งปัญญา” เธอทำบางสิ่งเพราะเธอคือตัวปัญญานั้น (be wise) ไม่ใช่เพราะเธอพยายามจะไขว่คว้าหาปัญญา
🛑 เมื่อเธอ ‘มาจาก’ “ภาวะแห่งความรัก” เธอทำบางสิ่งเพราะเธอคือรัก (be love) ไม่ใช่เพราะเธอพยายามให้ได้มาซึ่งความรัก
🌟 ทุกสิ่งจะเปลี่ยนไป ทุกอย่างจะพลิกกลับ เมื่อเธอ ‘มาจาก’ “ภาวะแห่งการเป็น” แทนที่จะพยายาม“เป็น”
🌟 เธอไม่อาจ “ทำ” อะไรก็ตามเพื่อที่จะ “เป็น” ได้ ไม่ว่าเธอจะพยายามเป็นความสุข เป็นปัญญา เป็นความรัก หรือเป็นพระเจ้า เธอไม่มีทาง “ไปถึงตรงนั้น” ได้ด้วยการกระทำ แต่มันก็จริงที่ว่าเมื่อเธอ “ไปถึงตรงนั้น” แล้วเธอจะสามารถทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้
และนี่คือเอกภาพแห่งความขัดแย้งอันศักดิ์สิทธิ์ วิธี “ไปถึงตรงนั้น” ก็คือ :
✨“จงอยู่ตรงนั้น”✨
💥 อยากได้รับสิ่งใดจงเป็นสิ่งนั้น❗
💥 ง่ายๆแค่นั้น เรียบง่ายขนาดนั้น
💥 ไม่มีอะไรที่เธอต้องทำ
อยากมีความสุขใช่ไหม❓
งั้นก็จงเป็นความสุข
อยากมีปัญญาใช่ไหม❓
งั้นก็จงเป็นปัญญา
อยากมีความรักใช่ไหม❓
งั้นก็จงเป็นความรักนั้นเสีย
นี่คือตัวตนที่เธอ “เป็น” ในทุกเหตุการณ์
💖 เธอคือผู้เป็นที่รักยิ่งของฉัน (My Beloved) 💖
N : โอ้❗ ผมตะลึงจนแทบจะลืมหายใจ❗ พระองค์ช่างสรรหาวิธีมาอธิบายเรื่องราวได้เฉียบคมและน่าประทับใจเหลือเกิน
G : ความจริงนั้นเองที่เฉียบคม ความจริงนั้นเองที่น่าประทับใจ ความจริงนั้นเองที่สง่าผ่าเผยและสามารถปลุกเร้าหัวใจให้ฟื้นตื่นขึ้นมาใหม่
และนี่คือเรื่องที่ ‘บทสนทนากับพระเจ้า’ ได้ทำ มันได้เข้าไปสัมผัสกับหัวใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์และปลุกมันให้ฟื้นตื่นขึ้นมาใหม่
และมันก็นำเธอไปสู่คำถามที่สำคัญยิ่ง เป็นคำถามที่มนุษยชาติทั้งมวลต้องถามตัวเอง นั่นคือ :
พวกเธอสามารถ (และจะ) สร้างเรื่องราวทางวัฒนธรรมแบบใหม่ขึ้นมาได้ไหม❓
พวกเธอสามารถ (และจะ) ก่อร่างคติใหม่ทางวัฒนธรรมข้อแรกที่จะเป็นรากฐานให้แก่คติอื่นๆทั้งหมดขึ้นมาได้ไหม❓
เนื้อแท้ของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นดีงามหรือชั่วร้าย❓
นี่คือทางแยกสำคัญที่ซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ ✨อนาคตของมนุษยชาติขึ้นอยู่กับว่าพวกเธอจะเลือกไปในทางไหน✨
หากเธอและสังคมของเธอเชื่อว่าเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นดีงาม พวกเธอจะทำการตัดสินใจและสร้างกฎข้อบังคับในลักษณะที่สร้างเสริมและโอบอุ้มชีวิต
แต่หากเธอและสังคมของเธอเชื่อว่าเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นชั่วร้าย พวกเธอก็จะทำการตัดสินใจและสร้างกฎข้อบังคับในลักษณะที่ปฏิเสธและบ่อนทำลายชีวิต
กฎข้อบังคับที่สร้างเสริมชีวิต คือกฎที่จะอนุญาตให้เธอ ‘ได้เป็น’ ‘ได้ทำ’ และ ‘ได้มี’ ในสิ่งที่เธอปรารถนา
ส่วนกฎข้อบังคับที่ปฏิเสธชีวิต คือกฎที่จะปิดกั้นเธอจากการเป็น การทำ และการมีสิ่งที่เธอปรารถนา
คนที่เชื่อในบาปกำเนิด รวมถึงเชื่อว่าธรรมชาติเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นชั่วร้าย จะกล่าวอ้างว่าพระเจ้าได้บัญญัติกฎที่ปิดกั้นไม่ให้เธอได้ทำในสิ่งที่ปรารถนา และจะสนับสนุนกฎข้อบังคับ (จำนวนนับไม่ถ้วน) ของมนุษย์ที่พยายามจะทำแบบเดียวกัน
ส่วนคนที่เชื่อในพรกำเนิด รวมถึงเชื่อว่าธรรมชาติเนื้อแท้ของมนุษย์นั้นดีงาม จะประกาศว่าพระเจ้าได้สร้างกฎธรรมชาติที่เอื้อให้เธอได้ทำอย่างที่เธอต้องการ และจะสนับสนุนกฎข้อบังคับของมนุษย์ที่พยายามทำแบบเดียวกัน
มุมมองที่เธอมีต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นเป็นแบบไหน❓
อะไรคือมุมมองที่เธอมีต่อตัวของเธอเอง❓
หากไม่มีใครมาบังคับควบคุมใดๆทั้งสิ้น เธอจะเห็นตัวเองว่าเป็นคนที่สามารถไว้ใจได้ไหม❓ไว้ใจได้ทุกเรื่องไหม❓
แล้วเธอเห็นคนอื่นเป็นอย่างไร❓
เธอมองพวกเขาอย่างไร❓
หากพวกเขายังไม่ได้เผยตัวตนให้เธอเห็นในทางใดทางหนึ่ง เธอมีสมมติฐานหรือความเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับพวกเขาอย่างไร❓
💥จงตอบคำถามพวกนี้💥
สมมติฐานหรือความเห็นของเธอยิ่งช่วยเร่งให้สังคมพังทลายหรือช่วยให้มันทะลวงขีดจำกัดเดิม❓
N : ผมเห็นตัวเองว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้ ก่อนหน้านี้ผมไม่เห็นว่าตัวเองเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมเห็นแล้ว ผมกลายเป็นคนที่ไว้ใจได้แล้ว เพราะผมเปลี่ยนแนวคิดว่าผมเป็นคนแบบไหนแล้ว ตอนนี้ผมเข้าใจชัดแล้วว่าพระเจ้าต้องการอะไร และอะไรที่พระเจ้าไม่ต้องการ ผมเข้าใจพระองค์ชัดแล้ว
‘บทสนทนากับพระเจ้า’ นี้มีบทบาทมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงนั้น ทำให้การยกระดับนั้นเป็นไปได้ และตอนนี้ผมก็จะเห็นสังคมในแบบที่ผมเห็นตัวเอง ว่ามันไม่ได้กำลังพังทลาย แต่มันกำลังทะลวงขีดจำกัดเดิม ผมเห็นว่าวัฒนธรรมของมนุษย์ในท้ายที่สุดแล้วก็จะตื่นขึ้นมารับรู้ถึงต้นตออันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง รับรู้ถึงจุดมุ่งหมายอันศักดิ์สิทธิ์ของตน และตระหนักรู้มากขึ้นเรื่อยๆถึงตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง
G : ถ้านั่นคือสิ่งที่ 🔸เธอเห็น🔸
นั่นก็คือ ✨สิ่งที่เธอจะสร้างขึ้นมา✨
ครั้งหนึ่งเธอเคยพลัดหลง แต่บัดนี้เธอได้พบทาง ในอดีตเธอเคยมองไม่เห็น แต่ในเวลานี้เธอเห็นแล้ว และนี่เป็นความงดงามอันน่าอัศจรรย์
บางเวลาเธอก็รู้สึกแยกขาดจากฉันในหัวใจ แต่ในเวลานี้เรากลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันใหม่อีกครั้ง และสิ่งใดที่เธอเชื่อมต่อไว้ด้วยกัน ก็มีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถแยกมันออกจากกันได้
จงจำไว้ว่า : เธอนั้นเป็นส่วนหนึ่งเสมอ เพราะเธอไม่เคยไม่เป็นส่วนหนึ่งและเธอก็ไม่เคยแยกจากไปไหน เธอเป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้าเสมอ เพราะเธอไม่เคยแยกจากพระเจ้า
นี่คือสัจธรรมของตัวเธอ เราเป็นหนึ่งเดียวกัน และตอนนี้เธอได้รู้ความจริงอันครบถ้วนแล้ว
1
"ความจริงนี้" คืออาหารแก่วิญญาณที่หิวโหย จงรับไปกินเถิด โลกกระหาย "ความเบิกบานนี้" เหลือเกินแล้ว จงรับไปดื่มเถิด จงทำสิ่งนี้ (กินและดื่ม) เพื่อรำลึกถึงฉัน
เพราะความจริงคือกาย และความเบิกบานคือโลหิต...ของพระเจ้า...ผู้เป็นความรัก
⏺️ “ความจริง”
⏺️ “ความเบิกบาน”
⏺️ “ความรัก”
สามสิ่งนี้สลับสับเปลี่ยนกันได้ สิ่งหนึ่งจะนำไปสู่อีกสิ่ง ไม่สำคัญว่าอะไรมาก่อนมาหลัง ทั้งหมดนำมาสู่ฉัน ✨ทั้งหมดก็คือฉัน✨
ฉันขอจบการสนทนานี้ในแบบที่มันเริ่มต้น แบบเดียวกับตัวชีวิตที่มาบรรจบครบรอบ เธอได้รับความจริงแล้ว เธอได้รับความเบิกบานแล้ว เธอได้รับความรักแล้ว เธอได้รับคำตอบที่เกี่ยวกับความลี้ลับอันยิ่งใหญ่ของชีวิตแล้ว เวลานี้มีเพียงแค่คำถามเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ มันคือคำถามที่เราได้เริ่มต้น
🛑 คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าฉันพูดอยู่กับใคร แต่คือมีใครฟังฉันบ้าง❓
N : ขอบคุณครับ ขอบคุณที่คุยกับพวกเราทุกคน พวกเราได้ยินพระองค์แล้ว และพวกเราก็จะฟัง ผมรักพระองค์ และในเวลานี้ที่การสนทนาของเรามาถึงบทสรุป ใจผมถูกเติมเต็มด้วยความจริง ความเบิกบานและความรัก ถูกเติมเต็มด้วยพระองค์ ผมรู้สึกได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า
G : สถานที่อันเป็นหนึ่งเดียวนั้นคือสวรรค์
เธออยู่ที่นั่นแล้วในตอนนี้
เธอไม่มีวัน ‘ไม่อยู่ที่นั่น’ เพราะเธอไม่มีวัน ‘ไม่เป็น’ หนึ่งเดียวกับฉัน
นี่คือเรื่องที่ฉันอยากให้เธอรู้ นี่คือสิ่งที่ฉันอยากให้เธอรับไปในท้ายที่สุดจากการสนทนานี้
และนี่คือสาสน์ของฉัน สาสน์ที่ฉันอยากฝากไว้แก่โลกใบนี้...
...
ลูกๆของฉัน ผู้ซึ่งสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ นามของเธอเป็นที่เทิดทูนสักการะบูชา อาณาจักรของเธอได้รับการสถาปนาแล้ว เจตจำนงของเธอนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วบนโลกเฉกเช่นเดียวกันกับบนสรวงสวรรค์
เธอได้รับเครื่องประทังชีวิตแล้วในวันนี้ เธอได้รับการยกหนี้และการล่วงละเมิดทั้งหลาย ได้รับการให้อภัยในความผิดบาป เหมือนที่เธอได้ยกหนี้ให้กับผู้ที่เป็นหนี้ และให้อภัยแก่ผู้ที่กระทำผิดต่อเธอเช่นกัน
ขอจงอย่าล้มลงเมื่อถูกทดสอบ ขอจงอย่าตกเป็นทาสของสิ่งยั่วใจทั้งหลาย และขอให้พ้นจากความชั่วร้ายที่ตัวเธอได้สร้างขึ้น
เหตุว่าอาณาจักร เดชานุภาพ และเกียรติสิริเป็นของเธอชั่วนิรันดร์
อาเมน
และอาเมน
...
🌟 บัดนี้จงออกไปเปลี่ยนแปลงโลกของเธอ จงออกไปเป็นตัวตนที่สูงส่งที่สุดของตนเอง
🌟 เวลานี้เธอได้เข้าใจทั้งหมดที่เธอจำเป็นต้องเข้าใจแล้ว เวลานี้เธอได้รู้ทุกอย่างที่เธอจำเป็นต้องรู้แล้ว และในเวลานี้เธอได้เป็นทุกอย่างที่เธอจำเป็นต้องเป็นแล้ว
🌟 เธอไม่เคยเป็นสิ่งที่น้อยไปกว่านี้ เธอแค่ไม่รู้เรื่องนี้ เธอเพียงแค่หลงลืมมันไป
💥เวลานี้เธอจำได้แล้ว💥
🛑 พยายามจดจำรำลึกถึงสิ่งนี้ไว้เสมอ
🛑 พยายามแบ่งปันกับทุกผู้คนที่เธอพานพบ
🛑 โชคชะตาของเธอนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เธอเคยคิดจินตนาการเอาไว้มากนัก
✨เธอมาอยู่ในห้องนี้ก็เพื่อจะเยียวยาห้องนี้ เธอมาอยู่ในพื้นที่นี้ก็เพื่อจะเยียวยาพื้นที่นี้ เธอมาอยู่ในห้วงกาลอวกาศนี้ก็เพื่อจะเยียวยาที่นี่✨
✨ไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกสำหรับเธอในการมาอยู่ที่นี่ตรงนี้✨
และจงรู้เอาไว้ว่า : 💖 ฉันรักเธอ เธอนั้นเป็นที่รักของฉันเสมอ ความรักของฉันเป็นสมบัติติดตัวเธอทั้งในตอนนี้และตราบชั่วนิรันดร์ 💖
💖 ฉันอยู่กับเธอเสมอ
💖 ในทุกวิถีทาง
N : ลาก่อนครับพระเจ้า ขอบคุณสำหรับการพูดคุยกันนี้ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมากครับ
G : และเธอ ผู้งดงามที่เป็นผลงานจากการสร้างของฉัน ฉันขอบคุณเธอเช่นกัน เพราะเธอทำให้พระเจ้าได้ส่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง และให้ที่ทางแก่พระเจ้าในหัวใจเธออีกครา และนั่นคือสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการอย่างแท้จริง
เราได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง
มันช่าง...ดีเหลือเกิน.
(จบ เล่ม 3)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา