Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ใจที่ตื่นรู้
•
ติดตาม
28 ต.ค. 2021 เวลา 12:59 • ครอบครัว & เด็ก
ครั้งหนึ่ง ได้ชมภาพยนตร์สารคดีทางโทรทัศน์ชื่อ 70 Minutes to Tsunami เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในช่วง 70 นาทีก่อนที่คลื่นยักษ์สึนามิจะถล่มเมืองริมทะเลแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น
ทางรายการได้ตามไปสัมภาษณ์บรรดาผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นหลายคนด้วยกัน เรื่องราวที่ถ่ายทอดจากปากของผู้ที่ประสบชะตากรรมในครั้งนั้น ทำให้ผู้ชมสามารถจินตนาการภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญได้อย่างแจ่มชัดเลยทีเดียว
หนึ่งในบรรดาผู้โชคดีที่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดก็คือ ชายวัยกลางคนชื่อ ชินอิจิ เรื่องราวของเขา และสิ่งที่เขาทำก่อนเกิดเหตุอภิมหาโศกนาฏกรรม ทำให้ดิฉันประทับใจจนต้องนำมาเล่าต่อ
เขาบอกว่าในวันเกิดเหตุ เมื่อรู้ข่าวว่าคลื่นยักษ์สึนามิกำลังจะถล่มเมืองที่เขาอยู่ เขาและภรรยาไม่ได้รีบอพยพหนีไปเหมือนคนอื่น แต่กลับใช้เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากในการช่วยคนเฒ่าคนแก่ซึ่งไม่สามารถช่วยตัวเองได้
ในจำนวนนั้นมีหญิงชราอายุ 83 ปีคนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ตามลำพัง เธออยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ได้คบหาสมาคมกับใครมาหลายปีแล้ว เมื่อรู้ว่าคลื่นยักษ์กำลังจะมา ชินอิจิก็นึกถึงหญิงชราคนนี้ขึ้นมาทันที เขาคิดว่าเธอต้องตายแน่ ๆ ถ้าไม่มีใครช่วย ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจว่าจะพาเธอออกมาพร้อมเขาให้ได้ แต่หญิงชรากลับยืนยันว่าจะขอตายในบ้านของเธอ ชินอิจิ และภรรยาต้องช่วยกันเกลี้ยกล่อมเธออยู่นานถึง 20 นาทีเต็ม จนในที่สุดเธอก็ยอมออกมากับพวกเขา
" แ ต่ . . . "
ชินอิจิหยุดนิดหนึ่งก่อนจะเล่าต่อด้วยสีหน้ารันทด
"น่าเสียดายที่ทั้งเธอ และภรรยาของผมก็ไม่สามารถหนีสึนามิได้ทัน"
ผู้ถ่ายทำสารคดีถามชินอิจิว่า
"คุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าคุณไม่เสียเวลา 20 นาทีไปกับการพยายามช่วยหญิงชราคนนั้น คุณก็คงไม่ต้องสูญเสียภรรยาของคุณ"
คำตอบของเขาทำให้ดิฉันถึงกับอึ้ง เขาตอบว่า
"ถึงยังไงผมก็ทิ้งเพื่อนบ้านที่แก่ชราไว้ไม่ได้ ถ้าผมไม่ช่วยพาเธอออกมา ผมคงเสียใจไปตลอดชีวิต และคงนอนไม่หลับไปจนตาย มันอาจเป็นชะตากรรมของผมที่ต้องเสียภรรยาไป แต่ยังไงผมก็ทิ้งเธอไว้คนเดียวไม่ได้จริง ๆ"
คำพูดของเขาทำให้ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นที่สุด ไม่นึกเลยว่าโลกของเราจะมีคนที่จิตใจดี และมีน้ำใจงดงามถึงเพียงนี้ สิ่งที่ชินอิจิทำในวันนั้น ทำให้ดิฉันรู้สึกว่าความดีที่ตัวเองทำมาตลอดทั้งชีวิต เมื่อเทียบกับเขาแล้วช่างเล็กน้อยจิ๊บจ๊อยเสียเหลือเกิน
เรื่องราวของชายญี่ปุ่นน้ำใจงามคนนี้ทำให้นึกอยากให้เมืองไทยของเรามีเทศกาล "สาดน้ำใจ" ใส่กันบ้าง คิดดูสิว่าเราจะมีความสุขสักแค่ไหน ถ้าทุกคนจ้องจะสาดน้ำใจใส่กัน โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน เหมือนกับที่เราจ้องจะสาดน้ำใส่กันในวันสงกรานต์
เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว . . .
#สาดน้ำทำไม [สาดน้ำใจดีกว่า]
• • • • •
อุษาวดี สินธุเสน
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่มา : หนังสือ "คิดเป็นโลกเปลี่ยน"
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
คิดเป็นโลกเปลี่ยน | โดย อุษาวดี สินธุเสน 🌏
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย