"JXDN" 1 ในดาวรุ่งน่าจับตามองของวงการเพลง Pop-Punk
JXDN ในรายการ Genius ขอบคุณภาพจาก google.com
สวัสดีครับเป็นยังไงกันบ้างสบายดีไหม วันนี้ผมก็มีประวัติอีกหนึ่งนักร้องที่น่าสนใจ นำมาฝากชาว Blockdit กันนะครับ บอกเลยว่าคนนี้กำลังมาแรงมาก เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการเพลง Pop-Punk เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งตอนนี้กำลังออกทัวร์ทั่วอเมริกาอยู่ เขาชื่อว่า "JXDN" (อ่านว่า Jaden) ครับ
ประวัติของเขาจะเป็นยังไง น่าสนใจแค่ไหน วันนี้ขอเล่าหน่อย จะมาขอเล่าให้ทุกคนได้ฟังกันครับ
"เจเด็น ฮอสเลอร์"
Jaden Isaiah Hossler (aka JXDN) เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2001 (ปัจจุบันอายุ 20 ปี) เกิดและเติบโตที่ เมือง Chattanooga รัฐ Tennessee เขาก็เป็นเด็กหนุ่มธรรมดานี่แหละครับ ที่เกิดมาในครอบครัวปกติดี เรียนในโรงเรียนรัฐ ชอบฟังดนตรี Rock Classic & ดนตรี Pop พอโตขึ้นมาเรียน High School เขาชอบการแสดงมาก ชอบแสดงงานโรงเรียน เป็นเด็กชอบแสดงออกอีกหนึ่งคนเลยครับ
และเจเด็นยังชอบฟัง Juice Wrld และ XXXTENTACION อีกด้วยครับ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นโรงซึมเศร้า และก็ได้เพลงของ 2 คนนี้แหละ ที่ช่วยให้เขาต่อสู้กับโรคซึมเศร้าที่เป็นอยู่ เขาเคยลองฆ่าตัวตายอยู่ 2 ครั้งในปีเดียวกันแต่ก็ทำไม่สำเร็จครับ นั่นเป็นช่วงเวลสที่ยากลำบากมากสำหรับเขา แต่เขาก็ผ่านมันมาได้ ต้องยอมรับเลยว่ามีคนเป็นโรคซึมเศร้ากันเยอะมากครับทั่วโลกเลย ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเจอกับปัญหาโรคซึมเศร้าอยู่ขอให้ผ่านไปให้ได้นะครับ
JXDN ขอบคุณภาพจาก Festivaly.com
Become Famous "TIKTOK STAR"
ในปี 2019 เจเด็นเริ่มเล่น Application ที่ตอนนี้กำลังฮิตกันมากทั่วทั้งโลกอย่าง TikTok โดยคอนเทนต์ของเขาจะเป็นการร้องเพลงแบบ Lip-Sync และทำวีดีโอตลก ๆ ซะส่วนใหญ่ แต่คนจะดังมันก็ดัง อะไรก็ฉุดไม่อยู่ เจเด็นเล่นไปได้เดือนกว่า ๆ ก็มีผู้ติดตามพุ่งสูงถึง 1 ล้านคน ใช่ครับ 1 ล้านคนภายใน 1 เดือนเท่านั้น!!
เมื่อถึงปี 2020 เขาได้รับชวนจากแมวมองให้เข้ากลุ่ม Telent X และ เข้ากลุ่ม Sway House ที่ L.A. (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น The Hype House ซึ่งมีดาว TikTok มากมายไม่ว่าจะเป็น Chase Hudson, Daisy Keech และอีกมากมาย
อยู่ได้ไม่นานเจเด็นก็ได้ลาออกจากกลุ่ม Sway House ในเดือนพฤษภาคม และก็ยังทำคลิปลง TikTok ต่อไป จนมีผู้ติดตามถึง 7.6 ล้านคนเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 และเมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 เขาก็มีผู้ติดตามมากถึง 9 ล้านคน เขาใช้เวลาภายใน 1 ปี เท่านั้น เรียกได้ว่า เกิดมาเพื่อเป็น Star จริง ๆ
JXDN ขอบคุณรูปภาพจาก musica.com
เริ่มเส้นทางสายดนตรี แนว POP-PUNK
เจเด็นเริ่มเส้นทางการเป็นนักดนตรีของเขาในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2020 โดยเพลงแรกที่เขาปล่อยออกมาชื่อเพลงว่า "Camatose" ซึ่งเพลงนี้เองทำให้เขาได้รับการติดต่อจาก Travis Barker (มือกลองวง Blink-182 และยังเป็น Producer ให้กับศิลปินอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น MGK, Iann Dior, Sueco ฯลฯ) ให้มาเซ็นสัญญากับค่าย DTA Records ค่ายเพลงของเขาเอง เพราะว่าเห็นแววของ เจเด็น และจะนำเจเด็นไปปั้นต่อ ต้องบอกเลยว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์จริง ๆ พอลองฟังเพลงแรกแล้วก็รู้เลยว่าเด็กคนนี้ไปได้ไกลแน่ ๆ
ในเดือนพฤษภาคม และ กรกฏาคม-สิงหาคม ปี 2020 เจเด็นก็ได้ออกเพลงที่ 2, 3 และ 4 ออกมาในชื่อว่า "Angels & Demons", "So What" และ "Pray" และเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาเคยคิดฆ่าตัวตายและเป็นโรคซึมเศร้า เจเด็นจึงออกเพลง Pray ออกมาเพื่อระดมทุนช่วยเหลือโครงการ suicide prevention (กลุ่มช่วยเหลือการฆ่าตัวตายหรือผู้ที่มีแนวโน้มอยากฆ่าตัวตาย)
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 เจเด็นก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย Warner Chappell Music (ค่ายลูกของ Warner Music) และในเดือนเดียวกัน ก็ได้ออกเพลงร่วมกับ Iann Dior ในชื่อเพลงว่า "Tonight"
ในเดือนธันวาคมปี 2020 เจเด็นก็ได้ออกเพลง "Better Off Dead" ซึ่งก็ได้ Lauv และ Blackbear มาร่วมช่วยเขียนเพลงด้วย และยังได้ Travis Barker มาเป็น co-production ด้วยเช่นกัน และตัวเจเด็นเองก็ได้ประกาศชื่ออัลบั้ม Debut อัลบั้มของเขาอย่างเป็นทางการในชื่อ "Tell Me About Tomorrow"
JXDN และรูปอัลบั้มแรกของเขา "Tell Me About Tomorrow" ขอบคุณภาพจาก Music Matter Media
2021 นี่แค่จุดเริ่มต้น
ในเดือนมกราคมปี 2021 เขาก็ได้มีส่วนร่วมในหนังสั้น "Downfalls high" ของศิลปิน MGK ซึ่งเป็นการโปรโมทเพลงในอัลบั้มใหม่ของเขาอย่าง "Tickets To My Downfall ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของคู่รักวัยรุ่นผ่านเพลงของ MGK เพลงก็ดี เนื้อเรื่องก็ดี แนะนำเลยครับ
และเจเด็น ก็ได้นำเพลงที่ตอนนั้นฮิตมากอย่าง drivers license ของ Olivia Rodrigo มาทำเป็น version Pop-Punk ซึ่งได้ Travis Barker มาเป็น co-production ด้วย ซึ่งเพลงนี้ก็ฮิตมากครับ เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่นำมา Cover ได้ดีเลยทีเดียว
ไม่กี่เดือนถัดมาเขาก็ได้ไปแจมกับนักร้องหญิง "Nessa Barrett" ในเพลง "La Di Die" ซึ่งเพลงนี้เองก็ดัง ฮิตติดหู มีคนฟังเยอะมากทั้งใน youtube, apple music, spotify มากเช่นกันครับ เรียกได้ว่าออกเพลงอะไรมาก็ปัง ก็ดังหมดเลยจริง ๆ เด็กคนนี้ และยังได้ไปแสดงบนรายการทีวีสดเป็นครั้งแรกอีกด้วยในรายการของ Jimmy Kimmel Live และ The Ellen DeGeneres Show
ในเดือนเดียวกันเขาก็ได้รับการนำเสนอชื่อชิงรางวัล Social Star Award ในปี 2021 ของ iHeart Radio Awards แต่ก็แพ้ให้กับ Olivia Rodrigo ซึ่งมาแรงมาก ๆ ในปีนี้ ต้องยอมน้อนเลยจริง ๆ
ในเดือนมิถุนายนปี 2021 เจเด็นก็ได้ประกาศรายชื่อเพลงในอัลบั้มของเขา "Tell Me About Tomorrow" และก็ได้ปล่อยเพลงที่ 5 "Think About Me" ออกมา ในอัลบั้มนี้มีเพลงทั้งหมด 18 เพลง และได้ศิลปินมาร่วมแจมทั้ง MGK และ Iann Dior และยังได้ Travis Barker มาช่วย Produce อัลบั้มแรกอีกด้วย
เจเด็นก็ได้ปล่อยอัลบั้มแรกออกมา พร้อมกับเพลง "Wanna Be" ที่ได้ MGK มาร่วมแจม และ MGK ยังได้ชวนเจเด็นมาเป็นเล่นเป็นวงเปิดในการทัวร์อัลบั้มใหม่ของเขาอีกด้วย และ ตอนนี้เอง เจเด็นก็ได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้มแรกของเขา พร้อมกับออกทัวร์กับศิลปิน MGK ไปด้วย เรียกได้ว่าฟิตมาก ฟิตจริง ๆ
JXDN และ MGK ขอบคุณภาพจาก Kerrang!
ปี 2021 นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเอง ตอนนี้ JXDN ก็เริ่มออกทัวร์แล้วหลังจากที่ อเมริกา คลายล็อคให้กลับมาจัดคอนฯได้อย่างเต็มรูปแบบ น่าอิจฉามาก ๆ เลยครับ ในช่อง Youtube ของเขาก็ได้มีคลิป Recap ระหว่างเดินทางทัวร์แสดงคอนเสิร์ตออกมาให้แฟน ๆ ได้รับชมกัน ใครทีอยากรับชมก็ไปหาชมได้ใน Youtube ช่อง JXDN ได้นะครับ
ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับประวัติของ JXDN จากดาว TikTok สู่นักร้องเพลงแนว POP-PUNK สำหรับวันนี้ ขอเล่าหน่อย ขอลาไปก่อน ถ้าใครชอบก็กดแชร์ กดหัวใจได้นะครับ สวัสดีครับทุกคน
Source:
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
